ท่านทั้งหลายจงดูดาบสผู้มีตบะอันรุ่งเรืองนี้
ดาบสนี้กระทำความปรารถนายิ่งใหญ่เพื่อความเป็นพระพุทธเจ้า
ความปรารถนาของเขาจักสำเร็จ ในที่สุดแห่งสี่อสงไขยกับเศษแสนกัปนับแต่นี้

... บล็อคง่ายๆ ของนายอังคาร ...

Group Blog
 
<<
เมษายน 2553
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
 
13 เมษายน 2553
 
All Blogs
 
ตำนานวันสงกรานต์

วันนี้เป็นวันสงกรานต์ พ่อแม่รุ่นเก่ามักจะเล่าตำนานวันสงกรานต์ให้ฟัง หรือสมัยนี้ก็ยังได้ยินกันบ้างเวลาไปทำบุญที่วัด แต่สงสัยกันหรือไม่ว่าตำนานวันสงกรานต์มีที่มาจากไหน และเชื่อถือได้มากน้อยแค่ไหน

ตำนานวันสงกรานต์เป็นเรื่องราวของธรรมบาลกุมารกับท้าวกบิลพรหม ฟังดูคล้ายกับว่าน่าจะมีเค้ามาจากตำนานทางพุทธศาสนา หลายปีก่อนผมเลยพยายามค้นตำนานนี้จากพระไตรปิฏกและอรรถกถาพระไตรปิฎก แต่ไม่มีเรื่องราวนี้ปรากฏอยู่เลย ไม่มีท้าวกบิลพรหม ไม่มีธรรมบาลกุมาร มีใกล้เคียงที่สุดก็คือ ธรรมปาลกุมาร ปรากฏอยู่ใน ธรรมปาลชาดก แต่ในชาดกนั้นเป็นเรื่องราวของตระกูลธรรมปาลที่รักษาธรรม ทำให้คนในตระกูลทุกคนไม่ตายในวัยหนุ่ม ไม่ใช่เรื่องของธรรมบาลกุมารกับท้าวกบิลพรหม

หากพิจารณากันถึงเนื้อเรื่องก็มีความประหลาดหลายอย่าง
อย่างแรก
ทำไมท้าวกบิลพรหมจึงท้าทายธรรมบาลกุมารด้วยการตัดศีรษะ เพราะธรรมดาพระพรหมท่านมีพรหมวิหารสี่เป็นปกติ มีเมตตา กรุณา มุทิตา และอุเบกขา อย่าว่ากันถึงเรื่องต้องตัดศีรษะกันเลย แค่อุเบกขาธรรมข้อเดียวท่านก็ไม่มายุ่งเรื่องของชาวบ้านแล้ว จึงเป็นไปไม่ได้ที่ท้าวกบิลพรหมจะมาวางเงื่อนไขอะไรอย่างนี้

อย่างที่สอง
ทำไมท้าวกบิลพรหมจึงมีธิดา
พระพรหมไม่ใช่เทวดา แต่เป็นเทวดาที่เหนือกว่าเทวดา ธรรมดาพวกเทวดานั้นยังมีบุตรธิดากันได้ พวกเทวดายังมีเพศ แม้จะไม่มีการท้องแต่ก็มีบุตรธิดาโดยวิธีพิเศษ คือบุตรธิดาเกิดโดยการปรากฏขึ้นบนตัก ส่วนพระพรหมไม่มีเพศ ไม่ได้เป็นหญิง ไม่ได้เป็นชาย เรียกว่าเพศพรหม พระพรหมไม่เสวยกามคุณอารมณ์ แต่เสวยปีติและสุขอันเกิดจากฌาน พระพรหมจึงไม่มีบุตรไม่มีธิดา

อย่างที่สาม
ทำไมบุตรของพระพรหมจึงเป็นเทพธิดา
อันนี้แปลกมาก พระพรหมถ้าจะมีบุตรได้จริงก็ต้องเป็นพระพรหมเหมือนกัน เหมือนมนุษย์เราเป็นไปได้ไหมที่จะมีลูกเป็นนกฟีนิกส์ มันเป็นไปไม่ได้เพราะคนละเผ่าพันธุ์กัน

อย่างที่สี่
พระพรหมตายด้วยการตัดเศียรได้ด้วยหรือ
การจุติ (หรือการตาย) ของเทวดามีอยู่ 4 อย่าง คือ ตายเพราะหมดอายุขัย ตายเพราะหมดบุญที่ทำมา ตายเพราะอดอาหาร (เพลินจนลืมกิน) และตายเพราะโกรธ ไม่มีการตายเพราะอาวุธ
ในพระไตรปิฎกเล่าถึงสงครามระหว่างอสูรกับเทวดา ความว่า พวกอสูรและเทวดาต่างก็เป็นทิพย์ เวลารบกัน เอาอาวุธเข้าฟันกัน ร่างกายจะไม่เกิดเป็นแผล ไม่มีการล้มตาย มีแต่รอยไหม้บนผิวให้แสบๆ คันๆ เท่านั้น
สรุปว่าเทวดาไม่มีตายเพราะอาวุธ
พระพรหมก็เช่นกัน ไม่มีตรงไหนในตำราที่บอกว่าพระพรหมตายเพราะอะไรได้บ้าง แต่เดาเอาว่าพระพรหมน่าจะตายได้ด้วยเหตุเดียว คือ สิ้นอายุขัย ตายเพราะอดอาหารก็ไม่มีเพราะพระพรหมไม่กินอาหาร ท่านอยู่ด้วยปีติ และไม่ตายเพราะโกรธแน่ๆ เพราะท่านมีอุเบกขาจะไปโกรธใครได้

อย่างที่ห้า
กบิลพรหมตายแล้วยังมีเศียรให้แห่กันอีกหรือ
พวกพระพรหมและเทวดานี้เป็นเหมือนกัน คือพอตาย ร่างก็จะหายไปแบบไร้ร่องรอย แม้แต่ทิพย์สมบัติเช่นวิมานทั้งหลายก็อันตรธานไปด้วย แต่ในเรื่องนี้เศียรของท้าวกบิลพรหมยังอยู่ให้แห่กันได้ทุกปีๆ จึงเป็นไปไม่ได้

ห้าเหตุนี้คงสรุปได้ว่าตำนานวันสงกรานต์นี้ มั่วสุดๆ

แล้วตำนานวันสงกรานต์มาจากไหน
ตำนานนี้คงเป็นเรื่องเล่าต่อๆ กันมาจนมาถึงสมัยรัชกาลที่สามจึงได้จารึกลงบนแผ่นศิลาไว้ในวัดพระเชตุพน แม้ผมจะว่าเป็นตำนานมั่วสุดๆ แต่ก็ไม่ปฏิเสธประเพณีสงกรานต์ และเชื่อว่าตำนานสงกรานต์นี้ได้สอดแทรกคำสอนดีๆ เอาไว้ด้วย คือเรื่องการล้างหน้าตอนเช้า การเอาน้ำประพรมอกตอนเที่ยง และการล้างเท้าก่อนนอน
ที่สำคัญ ประเพณีสงกรานต์นี้แหละทำให้ลูกหลานไทยส่วนใหญ่ได้ขวนขวายกันกลับบ้านไปไหว้ ไปรดน้ำดำหัวพ่อแม่และญาติผู้ใหญ่
วันสงกรานต์ปีนี้พี่น้องผมนัดวันกันไปไหว้พ่อแม่วันพรุ่งนี้ครับ 14 เมษายน แม้พี่น้องจะได้เจอกันอยู่บ่อยๆ แต่เฉพาะวันพรุ่งนี้เป็นวันที่ต้องมาพร้อมหน้าพร้อมตากัน

ก่อนไปขอรดน้ำสงกรานต์เพื่อนๆ ทุกคนก่อนครับ





ปิดท้ายด้วยตำนานวันสงกรานต์ที่เราคุ้นเคยกันครับ

เศรษฐีคนหนึ่งไม่มีทายาทสืบสกุล ถูกนักเลงสุราพูดจาดูถูกว่าทรัพย์สมบัติของท่านแม้มีมากมายก็ไม่มีประโยชน์เพราะไม่มีทายาทสืบสกุล คนมีทรัพย์แต่ไร้ทายาทประเสริฐสู้คนไร้ทรัพย์แต่มีทายาทไม่ได้ เศรษฐีผู้นั้นจึงได้ทำพิธีบวงสรวงขอบุตร แต่ก็ไม่ได้ผล เศรษฐีจึงไปขอบุตรจากพระไทร พระไทรสงสารจึงไปทูลขอจากพระอินทร์ พระอินทร์จึงให้ธรรมบาลเทพบุตรจุติลงมาเกิดเป็นบุตรของเศรษฐีผู้นั้น

ธรรมบาลกุมารเป็นเด็กฉลาด เรียนจบไตรเพทอันเป็นลัทธิพราหมณ์ตั้งแต่อายุ 7 ขวบ อีกทั้งยังรู้ภาษานกอีกด้วยเพราะเศรษฐีปลูกปราสาทเจ็ดชั้นให้อยู่ใต้ต้นไทรริมฝั่งน้ำ
ความดังกล่าวได้ล่วงรู้ถึงท้าวกบิลพรหม ท่านต้องการทดสอบปัญญาของธรรมบาลกุมาร จึงเสด็จมาโลกมนุษย์ ตั้งคำถามธรรมบาลกุมาร 3 ข้อ คือ

1. ตอนเช้าราศีอยู่ที่ใด
2. กลางวันราศีอยู่ที่ใด
3. ตอนเย็นราศีอยู่ที่ใด

โดยตกลงกันว่า ถ้าธรรมบาลกุมารไม่สามารถตอบคำถามได้ภายใน 7 วัน จะต้องตัดศีรษะบูชาท้าวกบิลพรหม แต่ถ้าสามารถตอบได้ ท้าวกบิลพรหม จะตัดเศียรบูชาธรรมบาลกุมารเช่นกัน

เวลาผ่านไปถึง 6 วัน ธรรมบาลกุมารก็ยังไม่สามารถตอบคำถามได้ จึงแอบหนีไปซ่อนอยู่ใต้ต้นตาล บนต้นตาลนั้นมีนกอินทรีสองตัวผัวเมียทำรังอาศัยอยู่ ธรรมบาลกุมารได้ยินนกอินทรีคุยกันเรื่องการหาอาหารในวันรุ่งขึ้นว่า

แม่นก "พรุ่งนี้เราจะไปหากินที่ไหนกันดี"
พ่อนก "พรุ่งนี้เราไม่ต้องออกไปหากินไกลหรอก เพราะพรุ่งนี้ธรรมบาลกุมารจะต้องตัดศีรษะบูชาท้าวกบิลพรหม เนื่องจากตอบปัญหาไม่ได้"
แม่นก "น่าสงสารจริง ท้าวกบิลพรหมถามปัญหาอะไรหรือธรรมบาลกุมารจึงตอบไม่ได้"
พ่อนก "ท้าวกบิลพรหมถามปัญหาว่า ตอนเช้าราศีอยู่ที่ใด กลางวันราศีอยู่ที่ใด และตอนเย็นราศีอยู่ที่ใด"
แม่นก "แล้วคำตอบคืออะไรกันเล่าท่าน"
พ่อนก "ราศีมนุษย์นั้นสถิตอยู่ที่ร่างกายต่างวาระกัน คือ เวลาเช้าจะสถิตอยู่ที่หน้า มนุษย์จึงต้องล้างหน้า เวลาเที่ยงราศีสถิตอยู่ที่อก มนุษย์จึงต้องปะพรมน้ำที่หน้าอก และเวลาค่ำสถิตอยู่ที่เท้า มนุษย์จึงต้องล้างเท้าก่อนเข้านอน"

ธรรมบาลกุมารได้ยินจึงจดจำคำตอบไว้ และนำไปตอบท้าวกบิลพรหม
เมื่อธรรมบาลกุมารสามารถตอบคำถามได้ ท้าวกบิลพรหมจึงจำต้องตัดเศียรตามคำสัญญา แต่เพราะเศียรของท้าวกบิลพรหมนั้น หากตกต้องพื้นดิน พื้นดินก็จะลุกเป็นไฟ หากตกลงในมหาสมุทร น้ำก็จะเหือดแห้ง หากโยนขึ้นไปในอากาศ ฝนก็จะไม่ตกต้องตามฤดูกาล ท้าวกบิลพรหมจึงสั่งธิดาทั้งเจ็ดให้นำพานมารองรับเศียร นำไปแห่ประทักษิณรอบเขาพระสุเมรุ แล้วนำเข้าไปเก็บในถ้ำที่เขาไกรลาศ
เมื่อครบรอบหนึ่งปี ธิดาทั้งเจ็ดก็จะผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันนำเศียรของท้าวกบิลพรหมออกมาแห่เวียนประทักษิณรอบเขาพระสุเมรุเป็นประจำทุกปี

พิธีแห่เศียรของท้าวกบิลพรหมนี้ตรงกับวันที่พระอาทิตย์โคจรเข้าสู่ราศีเมษ จึงเรียกว่าวันสงกรานต์ เพราะสงกรานต์แปลว่า ก้าวขึ้น ย่างขึ้น ซึ่งหมายถึงการขึ้นราศีใหม่ หรือโบราณนับเป็นวันขึ้นปีใหม่นั่นเอง




Create Date : 13 เมษายน 2553
Last Update : 13 เมษายน 2553 10:20:20 น. 16 comments
Counter : 3503 Pageviews.

 
คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...


อิอิ ไว้ว่างๆจะมาค่อยๆอ่านนะค่ะ พี่อังคาร

เครียดนิดหน่อยค่ะ สงสารคนทีลำบาก ทนตากแดดตากฝน และสุดท้ายต้องตาย มัน เศร้าค่ะ


โดย: ย่าชอบเล่า วันที่: 13 เมษายน 2553 เวลา:10:31:37 น.  

 
สุขสันต์วันสงกรานต์ คิดสิ่งใดขอให้สมปารถนา มีพระรัตนตรัยคุ้มครอง ร่ำรวยๆๆๆ และมีความสุขมากๆๆๆๆนะครับบบบ


คลิกที่รูป เพื่อเอาโค้ดรูปนี้ไปแปะ
[ของตกแต่งโดนๆคลิกเลย]


โดย: oneshot วันที่: 13 เมษายน 2553 เวลา:10:43:56 น.  

 
คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...


โดย: TREE AND LOVE วันที่: 13 เมษายน 2553 เวลา:10:52:51 น.  

 


โดย: Jaekan วันที่: 13 เมษายน 2553 เวลา:11:42:00 น.  

 

มาเยี่ยมชม มาทักทายครับ

มาอ่านตำนานวันสงกรานต์ครับ

สุขสนุกสนานในช่วงเทศกาลสงกรานต์นะครับ

อิอิ


โดย: อาคุงกล่อง วันที่: 13 เมษายน 2553 เวลา:12:27:58 น.  

 
สวัสดีปีใหม่ไทย / สุขสันต์วันสงกรานต์ ค่ะ
ขอให้ จขบ.มีความสุขมาก ๆ นะคะ
ขับขี่ปลอดภัย และเดินทางโดยสวัสดิภาพ
เล่นสาดน้ำสงกรานต์อย่างมีความสุขค่ะ (^^)v

คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...


โดย: -+-JuStThEgIrL-+- วันที่: 13 เมษายน 2553 เวลา:12:49:34 น.  

 
ตอนนี้สาวเหนือก็อยู่เจียงใหม่เจ้า

วันนี้เป็นวันสิ้นปีค่ะ ... วันสังขารล่อง


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 13 เมษายน 2553 เวลา:13:03:34 น.  

 
title=


สุขสันต์วันสงกรานต์นะคะ คุณอังคาร
ตำนาณวันสงกรานต์ ขอบคุณนะคะ


โดย: พ่อระนาด วันที่: 13 เมษายน 2553 เวลา:15:23:19 น.  

 


โดย: thanitsita วันที่: 13 เมษายน 2553 เวลา:16:02:12 น.  

 
วันนี้ไปทำบุญ ฟังพระเทศน์ สรงน้ำพระ และบังสกุลมาแล้วค่ะ
แต่พรุ่งนี้ก็ยังต้องไปทำบุญอีกวันหนึ่ง


แดดแรงเหลือเกิน ไม่กล้าออกไปสาดน้ำเลย
เด่วดูพรุ่งนี้ก่อน ว่าจะเล่นสักหน่อยดีไม๊

ฝันดีนะคะ


โดย: Life & Learn วันที่: 13 เมษายน 2553 เวลา:22:25:11 น.  

 
แวะมาสวัสดีปีใหม่ไทยและเทศกาสงกรานต์นะคะ ขอให้มีความสุข ความเจริญ สุขภาพแข็งแรงตลอดไปเลยค่ะ

เข้ามาเียี่ยมแล้วยังได้ความรู้ออกไปอีกด้วย กำไรเห็นๆ คิคิ


โดย: วิสกี้โซดา วันที่: 14 เมษายน 2553 เวลา:3:39:44 น.  

 
สวัสดีปีใหม่ นะค่ะ ^_^

ขอให้สุขภาพแข็งแรง ไม่มีโรคภัย นะค่ะ


โดย: อร (Aorn_N ) วันที่: 14 เมษายน 2553 เวลา:13:57:48 น.  

 
เห็นขันน้ำลอยดอกไม้แบบนี้ อยากกลับเมืองไทยซะจริงๆ..ขอบคุณมากๆสำหรับความรู้เกี่ยวกับวันสงกรานต์นะค๊ะ


โดย: Why England วันที่: 17 เมษายน 2553 เวลา:3:08:08 น.  

 
หนูไม่ชอบตำนานสงกรานต์เลย กะอีแค่ตอบคำถามไม่ได้ ถึงกับต้องตัดหัวเลยเหรอ ไม่มีใครรู้ทุกอย่างหรอกค่ะ เพราะถ้ารู้ทุกอย่างก็ไม่เกิดการเรียนรู้ และไม่มีการพัฒนานี่คะ ท้าวกบิลพรหมนี่ไม่ไหวจริงๆ


โดย: Honey and Moonney วันที่: 18 เมษายน 2553 เวลา:22:15:49 น.  

 
เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งว่าเป็นตำนานที่มั่วสุดๆ

พยายามจะหยิบเอาตัวละครโน้นมาแปะต่อตัวละครนี้ แต่สุดแสนจะโยงได้ยากตั้งแต่ กบิลพรหม เนี่ยท่านเป็นเทวดาชั้นพรหม หรือแค่ชื่อลงด้วยด้วยพรหมตามความนิยมเฉยๆ

แต่เมื่อเริ่มต้นแล้วก็จะพยายามตั้นด้นไปจนจบให้จงได้

ว่าละ ว่าทำไมเรื่องนี้เราแต่งได้ยากเย็นเหลือเกิน มันมั่วมาก่อนเรานี่เอง


โดย: เพรางาย วันที่: 30 พฤศจิกายน 2560 เวลา:16:41:32 น.  

 
มันเป็นความเชื่อเรื่องพระพรหมตามแบบฮินดูครับ ไม่ใช่พระพรหมตามแบบพุทธ และพรหมฮินดูก็มีหลายมิติความเชื่อ เหมือนพุทธเรานี่แหละ เช่นพุทธมหายาน เชื่อว่าพระพุทธเจ้ามีตัวตนอยู่บนสวรรค์อยู่เลย ส่วนพุทธเถรวาท เชื่อว่าพระพุทธเจ้าดับสูญไม่มีอะไรเหลืออยู่แล้ว


โดย: สุคนทา IP: 184.22.28.200 วันที่: 21 เมษายน 2566 เวลา:8:47:05 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Siri_waT_bkk
Location :
นนทบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




บางครั้ง เธอเข้าใจไหม
ว่าทำไม จิตใจต้องเพ้อฝัน
ฝันมีสุขร่วมกัน ฝันมีส่วนผูกพัน
สิ่งเหล่านั้น ฉันเองเข้าใจ

   ความหมาย คงคลี่คลายโดยง่ายดาย
   หากได้ระบาย ออกมาให้เธอฟัง
   ก็เพราะเธอเป็นต้นเหตุ ก็เพราะเธอนั้นพิเศษ
   เกินกว่าฉัน จะควบคุมใจ

ยามใดเธอมีทุกข์ อยากหยุดโลกกลับไปช่วยเธอ
ใจมันคอยเสนอ ไม่เคยคิดห่วงใคร
ต่อให้ไกลจะไกลแค่ไหน ก็จะไปยกหัวใจให้
เพียงแต่ตอบรับ หากเธอยอมรับ กับฉัน

   ว่าเธอนั้น มันก็เป็นเหมือนกัน
   ส่วนฉันยืนยัน ประกันได้เลยเธอ
   ไม่ใช่เรื่องหนักใจ มันไม่ใช่เรื่องใหญ่
   เพียงแค่สามคำ ฉันรักเธอ...

   
    [เพลงจาก http://www.fileden.com]


[ stat since Sep24, 2009 ]
Friends' blogs
[Add Siri_waT_bkk's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.