เป็นครั้งแรกที่เราเริ่มหัดทำแป้งโดว์ให้ลูกสาว แต่กว่าจะเริ่มได้ก็นานละ จนลูกเริ่มเบื่อแป้งโดว์ละ แต่ก็ไม่เป็นไรเดี๋ยวต่อไปเค้าก็คงอยากกลับมาเล่นอีกแน่นอน สาเหตุที่เรายังไม่เริ่มหัดทำซักทีเพราะคิดถึงอุปกรณ์ที่ต้องเตรียมนี่ละคะ มันหลายอย่างอยู่นา อีกอย่าง ฝีมือการทำอาหารเราย่ำแย่มาก ถ้าจะต้องมานั่งตวงปรุงแบบนี้ท่าทางจะไม่รุ่ง

แต่จากที่เราต้องซื้อแป้งโดว์บ่อยครั้ง เราก็รู้สึกว่ามันแพงมากอยู่นา ยี่ห้อ Play doh นี่ตกกระปุกนึงก็ 50 บาทแล้ว แต่เราชอบเนื้อแป้งเค้านะ ใช้ได้เลย ถูกใจสุดๆ  ส่วนอีกยี่ห้อ Imagination Creations อะไรสักอย่าง เราว่ามันกลิ่นไม่ค่อยดี เนื้อแป้งก็ไม่ถูกใจอย่างแรงเลยค่ะ แอบหลงซื้อมาใช้เป็นยี่ห้อแรกเลย เพราะมีเพื่อนแนะนำ ใช้ครั้งแรกก็ไม่เคยกลับไปซื้อใช้อีกเลยถึงจะลดราคาแค่ไหนก็ไม่ได้แอ้มตังเราแน่นอน

จัดแป้งแล้วก็ต้องจัดอุปกรณ์การเล่น หมดตังไปเยอะ เลยต้องรีบตั้งหลักกลับมาคิดทบทวนว่าจะเริ่มหัดทำแป้งโดว์อย่างจริงจังดีมั้ย ที่สำคัญมีเพื่อนในแก๊งส์ช่วยจุดประกายค่ะว่าทำไม่ยากเลยจริงๆ นะ ณ จุดนั้นเลยเป็นแรงจูงใจให้เราเริ่มหัดทำแป้งโดว์ เป็นเรื่องเป็นราวซะที หลังจากที่ผลัดวันประกันพรุ่งมาหลายรอบ

แต่ก่อนสมัยลูกเรายังตัวเล็กๆ นี่ไม่ยอมจับแป้งโดว์เลยนะคะ ในขณะที่เพื่อนๆ ปั้นกันสนุกสนาน เธอไม่ยอมแตะเลย ตอนนั้นก็แอบเครียด แต่สุดท้ายรอจนเค้าพร้อม เค้าก็จะเล่นเองค่ะ ตอนนี้ปั้นเล่นสนุกสนาน แถมมีแอบหยิบใส่ปากชิมด้วยนะคะ

เหมือนทรายนะเราว่า แต่ก่อนลูกเราก็ไม่ยอมเดินบนทราย ไม่กล้าลงทะเล ถึงขนาดกลัวมาก ร้องเสียงดังเลย แต่เดี๋ยวนี้ค่ะ โอ้ยย ทรายเรื่องเล็กๆ วิ่งเล่นกลิ้ง ยิ่งน้ำทะเลชอบมาก เดินลงทะเลตลอด เล่นน้ำทะเลไม่กลัวอะไรเลย พ่อแม่อย่างเราไม่ต้องเครียดนะคะ ถึงเวลาเค้าพร้อมแล้วเค้าจะเริ่มเองค่ะ

ก่อนจะเริ่มทำแป้งโดว์ เราก็มาศึกษาสูตรกันก่อนนะคะว่าเราอยากจะทำแบบไหน มีสูตรให้เลือกทำหลายสูตรมากเลยบนอินเตอร์เนท เลือกสูตรที่เราชอบเลยค่ะ มันก็ไม่ได้แตกต่างกันมากเท่าไหร่

ส่วนประเภทของแป้งโดว์เท่าที่เราศึกษามา แป้งโดว์มันจะมี 3 ประเภท

1. แป้งโดว์ที่ต้องใช้ Cream of Tartar ซึ่งก็ควรจะทำบนกระทะ ประโยชน์ของครีมตัวนี้คือยืดอายุให้แป้งโดว์ใช้ได้นานขึ้นค่ะ

2. แป้งโดว์ที่ต้องใช้เกลือเป็นหลัก ซึ่งสูตรนี้ไม่ต้องใช้กระทะหรือใช้ไฟ แต่ปริมาณเกลือที่ใช้จะเยอะหน่อย เพื่อให้เกลือเป็นตัวยืดอายุการใช้งานแป้งโดว์แทน

3. แป้งโดว์ที่ต้องใช้ Baking Soda เป็นหลัก สูตรนี้ไม่ค่อยเป็นที่นิยมเท่าไหร่ เราก็ไม่ได้อ่านรายละเอียดมากค่ะ

ตัว Cream of Tartar นี่จะมีราคาค่อนข้างแพงทีเดียวค่ะ กระปุกเล็กๆ ราคาก็ไปเกือบร้อยแล้ว และแต่ละครั้งที่ใช้ก็ใช้เยอะด้วย 2 ช้อนโต๊ะ แป้บเดียวก็หมดกระปุกละ ได้ยินว่าเค้าแนะนำให้ไปซื้อตามร้านริมถนนที่ขายพวกวัสดุอุปกรณ์การทำขนมเค้กพวกนั้นค่ะ จะถูกหน่อย แต่เราก็ยังไม่เจอนะคะว่าที่ไหนขายถูก

เลือกสูตรได้แล้ว ต่อมาก็เตรียมซื้อวัสดุทำแป้งโดว์กันค่ะ

แป้งอเนกประสงค์  All Purpose Flour มีหลายยี่ห้อให้เลือกเลยค่ะ เลือกได้ตามอัธยาสัย ซื้อมาห่อเดียวก็พอนะคะ ห่อเดียวก็ทำได้เยอะมากอยู่ หมดแล้วค่อยไปซื้อทีหลังก็ได้ ด้วยความที่เราไม่รู้เลยซื้อมาซะ 4 ถุงเลยค่ะ หนักมากแบกกันไหล่ห้อยเลย นี่ทำไป 2 รอบ ยังเหลือแป้งอีกเยอะเลยค่ะ

สีผสมอาหาร ซื้อแม่สีหลัก 3-4 สีก็พอค่ะ ถ้าอยากได้สีโทนอื่นก็ค่อยเอามาผสมเองได้

Cream of Tartar ค่ะ กระปุกเล็กๆ ก็เกือบร้อยเลย

น้ำมันพืช กับกลิ่น น้ำมันพืชนี่ใช้ได้หลายประเภทนะคะ น้ำมันที่ใช้ในครัวเรือนนี่ละคะ หาได้ง่ายๆ แต่เราเลือกใช้น้ำมันมะพร้าวเพราะมีคนบอกว่ามันจะนุ่มมือ แป้งโดว์จะ soft มากกว่า ตอนเดินหาซื้อน้ำมันมะพร้าวนี่ตอนแรก็คิดว่าคงไม่แพงมาก แต่เดินๆ ดูแล้ว อยากบอกว่ามันแพงมากจริงๆ ค่ะ ขวดเล็กๆ ก็หลายร้อยแล้ว เฮ้อออ เทียบกับน้ำมันพืชที่ใช้ทำอาหาร ราคาต่างกันอยู่นะคะ ด้วยความที่อยากลอง เลยตัดสินใจเอาน้ำมันมะพร้าวมาลองทำดู แล้วก็ซื้อกลิ่นส้มมาลองใส่ดูสักหน่อย

เลือกได้ละ แป้งอเนกประสงค์กับสีทำอาหาร ซื้อมา 4 ถุงเลย เค้าเขียนไว้หน้าถุงว่า "เนื้อแป้งเบาพิเศษ" แต่ขอบอกว่ามันหนักมากจริงๆ ค่ะ ยิ่ง 4 ถุงรวมกันหิ้วจนแขนลู่เลย ไม่เห็นเบาอย่างที่โฆษณาเลย จะฟ้อง สคบ ดีมั้ยเนี่ย

อุปกรณ์ครบแล้วค่ะ อ่อ มีเกลือป่นอีกอย่างด้วยนะคะ ซื้อถุงใหญ่เลย เพราะต้องใช้เยอะเหมือนกัน

อุปกรณ์พร้อม คนพร้อม ก็เริ่มลงมือทำเลยค่ะ ทำครั้งแรกเราแอบทำคนเดียวตอนลูกหลับ เพราะยังตื่นเต้นๆ อยู่เลย กลัวทำอะไรพลาดไป

ทำครั้งแรกเราใช้สูตรผสม Cream of Tartar ด้วย แต่ No cooking ค่ะ ใช้น้ำร้อนแทน ทำทุกอย่างตามสูตรเป๊ะ แต่พลาดตรงที่เราลืมใส่ใจตรงที่ว่า อะไรต้องใส่อะไรตามลำดับก่อนหลัง ตรงนี้เราว่าเหมือนเป็น trick เลยนะคะ ว่าควรจะต้องใส่ใจเลย อะไรก่อนหลัง ตามลำดับ สำคัญมาก

ผลที่ออกมา เนื้อแป้งจะออกกระด้างหน่อย เหมือนไม่นิ่มๆ เนื้อแป้งไม่เหนียวเหมือนแป้งโดที่ซื้อ เวลาจับให้ความรู้สึกเหมือนมีเม็ดเกลือเล็กๆ ยังไม่ละลายอยู่ในแป้งด้วยบ้างเล็กน้อย ก็พยายามนวดๆ ไปเรื่อย จนแป้งจับตัว แล้วก็ใส่ถุงเก็บเข้าตู้เย็นไว้

เสร็จเรียบร้อยค่ะ สูตรนี้ก็ยังไม่ถูกใจคุณแม่เรื่องเยอะอย่างเราเท่าไหร่ เนื้อแป้งโดว์ที่ได้มันกระด้างไป ไม่นุ่มหยุ่นมือเหมือนของ Play doh

แต่ก็ไม่เป็นไร ลองทำสูตรเดิมอีกรอบแต่ปรับเปลี่ยนลำดับการใส่ อีกสักรอบ รอบนี้พาลูกมาช่วยทำด้วยค่ะ ให้เค้ามีส่วนรวมช่วยตักแป้ง เติมแป้ง ใส่น้ำ แต่เธอไม่ยอมช่วยนวดค่ะ เดินหนีเฉยเลย

รอบนี้ลองทำสีเขียวดูค่ะ สูตรเดิมๆ no cooking แต่ใช้น้ำร้อนแทน

เพิ่มน้ำมันมากขึ้น ใส่เกลือผสมลงในน้ำร้อน ให้เม็ดเกลือละลายก่อน ผลที่ได้ก็ใกล้เคียงกัน แต่เนื้อแป้งจะนุ่มมือขึ้นหน่อยค่ะ

เนื้อแป้งที่ทำเสร็จแล้วสองสี ผลที่ได้ก็ไม่ได้แตกต่างกันมากนัก เนื้อแป้งไม่ค่อยเหมือนกับแป้ง Play doh มากเท่าไหร่ ไม่ค่อย perfect อย่างที่ใจอยากได้  อีกอย่างคือวางแป้งนี้ทิ้งไว้ไม่นาน เนื้อแป้งจะแข็งแตกเร็วมาก ลูกไม่เล่นเลยค่ะ

ไม่เล่นก็ไม่เป็นไร ใส่กระปุกเก็บไว้ดูเล่นก่อนก็แล้วกัน จะทิ้งก็เสียดาย

นั่งเล่นนอนเล่น อยู่พักนึกเห็นน้องมาแนะนำว่าเค้าทำแบบ Cook แล้วเนื้อเหมือนแป้งโดว์ที่ขายมาก เราเด้งจากที่นอนเลย รีบเตรียมอุปกรณ์ลงไปข้างล่าง เปิดเตาแก๊สตั้งกระทะทำแป้งโดว์เลยค่ะ

ตวงแป้ง น้ำมัน เกลือ cream of tartar สี พร้อม ตามสูตรที่หาไว้เป๊ะ

ผสมทุกอย่างใส่ลงไปตามลำดับ ที่เห็นก็จะดูแป้งเหลวมาก ไม่ต้องตกใจนะคะ กวนให้เข้ากันไปเรื่อยๆ เปิดไฟเบาๆ

จากรูปนี่สีจะแดงมาก เป็นเพราะเราเททั้งขวด แล้วเผลอหลุดมือไป ใส่ไปเยอะเลยค่ะ คราวหน้าต้องตวงใส่ช้อนชา ค่อยๆ ใส่ทีละนิดจะดีกว่า

ค่อยๆ กวนไปมันจะเหนียวขึ้น ดูให้ได้ที่ค่อยยกลง แล้วกวนต่อไปอีกสักพัก พอเริ่มเย็นก็เอามือนวด ถ้ายังรู้สึกติดมือก็โรยแป้งเพิ่มไปทีละนิด

เสร็จแล้ว ยังไม่หายสนุก ทำอีกสักกระทะดีกว่า อิอิ

พอเข้าที่แป้งก็จะเป็นก้อนๆ ไม่ติดมือ พอเย็นลงแป้งจะเหนียวขึ้นอีกเล็กน้อยนะคะ

กวนไป 2 กระทะ ใช้เวลาไม่เยอะเลยค่ะ แป้บเดียวก็เสร็จแล้ว เนื้อแป้งที่ได้เหนียว นิ่ม ยืดหยุ่น ถูกใจเรามากเลยค่ะ

สรุปว่าทำแป้งโดว์แบบ Cook จะให้ผลออกมาดีกว่า แบบที่ No cook มากเลยค่ะ ยอมเสียเวลาสักนิด ทำแป้งโดว์ที่มีคุณภาพ น่าเล่น ให้ลูกดีกว่า

เสร็จแล้ว ก็ปั้นเป็นก้อนขนาดพอดี เหมือนที่ Play doh ทำใส่กล่องไว้ ใส่ตู้เย็นไว้ ถึงเวลาก็หยิบออกมาเล่นได้

Note: 

จากที่ทำมาแล้วเรามานั่งคิดๆ ดู เราไม่น่าจะต้องรีบใส่สีตอนที่ผสมกัน เพื่อที่จะลงกวนในกระทะ พอเรากวนจนเหนียว เอาออกมานอกกระทะ ถึงตอนนวดแป้ง แล้วเราค่อยเติมสีทีละนิด น่าจะดีกว่า เพราะตอนนั้นเราสามารถ แบ่งแป้งใน 1 กระทะออกมาเป็น 4 ก้อน แล้วแต่ละก้อนก็ค่อยๆ ใส่สีคนละสีกัน เราก็จะได้แป้งโดว์หลายสีในปริมาณที่พอเหมาะไม่มากเกินไปแบบนี้

อุปกรณ์แป้งโดว์ที่ซื้อมาให้ลูกเล่น เล่นสนุกเลยค่ะ ยิ่งมีหลายชิ้นยิ่งสนุก 3 กล่องนี้เราซื้อจากเอเซียบุคส์เพราะต้องการสะสมยอดซื้อ แต่จริงๆ ก็มีขายทั่วไปในห้าง ใน toyrus ค่ะ ยี่ห้อของ Playdoh นี่ไม่ต้องรอลดราคานะคะ เพราะแทบไม่เคยลดราคาให้เห็นเลยค่ะ น๊าน นานที เป็นรุ่นเก่าๆ ถึงจะมีลดบ้าง

นอกจากชุดนี้ก็ยังมี Playdoh Refrigerator ชุดสัตว์ทะเล ชุดกรรไกร ที่ซื้อมาเพิ่ม เล่นกันสนุกเลยค่ะ ชุดพวกนี้ก็ซื้อครั้งเดียวใช้ได้จนโตเลย คุ้มค่าที่จะเสียเงินมากค่ะ ส่วนแป้งโดว์ หัดทำเองที่บ้านจะดีกว่ามากๆ ค่ะ

วันก่อนเห็นใน Amazon มีลดราคารุ่นที่อยากได้ เลยรีบกดสั่งรุ่นนี้มาเลยค่ะ ในห้างขายอยู่ประมาณ 1500 บาท เราสั่งเองค่ากล่องนี้ตก 570 บาท และค่า shipping อีกประมาณ 170 บาท เบ็ดเสร็จแล้วก็ยังถูกกว่าเมืองไทยมากอยู่

เราว่ามันเป็นของเล่นที่คุ้มค่าเงิน ให้คุณประโยชน์มากในแง่ของการพัฒนากล้ามเนื้อมัดเล็ก ส่งเสริมจินตนาการได้เป็นอย่างดีเยี่ยม ที่สำคัญเป็นของเล่นที่ลูกสามารถนั่งเล่นคนเดียวได้นานๆ เป็นชั่วโมงเลยค่ะ อิอิ

Create Date : 04 มิถุนายน 2557
Last Update : 4 มิถุนายน 2557 14:52:48 น.		2 comments
Counter : 10841 Pageviews.
Share Tweet