If you love someone, do not think of what she or he does for you. But think of 'Have you done anything for him or her yet?'...
Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2554
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
10 พฤศจิกายน 2554
 
All Blogs
 
ณ วันเกิดของเจ้าตัวน้อย

ก่อนที่ลูกสาวตัวน้อยจะออกมาจากท้อง มีหลายอย่างที่เราจะต้องเตรียมเลยล่ะ นอกจากพวกของใช้จำเป็นสำหรับเด็กแรกเกิดแล้ว เราก็ต้องเตรียมหาฤกษ์ผ่าคลอด ตั้งชื่อเล่น ชื่อจริง อันนี้ล่ะงานยากเฮ้ออ...


ฤกษ์ผ่าคลอด

อย่างแรกก็ฤกษ์ผ่าคลอด อันนี้ถ้าหาจากอินเตอร์เนท แทบจะไม่ค่อยมีข้อมูล สุดท้ายก็ต้องเพิ่งปฏิทินจีน อันนี้ก็หาซื้อยากอีกต่างหากต้องไปซื้อแถวเยาวราชเลยละมั้ง แต่ก็โชคดีที่น้องมิ้ม น้องสาวที่น่ารักที่ทำงานบอกว่าที่บ้านเค้ามี เค้าก็เอามาให้วันรุ่งขึ้นเลย เราก็เปิดๆ เลือกวันที่เราต้องการ แล้วพอดีคุณปู่แนะนำให้เราคุยกับคุณชนม์พิเชฐ เค้ามีลูกพี่ลูกน้องบวชเป็นพระแล้วก็ดูเรื่องฤกษ์ยามให้ได้ เราก็เลยโทรไปขอให้คุณชนม์ช่วยติดต่อหาฤกษ์ด้วยอีกทาง ซึ่งเราก็ขอฤกษ์ที่ให้น้องเค้าเลี้ยงง่ายเข้ากันได้กับทั้งพ่อและแม่ อย่างอื่นๆไม่ได้ขออะไรเลยเพราะอยากเค้าเป็นอย่างที่ตัวเค้าเป็น สรุปทั้งสองฝ่ายก็ให้ฤกษ์ดีตรงกันเลย พอได้ฤกษ์ผ่าคลอดปุ๊บ ก็ต้องไปนั่งคุยกับคุณหมออีกว่าเค้าว่างตรงช่วงที่เราต้องการหรือเปล่า โชคดีที่คุณหมอว่างทำคลอดให้เราตรงเวลาที่เราต้องการ คือบ่ายโมงถึงบ่ายสอง แต่ถ้าจะให้ดีก็ต้องเป็นช่วงบ่ายต้นๆ (คุณหมอใจดีถือฤกษ์ผ่าคลอดให้บ่ายโมงกับอีก 1 นาที สวยมากค่า^^)




ตั้งชื่อเล่น ชื่อจริง

เรื่องถัดไปก็จะเป็นการตั้งชื่อเล่น ชื่อจริง อันนี้ถ้าบ้านไหนมีคุณปู่คุณย่า คุณตาคุณยาย ก็จะมีปัญหาหน่อยเพราะท่านๆ ก็อยากจะให้ใช้ชื่อที่เค้าตั้งให้ ฟังจากชื่อที่ท่านๆ เสนอมาไม่ค่อยโดนเลย ก็เลยแบ่งหน้าที่กันกับแฟน โดยที่เราจะเป็นคนตั้งชื่อเล่นเอง แล้วคุณพ่อจะตั้งชื่อจริง ชื่อเล่นนี่ตั้งไม่ยากเพราะไม่คิดว่าจะต้องใช้หลักอะไรมากมาย เลือกชื่อสั้นๆ พยางค์เดียว เรียกง่ายๆ ก็เลยตั้งชื่อว่า น้องไอซ์ เลยละกัน ชื่อนี้ก็มีที่มานิดหน่อยคือที่บ้านทั้งคุณปู่ คุณย่า คุณพ่อ จะค่อนข้างใจร้อนกัน ก็เลยตั้งชื่อลูกให้ช่วยคลายความร้อนเป็นความเย็นซะเลย แถมชื่อก็เรียกง่าย เวลาไปเรียนเมืองนอกเมืองนาจะได้มีชื่อสั้นๆ ที่ฝรั่งเรียกได้ง่ายๆ หน่อย (มองการณ์ไกลนะเนี่ย)

ส่วนชื่อจริง ควรจะตั้งชื่อให้เรียบร้อยก่อนวันที่จะผ่าคลอด เพราะเรารู้วันที่จะต้องผ่าแล้วก็ช่วยให้เราตั้งชื่อได้ง่ายขึ้น เพราะเราจะต้องให้โรงพยาบาลจัดการติดต่อเขตเรื่องใบสูติบัตร จะได้ไม่ขลุกขลักทีหลัง ... คุณพ่อก็เก่งมากค่า นั่งขมักขเม้นหาชื่อให้ลูกสาวก่อนวันผ่าคลอดสองวัน นั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ท้างงงวันเลย จนได้ชื่อที่ทั้งเรากะพ่อเค้าพอใจ



วันผ่าคลอด

ฤกษ์ผ่าคลอดของเราเป็นช่วงบ่าย ก็เลยไม่ได้ไปนอนค้างที่โรงพยาบาลฟรี 1 คืนนอกเหนือจากแพ็คเกจ เราเดินทางไปถึงโรงพยาบาลประมาณเก้าโมงเช้า พยาบาลก็พานั่งรถเข็นไปนอนรอที่ห้องพัก พอไปถึงห้องพักก็ไม่ค่อยชอบห้องมุมนี้เท่าไหร่ก็เลยขอพยาบาลเปลี่ยนห้องมาเป็นมุมเดิมที่เราเคยไปผ่าไส้ติ่งเมื่อสองเดือนที่แล้ว พยาบาลก็พาเราเดินดูให้เลือกห้องได้ตามต้องการว่าอยากได้ห้องไหน สุดท้ายก็เลือกห้องหมายเลข 1505 ดูแล้วเลขสวยดี 555






พอใกล้เวลาก็จะมีพยาบาลเข้ามาทำความสะอาด เตรียมพร้อมคลอดให้ แล้วก็เข็นรถเข้าไปในห้องผ่าตัด จากนั้นก็จะมีคุณหมอดมยาเข้ามาคุย ทำความเข้าใจในขั้นตอนการบล๊อกหลังให้เราฟัง ช่วงนี้เค้าจะให้คุณพ่อเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้า จากนั้นก็จะเข็นเราเข้าห้องผ่าตัด ทำการบล๊อกหลัง ... เราเพิ่งรู้เองว่าตอนฉีดยาบล๊อกหลังกับตอนที่พยาบาลพยายามดันเราให้ก้มตัวมากที่สุดเพื่อที่คุณหมอจะได้ฉีดยาเข้าที่หลังนั้นไม่ค่อยเจ็บเท่าไหร่ แต่จะทรมานมากถึงมากที่สุดก็ตอนที่ยาบล๊อกหลังออกฤทธิ์่แล้ว ตอนนั้นเราจะหมดความรู้สึกของร่างการตั้งแต่ช่วงเอวลงไปจนถึงเท่า อยากจะขยับก็ขยับไม่ได้ มันทรมานมาก อึดอัดมากที่สุดเลย หายใจไม่ค่อยออก ทรมานจริงๆ ค่ะ ... สักพักนึงคุณหมอทำคลอดก็จะเข้ามาผ่าคลอดให้ แล้วก็ส่งต่อให้คุณหมอเด็กรับน้องไป แล้วก็มีถ่ายรูปด้วยกันแป๊บนึง จากนั้นคุณหมอดมยาก็ให้เราดมยาเพื่อที่จะหลับไปประมาณ 2 ชั่วโมง

ตื่นมาอีกทีก็ต้องนอนราบกับที่นอน ใช้หมอนไม่ได้ งดน้ำอาหาร 24 ชั่วโมง ไม่ต้องอาบน้ำเอง จะมีพยาบาลเข้ามาเช็ดตัวทำความสะอาดให้ ประทับใจตอนที่พยาบาลมาทำความสะอาดให้มากเลยค่ะ ทำได้สะอาดดีจริงๆ







ลูกสาวตัวน้อย
น้ำหนักแรกคลอด 2640 กรัม
น้ำหนัก ณ วันที่ออกจากโรงพยาบาล 2370 กรัม


วันออกจากโรงพยาบาลเพื่อกลับบ้าน
หลังจากเช็คบิล จ่ายเงินเรียบร้อยแล้ว ก็จะมีรถเข็นมารับเราที่ห้อง (อันนี้จะไม่เอารถเข็นก็ไม่ได้ เค้าบอกว่าเป็นธรรมเนียมปฏิบัติ แล้วก็เข็นเราไปที่ห้อง Nursery ไปรับน้อง เค้าก็ยังไม่ให้เราอุ้มลูกเองนะคะ จะมีผู้ช่วยพยาบาลอุ้มลูกเดินตามรถเข็นเราลงไปที่ลานจอดรถ ให้เรานั่งรถให้เรียบร้อยแล้วเค้าถึงจะส่งลูกให้ .... ตัวเล็กนอนพริ้มมากเลย นิ่งเงียบตลอดทางจนถึงบ้าน ถึงบ้านประมาณห้าโมงเย็นได้ล่ะ รถกำลังติดหนึบเลยถนนสาทร ... เฮ้ออ รู้งี้ออกจาก รพ เร็วกว่านี้ก็ดีสิ

พอถึงบ้าน .... ก็มีทำพิธิไหว้เจ้าที่เจ้าทางก่อนพาน้องเข้าบ้าน หลังจากนั้น งานใหญ่เริ่มขึ้นแล้วคับ

อันนี้อยากแนะนำเลยว่าอยากให้เตรียมของใช้ของน้องทุกอย่างให้พร้อมใช้งานก่อนที่จะคลอดน้องเลยนะคะ เพราะเราเตรียมไว้พร้อมแล้วหล่ะ แต่ทุกอย่างอยู่ในตู้เก็บเรียบร้อยอย่างดี ไม่ได้เอาออกมาวางเตรียมพร้อมใช้ ก็เลยจะวุ่นๆ หน่อย แต่ละอย่างอยู่ในกล่องในถุงแพ๊คอย่างดี กว่าจะควานหาในตู้เจอ กว่าจะแกะออกมา วุ่นวายน่าดู เตรียมจัดที่นอน จัดโน่นจัดนี่ กว่าจะเสร็จภาระกิจก็เกือบเที่ยงคืน เหนื่อยกันทั้งบ้าน แถมทำอะไรไม่ค่อยถูก ไม่รู้ว่าจะต้องเริ่มต้นอะไรยังงัย ... คุณพ่อคุณแม่มือใหม่ก็งี้ล่ะคะ


กลับมาหาคุณหมออีกครั้ง หลังจากอยู่บ้านไป 2 วัน

เราต้องพาน้องกลับมาหาคุณหมอสุธีรา ณ วันที่ 2 หลังจากออกจากโรงพยาบาลแล้ว (5 วัน) เพื่อดูความคืบหน้า วันนั้นจำได้ว่าตอนนั่งรถออกมาจากบ้านค่อนข้างเครียดเพราะให้น้องทานนมแม่อย่างเดียวแต่ดูเหมือนจะมีนมไม่พอ น้องเค้าจะร้องบ่อยมาก (ก่อนออกจากบ้านแอบเอานมผสมที่เค้ามาแจกให้ชงใส่ขวดติดกระเป๋ามาด้วย แอบเอาขวดนมแหย่ใส่ปากตัวเล็ก ปรากฎว่าสาวน้อยเหลือบมามองหน้าแม่มานทีนึงแล้วก็หันหน้าหนี เหอเหอ เลยเอาใส่ปากเค้าไม่ลง) วันนัดเราออกจากบ้านค่อนข้างเร็วเพราะไม่อยากออกสายเดี๋ยวรถจะติดนาน ไปถึงก่อนเวลานัดหน่อย ก็เลยแวะไปชั้น 5 ห้อง Nursery นั่งรอเวลาพบคุณหมอ

พอถึงเวลานัด พยาบาลก็ชั่งน้ำหนักให้น้อง ปรากฎว่าน้ำหนักลดเหลือ 2340 กรัมเอง ลดลงเกิน 10% จากที่คุณหมอกำหนดไว้ คุณหมอก็เลยสั่งนมเสริมให้สาวน้อยไป 1 กระป๋อง เป็นนมถั่วเหลือง Enfa Prosobee ซื้อจาก รพ กระป๋องตั้ง 500 บาทแน่ะ (ข้างนอกแค่ 290 บาทเอง หุหุ) แล้วก็ส่งเราไปทำ Ultrasound ขยายท่อน้ำนม (มันมีน้ำนมนะ แต่ออกม่ายด้ายยย) แล้วก็ส่งเราเข้าห้อง Nursery ให้ผู้ช่วยพยาบาลนวดให้ แล้วก็ปั้มนมเพิ่ม แล้วก็สอนวิธีการป้อนนมโดยวิธีใช้ Cup Feeding น้องเค้าก็ป้อนนมให้ตัวเล็กโดยใช้ถ้วยให้เราดู ... โห แบบว่าเค้ากินเร็วมากกกคิดว่าน้องเค้าคงหิวมากล่ะ เพราะนมแม่คงมีไม่พอ เศร้าๆ สงสารลูกด้วย


ส่วนลูกสาวตัวน้อยของเรา คุณหมอส่งให้ไปตัดพังผืดใต้ลิ้น ที่แผนกอายุรกรรม (ต้องนั่งรอคุณหมออีกชั่วโมงกว่าๆ เพราะคุณหมอที่เชี่ยวชาญด้านนี้ไม่อยู่ คุณหมอสุธีราก็เลยโทรตามคุณหมออีกท่านที่อยู่ รพ จุฬาฯ ให้ช่วยแวะมาทำให้ ... ค่าตัดพังผืดนี่ก้อ 5,000 บาทล่ะ) ขลิบนิดเดียวเอง แถมต้องพาตัวน้อยเข้าห้องผ่าตัดด้วย คุณพ่อก็เข้าไปไม่ได้


จำได้ว่าเราถึงโรงพยาบาลประมาณเก้าโมงเช้า กว่าจะเสร็จสิ้นภาระกิจหมดนี้ ก็ออกจากโรงพยาบาลประมาณหกโมงเย็นโน่น เล่นเอาหมดแรงทั้งคุณพ่อ คุณย่า









Create Date : 10 พฤศจิกายน 2554
Last Update : 23 พฤศจิกายน 2554 10:57:55 น. 1 comments
Counter : 1614 Pageviews.

 
พี่ปูจ๋า ...

ยินดีด้วยนะค่ะกับการคลอดลูกสาวค่ะ
น่ารัก น่าชังแท้ๆ เลยค่ะ


โดย: JewNid วันที่: 24 พฤศจิกายน 2554 เวลา:10:27:07 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Bigcrab
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 160 คน [?]




Friends' blogs
[Add Bigcrab's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.