|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 |
6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 |
13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 |
20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 |
27 | 28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
ไปแม่สอดภาค ๒ (ไปดูท่าเรือ)
เล่าเรื่องแม่สอดภาค ๑ เอาไว้ว่าไปแล้วรถเสีย แล้วก็ทิ้งไว้เป็นเดือนไม่ได้มาเล่าต่อ วันนี้ขยับมาเล่าให้ฟังอีกนิดหน่อยครับ ปูพื้นว่าพรุ่งนี้จะไปแม่สอดอีกแล้ว
ที่ไปแม่สอดเพราะมีเหตุ หลังจากที่รัฐบาลเด็กน้อยอมมือบริหารประเทศเศรษฐกิจก็ย่อยยับเป็นหน้ากลอง คนที่อยู่บนกองเงินกองทองไม่ต้องทำงาน คนเป็นลูกจ้าง และคนที่ทำธุรกิจอยู่ปลายน้ำ ไม่รู้หรอกครับว่าเศรษฐกิจของประเทศมันไปไม่ไหวแล้วจริงๆ
ในเมื่อเศรษฐกิจภายในประเทศไม่ดี ก็ต้องหาทางขยับขยาย ตามหลักที่ว่านกที่ตื่นเช้ามักจะได้กินหนอนตัวโตๆ เสมอ หลายคนจึงโดดไปมะรุมมะตุ้มในประเทศเพื่อนบ้านเพื่อหาหนอนตัวโตๆ และขอบอกเรื่องที่น่าสะเทือนใจให้รู้กันว่า ในสายตานักธุรกิจอย่างผมและเพื่อนพ้องในวงการเดียวกัน ตอนนี้เศรษฐกิจเรากำลังล้าหลังกว่าเพื่อนบ้านนะครับ ตอนนี้อัตราเร่งของเราติดลบ แต่ของเพื่อนบ้านเป็นบวก ประเทศเพื่อนบ้านจึงกลายเป็นบ่อให้นกน้อยจากเมืองไทยบินไปหาหนอนตัวโตๆ กินกัน และหลายคนไม่รั้งรออพยพไปตั้งหลักปักฐานอยู่ที่เวียตนามเรียบร้อยแล้ว
หลังจากวนจากเขมร ไปมาเลเซีย แล้วย้อนกลับมาทางพม่า ผมก็ได้รู้จักพ่อค้าใหญ่ชาวพม่าคนหนึ่ง เป็นที่มาว่าผมต้องขึ้นไปแม่สอดบ่อยๆ เพื่อเจรจาการค้า และเปิดแนวรบธุรกิจใหม่ๆ
เอารูปเก่ามาให้ดูกันก่อนครับ นี่เป็นรูปแม่น้ำเมยยามเช้า หมอกยังหนาตาอยู่เลยเพราะผมนัดกับคู่ค้าชาวพม่าตอน 7 โมงเช้า ที่เห็นอยู่นี่เป็นท่าเรือขนถ่ายสินค้าจากฝั่งไทยไปพม่า และจากพม่าข้ามมาฝั่งไทย เป็นเรือท้องแบนนะครับ เพราะแม่น้ำเมยตรงนี้น้ำลึกแค่ฟุตเดียว
รูปนี้หันหลังกลับมาถ่ายรูปท่าครับ ท่านี้เรียกว่าท่า 19 หมอกก็ยังหนาอยู่ คนงานพม่านุ่งโสร่งมานั่งผิงไฟกันเป็นกลุ่มๆ แต่ไม่ได้ถ่ายรูปมาครับ
ให้ดูท่าฝั่งพม่าชัดๆ ตอนหมอกจางแล้ว ท่าพม่าตรงนี้เรียกว่าท่า 66 เจ้าของท่าเป็นนายทหารกะเหรี่ยง ส่วนฝั่งนี้ของไทยเป็นท่า 16 เจ้าของเป็น สส. แต่ท่านี้ผมว่าเจ๊งสนิท เพราะเจ้าของไม่เคยมาดูแล ปล่อยลูกน้องเรียกเก็บค่าบริการสูงกว่าท่าอื่น 3 เท่ากว่าๆ ใครจะทำธุรกิจควรจำไว้นะครับ ถ้าไม่มีเวลาบริหาร หรือไม่มีระบบควบคุมที่ดีพอ เก็บเงินฝากธนาคารกินดอกเบี้ยร้อยละ 0.75 ต่อปีน่ะดีที่สุดแล้ว
ส่วนท่านี้อยู่ตรงกันข้ามกับท่า 19 ท่านี้คึกคักหน่อย มีการขนถ่ายสินค้าข้ามฝั่งไปมากมายทีเดียว ค่าบริการท่านี่เขาคิดเป็นเงินจ๊าดนะครับ ทั้งฝั่งไทยฝั่งพม่า ตกลงไทยเรานี่ยิ่งใหญ่จริงหรือเปล่าเดากันเอาเองแล้วกัน
ดูกันใกล้ๆ ครับ สินค้ามีหลากหลาย ที่เห็นเป็นกระสอบนี่เป็นเกลือ มีทั้งเกลือเม็ดและเกลือป่าน ขนกันขึ้นมาจากมหาชัย บางทีก็เป็นเกลือสินเธาว์จากภาคอีสาน พวกที่ใส่กล่องโน่นก็มีสารพัด ทั้งน้ำปลา ซอสปรุงรส มาม่า ไวไว น้ำผลไม้ แล้วแต่จะสรรหามาขายกันครับ
โชว์รูปสุดหล่อ 3 คน ครับ วันนี้ข้ามฝั่งไปเมียวดี พม่าพาไปทานอาหารกลางวันเสียไกลเลย ถนนขรุขระโคลงเคลง ไม่แปลกใจเลยว่าจากเมียวดีไปย่างกุ้งแค่ 60 กม.เขาขับรถกันเป็นวัน อาหารฝั่งเมียวดีเขาบอกว่าแพงกว่าฝั่งไทยเกือบ 3 เท่า แต่รสชาดไม่ไหวครับ ออกหวานๆ ขนาดผัดเผ็ดยังหวานเลย 3 คนในรูปนี้คนหนึ่งเป็นพ่อค้าใหญ่ คนหนึ่งเป็นทหารมอญ อีกคนเป็นทหารกะเหรี่ยง พวกนี้นักเลงและใจถึง เขาคุ้มครองสินค้าจากเมียวดีไปจนถึงย่างกุ้ง ใครไม่พึ่งพวกนี้ก็ขนสินค้าไปไม่ได้ ทหารมอญกับกะเหรี่ยงนี่เขาไม่รบกันนะครับ เขาบอกว่าเพื่อนกัน ช่วยกันทำมาหากิน รายได้ดีทีเดียววันละตั้ง 5 หมื่นบาทไทย คิดแล้วอยากไปเป็นทหารกะเหรี่ยงดูบ้างท่าจะดี
เล่าให้ฟังสั้นๆ ก่อนครับ พรุ่งนี้จะไปแม่สอดและข้ามไปเมียวดีอีก จะเอาสินค้าตัวใหม่ไปเสนอ ไปตกลงกันว่าคุณจะเอารสชาดแบบไหนเดี๋ยวเราปรับปรุงให้ หลักการค้าคือเขาชอบอะไรเราก็เอาอย่างนั้นไปขาย เขาชอบเค็มเราต้องใส่เกลือ เขาชอบหวานเราต้องใส่น้ำตาล จะไปดันทุรังบังคับว่าฉันมีแต่แบบนี้ก็นอนอยู่กับบ้านเฉยๆ เถอะ อย่าขับรถไปให้เสียน้ำมันเลย ตัวอย่างเช่นรัฐมนตรีหน้าโง่คนไหนไม่รู้บอกว่าให้พ่อค้าไทยไปหาวิธีทำให้คนญี่ปุ่นหันมากินข้าวหอมมะลิ ฟังแล้วไม่รู้ว่าจะขำหรือสมเพทดี สมองแบบนี้น่าจะไปเลี้ยงควายดีกว่ามาเป็นรัฐมนตรีให้ประเทศชาติล่มจม (วันนี้มาแนวปากจัดหน่อยนะครับ) ไปงวดนี้ค้างแค่คืนเดียว สัปดาห์หน้าต้องไปอีก คราวนี้จะไปหลายวันเพราะต้องไปจัดงานเปิดตัวสินค้าฝั่งเมียวดีด้วย จะเป็นสินค้าแรกหรือเปล่าก็ไม่รู้ที่มีขบวนแห่รอบเมืองด้วย เอิกเกริกดีพิลึก แต่คงไม่ถ่ายรูปมาให้ดู ไม่อยากให้รู้ว่าผมขายอะไร แค่ผมเอาสินค้าไปส่งรอบแรกก็มีคนโทรเข้าโรงงานขอเป็นตัวแทนจำหน่ายกันหลายราย ทั้งๆ ที่ปีก่อนโรงงานเขาไปง้อแทบจะกราบกันเขาก็ไม่สนใจ ยืนยันอย่างเดียวว่าขายไม่ได้ แล้วเป็นไงล่ะ หุหุ..
Create Date : 17 ธันวาคม 2552 |
Last Update : 17 ธันวาคม 2552 22:36:50 น. |
|
6 comments
|
Counter : 1777 Pageviews. |
|
|
|
โดย: ย่าชอบเล่า วันที่: 18 ธันวาคม 2552 เวลา:15:11:31 น. |
|
|
|
โดย: พ่อระนาด วันที่: 19 ธันวาคม 2552 เวลา:0:20:32 น. |
|
|
|
โดย: F C IP: 118.172.208.24 วันที่: 3 เมษายน 2553 เวลา:21:51:01 น. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
นนทบุรี Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]
|
บางครั้ง เธอเข้าใจไหม ว่าทำไม จิตใจต้องเพ้อฝัน ฝันมีสุขร่วมกัน ฝันมีส่วนผูกพัน สิ่งเหล่านั้น ฉันเองเข้าใจ ความหมาย คงคลี่คลายโดยง่ายดาย หากได้ระบาย ออกมาให้เธอฟัง ก็เพราะเธอเป็นต้นเหตุ ก็เพราะเธอนั้นพิเศษ เกินกว่าฉัน จะควบคุมใจ ยามใดเธอมีทุกข์ อยากหยุดโลกกลับไปช่วยเธอ ใจมันคอยเสนอ ไม่เคยคิดห่วงใคร ต่อให้ไกลจะไกลแค่ไหน ก็จะไปยกหัวใจให้ เพียงแต่ตอบรับ หากเธอยอมรับ กับฉัน ว่าเธอนั้น มันก็เป็นเหมือนกัน ส่วนฉันยืนยัน ประกันได้เลยเธอ ไม่ใช่เรื่องหนักใจ มันไม่ใช่เรื่องใหญ่ เพียงแค่สามคำ ฉันรักเธอ...
[เพลงจาก http://www.fileden.com]
[ stat since Sep24, 2009 ]
|
|
|
|
|
|
|
วันๆ ไม่ทำงานทำการนี่นา
นวัตกรรมมันถึงไม่เกิด
....
เมื่อไหร่จะคิดได้กันก็ไม่รู้เน๊อะ
...