Group Blog
 
<<
กันยายน 2551
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
 
20 กันยายน 2551
 
All Blogs
 
ตามรอยราชมรรคา ทริปปราสาท จังหวัดสุรินทร์ ตอนที่ 3






ทริปปราสาท จังหวัดสุรินทร์ ตอน3

มาต่อกันเลยค่ะ






pass- through





รูปสลักฤาษีที่โคนเสา





รูปนี้อาจารย์กำลังจะสื่ออะไรหน่ะ อิอิ





ส่วนนี้คือส่วนที่ยังสร้างไม่เสร็จ





หนูบี สาวสวยอีคนหนึ่งในทริป





บอกเล่าเรื่องราว





อาจารย์เชี่ยวชาญเรื่องหิน และเรื่องปราสาท เล่าได้ลื่นไหลมาก

สงสัยว่าจะเป็นคนยุคนั้นกลับชาติมาเกิด





เดินไปเดินมาวกมาดูจุดนี้ทุกที





ประตูที่ปิดตาย





รูปสัตว์ท่อนหัวกลายเป็นลายกนกไปซะนี่





ชาวเรา





แลลอกกรอบประตู





อ.วรนัย นักวิชาการนอกกรอบ งานนี้ไม่มีกั๊ก


แต่สงสัยว่านักเรียนเก็บไม่ค่อยได้เท่านั้นเอง อิอิ





บันทึกภาพ





******





ฟังอ.อย่างสนใจ





ครูเจี๊ยบฟังและจดอย่างตั้งใจ





คุณหมอวันชัย ชี้ชวนให้สาวๆดูอะไรหนอ





ตะวันที่ปลายฟ้า, คุณมะอึก และคุณหนุ่ย มัชฌิมาปกร





หนูบีเดี่ยว





ดอกขี้เหล็กอเมริกัน บานพรูรอบๆพื้นที่ และทั่วจังหวัดสุรินทร์เลยทีเดียว


พืชสมุนไพร และผักพื้นบ้าน

********


ขี้เหล็ก


จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี


ขี้เหล็ก เป็นสมุนไพรที่มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Cassia siamea Lam. จัดเป็นพืชในวงศ์

ลกุมมิโนเซ (Leguminosae) นอกจากนี้ยังมีชื่อเรียกในท้องถิ่นที่แตกต่างกัน เช่น

ขี้เหล็กแก่น (ราชบุรี) ขี้เหล็กบ้าน (ลำปาง) ขี้เหล็กหลวง (ภาคเหนือ) ขี้เหล็กใหญ่

(ภาคกลางบางที่) ผักจี้ลี้ (ฉาน-แม่ฮ่องสอน) ยะหา (มาเลย์-ปัตตานี) และขี้เหล็กจิหรี่

(ภาคใต้) เป็นต้น ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ของต้นขี้เหล็กเป็นไม้ยืนต้นขนาดเล็กถึง

ปานกลาง ผลัดใบ สูงประมาณ 8-15 เมตร ลำต้นมักคดงอเป็นปุ่มเปลือกสีเทาถึง

สีน้ำตาลดำ ยอดอ่อนสีแดงเรื่อๆ ใบประกอบเป็นแบบขนนก เรียงสลับกัน มีใบย่อย

5-12 คู่ ปลายสุดมีใบเดียว ใบย่อยรูปขอบขนานด้านบนเกลี้ยง ดอกช่อสีเหลืองอยู่

ตามปลายกิ่ง ดอกจะบานจากโคนช่อไปยังปลายช่อ กลีบเลี้ยงมี 3-4 กลีบ กลีบดอก

มี 5 กลีบ เกสรตัวผู้10 อัน ผลเป็นฝักแบนยาวมีสีคล้ำ เมล็ดรูปไข่ยาวแบนสีน้ำตาล

อ่อนเรียงตามขวางมี 20-30 เมล็ด เนื้อไม้มีสีน้ำตาลแก่เกือบดำ ส่วนของดอกและใบ

ขี้เหล็กใช้เป็นอาหารในหลายประเทศ เช่น ไทย พม่า อินเดีย และมาเลเซีย เป็นต้น

ในตำราการแพทย์แผนไทยได้มีการบันทึกประโยชน์ของขี้เหล็กในหลายด้าน เช่น

ใช้แก้อาการท้องผูก ใช้แก้อาการนอนไม่หลับ ใช้ทำความสะอาดเส้นผม ทำให้ผม

ชุ่มชื่นเป็นเงางาม ไม่มีรังแค ช่วยเจริญอาหาร บำรุงน้ำดี และบำรุงโลหิต เป็นต้น


ในปี พ.ศ. 2485 ศาสตราจารย์ นพ.อวย เกตุสิงห์ ได้ศึกษาฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาของ

ต้นขี้เหล็ก พบว่าใบและดอกขี้เหล็กทำให้เกิดอาการง่วงซึมและมีพิษน้อยกว่าสมุน

ไพรชนิดอื่นๆ ที่ได้ศึกษา ต่อมาจึงมีผู้ศึกษาฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาของสารสกัดใบ

ขี้เหล็กอีกครั้งโดยใช้แอลกอฮอล์เป็นตัวทำละลาย พบว่าสารสกัดนี้มีฤทธิ์กด

ประสาทส่วนกลาง เพิ่มความตึงตัวของกล้ามเนื้อเรียบ และมีฤทธิ์ขับปัสสาวะ

จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2513 คณะนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยน็อตติ้งแฮม ประเทศ

อังกฤษได้รายงานว่าสามารถสกัดสารชนิดใหม่จากใบขี้เหล็กได้ โดยตั้งชื่อว่า

บาราคอล (barakol)


ขอบคุณข้อมูลจาก wikipedia





ใกล้ๆกันมีต้นอะไรไม่ทราบกำลังออกลูกเต็มต้น





ภาพแอบถ่าย คุณกระดานดำออนไลน์





ทริปนี้ทำไมกลายเป็นทริปถ่ายสาวไปก็ไม่รู้





เอ้าโพสท่ากันใหญ่เลย





ครูเจี๊ยบกับท่าสวย





คุณเสือน้อย ย่ามีภาพสวยๆของตัวเองได้เพราะวานคุณเสือน้อยถ่ายให้นี่แหละ Thank you ja





คุณน้อย สอบถามคุณชาลี" มีภาพผมบ้างหรือเปล่าครับ"





ภาพหมู่ที่หน้าปราสาท





ว้าวครูเจี๊ยบถ่ายกับนายทหารหนุ่มหล่อ





น้องยุ้ยเลยขอถ่ายมั่ง





เอาหล่ะซิ สาวๆมาเป็นขบวน





หนูบุปผา ขอเป็นพรีเซ็นเตอร์





ต้นไม้ที่นี่ได้รับการบวชทุกต้น





ความชุ่มชื้นแห่งป่า





ขากลับเหลือบเป็นดอกกระเจียวสีขาวเขียว สวยดี





รุ้งงามหลังฝนตก





ลากันด้วยภาพนี้ค่ะ

เอาฝักหมามุ่ยในเวบดอกไม้มาฝาก





ค้นหาชื่อดอกไม้ได้ที่เวบดอกไม้ของย่านะคะ

//www.sarapad.com/dada'


ตามรอยราชมรรคา เที่ยวปราสาทสุรินทร์ ตอนที่ 1

ตามรอยราชมรรคา เที่ยวปราสาทสุรินทร์ ตอน 2

ทริปตามรอยราชมรรคาของพวกเราดังใหญ่แล้ว
ได้ทั้งออกทีวี.





และลงหนังสือแฟชั่น 555





ขอบคุณ คุณลิลสำหรับภาพค่ะ

แม้แต่ที่สนามบินก็ขึ้นป้ายใหญ่โต

ภาพโดย คุณผู้สัญจร ขอบคุณค่ะ






สั่งซื้อสมุดมด

สั่งซื้อสมุดสร้างสุข






Create Date : 20 กันยายน 2551
Last Update : 14 พฤษภาคม 2559 20:14:58 น. 3 comments
Counter : 3030 Pageviews.

 
ว้าววว อยากไปๆ ภาพสุดท้ายแอบฮาน่ะเนี่ย อิอิ


โดย: akarima วันที่: 21 กันยายน 2551 เวลา:6:21:25 น.  

 
รุ้งกินน้ำสวยมากๆครับย่าดา

ตั้งแต่ผมมาอยู่ระยองยังไม่เคยเห็นรุ้งกินน้ำเลย

เห็นแต่มังกรพ้นไฟทั้งวันทั้งคืน(ปล่องไฟที่ปล่อยของ....ตามโรงงาน)จนเป็นโรคภูมิแพ้กันท้วนหน้า


โดย: อนันต์ครับ วันที่: 21 กันยายน 2551 เวลา:9:58:22 น.  

 
คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...

...ภาพสวยงามมากๆ เลยครับย่าดา...


โดย: doctorbird วันที่: 22 กันยายน 2551 เวลา:15:52:27 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ดา ดา
Location :
1 Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 14 คน [?]




Friends' blogs
[Add ดา ดา's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.