เมษายน 2566

 
 
 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
8
9
10
11
12
13
14
16
17
18
20
21
22
24
26
27
28
29
30
 
 
23 เมษายน 2566
All Blog
ทวิภพ (2547)


''เวลาก็เหมือนสายน้ำ ชั่วพริบตา มันก็ไหลผ่านเราไปและกลายเป็นอดีต สายน้ำที่กำลังมามันก็ยังเป็นอนาคต ดังนั้นเราควรอยู่กับปัจจุบันมากกว่า''

การเลือกดูหนังสักเรื่อง

''ช่วงเวลา'' ของตอนที่ดู มันส่งผลต่อความรู้สึกถึงหนังเรื่องนั้นๆ มากเลยนะ

อย่างเรื่อง ''ทวิภพ'' ที่สร้างจากหนังสือนิยายของนักเขียนปลายปากกา ''ทมยันตี'' ก็เป็นอีกตัวอย่างที่ดี

ถ้าเราดูหนังเรื่องมีช่วงที่หนังเข้าฉายใหม่ๆ ในปี 47 ,เราดูหนังเรื่องนี้ในปี 57 หรือเราดูหนังเรื่องนี้ในปี 66 ความรู้สึกจะไม่เหมือนกันแน่นอน

ในช่วงเวลาของความคิด สังคม และการเมืองค่อยๆ เปลี่ยนไป

ความรู้สึกก็เปลี่ยนไปตาม...

''ความรู้สึกในการเขียนถึงหนังเรื่องนี้ในตอนนี้มันหมิ่นเหม่จริงๆ''

ไม่ใช่ว่าเรารักชาติน้อยลง ไม่ใช่ว่าเรารักความเป็นไทยน้อยลง ไม่ใช่ว่าเรานิยมความเป็นตะวันตกมากขึ้น แต่บางอย่างมันก็มีช่วงเวลาของมัน

ความสวยงามของตัวหนังยังคงเหมือนเดิม หนังเล่าเรื่องได้ปราณีต เเทรกประวัติศาสตร์ แฝงแง่คิดได้อย่างลงตัว

เป็นหนังที่ดีแล้วรู้สึกถึงคุณภาพ ความใส่ใจของนักแสดงและทีมงาน

แต่อย่างว่านั่นคืออดีต เป็นสายน้ำที่ผ่านไปแล้ว สิ่งที่ผ่านมา บรรพบุรุษของเรา คนไทยเราทำไว้ดีมากๆแล้ว ดีจนเราไม่อยากย้อนไปแก้ไขอะไรอีกแล้ว

ไม่ว่ายังไงนั่นก็คืออดีต เราอยู่ตรงสายน้ำแห่งปัจจุบัน

และก็ยังมีสายน้ำที่กำลังจะไหลเข้ามานั่นคืออนาคต เราไม่มีทางรู้ว่าสายน้ำในอนาคตที่ไหลเข้ามาจะเป็นยังไง มันเป็นสิ่งที่คนรุ่นหลังต้องพบเจอ และรับมือกับสายน้ำนั้นต่อไปด้วยตัวเอง

-----------------------

''อย่างน้อยก็ยังมีสยามในตอนนั้น แล้วสยามต้องขึ้นกับใครไหม ในเวลานั้นน่ะ''

''ก็เป็นเอกราชมาตลอดเจ้าค่ะ แต่ก็เสียดินแดนบ้าง เราเปลี่ยนชื่อจากสยาม มาเป็นประเทศไทย''

''ไหนลองเล่าซิ บ้านเมืองตอนนั้นเป็นอย่างไร''

''บ้านเมืองเจริญมาก มีตึกสูงมากมาย ทุกอย่างเปลี่ยนไปหมด มีรถยนต์ ไฟฟ้า มีโรงหนัง เราแต่งตัวแบบตะวันตก นับถือฝรั่งมากกว่าพวกเดียวกัน เรามีทุกอย่างที่ตะวันตกมี เราเป็นทุกอย่างที่ตะวันตกเป็น เรากินทุกอย่างที่ตะวันตกกิน เราชอบทุกอย่างที่ตะวันตกบอกให้ชอบ เราอยากเป็นเขา และปฏิเสธที่จะเป็นเรา''

''ไหนว่าเราไม่ได้เป็นเมืองขึ้น แล้วเรายังมีพระเจ้าแผ่นดินไหม''

''นี่คือสิ่งเดียวที่ทำให้เรารู้สึกว่าเรายังเป็นเราอยู่''

''แล้วใครเป็นพระกลาโหมวะ ถึงปล่อยให้บ้านเมืองเป็นอย่างงั้น''

''เราเรียกนายกรัฐมนตรี เราเปลี่ยนแปลงการปกครอง''

''เปลี่ยนแปลงการปกครอง.... เปลี่ยนเป็นอะไร''

''เราเรียกว่าประชาธิปไตยเจ้าค่ะ''

''ประชาธิปไตย.. เอาเข้าไป แล้วเรานับถือใคร อังกฤษหรือฝรั่งเศส''

''เรานับถือไปหมด นอกจากตัวเรา อมเริกาเป็นชาติที่ยิ่งใหญ่ที่สุด เด็กๆของเราก็นับถือญี่ปุ่นด้วย''

''อเมริกา เมืองใหม่เนี่ยเหรอ แล้วญี่ปุ่นอีก''

-----------------

ถ้าเราไม่โยงถึงการเมือง บทสนทนาข้างบนก็ยังเป็นอีกบทสนทนา ที่ยังคงทรงพลังเสมอนะ

สรุป หนังเรื่องนี้ยังคงสวยงามเหมือนเดิม ถ้าดูเป็นหนังเรื่องหนึ่งก็ยังเป็นหนังที่ดีเสมอ เพียงแต่คนเราเมื่อดูหนัง มันต้องอาศัยประสบการณ์ที่เราเจอในชีวิตจริงมาผสานกับความรู้สึกเข้าไปด้วย เราถึงจะเสพหนังเรื่องหนึ่งได้จริงๆ นั่นทำให้ความรู้สึกที่เมื่อเราดูหนังเรื่องหนึ่งแล้ว เราจะรู้สึกถึงหนังเรื่องนั้นไม่เหมือนกัน เพราะสิ่งที่เราเจอมามันไม่เหมือนกัน และความคิดของคนเราทุกคนก็ไม่เหมือนกัน

อย่าว่าแต่ความคิดเรากับคนอื่นเลยครับ เอาแค่ความคิดของตัวเรา กับตัวเราในอีกเวลาหนึ่งก็ไม่เหมือนกันแล้ว

เหมือน ''สายน้ำ'' ที่มันไหลไปเจอสิ่งใหม่ๆเสมอ

คะแนนความชอบส่วนตัว 7/10

 



Create Date : 23 เมษายน 2566
Last Update : 23 เมษายน 2566 21:42:03 น.
Counter : 496 Pageviews.

1 comments

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณhaiku, คุณสองแผ่นดิน, คุณnewyorknurse, คุณหอมกร

  
เวอร์ชั่นนี้ภาพสวยดีจ้า

โดย: หอมกร วันที่: 24 เมษายน 2566 เวลา:7:44:58 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ไมเคิล คอร์เลโอเน
Location :
กำแพงเพชร  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]



สวัสดีชาวบล็อคทุกคนนะครับ

''ชีวิตก็เหมือนกับกล่องช็อตโกแล็ต เราไม่รู้ว่าเปิดจะเจออะไร''