|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 |
6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 |
13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 |
20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 |
27 | 28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
งานแต่งงานที่เมียวดี
เดินทางไปร่วมงานเปิดตัวสินค้าที่เมียวดีหลายวัน เลยเก็บเรื่องเก็บรูปมาฝาก
ออกเดินทางวันที่ 23 ธันวาคม 2552 ถึงแม่สอดตอน 4 โมงเย็น แต่รถตู้ที่ขนของตามหลังมาถึงแม่สอดปาเข้าไปทุ่มกว่าซึ่งเลยเวลาปิดด่านมานานโข ก็เลยต้องหาวิธีส่งของที่ต้องใช้ตอนเช้าไปฝั่งพม่าผ่านท่า 19 น้องนุชมารอให้บริการดีมาก แต่โวยวายนิดหน่อยว่ามืดมากมองไม่เห็นร่องน้ำเลย กลัวเรือจะติดสันดอน ของที่ต้องส่งข้ามไปก่อนก็มีพวกเครื่องเสียง เสื้อผ้าที่ระลึก ป้ายแบนเนอร์ ถ้วย แก้ว กระติกน้ำร้อน แล้วก็เกิดเรื่องตรงที่คนงานพม่าส่งลังลงเรือไปตามร่อง slider คนงานด้านล่างคว้าไม่ทันปล่อยให้ลังเสื้อแจ็คเก็ตหล่นโครมลงไปในน้ำ เสื้อนี้จะเอาไปแจกผู้หลักผู้ใหญ่เสียด้วยก็เลยเดือดร้อนอูตองทูนที่เป็น distributor สินค้าฝั่งพม่าต้องเอามาผึ่งแล้วเป่าด้วยพัดลม ตอนเช้าบ่นกระปอดกระแปดว่ากว่าจะได้นอนก็ปาเข้าไปตีสอง
วันที่ 24 เป็นงานวันแรก จัดงานกันที่หน้าวัดเจดีย์ทอง ผู้หลักผู้ใหญ่มากันตั้งแต่เช้า ทั้งผู้ว่าเมียวดี นายอำเภอ นายทหาร นายตำรวจ นายด่าน แต่เราคนไทยนั่งแป่วรออยู่ฝั่งแม่สอดเพราะข้ามไม่ได้ ต้องรอทำบัตรผ่านแดนตอนแปดโมงครึ่ง (ขณะที่คนพม่าเดินข้ามมาฝั่งไทยได้ตั้งแต่ 6 โมงเช้า) พอทำบัตรได้ก็รีบข้ามฝั่งกันทันที ไปถึงงานทีมงานก็ทำงานกันอุตลุด งานนี้เป็นงานเปิดตัวกาแฟครับ ทีมงานต้องรีบต้มน้ำและชงกาแฟเสิร์ฟผู้ว่าและคณะ และต้องคอยกำชับสาว pritty ชาวพม่าที่มาช่วยชงกาแฟให้ผสมให้ตรงสูตรหน่อย เพราะน้องเธอชอบผสมมั่วจนรสกาแฟจางเป็นน้ำเปล่า งานวันแรกผ่านไปด้วยความสนุกสนาน แจกกาแฟกันอุตลุด โดยเฉพาะเด็กๆ ชอบกันมาก ชิมกาแฟกันคนละหลายแก้ว แถมฉีกซองเทเข้าปากเพียวๆ เป็นขนม แต่ก็ไม่ได้ห่วงอะไรเพราะกาแฟพม่าคนละสูตรกับกาแฟไทย มีคาเฟอีนนิดเดียว
บรรยากาศงานหน้าวัดเจดีย์ทอง
พอแดดร้อนเราก็เลิกงาน ไปทานอาหารไทยในร้านที่เมียวดีนั่นแหละ ทานอาหารเสร็จก็ขอลูกค้าว่าช่วยพาไปเที่ยวเมียวดีหน่อย พอดีว่าผู้ใหญ่บ้านคนหนึ่งเขาจัดงานแต่งงานลูกสาว อูยุงยิงเลยพาพวกเราไปงานแต่งงาน คำว่า อู นี่เป็นคำเรียกผู้ชายพม่าที่มีอายุหน่อย เขาบอกว่าอายุ 35 ก็เริ่มเรียกว่าอูกันแล้ว ถ้าหนุ่มกว่านั้นจะเรียกว่า เหม่า คำนี้แหละมั้งที่ไทยเอามาเรียกว่า หม่อง อูยุงยิงเป็นคนเมียวดี แม่เป็นคนลำพูน พ่อเป็นพม่า มีน้องสาวเป็นแม่ค้าเพชรพลอยอยู่ลาดพร้าว ตัวเองมีงานอดิเรกวิ่งหาพลอยพม่าส่งเข้าไทยตาม order เขารู้จักคนมาก แขกส่วนใหญ่ที่มาร่วมงานวันนี้ก็เป็นฝีมือการประสานงานของอูยุงยิง
งานแต่งงานที่เราไปนั้นอยู่ไกลจากด่านสัก 10 กม. เลยเขตที่เขาห้ามนักท่องเที่ยวผ่านจนอูตองทูนต้องกำชับว่าอย่าถ่ายรูปนะ เดี๋ยวจะถูกทหารจับ ระหว่างแวะเติมน้ำมันหน่อยครับ ปั้มน้ำมันทันสมัยมาก เป็นหลอดๆ แบบโบราณ หลอดนี้คนพม่าเรียกว่า 1 ลิตร เติมน้ำมันทีละ 2-3 ลิตรก็เต็มถังวิ่งได้ทั้งวัน
พอเลี้ยวขวาจากถนนใหญ่เข้าหมู่บ้าน บรรยากาศสองข้างทางก็เป็นนาข้าวที่เกี่ยวหมดแล้ว มีต้นสักใหญ่ๆ อยู่สองข้างทาง อูตองทูนบอกว่าแต่ก่อนมีไม้สักมาก แต่เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยมีแล้ว คนไทยมาตัดไปหมด งานแต่งงานอยู่ในหมู่บ้านที่บ้านนอกมากๆ หมู่บ้านนี้เป็นหมู่บ้านคนไทย พูดไทยกันได้แทบทุกคน อูยุงยิงเรียกคนนั้นคนนี้มาให้ผมรู้จัก หรือจะให้เขารู้จักปมก็ไม่แน่ใจ แต่สรุปว่าผมจำใครไม่ได้เลย คนเยอะแยะจำไม่ไหว อูยุงยิงเรียกสาวคนหนึ่งมาแนะนำบอกว่าคนไทยทักทายด้วยการไหว้ แต่พม่าเคยเป็นเมืองขึ้นอังกฤษก็เลยไม่ไหว้ แต่ใช้วิธีจับมือ แล้วให้ผมกับแม่สาวจับมือทักทายกัน เฮ้อ.. วันพระด้วย แต่คิดอยู่แล้วว่าวันนี้รักษาศีล 8 ไม่ได้แน่ ก็เลยไม่ได้ตั้งใจรักษาศีล 8 เหมือนวันพระอื่นๆ ไม่งั้นศีลก็แตกกระเจิง ได้บาปมากกว่าบุญ แต่ตอนนี้บาปหรือบุญไม่รู้เพราะได้จับมือสาวไทยในต่างแดน มือนุ่มแต่เย็น สงสัยจะตกใจที่ต้องสัมผัสมือกับหนุ่มวัยทอง
หน้างานแต่งงานเป็นจุดรับของขวัญครับ ตามธรรมเนียมเขาจะให้ของขวัญเป็นผ้านวม จะได้ห่มกันตอนไหนยังสงสัย ?
อูยุงยิงบอกว่าหมู่บ้านนี้เป็นไทยใหญ่ อพยพมาจากเชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง ทุกคนคิดว่าตัวเองเป็นคนไทย มีวัฒนธรรมไทย กินข้าวนึ่ง แกงฮังแล และอาหารแบบชาวเหนือ และยังถือบัตรประชาชนไทยด้วย (คงจะแจ้งเกิดฝั่งไทย) แต่เมื่อไทยพม่าใช้แม่น้ำเมยเป็นเส้นแบ่งเขตแดน พวกเขาก็เลยกลายเป็นคนไทยพลัดถิ่น เล่าแล้วก็หัวเราะด้วยความชอบใจ ที่ชอบใจเพราะตอนนี้ในสายตาคนในพม่าเขาสมเพชเวทนาคนไทยกันมากทีเดียวที่เสื้อเหลืองเสื้อแดงตีกันไม่เลิก เขาเชื่อว่าพม่าจะเจริญนำหน้าไทยในไม่ช้านี้ ซึ่งผมเห็นด้วยว่าจริง โดยเฉพาะรัฐบาลหนุ่มหน่อมแน้มนี้คนพม่าดูถูกมาก คนพม่าชื่นชมอดีตนายกทักษิณมากจนเชื่อขนมกินได้ว่าถ้าฝั่งพม่ามี สส. ไทยได้ พรรคเพื่อไทยก็คงได้ สส.แบบยกโขยงโดยไม่ต้องออกแรงหาเสียงเหมือนภาคอีสาน
รูปเจ้าบ่าวเจ้าสาวครับ ไม่ยิ้มเลย ถูกจับคลุมถุงชนหรือเปล่าไม่รู้ ?
ชาวบ้านมาช่วยงานแต่งงาน อยู่ใกล้ๆ ก็เดินมา อยู่ไกลๆ ก็มารถ pick up แบบคันนี้
เสร็จงานวันแรกเราก็ข้ามกลับแม่สอดตอนราวๆ 4 โมงเย็น แต่ละคนเข้าห้องหลับกันเงียบด้วยความเพลีย ผมก็เพลีย ขอไปทำงานอื่นก่อนแล้วจะกลับมาเล่าต่อวันหลังครับ
Create Date : 29 ธันวาคม 2552 |
Last Update : 29 ธันวาคม 2552 8:38:14 น. |
|
8 comments
|
Counter : 2083 Pageviews. |
|
|
|
โดย: tanoy~ตะนอย วันที่: 29 ธันวาคม 2552 เวลา:9:52:08 น. |
|
|
|
โดย: chabori วันที่: 29 ธันวาคม 2552 เวลา:10:34:49 น. |
|
|
|
โดย: อร (Aorn_N ) วันที่: 29 ธันวาคม 2552 เวลา:14:56:46 น. |
|
|
|
โดย: chabori วันที่: 29 ธันวาคม 2552 เวลา:20:44:58 น. |
|
|
|
โดย: ย่าชอบเล่า วันที่: 29 ธันวาคม 2552 เวลา:22:30:59 น. |
|
|
|
โดย: อุ้ย (janaui ) วันที่: 15 พฤศจิกายน 2553 เวลา:17:14:47 น. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
นนทบุรี Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]
|
บางครั้ง เธอเข้าใจไหม ว่าทำไม จิตใจต้องเพ้อฝัน ฝันมีสุขร่วมกัน ฝันมีส่วนผูกพัน สิ่งเหล่านั้น ฉันเองเข้าใจ ความหมาย คงคลี่คลายโดยง่ายดาย หากได้ระบาย ออกมาให้เธอฟัง ก็เพราะเธอเป็นต้นเหตุ ก็เพราะเธอนั้นพิเศษ เกินกว่าฉัน จะควบคุมใจ ยามใดเธอมีทุกข์ อยากหยุดโลกกลับไปช่วยเธอ ใจมันคอยเสนอ ไม่เคยคิดห่วงใคร ต่อให้ไกลจะไกลแค่ไหน ก็จะไปยกหัวใจให้ เพียงแต่ตอบรับ หากเธอยอมรับ กับฉัน ว่าเธอนั้น มันก็เป็นเหมือนกัน ส่วนฉันยืนยัน ประกันได้เลยเธอ ไม่ใช่เรื่องหนักใจ มันไม่ใช่เรื่องใหญ่ เพียงแค่สามคำ ฉันรักเธอ...
[เพลงจาก http://www.fileden.com]
[ stat since Sep24, 2009 ]
|
|
|
|
|
|
|