Group Blog
 
<<
มีนาคม 2553
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
16 มีนาคม 2553
 
All Blogs
 
จากหิมาลัยสู่เจ้าพระยา ณ หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร



โดยส่วนตัวแล้วย่ามีความชื่นชอบ ศิลป วัฒนธรรมของธิเบต ค่อนข้างสูง

และเนื่องจากธิเบตเป็นอาณาจักรที่ถูกขนานนามว่าเป็นหลังคาโลก

และมีประวัติศาสตร์อันเก่าแก่ และวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ของตนเอง


พอทราบข่าวว่ามีงานเกี่ยวกับศิลปวัฒนธรรมของธิเบต ย่าจึงขอไปชมให้เป็น

บุญตาสักหน่อย งานนี้มีในวันที่ ๕-๑๐ มีนาคม ๒๕๕๓ ที่ผ่านมา


ในงาน มีการก่อมันดาลา ทราย





มนฑลแห่งการตรัสรู้ ทำจากทราย (Sand Mandala)เป็นการโรยทรายสี

ให้เป็นลวดลายโดยไม่มีการร่างแบบ ซึ่งต้องใช้ความชำนาญและสมาธิในการ

ทำค่อนข้างสูง การถ่ายภาพจึงห้ามใช้แฟลช


----


พระลามะส่วนใหญ่รู้วิธีการสร้างมันดาลา เพื่อใช้ในการประกอบพิธีต่าง ๆ

บางรูปใช้เวลาสร้างเป็นเดือน การสร้างมันดาลาเป็นการฝึกฝนจิตอย่าง

หนึ่ง มโนจิตและสมาธิต้องดำเนินไปด้วยกัน การสร้างมันดาลาไม่มีการ

ร่างโครงร่างก่อน ไม่ว่ารูปมันดาลานั้นจะใหญ่หรือเล็กชนาดใด มโนจิต

ในมันดาลานั้นต้องเที่ยงตรง สมาธิต้องมั่นคง บางครั้งพระบางรูปจะท่อง

มนตราและแผ่เมตตาในขณะที่สร้างด้วย ถือเป็นพิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์





รูปปั้นทำจากเนยเป็นองค์ประกอบสำคัญในการบูชาพระพุทธองค์พุทธองค์

สิ่งสักการะนี้สามารถเก็บไว้เป็นวัตถุบูชาถาวรได้





รูปปั้นเนย(Buttur Sculpture)

การปั้นเนยบูชาพระพุทธองค์เป็นพระเพณีอันเก่าแก่ของชาวธิเบต

ส่วนใหญ่จะปั้นในช่วงงานเทศกาลประจำปีของชาวธิเบตที่เรียกว่า

เทศกาลมอลลัมและงานพิธีกรรมทางศาสนาอื่นๆรูปปั้นทำจาก

เนยเป็นองค์ประกอบสำคัญในการบูชาพระพุทธองค์ในระหว่างที่

ดำเนินพิธีกรรมทางศาสนา รูปปั้นบูชาทำจากเนยอาจมีฐาน

กว้างถึง ๑๐ เมตร และสูงถึง ๔ เมตร (รูปทรงเหมือนกรวย)

หรือมีขนาดเล็กแตกต่างกันไปตามประเภท รูปปั้นบูชาจะทำขึ้นจาก

เนยบริสุทธิ์ที่เกิดจากส่วนผสมของเนยสัตว์และขี้ผึ้งที่มีอุณหภูมิ

อุ่นสามารถปั้นเป็นรูปทรงได้ รูปปั้นบูชาทำจากเนยมีเอกลักษณ์

เฉพาะตัวที่โดดเด่น เป็นศิลปะที่น่าดึงดูดใจและมีความซับซ้อนสูง

ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แทนการบูชาทางศาสนา





เดิมทีตั้งจะว่าจะไปเก็บภาพระหว่างการปั้นเอามานำเสนอ

แต่เนื่องจากกว่าจะว่างไปการปั้นเนยเขาได้ทำการปั้นเสร็จสิ้น

เรียบร้อยแล้ว มีแต่เพียงควันหลงมาให้ชมเพียงเท่านี้





งั้นเรามาชมลวดลายเนยปั้น กันใกล้ๆว่าสวยงามเพียงไร

เนยบูชาพระพุทธองค์รูปทรงเหมือนกรวย





ตั้งบูชาแบบนี้ค่ะ





วิธีการปั้นเนยและการตกแต่ง เนื่องจากพลาดชมจึงขออนุญาตนำภาพที่โชว์วิธีการปั้นมาให้ชมแทน





ธงมนต์หลากสี





ประดับตกแต่งทั่วบริเวณงาน





ลวดลายของแมนดาร่าทรายมองจากมุมสูง พระลามะ

กำลังจัดแต่งลวดลายให้ได้รูปทรงสวยงามด้วยมีด


----

ปริศนาธรรมที่แฝงมาในมันดาลา คือ ไม่ว่าจะสมบูรณ์

สวยงามหรือมั่นคงเพียงใด สุดท้ายก็ต้องสูญสลายไป

ตามธรรมชาติ และก็เช่นกันเมื่อสูญสลายไปแล้ว ก็จะ

ต้องถูกสร้างขึ้นมาอีก เพราะความมีอยู่ทำให้เกิดความ

ว่าง และความว่างก็เป็นบ่อเกิดของความมีอยู่





เครื่องมือในการทำมันดาลาทราย





ถึงแม้นว่าจะเป็นวันท้ายๆของงาน ผู้คนก็ยังทะยอย

มาถ่ายรูปและชมการโรยทราย ทำมันดาลา อยู่ไม่

ขาดสาย ชาวต่างประเทศก็ให้ความสนใจมาบันทึก

ภาพเป็นจำนวนมาก





ศิลปินผู้วาดภาพ ทังก้า





ตัวอย่างภาพวาดจากศิลปินท่านนี้

ละเอียดอ่อนช้อยสวยงาม ต้องไปชมของจริงค่ะ

สีสันสวยงามกว่าภาพที่ย่าถ่ายมาให้ชมเยอะเชียวค่ะ





ภาพเขียนทังก้า

ซึ่งจัดเป็นศิลปะชั้นสูง คือ ภาพวาดแทนพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

หากจะเข้าใจได้ง่ายก็เปรียบเสมือนพระพุทธรูปนั่นเอง โดยปกติ

แล้วทังก้าจะเขียนบอกเล่าเกี่ยวกับพุทธองค์ เหมือนจิตรกรรม

ฝาผนังในประเทศไทย แต่เขียนลงบนผ้าแทน ชาวธิเบตไม่มี

พระพุทธรูป จะมีทังก้าเป็นตัวแทนพระพุทธเจ้า เมื่อชนเผ่าเร่ร่อน

เดินทางย้ายถิ่นฐานสมบัติสำคัญของพวกเขาคือคัมภีร์พระธรรมและ

ทังก้าที่เป็นภาพพระพุทธเจ้า พระโพธิสัตว์ มันดาลาหรือวัฏสงสาร

ประกอบด้วยสัตว์ทั้งหกประเภทที่ใช้ชีวิตวนเวียนกับการเวียนว่าย

ตายเกิด ที่สำคัญในการทำแบบโบราณดั้งเดิม สีที่ใช้เขียนเป็นสี

ธรรมชาติที่ต้องสรรหาแร่ธาตุตามเทือกเขาหิมาลัย นำมาบดผสม

กับยางไม้ เขียนด้วยเกรียงจากเขาจามรี ส่วนสีทองก็จะใช้เนื้อ

ทองคำแท้ น้ำที่ใช้ผสมสียังต้องใช้น้ำแร่ผสมกับสีธรรมชาติใน

การวาด ซึ่งภาพที่ดีที่สุดนั้นใช้เวลาในการทำ

ถึง 60 วัน และอยู่ได้นานเป็นเวลาถึง 400 ปี





แร่ธาตุที่นำมาจากภูเขา เพื่อใช้ในการวาดรูป





แปรงทำเอง สำหรับใช้ในงานเขียนภาพ





ลายปักบนย่ามของพระลามะ





องค์ทะไลลามะ ได้กล่าวถึงความสำคัญของวัฒนธรรมธิเบตไว้ว่า

“วันนี้เรากำลังอยู่ในช่วงเวลาวิกฤต ชาติของเรามีวัฒนธรรมอันเก่าแก่

ที่เผชิญหน้ากับความเสี่ยงต่อการล่มสลายอยู่ในตอนนี้

เราจึงต้องการความช่วยเหลือจากทุกคนและจากประชาคมนานาชาติ

เพื่อปกป้องวัฒนธรรมของเรา วัฒนธรรมที่เป็นดั่งมรดกโลก

การปกป้องวัฒนธรรมเก่าแก่

จึงไม่ใช่แค่หน้าที่ต่อชาติของตนเองเท่านั้น

แต่ยังถือเป็นหน้าที่ต่อประชาคมโลกทั้งหมดด้วย”





การจัดงานในครั้งนี้ทางมูลนิธิเสฐียรโกเศศ-นาคะประทีป

เป็นองค์หลักในการระดมทุนและจำหน่ายบัตรเข้าชมการแสดงแต่รายรับ

ยังไม่ครอบคลุมค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่เกิดขึ้นในการจัดงาน จึงบอกกล่าวมายัง

กัลยาณมิตรทุกท่านช่วยกันสนับสนุนกิจกรรมในครั้งนี้ด้วยเพื่อสืบทอด

คุณค่าด้านศิลปวัฒนธรรมและสร้างเสริมสิ่งที่ดีงามสู่สังคม


หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้รับการสนับสนุนจากกัลยาณมิตรทุกท่าน และขอ

ขอบพระคุณล่วงหน้ามา ณ โอกาสนี้ด้วย สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

อาภาภร คำเจริญ โทร. 085-215-4977





ภายในงานมีเครื่องปั้นดินเผาจากธิเบตจำหน่าย





เต่าก็มีค่ะ





เครื่องปั้นดินเผาที่มีเอกลักษณ์ของธิเบต





ศิลปลวดลายบนเครื่องเงินของธิเบต





ระฆังสำหรับประกอบพิธีทางศาสนา





วัชระ ที่องค์ทะไลลามะ จะถือไว้ ข้างหนึ่งส่วนอีกข้างหนึ่งจะถือระฆัง

ระหว่างประกอบพิธีกรรมทางศาสนา





ฉิ่งลวดลายสวยงามมาก




ขันลวดลายสวยงาม




ด้านในมีรูปดวงตาธรรม




หน้ากากที่ใช้สวมใส่ในการเต้นรำ

พูดถึงการแสดงย่าไม่ได้ดูค่ะเพราะเริ่มดึกมากและไม่ได้จองไว้ก่อน





ขออนุญาตนำภาพการเต้นรำสวมหน้ากากนำมาประกอบภาพด้านบน





ชอบใจข้อความที่ด้านหลังเสื้อยืดที่จำหน่ายในงาน

ถ่ายมาให้อ่านกันเล่นๆค่ะ





หนูน้อยคนนี้กำลังสนใจชมสินค้าไม่ทราบว่าเล็งชิ้นไหนไว้





นอกจากนั้นยังมีรูปสวยๆจากธิเบตจำหน่ายด้วยค่ะ

สั่งจองได้ที่งาน แต่ละรูปล้วนบอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับธิเบตได้อย่างชัดเจน





อย่างเช่นรูปนี้ ผู้แสวงบุญแม้จะมีเนื้อตัวมอมแมม ผมเผ้ายุ่งเหยิง

แต่ใบหน้าและแววตาบ่งบอกถึงความศรัทธาและเชื่อมั่นในบุญกิริยา


พวกเขามีความเชื่อว่ายิ่งลำบากก็จะยิ่งได้บุญมากค่ะ





นอกจากนั้นยังมีภาพถ่ายประวัติศาสาตร์เกี่ยวกับองค์ทะไลลามะ องค์ก่อนๆ

และองค์ปัจจุบันให้ได้ชมและศึกษาอีกด้วยค่ะ

---


พุธศาสนาถูกนำเข้ามาสู่ธิเบตในพุทธศตวรรษที่ ๑๒ สมัยพระเจ้าซงเซ็น กัมโป

พุทธศาสนาแบบธิเบตเรียกตนเองว่าวัชรยาน หมายถึงมีพาหนะเป็นดังเพชร

ที่สามารถตัดกิเลสได้อย่างรวดเร็วในชาตินี้ แต่ยังกลับมารับใช้สรรพสัตว์ต่อไป

อย่างไม่รู้จบสิ้น


หากการนำเสนอของย่ามีจุดไหนที่ควรแก้ไขหรือไม่เหมาะไม่ควรประการใด

โปรดแจ้งให้ทราบด้วยค่ะ หรือจะเป็นการให้ข้อมูลเพิ่มเติมก็จะเป็นพระคุณอย่างยิ่งค่ะ


การแพทย์ของธิเบตก็น่าสนใจค่ะ ยังไม่ได้ทำภาพ หากมีโอกาสทำภาพมานำเสนอในภายหลังค่ะ








Create Date : 16 มีนาคม 2553
Last Update : 16 มีนาคม 2553 19:26:36 น. 20 comments
Counter : 4040 Pageviews.

 


โดย: หาแฟนตัวเป็นเกลียว วันที่: 16 มีนาคม 2553 เวลา:19:39:49 น.  

 
แวะไปดูมาเหมือนกันค่ะ


โดย: never the last วันที่: 16 มีนาคม 2553 เวลา:19:54:48 น.  

 
สวยจังเลยค่ะ ย่าดา
มาทักทายรอบดึก หลับฝันดีนะคะ



โดย: ชีวิตยังมีพรุ่งนี้เสมอ วันที่: 16 มีนาคม 2553 เวลา:20:55:35 น.  

 
พลาดงานนี้ไปอย่างน่าเสียดาย
แต่พอได้มาชมภาพเต็มๆ ที่นี่ก็ไม่เสียดายแล้วครับ ^^

ค่อยๆ ดูภาพอย่างละเอียดทีละรูป แล้วอ่านคำบรรยายไปด้วย
บอกได้คำเดียวว่าแต่ละงานนอกจากอาศัยฝีมือแล้วยังต้องประณีตบรรจงมากๆ
เครื่องปั้นดินเผาน่ารักดีครับ สงสัยถ้าผมได้ไปดูวันนั้นเป็นต้องเสียตังค์แน่เลย

ขอบคุณสำหรับภาพสวยๆ และข้อมูลทั้งหมดครับย่าดา



โดย: พลทหารไรอัน วันที่: 16 มีนาคม 2553 เวลา:22:36:57 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับย่าดา

อยากลองไปฝึกเขียนทังก้าจังเลยครับ
เป็นภาพที่ต้องใช้ศรัทธา สมาธิและความมุ่งมั่นในการเขียนมากจริงๆเลยนะครับ








โดย: กะว่าก๋า วันที่: 17 มีนาคม 2553 เวลา:6:28:18 น.  

 
สวัสดีค่ะ คุณกะว่าก๋า ถ้าคุณได้เห็นของจริงจะตะลึงเชียวหล่ะค่ะ สีทองของเขาสุกปลั่งเพราะเขาใช้ทองจริงทำเชียวแหล่ะค่ะ ส่วนสีอื่นๆนั้นของจริงจะสวยคลาสสิคมาก
เรียกว่าเป็นบุญตาที่ได้เห็น ย่าไปเดินวนอยู่ในนั้นสองรอบด้วยกัน เดี๋ยวจะหาเวลาทำเรื่องการแพทย์แผนธิเบตมาให้ชม

คุณพลทหารไรอัน เห็นด้วยค่ะเครื่องปั้นดินเผาเขามีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นมิใช่น้อย ย่ามีอุดหนุนป้ายไม้ที่มีคาถา และหนังสือ "ธิเบตอาณาจักรบนหลังคาโลก" มาด้วยค่ะ ว่าจะซื้อเสื้อใส่สักตัวน่าเสียดายไซด์ย่าไม่มีแล้ว
อด...เลย

สวัสดีค่ะ คุณชีวิตยังมีพรุ่งนี้เสมอ ขอบคุณที่แวะมาทักทาย เดี๋ยวย่าย่องไปบ้านคุณบ้าง

คุณnever the last และคุณ หาแฟนตัวเป็นเกลียว ย่าแอบดอกไปบล๊อกคุณมาเรียบร้อยแล้ว อิอิ


โดย: ดา ดา วันที่: 17 มีนาคม 2553 เวลา:9:52:00 น.  

 
ทักทายสวัสดีกับย่าดา ด้วยครับ
กำลังเห็นแว๊บๆ จากที่ไหนสักที่ แต่พอรู้วันเวลาว่ายังไงก็คงไม่ได้ไปชมของจริงได้ ยังได้แต่หวังว่าจะมีใครนำภาพมาให้ชม เลยต้องขอขอบคุณย่าดาเป็นพิเศษเลยครับ ที่นำภาพสวยๆ มาให้ชมกันด้วย
และก็ขอขอบคุณสำหรับชื่อดอกไม้สีขาว ที่ย่าดาช่วยแจ้งชื่อไว้ที่ blog ด้วยนะครับ ก่อนจะ post ภาพ set นี้ ก็ตามหาชื่อดอกไม้จาก blog ของย่าดาในชุดดอกไม้สีขาวที่ลงไว้หลายที่ ก็ยังไม่เจอเจ้าดอกไม้สีขาวที่ถ่ายภาพไว้เลยครับ ตอนนี้ได้ชื่อมาแล้ว เดี๋ยวค่อยตามไปใส่ชื่อเสียงเรียงนามของเค้าไว้หน่อย
ขอบคุณอีกครั้งครับ


โดย: ถปรร วันที่: 17 มีนาคม 2553 เวลา:16:39:01 น.  

 
คุณ ถปรร ดอกcolumbine มีหลายสีนะคะ รูปทรงดอกมันแปลกมาก ย่ายังไม่เคยเห็นดอกจริงเลยค่ะ อยากเห็นใจจะขาด ดังนั้นในกระทู้ดอกไม้สีขาวจึงยังไม่มีภาพดอกcolumbine ค่ะ ในกรุงเทพฯคงไม่มีให้ถ่ายหรอกค่ะ จะไปเชียงใหม่หรือก็เป็นการขี่ช้างจับตั๊กกะแตนจนเกินไป
เมื่อไหร่ก็เมื่อนั้นค่ะ ตั้งความหวังเอาไว้เดี๋ยวโอกาสของย่าก็คงจะมีเข้าสักวัน หากไม่แก่ตายไปซะก่อน อิอิ


โดย: ดา ดา วันที่: 17 มีนาคม 2553 เวลา:18:19:33 น.  

 
ไปมาเหมือนกันครับ ประทับใจมาก โดยเฉพาะวันสุดท้ายที่พระท่านประกอบพิธีทำลายมณฑล แล้วนำผงทรายเหล่านั้น แจกจ่ายเป็นมงคลแก่ผู้ร่วมงาน และนำไปโปรยลงแม่น้ำเจ้าพระยาครับ

เนยสีนี้ รู้สึกภาษาทิเบตเรียกว่า ตรอม่า นะครับ


โดย: azurite วันที่: 17 มีนาคม 2553 เวลา:22:01:29 น.  

 
ขอต่ออีกนิด ช่วงนี้ มีงานแสดงภาพทังกาอยู่นะครับ เป็นทังกาจากเนปาล คล้ายกับทิเบต แต่มีสไตล์แขกปนอยู่บ้าง

แสดงที่ Serindia Gallery กทม. ซ. เจริญกรุง 36

ผู้คัดเลือกภาพมาแสดง คือคุณ Robert Beer ช่างเขียนทังกาชาวตะวันตกที่มีชื่อเสียง และเคยเขียนหนังสือเกี่ยวกับสัญลักษณ์มงคลของทิเบตมาแล้ว คุณ Robert จะมาพูดเรื่องภาพเขียนในวันที่ 30 มี.ค.

ฝากอนุญาตฝากลิงค์ของแกลอรีหน่อยนะครับ

//www.serindiagallery.com/



โดย: azurite วันที่: 18 มีนาคม 2553 เวลา:16:42:26 น.  

 
คุณazurite โชคดีที่ได้เห็นพิธีทำลายมณฑล ถ่ายมาหรือเปล่าคะ อยากเห็นค่ะ


โดย: ดา ดา วันที่: 18 มีนาคม 2553 เวลา:21:02:29 น.  

 
วิจิตรงดงามมากๆค่ะ



โดย: นาฬิกาสีชมพู วันที่: 19 มีนาคม 2553 เวลา:12:31:36 น.  

 
คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...

ชอบบรรยากาศอินเดียสีจัดจ้านทั้งนั้นค่ะย่าดา
แหล่มเลยนะคะ


โดย: อุ้มสี วันที่: 19 มีนาคม 2553 เวลา:12:53:23 น.  

 
คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...
สวัสดียามค่ำค่ะคุณดา วันนี้ครูเกศยุ่งๆๆๆๆทั้งวันเลยเพิ่งจะเปิดคอมนี่แหละค่ะ อากาศที่อ่างทองร้อนๆๆๆเสียจนจะแทบจะระเบิดอยู่แล้ว คุณดาสบายดีนะคะ


โดย: เกศสุริยง วันที่: 19 มีนาคม 2553 เวลา:22:08:51 น.  

 
ทำบล็อกแยกแต่ละหน้า

หนูไม่เข้าใจค่ะ

เค้าทำกันยังงัยคะ


โดย: นาฬิกาสีชมพู วันที่: 20 มีนาคม 2553 เวลา:0:31:33 น.  

 
ทำบล๊อกแยกแต่ละหน้าคือเวลาสร้างหน้าใหม่แล้วให้เลือกให้มีคอมเม้นท์ไงคะ


ก็ทำแบบนั้นทุกครั้งค่ะ


โดย: นาฬิกาสีชมพู วันที่: 20 มีนาคม 2553 เวลา:10:19:54 น.  

 

สวัสดีค่ะ...ย่าดา

วันนี้วันหยุดค่ะ แต่คงไม่ออกไปไหน เพราะว่าพื้นที่หน้าที่พัก
เต็มไปด้วยผู้คนค่ะ

ย่าดาคะ ทำไมเอ๋ไม่เห็นทราบเรื่องเกี่ยวกับนิทรรศการเลยค่ะ
ทั้ง ๆ ที่อ่านข่าวเกือบทุกวัน สงสัยโดนข่าวอย่างอื่นแทรก ก็เลยไม่เห็น

"อยากไปมากเลยค่ะ" เอ๋ชอบเกี่ยวกับโบราณคดี
แต่ว่างานหมดไปแล้วนี้ซิ ถ้ายังมีต่อ จะรีบแต่งตัวออกจากห้องในตอนนี้ทันที

การทำมันดาลาทราย สุดยอดค่ะ
การปั้นเนย โอ้...สวยงามมาก
ภาพเขียนสุดยอดเช่นกัน

ทุกอย่างดูแล้วขลัง มีเสน่ห์ น่าหลงไหลยิ่งนักค่ะ


โดย: aenew วันที่: 20 มีนาคม 2553 เวลา:13:00:17 น.  

 
ทักทายคร้า มาเยี่ยมกันบ้างนะค่ะ


โดย: ดอกแก้วหิมาลัย วันที่: 20 มีนาคม 2553 เวลา:16:47:33 น.  

 
สวัสดีค่ะ..

วันนี้เป็นวันเสาร์ 5 ..

ป้าดาไปทำกิจกรรมอะไรบ้างไหมค่ะ..

ของอ้อมแอ้มไปบริจาคเลือดมาค่ะ..ไม่กี่ครั้งเองค่ะ



ขอให้มีความสงบสุขในบ้านเมืองไวไวนะค่ะ


โดย: คนผ่านทางมาเจอ วันที่: 20 มีนาคม 2553 เวลา:19:02:52 น.  

 
ภายถ่ายสวยงามครับ

ขอบคุณ ที่แบ่งปันนะครับ


โดย: Phoenixนิลมังกร วันที่: 22 มีนาคม 2553 เวลา:0:04:56 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ดา ดา
Location :
1 Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 14 คน [?]




Friends' blogs
[Add ดา ดา's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.