If you love someone, do not think of what she or he does for you. But think of 'Have you done anything for him or her yet?'...
Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2556
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
22 สิงหาคม 2556
 
All Blogs
 
ข้อแนะนำ เมื่อเริ่มให้อาหารเสริมลูกน้อย 6 เดือน

ช่วงหลังๆ ที่ผ่านเราได้ยินบ่อยมากจากคนที่มีลูกกำลังจะเข้า 6 เดือน ที่ต้องเตรียมให้อาหารเสริมลูกแล้ว มีคำถามมาตลอดว่า ทำอาหารไม่เป็น ไม่รู้จะเริ่มต้นยังงัย ต้องทำอะไร ให้อะไรทานได้บ้างในแต่ละช่วงอายุ

จริงๆ เราก็เป็น 1 ในนั้นเหมือนกัน แต่ก็โชคดีที่คุณหมอสุธีราให้คำแนะนำมาตลอด คุณหมอแจกใบปลิวมาให้ 3 ใบ เป็นคำแนะนำคร่าวๆ ในการเริ่มทำอาหารให้ลูก ตอนแรกๆ ก็อ่านคร่าวๆ ก็เออดีนะ พอเริ่มทำจริงๆ กระดาษ 3 ใบนี้เป็นคัมภีร์ติดตัวเราเลยค่ะ ใช้เป็นแนวทาง ให้ความรู้ต่อยอดเราได้ดีทีเดียว

คำถาม
ดิฉันเริ่มให้ลูก 5 เดือนครึ่งกินอาหารค่ะ เริ่มจากฟักทองบดอย่างเดียว เพราะลองอย่างอื่นแล้ว เขาคายตลอด น้ำหนักตัวเขาค่อนข้างน้อย เลยกังวลว่าควรให้กินอาหารอย่างไร มากน้อยแค่ไหน จึงจะเหมาะสมเพียงพอ เขายังกินนมแม่ด้วยค่ะ

คำตอบของคุณหมอสุธีรา
วิธีให้อาหารตามวัย

ให้เริ่มด้วยข้าวกล้องหุงรวมกับถั่ว แล้วค่อยๆ ใส่ผักทีละอย่าง 1 เมนู นาน 4-5 วัน เพื่อการตรวจสอบว่าไม่มีปัญหาแพ้ อาหารแพ้คือ ผื่น ตาบวม ปากบม คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย ปวดท้อง ถ่ายเป็นมูกเลือด งอแง ส่วนผลไม้และน้ำผลไม้ ค่อยเริ่มเดือนถัดไป (คือเดือนที่ 7) เพื่อให้รู้จักรสชาติของผักก่อน และไม่ให้ติดหวาน

ผักที่ใช้ มีดังนี้ แครอท ไชเท้า มันเทศ มันฝรั่ง มันม่วง ถั่วลันเตา ถั่วแขก ถั่วฝักยาว ถั่วเหลือง ถั่วเขียว ถั่วแดง ถั่วดำ ถั่วขาว ลูกเดือย ผักกาดขาว ผักกาดเขียว ผักกาดหอม ผักกาดแก้ว กะหล่ำปลี ตำลึง ผักบุ้ง กวางตุ้ง คะน้า ผักโขม ปวยเล้ง มะรุม ยอดมะระ ผักหวาน ข้าวโพดอ่อน เห็ด หัวหอมใหญ่ บรอกโคลี กะหล่ำดอก แตงกวา แฟงร้าน ฟักทอง ฟักเขียว อะโวคาโด ควรเลือกผักออร์แกนิก จะได้สารพิษน้อยหน่อย หรือหากเป็นผักผลไม้ ทั่วไปควรแช่เบกกิ้งโซดา น้ำเกลือ หรือน้ำยาแช่ผัก

ผักที่ใช้ มีดังนี้ แครอท ไชเท้า มันเทศ มันฝรั่ง มันม่วง ถั่วลันเตา ถั่วแขก ถั่วฝักยาว ถั่วเหลือง ถั่วเขียว ถั่วแดง ถั่วดำ ถั่วขาว ลูกเดือย ผักกาดขาว ผักกาดเขียว ผักกาดหอม ผักกาดแก้ว กะหล่ำปลี ตำลึง ผักบุ้ง กวางตุ้ง คะน้า ผักโขม ปวยเล้ง มะรุม ยอดมะระ ผักหวาน ข้าวโพดอ่อน เห็ด หัวหอมใหญ่ บรอกโคลี กะหล่ำดอก แตงกวา แฟงร้าน ฟักทอง ฟักเขียว อะโวคาโด ควรเลือกผักออร์แกนิก จะได้สารพิษน้อยหน่อย หรือหากเป็นผักผลไม้ ทั่วไปควรแช่เบกกิ้งโซดา น้ำเกลือ หรือน้ำยาแช่ผัก

ตรงนี้เราทำตามคำแนะนำคุณหมออย่างเคร่งคัดเลยคะ เพราะอยากให้ลูกทานผักเป็น ทานผักเก่ง ไม่ให้ทานผลไม้เลย ถึงแม้กระแสคุณปู่คุณย่าจะให้ทานกล้วยตั้งแต่ 6 เดือนมาแรงมาก แต่เราก็ไม่ยอมให้ทานกล้วยแน่นอน โกรธก็ไม่ว่ากัน สั่งห้ามเด็ดขาดเลย จนถึงทุกวันนี้ 2 ขวบแล้ว เห็นผลเลยค่ะ ลูกสาวทานผักได้ทุกชนิด ไม่ติดหวาน ดีใจมาก แต่ช่วงปีกว่าๆ ก็มีคายผักเป็นระยะ แต่ก็ไม่ละความพยายาม ทุกมื้อต้องมีผักไม่ต่ำกว่า 6-7 ชนิด (หลังจากที่โตแล้ว ทานอาหารมาได้สักระยะแล้ว) จนปัจจุบัน 2 ขวบกว่าๆ ไม่คายแล้วค่ะ กินผักได้หมด

มุมอุปกรณ์ทำอาหารของลูกสาวค่ะ มุมเล็กๆ เวลาไปตลาดอาทิตย์นึงก็จะซื้อผักมาล้างแช่น้ำยา ตากให้แห้งแล้วใส่กล่องเก็บเข้าตู้เย็นไว้ทำอาหารให้ลูกทุกเย็น ตอนนี้ 2 ขวบแล้ว ผักที่เราใช้ทำอาหารจะมีหลากหลายมากเลย ประเภทผักที่ซื้อบ่อยๆ ใส่ทุกวัน ก็จะเป็น ผักชี หอมหัวใหญ่ แครอท ฟักทอง ผักหางหงษ์ ผักกาดขาว อะโวคาโด แล้วก็ผักใบเขียวตามฤดูกาล ตอนนี้ก็เพิ่ม ดอกขจร ดอกแค ถั่วแขก ข้าวโพดอ่อน แตงกวา มาสลับกันบ้าง

ช่วงแรกๆ ก็จะใช้ผักที่มีรสหวานบ่อยหน่อย พวกฟักทอง ตำลึง แครอท .... ฟักทองนี่ถ้าเป็นฟักทองญี่ปุ่นจะอร่อยกว่าฟักทองบ้านเราเยอะคะ ส่วนแครอท ถ้าเป็นแครอทออสเตรเลีย จะรสชาติดีกว่าแครอทบ้านเรา ทานง่าย อาหาร/ผักส่วนใหญ่ ที่ทำให้ลูกทานเราจะชิมก่อนเสมอ

 

จัดเก็บใส่กล่องให้เรียบร้อย เพื่อใช้งานง่ายสะดวกในแต่ละวัน เราจะทำอาหารให้ลูกตอนเย็น ทั้ง 3 มื้อเลย เอาพลาสติกแรฟ แช่ตู้เย็นไว้ให้พี่เลี้ยงเอามาอุ่นในแต่ละมื้อ

ส่วนของข้าวกล้องและถั่วจะสุกช้า ควรแช่น้ำทิ้งไว้ 24 ชั่วโมง ค่อยต้มให้สุกด้วยน้ำเปล่าหรือน้ำซุปผัก ไม่ปรุงรสด้วย เกลือ ซีอิ้ว น้ำปลา น้ำตาล น้ำผึ้ง เพราะจะทำให้ลูกติดรสชาติ ไม่ดีกับสุขภาพ  เมื่อข้าวและถั่วสุกดีแล้ว จึงค่อยใส่ผัก รอจนสุก ปล่อยให้เย็นแล้วตักใส่ช่องทำน้ำแข็ง เมื่อแข็งแล้ว แกะใส่ถุงเก็บนม แยกเป็นแต่ละเมนู เก็บได้นาน 8 สัปดาห์ เวลาจะใช้แกะออกจากถุง ใส่ภาชนะที่ปลอดภัยในการอุ่นด้วยไมโครเวฟ คนให้เข้ากันดี เพราะบางจุดร้อนจัด เดี๋ยวลวกปากลูก ไม่ควรทำอาหารจากดิบเป็นสุกด้วยไมโครเวฟ เพราะอาจสุกไม่ทั่วถึง แต่ใช้เป็นการอุ่นอาหารที่สุกมาแล้ว ส่วนจาน ถ้วย ช้อน ถาดน้ำแข็ง ล้างให้สะอาด ด้วยน้ำยาทำความสะอาดขวดนมและน้ำเปล่า ไม่ต้องนึ่ง

ช่วงแรกๆ ที่เราเริ่มทำอาหารให้ลูกก็ทุลักทุเลพอสมควร ที่บ้านเราไม่ทำอาหาร เพราะฉะนั้นอุปกรณ์ก็ไม่ค่อยพร้อม จะซื้ออุปกรณ์อะไรก็เหนื่อยเพราะไม่ค่อยมีความรู้ ไม่ได้เตรียมอะไรเลย แต่สุดท้ายก็ผ่านไปด้วยดี ค่อยๆ ปรับไปเรือยๆ

ตอนนี้ที่บ้านเราก็ยังหุงข้าวให้ลูกทานแบบใช้หม้อนึ่ง และหุงปริมาณพอลูกทานคนเดียว  นึ่งไปพร้อมกับอาหารหลักเลย

อุปกรณ์ทำอาหารให้ลูก หลักๆ จะใช้หม้อนึ่ง นึ่งทุกวัน หม้อตุ๋น Slow Cooking เอาไว้ทำน้ำซุป ทำเสร็จก็ใส่บล๊อกหยอดเข้าฟรีซไว้ อาทิตย์นึงก็ทำครั้งนึง

 


ข้าวที่จะหุงให้ลูกทาน ปัจจุบัน 2 ขวบก็จะใช้ข้าวสวยหอมมะลิออร์แกนิคหรือข้าวหอมมะลิธรรมดา กับข้าวญี่ปุ่น สลับกัน แต่ก็จะใส่ เมล็กแฟล็ก บดหยาบ ลงไปด้วยเสมอ ... ไม่รู้ว่าคิดไปเองหรือเปล่า เราว่าเส้นผมเค้าดูเป็นผมมีคุณภาพ เงางาม มีน้ำหนัก คิ้วก็ขึ้นสวยเป็นเส้นเลย ส่วนนึงอาจเป็นเพราะเมล็ดแฟล็กหรือเปล่า เพราะเมล็ดแฟล็กมีน้ำมันที่มีประโยชน์ต่อร่างกายมากทีเดียว

อาหารสดส่วนใหญ่ก็ล้าง หั่นใส่บล๊อกน้ำแข็งเก็บไว้ เวลาใช้ก็ค่อยเอามาใช้ทีละบล๊อก บล๊อกนึงก็มื้อนึง พอดีไม่มากไม่น้อยเกินไป

ลูกอายุ 6-7 เดือน บดอาหารให้ละเอียด

เช่น ข้าวกล้องและถั่วที่ต้มน้ำซุปผักที่อุ่นแล้ว โดยปั่นหรือครูดผ่านกระชอน กินละมื้อเดียว ในวันแรกเริ่มป้อนเพียง 1 ช้อนโต๊ เวลากินข้าวแล้วฝืดคอหัดให้ลูกกินน้ำจากถ้วย หรือหลอดดูด หรือช้อนตักน้ำป้อนหลังกินอาหาร แล้วตามด้วยนมแม่ จนอิ่ม ค่อยๆ เพิ่มอาหารวันละ 1 ช้อนโต๊ะ อย่าเพิ่มเร็ว เดี๋ยวท้องอืด แล้วร้องกวนตอนกลางคืน แต่ถ้าลูกไม่อยากกิน ไม่บังคับ ให้หยุดป้อน แล้วค่อยให้ใหม่วันต่อไป จนกินได้ครบมื้อ ปริมาณ 5-7 ช้อนโต๊ะ นมมื้อนั้นจะเลื่อนการกินออกไปอีก 1-2 ชั่วโมง

กรณียังไม่รู้ว่าแพ้อาหารหรือไม่ ควรให้กินมื้อเช้าหรือกลางวัน เพราะหากป้อนมื้อเย็นแล้วมีปัญหาแพ้อาหาร ลูกอาจมีอาการผิดปกติตอนกลางคืน แต่ถ้ารู้ว่าไม่มีอาการแพ้ อาจเปลี่ยนมาให้อาหารเป็นเวลาเย็น จะช่วยทำให้อิ่มนานขึ้น ลูกอาจหลับได้ยาวขึ้น

 

เดือนที่ 7 เริ่มเนื้อสัตว์

เริ่มใส่เนื้อสัตว์ลงในอาหาร บดละเอียด เริ่มเนื้อสัตว์ชนิดใหม่ทุกครั้ง ทีละอย่าง และใช้ซ้ำ 4-5 วัน เพื่อตรวจสอบอาการแพ้ เนื้อสัตว์ที่แนะนำได้แก่ ไก่ หมู ปลาน้ำจืด เช่นปลาช่อน ปลาดุก ปลานิล ปลาทับทิม ปลากราย ปลาเนื้ออ่อน ตับไก่ ตับหมู ไข่แดง (ต้มให้สุกเต็มที่ ถ้าไม่สุกจะทำให้ถ่ายเป็นมูกเลือดได้) ปริมาณที่ใส่ต่ออาหาร 1 มื้อคือ 1 ช้อนโต๊ะ ไม่ควรมากกว่านี้ เพราะไตจะทำงานหนัก

ส่วนไข่ขาว และอาหารทะเล ให้เริ่มหลังจากอายุ 1 ขวบ เนื่องจากแพ้ง่าย หากเริ่มเร็วเกินไป อาจไปกระตุ้นทำให้เกิดปัญหาแพ้ภายหลังได้

คุณแม่อาจจะเริ่มผลไม้ปั่นละเอียด (เติมน้ำลงไปด้วย จะได้ไม่ฝืดคอ และไม่หวานเกินไป) เป็นอาหารว่างอีก 1 มื้อ ปริมาณ 2-3 ช้อนโต๊ะ เช่น แอ๊บเปิ้ล สาลี่ แคนตาลูป ชมพู่ แตงไทย แตงญี่ปุ่น ลูกพลับ ลูกพีช ลูกแพร์ พุทรา กล้วย มะม่วงสุก มะละกอสุก (หากกินผัก ผลไม้ สีเหลือง สีส้มมากๆ อาจทำให้ผิวสีเหลือง ไม่อันตราย กินต่อไปได้ ถ้าหยุดกินแล้วกว่าจะหายเหลือง จะใช้เวลานานประมาณ 6 เดือน) ส่วนผลไม้รสเปรี้ยว เช่นส้ม มะนาว กีวี สับปะรด มะเขือเทศ บลูเบอรี่ สตรอเบอรี่ ให้เริ่มหลัง 1 ขวบ เนื่องจากแพ้ง่าย

 

ช่วงขวบปีแรกเราจะให้ทานเฉพาะปลาน้ำจืด พวกปลาเนื้ออ่อน ปลาช่อน ปลานิล สลับกันไป ช่วงนั้นก็แทบแย่ เหนื่อยทีเดียว แต่ละอาทิตย์ต้องนั่งแกะปลา เอาก้างออกให้หมด ทำทีนึงใช้เวลา 3 ชั่วโมงขึ้นเลย ที่จะต้องคัดก้างออกจากเนื้อปลาให้หมด จะเสียเวลาแค่ไหนแต่ก็ต้องทำเพราะถ้าก้างติดคอลูกนี่เรื่องใหญ่กว่านี้แน่นอน

ส่วนผลไม้ก็จะให้ตามคู่มือป้าหมอ เป๊ะๆ

เดือนที่ 8-9 เพิ่มปริมาณและเนื้ออาหารหยาบขึ้น ตุ๋นให้นุ่ม

โดยเพิ่มข้าวเป็นสองมื้อ อาหารไม่บดละเอียด แต่ตุ๋นให้นุ่ม เวลาป้อนให้ใช้หลังช้อนบด แต่ต้องดูด้วยว่า ลูกสามารถกินได้หรือไม่ ถ้าเคี้ยวแล้วกลืนได้ ไม่ติดคอ ไม่คายออกมา ไม่อมเอาไว้ในปากโดยไม่กลืน แสดงว่ากินได้ แต่ถ้ายังไม่ได้ให้กลับไปบดละเอียดเหมือนเดิม แต่ทำให้ข้นมากขึ้นเล็กน้อย แล้วเดือนหน้าค่อยลองป้อนใหม่

 

มื้อที่ 3 อาหารต้ม ให้เริ่มเมื่ออายุ 11-12 เดือน

เมนูอาหารไม่ต้องตุ๋น เพียงแค่ต้ม แล้วดูว่าลูกกินได้หรือไม่ เด็กหลายคนเริ่มกินข้าวสวยและข้าวเหนียวได้ตั้งแต่อายุ 1 ขวบ เริ่มปรุงรสอ่อนๆ ได้ แต่ต้องดูด้วยว่าไม่มีปัญหาท้องผูกหรือถ่ายออกมาเป็นอาหารไม่ย่อย เนื่องจากการกินอาหารที่หยาบมากข้น

 

หากลูกน้อยยังไม่ยอมรับอาหาร

การใช้นมแม่มาผสมกับอาหารอาจทำให้ยอมรับสิ่งที่ไม่ยอมกินได้ง่ายขึ้น หากลูกยอมกินนมแม่ที่สะสมอยู่แล้ว และยอมกินข้าวดีอยู่แล้ว ก็ไม่มีความจำเป็น แต่หากลูกมีปัญหาดังกล่าว วิธีเอานมแม่แช่แข็งมาใช้ประกอบอาหารคาว ให้ทำอาหารให้ข้นกว่าปกติ หลังจากที่อุ่นอาหารพร้อมจะกินแล้ว ให้ละลายนมแม่มาราดบนอาหาร จะไม่เอานมแม่ไปต้มกับอาหารตั้งแต่ต้น เพราะจะเสียคุณค่าและมีกลิ่นเหม็น

 

อาหารพร้อมเสริฟแต่ละช่วงอายุ

หลังขวบเริ่มกินปลาทะเลได้แล้ว ปลาแซลมอนนึ่ง

 

ข้าวหุงพอกินเป็นมื้อๆ หุงใส่ถ้วยสเตนเลสในหม้อนึ่ง

โตมาอีกนิด กินข้าวสวยเป็นเม็ดได้ละ

 

มื้อกลางวัน ก๋วยเตี๋ยวเส้นใหญ่ใส่กุ้งกับเต้าหู้ไข่

 

ข้าวต้มหมูสับไข่คน

 

เวลาออกนอกบ้านก็ต้องเตรียมเสบียงพร้อมเพรียง ให้ลูกทุกครั้ง

 

กระเป๋าสัมภาระใส่อาหาร แบบนี้ก็น่ารักดี ใช้งานสะดวก สะพายได้ หิ้วได้ มีช่องใส่กว้างขวาง

 

ด้านในมีเป็นฟลอยด์เก็บความร้อนความเย็นได้บ้างนิดหน่อย

 

หม้อนึ่งของ Philips รุ่นแบบนี้ไม่แนะนำเลยค่ะ ล้างตะกรันข้างในไม่ได้ดีเท่าทีควร ถ้าไม่ล้างบ่อยๆ เสียได้ง่าย เครื่องไม่ร้อน อาหารไม่สุก ต้องส่งศูนย์อย่างเดียว ทำอะไรไม่ได้

 

ตอนนี้เลยเปลี่ยนมาใช้ของ Tefal เพราะว่าสามารถล้างตะกรันได้จากข้างนอกเลย สะดวก ล้างง่าย ล้างได้บ่อยๆ สังเกตตะกรันตรงแกนกลางได้เลย ถ้าเริ่มมีเยอะก็แช่น้ำส้มสายชูไว้พักนึงก็ล้างออกได้ง่าย  รุ่น VC1016

ใช้ไปได้สักพักนึง ก็เพิ่งรู้ว่าตรงลูกบิดสีดำ มันจะเสียได้ง่ายมาก พลาสติกด้านในที่เป็นแกนเอาไว้เสียบกับแกนเหล็กจะละลายได้ง่าย ต้องซื้อเป็นอะไหล่มาเปลี่ยนอย่างเดียว ถ้าไปซื้อที่ศูนย์ tefal ตรงเพชรบุรี เค้าขายอันละ 110 บาท สั่งจากเคาน์เตอร์ในห้างเค้าคิด 2 อัน 275 บาท เรางงมาก ทำไมราคาไม่เท่ากันฟระ

โทรไปถามที่ศูนย์เค้าก็บอกว่าเสียเป็นปกติเพราะตัวเครื่องเป็นเหล็กแต่ตัวอะไหล่เป็นพลาสติก ใช้ไปนานๆ ก็มีเสียได้ (2-3 เดือนเองนะตะเอง หรือไม่ถึงด้วยอ่ะ)

*******************************************




Create Date : 22 สิงหาคม 2556
Last Update : 22 สิงหาคม 2556 14:30:00 น. 13 comments
Counter : 42321 Pageviews.

 
เป็นคุณแม่ที่เยี่ยมยอดมากค่ะ
เสียดายเพิ่งได้มาอ่าน


โดย: ผิง IP: 27.145.20.8 วันที่: 2 ตุลาคม 2557 เวลา:22:11:02 น.  

 
อยากสอบถามเร่ืองเมล็ดเเฟลกซ์คะ พอดีลุกจะเริ่มอาหารเสริมะ เมล็ดแฟล็กซ์ วิธีทานต้องทำอย่างไรคะ หุงพร้อมข้าวเเล้วค่อยปั่น หรือ ปั่น ก่อน แล้วหุง พร้อมข้าว หรือ ทานได้เรยแค่ปั่นเเล้วอาไปโรยบนข้าว

รบกวนสอบถามหน่อยนะคะ


โดย: Saruda IP: 157.7.205.214 วันที่: 4 ตุลาคม 2557 เวลา:13:34:17 น.  

 
เอาเมล็ดแฟล็กไปปั่นก่อนนะคะ หรือไม่ปั่นก็ไม่น่ามีปัญหาเพราะตอนเล็กๆ เราก็ไม่ได้ปั่นค่ะ เอาโรยใส่ข้าวแล้วหุงไปพร้อมกับข้าวปกติเลยค่ะ


โดย: Bigcrab วันที่: 9 ตุลาคม 2557 เวลา:7:49:40 น.  

 
คุนแม่สุดยอดจิงๆค่ะ ลงละเอียดมากๆ รบกวนขอถามถามเพิ่มเติมได้ไม๊คะ การเตรียมอาหารให้ลูกเวลาไปข้างนอก ไกลบ้านอะค่ะ ต้องทำไงบ้างอะค่ะ คือเอาอาหารแช่เย็นไปรึป่าว แล้วไงต่ออะคะ


โดย: Kate IP: 49.230.88.122 วันที่: 18 ตุลาคม 2557 เวลา:17:25:17 น.  

 
ส่วนใหญ่ช่วงนั้นบ้านเราจะเลี่ยงไม่เดินทางไกลนะคะ ยกเว้นไปบ้านคุณตายายที่ต่างจังหวัดก็จะโทรไปให้ที่บ้านเตรียมไว้ให้

แต่ถ้าจำเป็นจริงๆ ต้องค้างคืนนอกบ้าน ที่เราคิดไว้คือ คงทำให้สุกแล้วฟรีซเลยค่ะ แล้วใส่ถุงเก็บความเย็นแล้วก็แท่งความเย็น แล้วก็เอาไปเก็บต่อในช่องฟรีซตู้เย็น เวลาทานก็เอาไปละลายในไมโครเวฟ ประมาณนั้นมั้งคะ

แต่ถ้าเดินทางไกลไม่ค้างคืน แต่อยู่นอกบ้านไปเช้ากลับมืดคงฟรีซเหมือนเดิม แล้วไปขออุ่นในเวฟ ตามร้านอาหารที่เราแวะทานกันหน่ะคะ ทำใส่ถ้วย via ฟรีซไว้แบบพอทานแต่ละมื้อ เวลาจะทานก็เอามาอุ่นทีละถ้วยมั้งคะ


โดย: Bigcrab วันที่: 20 ตุลาคม 2557 เวลา:9:22:55 น.  

 
อยากถามว่าถั่วที่ใช้หุงพร้อมข้าวกล้องใช้ถั่วอะไรคะ


โดย: พรทิพย์ แก้วมณีค่ะ IP: 171.96.182.244 วันที่: 5 พฤศจิกายน 2557 เวลา:16:44:42 น.  

 
ตอนแรกเราจะใช้ถั่วขาวค่ะ แต่กรรมวิธีจะเยอะหน่อยคือแช่น้ำให้เปลือกถั่วนิ่ม แล้วก็แกะเปลือกแข็งๆ ออกให้หมดก่อนนำไปนึ่งกับข้าว ถั่วขาวเมล็ดจะเล็กๆ จะเสียเวลาแกะมากอยู่นะคะ


โดย: Bigcrab วันที่: 6 พฤศจิกายน 2557 เวลา:8:01:53 น.  

 
สอบถามคะ เนื้อสัตว์ที่ยังไม่สุกแช่ฟีตใช้ได้กับสัตว์ทุกชนิดเลยมั้ยคะ แล้วเก็บได้นานแค่ไหนคะ


โดย: Pim IP: 49.229.80.152 วันที่: 29 ตุลาคม 2558 เวลา:16:59:36 น.  

 
วิธีเก็บเนื้อสัตว์ที่ยังไม่สุกแช่ฟรีซเลยน่าจะใช่ได้กับเนื้อสัตว์ทุกประเภทนะคะ เพราะเห็นที่ makro มีขายเนื้อสัตว์แช่ฟรีซเยอะมากเลยค่ะ เก็บได้นานแค่ไหนนี่น่าจะขึ้นอยู่กับประเภทตู้เย็นด้วยนะคะ ตู้เย็นประตูเดียวคงเก็บได้ไม่นานมาก แต่ถ้าเป็นสองประตูแยกช่องฟรีซน่าจะเก็บได้ต่ำๆ 6 เดือนเลยค่ะ แต่อาหารสดลูกส่วนใหญ่ 2-3 อาทิตย์ก็หมดแล้วค่ะ ไม่ได้สต๊อกไว้เยอะมาก


โดย: Bigcrab วันที่: 2 พฤศจิกายน 2558 เวลา:8:07:36 น.  

 
อยากทราบว่า หุงข้าวในหม้อนึ่งไฟฟ้า ต้องหุงยังไงคะ ใส่น้ำน้อยมากยังไงคะ


โดย: OH IP: 159.192.250.252 วันที่: 28 กรกฎาคม 2559 เวลา:14:28:35 น.  

 
ปกติก็กะๆ เอาค่ะ น้ำเกิน 2 เท่าของข้าว ลองใส่กะคร่าวๆ ดูค่ะ ถ้าแฉะไปหรือแข็งไปคราวหน้าก็ลดน้ำเพิ่มน้ำเอาตามน่ะค่ะ


โดย: Bigcrab วันที่: 2 สิงหาคม 2559 เวลา:9:50:26 น.  

 
สนใจเครื่องนึ่งค่ะ


โดย: นุ้ย IP: 58.10.128.72 วันที่: 19 กันยายน 2560 เวลา:18:19:22 น.  

 
สนใจเครื่องนึ่งค่ะ


โดย: นุ้ย IP: 58.10.128.72 วันที่: 19 กันยายน 2560 เวลา:18:19:25 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Bigcrab
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 160 คน [?]




Friends' blogs
[Add Bigcrab's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.