เมษายน 2561

1
2
3
4
5
7
8
9
10
11
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
 
 
All Blog
Ready Player One (2018) สงครามเกมคนอัจฉริยะ






''สปีลเบิร์กยังไงก็คือสปีลเบิร์ก''

ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่าส่วนเป็นแฟนหนังของ ''สตีเว่น สปีลเบิร์ก'' ตัวยง คือตามดูหนังของแกมาโดยตลอด บางเรื่องดูเป็นสิบรอบ บางเรื่องดูแค่รอบสองรอบ แต่ก็ยังแทบจะไม่พลาดสักเรื่อง (จะมีก็แค่ The Sugarland Express ,Twilight Zone: The Movie กับพวกหนังเล็กๆเก่าๆยุคแรกเริ่มของแกที่หาดูไม่ได้จริงๆ) ที่พลาดไป ขนาด The BFG ยังอุตส่าห์ไปดูในโรงเลยครับ 555+

ส่วนใหญ่ผลงานของแกจะออกมาไม่ค่อยผิดหวังครับ โดยเฉพาะยุค 80 - 90 นี่เรียกว่าเป็นยุคทองของแกเลยล่ะครับ จะมาดร็อปๆลงก็ช่วงขึ้นปี 2000 นั่นล่ะครับ แต่ขนาดที่ว่าดร็อปๆก็ยังมีหนังน่าจดจำตั้งหลายเรื่อง เรียกว่ามาตรฐานสูงเลยครับ

Ready Player One เป็นหนังที่สร้างมาจากวรรณกรรมชื่อดัง ซึ่งส่วนตัวไม่เคยอ่านมาก่อนครับ แต่เมื่อมีข่าวว่าสปีลเบิร์กจะมากำกับ ก็ตั้งตารอตัวอย่างครับ และตอนตัวอย่างปล่อยบอกมา ก็ตั้งตารอวันเข้าโรง พอหนังเข้าโรง ก็ต้องหาเวลาว่างไปดู(ให้ได้) และในที่สุดก็มีโอกาสได้ดู ก็ขอมาเล่าสู่กันฟังล่ะครับ

หนังเรื่องนี้เป็นเรื่องของยุคอนาคตที่คนส่วนใหญ่จะใช้เวลากับ ''เกม'' ผ่านแว่น VR ในโลก ''Oasis'' และวันหนึ่ง James Halliday นักพัฒนา Oasis ได้เสียชีวิตลง ก่อนเสียชีวิตเขาได้ประกาศว่า เขาได้ทิ้ง Easter Egg เพื่อพานักเล่นเกมไปหา ''กุญแจ 3 ดอก'' และถ้าใครได้กุญแจครบ 3 ดอก เป็นคนแรกก็จะได้ครอบครองทั้ง ''Oasis'' ทำให้เหล่านักเล่นเกมต่างออกล่า ''กุญแจ'' กันอลม่านเลยครับ

ต้องขอบอกว่าถ้าดูจากตัวอย่างและเรื่องย่อ หลายคนคงจะคิดว่าหนังเรื่องนี้ต้องซับซ่อนดูยากแน่เลย ผมขอตอบก่อนนะครับว่า ไม่ยากเลยครับ ออกจะดูง่ายด้วยซ้ำ และหนังก็เดินเรื่องกระชับเร็วด้วยครับ คือมาถึงก็เข้าเรื่องเลย ไม่ต้องให้ผู้ชมรอนาน หนังได้ใส่ตัวละครจากเกม หนัง การ์ตูน อะไรต่างๆจากเรื่องอื่นๆมามากมาย แบบว่าจุใจเลยครับ ไม่คิดว่าหนังเรื่องนึงจะใส่มาได้เยอะขนาดนี้ และแต่ละตัวก็ต่างมีซีนโชว์ให้เหล่าบรรดาเหล่าติ่ง แฟนคลับ ได้กรี๊ดประทับใจกันเลยทีเดียว

และนั่นยังไม่พอครับ ใส่แค่ตัวละครยังไม่พอ ยังมีการยกฉากจากหนังสยองขวัญชื่อดังมาใส่อีกด้วย (เรื่องอะไรไม่บอก ใครเคยดูเรื่องนี้น่าจะฟิน) และก็เล่นทำซะเหมือนเลย ทั้งพรม ห้องโถง ดนตรีเล่นยกมาหมดเลย ทำเอาติ่งหนังเรื่องนี้(ตัวผมเอง) ฟินจนไม่รู้ว่าจะฟินยังไงแล้ว เอาใจไปเลยครับ

คือหนังสปีลเบิร์กอ่ะนะ ถ้าถามว่าเรื่องนี้สนุกมั้ย? ก็สนุกแหละครับ สนุกมากๆด้วย ส่วนตัวผมเป็นติ่งสปีลเบิร์กอยู่แล้วจะว่าอวยก็อวยแหละครับ อันนี้ยอมรับ

แต่ถ้ามาว่ากันตรงๆจริงๆ หนังมันก็ไม่ได้ดีโดดเด่นกว่าคำว่า ''หนังบล็อกบัสเตอร์'' เรื่องอื่นๆเลยนะครับ หนังสนุกแต่ยังไม่ขึ้นหิ้ง ส่วนตัวผมว่าหนังเรื่องนี้ยังขาดความเป็นตัวเองไปหน่อยครับ คือ ตัวละครหลักในเรื่องยังไม่น่าจดจำเท่าไร ยังไม่สามารถทำให้คนดูหลงรักตัวละครได้ เหมือนที่เราหลงรัก อินเดียน่า โจน มนุษย์ต่างดาวอีที หรือ เจ้าที-เร็กซ์ ในจูแรสสิก พาร์ค นั่นล่ะครับคือสิ่งที่หนังเรื่องนี้ขาด

ผมดูหนังจบ ผมออกมาจากโรงภาพยนตร์ ผมจำได้แต่ กันดั้ม,ไอออน ไจแอน,หุ่นเมกะ ก็อซซิลล่า แต่ผมจำชื่อตัวละครหลักไม่ได้ (อันนี้ความเห็นส่วนตัวนะ)

และการแก้ไขปริศนาหากุญแจแต่ละอันมันดูง่ายเกินไปหน่อย ไม่ชวนให้ลุ้น หรือดีใจเมื่อได้มันมาเท่าที่ควร

ผมว่าสองข้อนี้เป็นข้อเสียใหญ่ๆของหนังเลยนะครับ ส่วนที่เหลือผมว่าหนังทำได้ดีเลยนะ

โดยเฉพาะข้อคิดจากหนังเรื่องนี้ครับ เหมือนหนังกำลังบอกเราว่าในโลกของเราทุกวันนี้เราใช้ชีวิตอยู่กับ ''หน้าจอ'' มากกว่า ''ความเป็นจริง'' เราสนิทกันคนในจอมากกว่าคนข้างกายในโลกความจริงด้วยซ้ำ และอนาคตมันก็น่าจะยังคงเป็นแบบนี้ ถ้าเราไม่เปลี่ยนอะไรสักอย่างครับ

สรุปคือโดยรวมๆ หนังสนุกเลยล่ะครับ ยิ่งถ้าใครชอบดูหนัง เล่นเกมแล้วล่ะก็เรื่องนี้ผมแนะนำอย่าพลาดเลยครับ

ดูหนังจบแล้วผมแอบคิดเหมือนกันนะว่า ถ้าโลกเรามีเกมแบบนี้จริงๆ เราอวาตารตัวเราเข้าไปอยู่ในเกมเหมือนหนังได้จะเป็นยังไงหนอ อย่างแรกก็คือเกมนี้น่าจะโครตมันส์ อย่างหลังคืออย่างว่าล่ะครับแค่ทุกวันนี้เรายังลืมความเป็นจริงขนาดนี้แล้ว ถ้ามี Oasis จริงๆ คงวุ่นวายล่ะครับ

คะแนนความชอบส่วนตัว 8/10





Create Date : 06 เมษายน 2561
Last Update : 6 เมษายน 2561 16:19:09 น.
Counter : 1247 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ไมเคิล คอร์เลโอเน
Location :
กำแพงเพชร  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]



สวัสดีชาวบล็อคทุกคนนะครับ

''ชีวิตก็เหมือนกับกล่องช็อตโกแล็ต เราไม่รู้ว่าเปิดจะเจออะไร''