Bloggang.com : ดา ดา : เดอะ แกรนเดอร์ ออฟ รามายณะ(The Grandeur of Ramayana) การแสดงชั้นครูฉลอง 5 ปี สยามพารากอน

เดอะ แกรนเดอร์ ออฟ รามายณะ(The Grandeur of Ramayana) การแสดงชั้นครูฉลอง 5 ปี สยามพารากอน

ทีแรกย่านึกว่าจะไม่ได้ไปงานนี้ซะแล้ว เพราะเข้าใจว่าต้องมีบัตรถึงจะเข้าได้ จึงตัดใจ

แต่เมื่อวานป้ารุ โทรหาย่าตอนช่วงบ่ายแจ้งว่าวันนี้ให้ไปถ่ายโขนที่สยามพารากอน โดย

บอกให้ย่าไปประมาณ 6โมงเย็น ขอรับบัตรที่หน้างานและเข้าไปชมได้

โขนเป็นการแสดงที่ย่าอยากถ่ายรูปมานานแล้ว งานนี้ย่าจึงรีบกลับบ้านเพื่อที่จะเตรียม

อุปกรณ์ถ่ายภาพ โดยเฉพาะที่ขาดไม่ได้ก็คือขาตั้งกล้อง ไปถึงเลทจากเวลาที่กำหนด

ประมาณ 6 นาที เห็นคนกำลังทะยอยเข้าด้านในเวทีการแสดงกันแล้ว ย่าถามพนักงาน

ว่าจะไปรับบัตรได้ที่ไหน เธอแจ้งว่าไม่ต้อง ต่อแถวเข้าได้เลย โอว...คิวยาวเชียว กว่าจะ

ได้เข้าไปก็ได้ที่นั่งประมาณช่วงกลาง ปักหลักเซทกล้องเช็คความเรียบร้อยรอ คงจะถ่าย

ได้บ้างนะ ปลอบใจตัวเอง ..

----

กลับมาค้นข้อมูล นำมาฝากเพื่อนๆ

เพื่อร่วมสืบสานพระราชเสาวนีย์ในสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ที่ทรงตระหนัก

ถึงคุณค่าของมรดกวัฒนธรรมประจำชาติ พร้อมกระตุ้นเตือนคนไทยให้เกิดความรักความ

สามัคคี ค่ายสยามพารากอน เลือกฉลองครบรอบ 5 ปีแห่งความสำเร็จอย่างสง่างามน่า

ภาคภูมิใจ ภายใต้คอนเซปต์ "Siam Paragon the Glorious 5th Anniversary" ณ ฮอลล์

ออฟ เฟม และพาร์ค พารากอน ชั้น M สยามพารากอน วันที่ 9-12 ธ.ค. นี้ ด้วยการเปิดม่าน

การแสดงชุด The Grandeur of Ramayana (เดอะ แกรนเดอร์ ออฟ รามายณะ) ถ่ายทอด

อมตะมหากาพย์รามเกียรติ์ โดยผนวกมหรสพศิลปะไทยชั้นสูง 5 แขนงเข้าไว้ด้วยกันเป็นครั้งแรก

ในประวัติศาสตร์ ผ่านฝีมือการแสดงของนักแสดงมืออาชีพกว่า 120 ชีวิต ขนมาหมดทั้งการ

แสดงโขน, หนังใหญ่, หุ่นละครเล็ก, ดนตรีไทยประยุกต์ พร้อมเนรมิตฉากภาพจิตรกรรมไทย

ประกอบกราฟฟิกแอนนิเมชั่นบนจอแอลอีดีขนาดยักษ์ ประกอบแสงสีเสียงสุดอลังการ

สำหรับเนื้อหาของการแสดงชุดนี้ จะนำเสนอเรื่องราวในช่วงที่ "พระรามยกทัพข้ามสมุทร" เพื่อ

ถ่ายทอดถึงพลังแห่งความสามัคคี ความเพียร และสติปัญญา โดยมีการแบ่งเนื้อหาออกเป็น 3

ตอนหลักๆ

เปิดฉากตอนแรกกับการแสดงหนังใหญ่ ตอน "หนุมานรบนิลพัท" พลิกประวัติศาสตร์

ด้วยการจัดทำหนังใหญ่ขนาดยักษ์กว่า 2 เมตร พร้อมโชว์สีสันและเทคนิคการเชิดหนังสุดอลังการ

เพื่อสร้างฉากสู้รบที่ยิ่งใหญ่ตระการตาอย่างไม่เคยมีมาก่อน

ตามมาด้วยการแสดงหุ่นละครเล็กตอน "หนุมานจับนางสุพรรณมัจฉา" เนรมิตขบวนสัตว์น้ำใน

วรรณคดีขนาดใหญ่กว่า 4 เมตร แหวกว่ายในฉากต่อสู้กลางบาดาลสุดวิจิตร และ

ปิดท้ายด้วยการแสดงโขน ตอน "พระรามยกทัพข้ามสมุทร" ตื่นตาตื่นใจกับฉากเดินทัพข้ามสมุทร

แบบครบองค์ พร้อมขบวนราชรถเต็มอัตราศึก และพัสตราภรณ์สุดตระการตา ใช้นักแสดงกว่า 70

ชีวิต เพื่อถ่ายทอดเรื่องราวแห่งชัยชนะและความสำเร็จของกองทัพพระราม

นอกจากการมอบความสุขและความบันเทิงแล้ว ทางสยามพารากอน ยังคาดหวังว่ามหรสพส่งท้าย

ปีชุดนี้ จะจุดประกายให้เกิดความรักและความสามัคคีในหมู่คนไทย สำหรับประชาชนทั่วไป สามารถ

ร่วมสัมผัสความอลังการของเบญจศิลป์ไทย วันละ 1 รอบ ระหว่างวันที่ 10-12 ธ.ค.นี้ เวลาทุ่มตรง

ณ พาร์ค พารากอน สยามพารากอน ติดต่อขอรับบัตรเข้าชมล่วงหน้า โทร.0-2610- 9263.

ขอขอบคุณข้อมูลจาก

//seed18up.net/forum.php?mod=viewthread&action=printable&tid=5694

คอยจนกระทั่งประมาณ ทุ่มกว่าๆ ก็เริ่มการแสดง

มีจอ LEDขนาดยักษ์ 15x5 เมตร แอนนิเมชั่นเป็นภาพจิตรกรรมไทย จอกับตัวแสดงจริง

จะเล่นไปด้วยกัน ครั้งแรกในเมืองไทย

เบิกโรงด้วยหนังใหญ่

กราฟฟิคสวยๆประกอบฉาก

มีภาพจิตกรรมไทย สวยๆจากจอLCDร่วมสร้างสีสัน

เชิดหนังใหญ่ตอนหนุมานรบนิลพัท

สวยงามสุดประทับใจ

องก์ที่ ๒ หนุมานจับนางสุพรรณมัจฉา

เป็นการแสดงจากหุ่นละครเล็ก

นางสุพรรณมัจฉา ผู้เชิดชักหุ่นทำให้ลื่นไหลเหมือนกำลังว่ายน้ำจริงๆ

ขบวนสัตว์น้ำในวรรณคดีขนาดใหญ่กว่า 4 เมตร แหวกว่ายในฉากเหล่าปลาบริวารของนางสุพรรณมัจฉาขนหินไปทิ้งกลางทะเลลึกไม่ให้ถนนเสร็จ

หนุมานลงไปดูและพบนางสุพรรณมัจฉา จึงจับตัวนางไว้ ด้วยความเจ้าชู้ของหนุมาน จึงทำให้เกิด “มัจฉานุ”

นางสุพรรณมัจฉา อีกภาพ

แอนนิเมชั่นภาพจิตกรรมจากจอLEDเล่าเรื่องราวการสร้างถนนไปลงกา ผ่านอุปสรรคพายุ,ฝนฟ้าคะนอง และในที่สุดก็สำฤทธิ์ผล พระอินทร์ประทานราชรถเวชยันต์ ฉากนี้จะเป็นแอนนิเมชั่นราชรถขับลงมาจากฟากฟ้า เสียดายว่าย่าถ่ายไม่ทัน

ในที่สุดการสร้างถนนไปกรุงลงกาก็เสร็จสิ้น

ปิดท้ายช่วงการแสดงโขน ตอน พระรามยกทัพข้ามสมุทร

ลิงโลด

สุครีพ: เอ้าเจ้าลิงน้อยไปไหนมา เขาสร้างถนนจนเสร็จแล้วทำไมถึงเพิ่งมา

ลิงน้อย: ไปแวะช๊อปปิ้งที่สยามพารากอนมาพระเจ้าค่ะ ...ฮา

ได้เวลายาตราทัพ พระราม พระลักษณ์ เสด็จขึ้นบุศบก

ขอบ่นหน่อยแสงจากLED ทำให้การถ่ายรูปของย่าเป็นไปด้วยความยากลำบาก

ยิ่งเป็นการถ่ายโขนครั้งแรกอยู่ด้วย

ย่าชอบช่วงที่เปิด LEDมากกว่า ถ่ายง่ายกว่ากันเยอะเลย

การแสดงครั้งนี้เป็นการรวมศิลปการแสดงทั้งสามอย่างเข้าด้วยกัน โขน,หุ่นละครเล็ก,หนังใหญ่

โดยมีภาพจิตกรรมไทย จากจอ LED เป็นสื่อผสม นับเป็นการแสดงครั้งแรก

แค่ความอ่อนช้อยของผลงานแต่ละชิ้นก็น่าทึ่งแล้ว

ขอปรบมือให้กับความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ค่ะ

ขอขอบคุณกบ-เกรียงศักดิ์ ตันติพิภพ (ผู้บริหารอาวุโสฯ ศูนย์การค้าสยามพารากอน)

ที่จัดให้มีสิ่งดีๆเช่นนี้มาให้ชม

หลังจากจบการแสดงแล้ว ก็ถึงบรรยากาศ อันชื่นมื่นระหว่างตัวละครและผู้ชม ย่าขอตัด

เป็นอีกตอนหนึ่งนะคะ จะได้ไม่โหลดนานจนเกินไป

ขออภัยหากภาพที่เอามานำเสนอไม่สวยงามอย่างที่หวัง เนื่องจากข้อจำกัดในฝีมือย่าเอง

และทำเลการถ่าย ซึ่งแรกๆอยู่ช่วงกลาง ในที่สุดก็ต้องย้ายมาด้านหลังสุด เพราะกล้อง

ย่าบังคนข้างหลัง บางภาพจึงมีหัวคนบังค่อนข้างมากอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ บล๊อกหน้า

ย่าขอสัญญาว่าภาพจะต้องแจ่มกว่านี้แน่นอน

+++++++

เพิ่มเติมลิงค์ของป้ารุ ซึ่งถ่ายเป็นวีดีโอ พร้อมทั้งเนื้อเรื่อง สนใจคลิ๊กไปดูได้ค่ะ
//www.oknation.net/blog/paaru/2010/12/13/entry-1

เริ่มต้นเรื่อง.....ใช้หนังใหญ่ดำเนินเนื้อเรื่องในส่วนนี้
พระรามสั่งให้สุครีพพาไพร่พลไปเร่งสร้างถนนไปกรุงลงกา
แต่นิลพัท กับ หนุมาน ซื่งชะตาไม่ต้องกันมาแต่ไหนแต่ไร
เอาแต่ทะเลาะเบาะแว้งกันเสียงดังกึกก้อง
จนในที่สุดพระรามต้องแยกให้ทั้งคู่แยกกันไปทำคนละหน้าที่
นิลพัท ให้ทำหน้าที่ส่งเสบียง หนุมาน ให้ไปจองถนน
ให้เสร็จภายในเจ็ดวัน มิฉะนั้นจะมีโทษประหาร
ฉากนี้สนุกสนานกับเสียงตึงตัง กระทืบเท้าของผู้แสดง
สายตาก็จับจ้องที่แผ่นหนังใหญ่
รู้สึกเหมือนเป็นตัวละครที่มีชีวิต
บางครั้งก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มไปกับเจ้าลิงน้อย animation
ที่กระโดดโลดเต้นโยนก้อนหินอยู่ในฉากหลัง
..........
ฉากต่อมาเป็นศิลปการแสดงหุ่นละครเล็ก
เป็นตอนที่นางสุพรรณมัจฉานำบริวารปลา
ขนหินไปทิ้งกลางทะเลลึกไม่ให้ถนนเสร็จ
จนสุครีพต้องให้หนุมานลงไปดูและพบนางสุพรรณมัจฉา
ใครที่เคยชมบทบาทของหนุมาน
ตอนเกี้ยวพาราสี คงจะนึกภาพออกถึงความน่ารัก
ของหนุมานจอมเจ้าชู้ได้ค่ะ
ก็เหตุการณ์ตอนนี้ล่ะค่ะที่ทำให้เกิด “มัจฉานุ”
...........
ฉากสุดท้ายเป็นการแสดงโขนโดยใช้ผู้แสดงจริง
พระอินทร์ประทานราชรถเวชยันต์
ให้แก่พระรามเป็นราชพาหนะในการทำศึกกับทศกัณฐ์
ฉากนี้น่าประทับใจที่ได้เห็นราชรถเวชยันต์ animation
ลอยลงมาจากสวรรค์ และเมื่อถึงพื้นดิน
ก็กลายเป็นราชรถงดงาม พาหนะสำคัญของศึกครั้งนี้
.............
การแสดงครั้งนี้ใช้เวลา 45 นาที
ผู้ชมได้สนุกสนานกันตลอดช่วงเวลาที่ได้ชม
และที่สำคัญการนำศิลปการแสดงล้ำค่าของไทย
มาประยุกต์กับเทคโนโลยี โดยไม่ทิ้งแบบแผนการแสดง
อันเป็นเอกลักษณ์ เป็นสิ่งที่ดี
น่าจะมีการจัดการแสดงในลักษณะนี้
ให้เยาวชนของเราได้มีโอกาสชมบ่อยขึ้น
บางทีกระแสความนิยมต่างชาติที่กำลังวิ่งเข้าประเทศไทย
อาจจะชลอตัวลงไปบ้างก็ได้นะคะ
ป้ารุ...รายงาน
(ขอบคุณป้ารุ ค่ะ)

Create Date : 13 ธันวาคม 2553

Last Update : 14 ธันวาคม 2553 11:51:28 น.

11 comments

Counter : 4495 Pageviews.

เเวะมาทักทายค่า o (^-^)o

โดย: zawadio (khonmanrak

) วันที่: 13 ธันวาคม 2553 เวลา:23:49:54 น.

สวัสดีค่ะย่าดา..

อลังการงานสร้างจริงๆนะค่ะ..

แหม..หุ่นละครโจหลุยส์ชิดซ้ายเลย..

โดย: คนผ่านทางมาเจอ

วันที่: 14 ธันวาคม 2553 เวลา:0:53:23 น.

อรุณสวัสดิ์ครับ

ชอบสีสันของภาพจังเลยครับย่าดา

โดย: กะว่าก๋า

วันที่: 14 ธันวาคม 2553 เวลา:5:36:53 น.

ขอบคุณสำหรับคะแนนโหวตที่มอบให้ผมนะครับย่าดา
ผมมอบคะแนนโหวตเบสต์บล็อกให้ย่าดาครับ

โดย: กะว่าก๋า

วันที่: 14 ธันวาคม 2553 เวลา:10:22:38 น.

แต่กำลังงงครับงว่าทำไมกดโหวตไมไ่ด้ครับ

เดี๋ยวผมลองใหม่นะครับ

โดย: กะว่าก๋า

วันที่: 14 ธันวาคม 2553 เวลา:10:23:30 น.

สวยจังเลยค่ะ

โดย: NucH (sa-bye-sa-bye TEAM

) วันที่: 14 ธันวาคม 2553 เวลา:10:27:37 น.

ยิ่งใหญ่ อลังการมากๆเลยค่ะ ถ้าอยู่ในบรรยากาศจริง ต้องขนลุกแน่ๆเลยนะคะ

โดย: อาราเล่ กะ กั๊ตจัง

วันที่: 14 ธันวาคม 2553 เวลา:12:29:00 น.

ย่าดา เหนื่อยไหมจ๊ะเนี่ย วันนี้ทรหดกันจริงๆเนอะ ไปตั้งแต่บ่ายยันทุ่มเลยเนอะ

โดย: คิตตี้น้อยสีชมพู

วันที่: 14 ธันวาคม 2553 เวลา:22:49:44 น.

ทราบไหมคะ ว่าจริงๆแล้ว หุ่นกระบอกไทย มีต้นกำเนิดมาจากไหน?

สร้างกริตเตอร์
แวะมาทักทายยามดึกๆ ฝันดีนะคะคุณดา

โดย: เกศสุริยง

วันที่: 14 ธันวาคม 2553 เวลา:23:52:11 น.

ขอบพระคุณย่าดาที่เเวะไปเยี่ยมบล๊อกครับ

ผมห่างหายไปนานเลยทีเดียว 555

งานน่าชมจังครับ ถ้าอยู่ใกล้ คงได้ไปดูอะไรแปลกๆๆตาบ้าง

โดย: Sleeping_prince

วันที่: 15 ธันวาคม 2553 เวลา:2:48:54 น.

มีโอกาสได้แวะไปเดินเล่นพารากอนอยู่เหมือนกันครับ ช่วงที่อยู่กทม. แต่พลาดงานนี้ไปซะงั้น อดได้ชม ได้ถ่ายภาพสวยๆ เลยครับ...ขอแวะมาชมที่ blog ย่าดา ละกันครับ

โดย: ถปรร

วันที่: 15 ธันวาคม 2553 เวลา:12:04:44 น.