ท่านทั้งหลายจงดูดาบสผู้มีตบะอันรุ่งเรืองนี้
ดาบสนี้กระทำความปรารถนายิ่งใหญ่เพื่อความเป็นพระพุทธเจ้า
ความปรารถนาของเขาจักสำเร็จ ในที่สุดแห่งสี่อสงไขยกับเศษแสนกัปนับแต่นี้

... บล็อคง่ายๆ ของนายอังคาร ...

Group Blog
 
<<
มีนาคม 2553
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
1 มีนาคม 2553
 
All Blogs
 
เรื่องเล่าวันมาฆบูชา

เมื่อวานขับรถผ่านสนามหลวงตอน ๗ โมงเช้า เห็นเขาจัดงานวันมาฆบูชากันอยู่เลยแวะเข้าไปดู งานวันสำคัญทางพุทธศาสนาที่ท้องสนามหลวงนี้ตั้งใจจะไปดูหลายหนแล้ว แต่ไม่เคยได้ไปเสียที วันนี้ไม่ได้ตั้งใจไปแต่กลับมีโอกาสได้ดูเฉยเลย
แต่หลังจากเดินช้าๆ รอบสนามหลวงไปสองรอบ รอเวลาให้เปิดงานจนครบทุกบู้ท ก็ผิดหวังว่าภาพรวมของงานไม่มีอะไรน่าสนใจเลยจริงๆ

อย่างบู้ทของวัดสังฆทานที่น่าจะเน้นเรื่องการปฏิบัติธรรม ทำไมจึงไปเน้นเรื่องท่องเที่ยวอินเดียก็ไม่รู้ กำลังอ่านข้อมูลอยู่ก็มีพระมาเร่งให้กรอกแบบสอบถามเสียอีก บอกว่ากรอกแล้วจะได้หนังสือฟรี แหม.. เหมือนเดินดูของในห้างยังไงยังงั้นเลย จะต้องมีเซลล์มาพูดจู้จี้น่ารำคาญ ก็เลยเดินไปชมบู้ทอื่นต่อ

อีกวัดหนึ่งเขียนตำนานพระปริตรบนบอร์ดใหญ่ บังเอิญไปยืนตรงหน้าบอร์ดตำนานองคุลีมาลปริตร เขียนว่าหญิงท้องแก่เห็นพระองคุลีมาลมาบิณฑบาตก็รู้สึกกลัว จึงวิ่งหนีลอดรั้ว แต่เพราะท้องใหญ่เลยติดท้อง ญาติๆ ของหญิงท้องแนะนำว่าน่าจะไปขอให้พระองคุลีมาลตั้งสัจจกิริยา จะได้คลอดง่าย (เพราะเธอเจ็บท้องมาแล้วหลายวัน) แหม.. จินตนาการเลิศล้ำเสียจริงๆ มาจากพระไตรปิฎกฉบับไหนเนี่ย
หญิงท้องน่ะกลัวพระองคุลีมาลครับ แต่คนท้องน่ะจะวิ่งหนีท่าไหนกันล่ะ และญาติหน้าไหนล่ะจะแนะนำให้ไปขอให้พระองคุลีมาลช่วย ก็กลัวๆ กันอยู่ทั้งนั้นใครจะกล้าเข้าไปหา
เรื่องนี้ในพระไตรปิฎกและอรรถกถาบอกว่า เป็นท่านองคุลีมาลเองที่ไปกราบทูลพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าจึงทรงแนะนำให้ตั้งสัจจกิริยา โดยสัจจกิริยานี้เนื้อความดูเหมือนว่าจะสงเคราะห์หญิงท้อง เพราะทำให้หญิงท้องคลอดง่าย แต่ถ้าดูกันลึกๆ แล้วพระพุทธเจ้าทรงตั้งใจสงเคราะห์พระองคุลีมาลเสียมากกว่า เพราะองคุลีมาลหลังจากบวชแล้วท่านนั่งสมาธิไม่ได้เลย หลับตาทีไรก็เห็น ๙๙๙ ศพที่ท่านเคยฆ่าไว้ จิตท่านเลยไม่สงบ พระพุทธเจ้าจึงทรงให้ตั้งสัจจกิริยาว่า ตั้งแต่เราเกิดแล้วโดยอริยชาติ จะเคยแกล้งปลงชีวิตสัตว์ทั้งชีวิตก็หาไม่ ด้วยสัจจกิริยานี้ขอให้เธอจงคลอดง่าย ข้อความทำนองนี้นะครับ ไม่ได้ตรงเป๊ะ สาระสำคัญอยู่ตรงคำว่า ตั้งแต่เกิดแล้วโดยอริยชาติ ก็คือตั้งแต่บวชเป็นพระภิกษุแล้วนั่นเอง
หลังจากนั้นพระองคุลีมาลก็ไปตั้งสัจจกิริยาให้หญิงท้อง หญิงท้องจึงคลอดง่าย ต่อมาท่านก็เข้าป่าบำเพ็ญสมณธรรมและเชื่อมั่นในความดีที่ท่านไม่ปลงชีวิตสัตว์หลังจากเกิดแล้วในอริยชาติ ท่านทิ้งเรื่องราวหนหลังไม่นำมาคำนึงถึงอีก ในที่สุดท่านก็สำเร็จเป็นพระอรหันต์
ผมอ่านแค่ปริตรเดียวก็ผ่านเลยไป กลัวเจอข้อความอะไรแปลกๆ อีก เดี๋ยวนี้สื่อธรรมะมีทำกันออกมาเยอะมาก เล่นต่อเติมกันคนละนิดคนละหน่อยแบบนี้ กว่าจะถึง พ.ศ. ๓๐๐๐ ไม่รู้พุทธประวัติจะถูกต่อเติมไปถึงไหน

มีอีกบู้ทหนึ่งเขาทำ CD ธรรมะมาขาย ชายคนหนึ่งอายุเยอะแล้วเข้าไปแนะนำสาวคนขายว่าธรรมะดีๆ แบบนี้น่าจะทำแจกนะ คนที่ไม่รู้จะได้รู้ คนขายก็บอกว่าไม่มีทุนทำอย่างนั้น ถ้าคุณมีทุนคุณก็ทำแจกสิ ฟังแล้วก็ต้องอมยิ้ม ต่างคนต่างมุมมอง ต่างคนต่างก็มีข้อจำกัดของตัวเอง การทำ CD แจกก็ดี เป็นการสร้างกุศล เหมือนได้แสดงธรรมให้คนอื่นได้รู้ด้วย
แต่.. เคยอ่านคนใจบุญคนหนึ่งถามว่า อยากทำ CD แจก จะแจกเรื่องอะไรดี อืมม.. เอาเรื่องที่ตัวเองเคยฟัง เคยอ่าน แล้วซาบซึ้ง แล้วพึงพอใจ แล้วเข้าใจในธรรมดีไหม ถ้าตัวเองยังไม่รู้ ไม่เคยอ่าน ไม่เคยฟัง ทำมาแจกเขาแล้วเขาจะอ่านจะฟังกันเหรอ สร้างพระให้สร้างในใจตนเองก่อนจะเที่ยวไปสร้างพระในใจคนอื่นดีไหม ?

สนามหลวงวันนี้ที่มีเยอะก็คือร้านขายหนังสือ เจอหนังสือแจกฟรีมาขายเพียบเลย แถมขายกันราคางามๆ เสียด้วย อย่างหนังสือประวัติพระเถระรูปหนึ่งผมเคยซื้อจากวัดมาแจกญาติผู้ใหญ่หลายเล่ม เล่มละ 50 บาท วันนี้เจอร้านหนึ่งขายเล่มละ 200 บาท อีกร้านหนึ่งขายเล่มละ 400 บาท โห.. ที่วัดก็ยังมีขายอยู่นะ ตอนนี้เล่มละร้อยเดียว ทำไมค่าเดินทางสูงจัง

สรุปว่าผิดหวังกับงานนี้ครับ

และตอนค่ำ ก็ไปเวียนเทียนที่วัดป่ามณีกาญจน์ ผมไปเวียนเทียนที่วัดป่ามณีกาญจน์ทุกวันสำคัญตั้งแต่สมัยมีคนไปเวียนเทียนกันแค่ ๒๐-๓๐ คน ถอดรองเท้าเดินกันบนถนนขรุขระ มืดๆ เดินไปโดดไป แต่เดี๋ยวนี้วัดใหญ่โตมโหฬาร ศาลาหลังมหึมา คน ๓๐๐ คนก็เดินเวียนเทียนกันบนศาลาได้สะดวกสบาย น่าปลื้มใจ
ไปถึงวัดตอนทุ่มตรง ยังมีเวลาเหลือเฟือเลยแวะไปกราบนมัสการพระอาจารย์กฤษณ์ในห้องคอมฯ ใต้ศาลาหลังเก่า ท่านกำลังรับแขกญาติโยมที่พาลูกๆ มาสมัครบวชเณร ถึงเมื่อคืนมีคนมาสมัครบวชแล้ว ๙๙ คน เพิ่มขึ้นทุกปีๆ ปีก่อนบวชเณร ๒๗๐ ปีนี้คาดว่าจะเกิน ๓๐๐

ทุ่มครึ่งขึ้นไปบนศาลา คนเยอะครับ ขึ้นศาลาช้าแบบนี้ต้องไปนั่งด้านหลัง มองทางซ้ายมีคุณเธอนั่งอยู่ ขวาเป็นคุณท่าน ด้านหน้าเป็นคุณท่านและคุณเธอ ด้านหลังไม่ได้หันกลับไปมอง ที่พูดถึงคนรอบด้านนี้เพราะสังเกตว่าเป็นคนที่ไม่เคยเข้าวัดครับ ดูจากอาการนั่งก็รู้ และจินตนาการได้เลยว่าเดี๋ยวเวลาสวดมนต์ทำวัตรเย็นคงมีอะไรดีๆ
แล้วก็เป็นไปตามคาด เพราะคุณท่านและคุณเธอทั้งสามด้านมีศรัทธาแก่กล้ามาก เปิดหนังสือออกเสียงสวดมนต์ด้วยเสียงดังฟังชัด แต่ทำนองไม่เหมือนเขานี่สิ ทำเอาผมเป๋ไปเลย แต่ก็ดี ถือว่ามีความพยายาม
เรื่องการเข้าวัดสวดมนต์นี่ต้องระวังกันสักนิด จะเอาตามใจฉันนั้นไม่ได้ แต่ละวัดเขาสวดมนต์มีท่วงทำนองไม่เหมือนกัน เราต้องคล้อยตามเสียงส่วนใหญ่ ไม่ใช่ว่าฉันเคยสวดอย่างนี้ฉันก็จะสวดอย่างนี้ เราไปสวดต่างถิ่นต่างที่ก็ช่วยลดเสียงลงนิดหนึ่ง อย่าไปทำให้เขาวงแตก

ถึงเวลาเวียนเทียน ก็เดินเวียนเทียนกันในศาลานั่นแหละ ตอนจุดธูปจุดเทียนเสร็จ ผมก็คว้ากล้องมาถ่ายรูป เผลอเอียงเทียนจนน้ำตาเทียนหยดลงข้อมือ ร้อนสิครับ คุณผู้หญิงคนหนึ่งเห็นผมร้อยเลยรีบมาคว้าข้อมือปัดน้ำตาเทียนให้ ถามด้วยความห่วงใยว่าเป็นอะไรหรือเปล่า ปากตอบว่าไม่เป็นไร ขอบคุณครับ
แต่ในใจสิ.. รักษาศีล ๘ มาทั้งวัน ขาดซะแล้ว ข้อ ๓ พรหมจริยาเวรมณี สิกขาปทังสมาทิยามิ ถูกตัวเพศตรงข้ามไม่ได้ครับ ความผิดเราเองที่ไม่แต่งชุดผ้าขาวไปวัด

ไม่เป็นไร กุศลอยู่ที่เจตนา ได้แค่ไหนก็แค่นั้น ตอนท้ายได้ถวายผ้าป่ากันด้วย เอาบุญมาฝากครับ




บรรยากาศก่อนทำวัตรเย็น



ทำวัตรเย็นเสร็จ พระอาจารย์อำนวยกล่าวนำถวายดอกไม้ธูปเทียน



ลุกไปเดินเวียนเทียนกันรอบศาลา



เสร็จแล้วเอาดอกไม้ธูปเทียนมาไว้ข้างนอก



เบียดตรงคนแน่นๆ ไม่ไหว ก็ต้องออกมาไกลๆ



มาปักเทียนที่ระเบียง ขืนไว้ในศาลาทั้งหมดมีหวังอากาศไม่พอหายใจ




Create Date : 01 มีนาคม 2553
Last Update : 1 มีนาคม 2553 8:50:30 น. 5 comments
Counter : 1026 Pageviews.

 
ไม่มีหายไปไหน น๊า

ไปขี่ม้าเพิ่งกลับมาจ้า

อีกอย่างงานยุ่งมากจ้า เลยหนีไปคลายเคลียดมาก อิอิ

รักษาสุขภาพนะค่ะ


โดย: Aorn_N วันที่: 1 มีนาคม 2553 เวลา:12:02:00 น.  

 
อนุโมทนาสาธุค่ะ คุณอังคาร ดีจังเลยค่ะ หลินไม่ได้ไปไหนเลยค่ะ เพราะเพื่อนฝูงแก้งค์ไปวัด ญาณเวศกวัน หนีไป เที่ยว ตจว กันหมดค่ะ เลยอดเลย

ใจจริงไปวัดณาณ อยากจะไปกราบ และฟังธรรมะจาก ท่าน ปอ ปยุตโต อะค่ะ เพราะหลินนับถือท่านเป็น พระอาจารย์ ที่เป็นอาจารย์จริงๆ อธิบายธรรมให้เรา เข้าใจได้อย่างเป็นเหตุเป็นผล อิอิ

แต่ไม่เป็นไร อยู่บ้าน ทุกวันนี้ก็พยายามรักษาจิตของเรา ไม่สร้างสังขารใหม่ คอยดูใจของเรา เมื่อวานก็เกิดเรื่องไม่ดีขึ้น

รู้สึกหนักใจ แต่ใจมันก็สอนใจ ให้เราปล่อยวางได้ค่ะ เลยยิ้ม หัวเราะออกค่ะ

อุเบกขา อุเบกขา อยู่กับปัจจุบัน ปล่อยและวาง

ท่องๆ เอาไว้ให้ตลอดค่ะ กลางคืน ก็นั่งสมาธิค่ะอิอิ

เห็นด้วยเรื่อง งานที่สนามหลวงคะ หลินก็เคยไปหลายคร้งนะค่ะ

ไปเดินซื้อหนังสือ รับ ของแจก แล้ว ก็ไปเวียนเทียนค่ะ ไปแบบตั้งใจไปเลยค่ะ นัดกับเพือนฝูง น้องนุ่ง

ได้ไปทักทาย หลายบู๊ท ที่พอจะรู้จัก ก็มี อ กมล กับ พอพิเศษ ทองขาว พ่วงรอดพันธ์ ท่านจัดรายการวิทยุ

รายการธรระมะร่วมสมัย และ อาจารทองขาว ก็ไป เป็นโฆษก ที่วัดญาณเวศกวันด้วยค่ะ

แล้วเคยไป ทอดกฐิน ด้วยกัน เจอหน้ากันก้ทักทาย กัน

แต่ก้จริงแระค่ะ ไม่ค่อยมีอะไร อากาศก็ร้อน สิ่งที่แจกก็คือ น้ำมนต์ ของปลุกเศก ต่างๆ อิอิ หลินก้ไปรับแจกมาด้วยค่ะ

สนามหลวงก็ให้อารมณ์แบบ แนวทำบุญ แต่สาระ แห่งธรรมะ คงไม่ใชได้ที่สนามหลวงหรอกค่ะ อิอิ


รักษาสุขภาพด้วยนะค่ะ

ปล พูดซะยาว เลย อิอิ


โดย: ย่าชอบเล่า วันที่: 1 มีนาคม 2553 เวลา:13:20:24 น.  

 
อนุโมทนาบุญด้วยค่ะ


โตมานี่ไม่ค่อยเข้าวัดค่ะ แต่สวดได้นะเออ

เคยไปเวียนเทียน แต่ไม่มีสมาธิเลยเพราะควันธูปเข้าตา

คิดว่าอยากไปวัดเมื่อไหร่ก็ไปค่ะ

และสงสัยจะเป็นเพื่อนที่ไกลวัดที่สุดของคุณอังคารแหงเลย


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 1 มีนาคม 2553 เวลา:14:23:57 น.  

 
ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมบล๊อคนะคะ

ไปวัดทำให้เราจิตใจสงบมากค่ะ


โดย: เด็กหญิงหางดาบ วันที่: 2 มีนาคม 2553 เวลา:23:42:47 น.  

 
รักษาศีลแปดมาทั้งวันเกือบจะหมดวันและ ศีลขาดซะงั้น

ไม่เป็นไรหรอกค่า ของอย่างนี้มันอยู่ที่ใจ อิอิ



โดย: hippo (freedom.banana ) วันที่: 3 มีนาคม 2553 เวลา:21:13:08 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Siri_waT_bkk
Location :
นนทบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




บางครั้ง เธอเข้าใจไหม
ว่าทำไม จิตใจต้องเพ้อฝัน
ฝันมีสุขร่วมกัน ฝันมีส่วนผูกพัน
สิ่งเหล่านั้น ฉันเองเข้าใจ

   ความหมาย คงคลี่คลายโดยง่ายดาย
   หากได้ระบาย ออกมาให้เธอฟัง
   ก็เพราะเธอเป็นต้นเหตุ ก็เพราะเธอนั้นพิเศษ
   เกินกว่าฉัน จะควบคุมใจ

ยามใดเธอมีทุกข์ อยากหยุดโลกกลับไปช่วยเธอ
ใจมันคอยเสนอ ไม่เคยคิดห่วงใคร
ต่อให้ไกลจะไกลแค่ไหน ก็จะไปยกหัวใจให้
เพียงแต่ตอบรับ หากเธอยอมรับ กับฉัน

   ว่าเธอนั้น มันก็เป็นเหมือนกัน
   ส่วนฉันยืนยัน ประกันได้เลยเธอ
   ไม่ใช่เรื่องหนักใจ มันไม่ใช่เรื่องใหญ่
   เพียงแค่สามคำ ฉันรักเธอ...

   
    [เพลงจาก http://www.fileden.com]


[ stat since Sep24, 2009 ]
Friends' blogs
[Add Siri_waT_bkk's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.