Analog Squad (2023) ทีมรักนักหลอก
''คุยกับครอบครัวน่ะ ยากที่สุดเเล้ว''
เรื่องมันเริ่มที่ 'ปอนด์' หนุ่มใหญ่วัยกลางคน ที่กำลังจะกลับไปเยี่ยมพ่อที่ป่วยหนักใส่สายออกซิเจน แม่ของปอนด์จึงติดต่อให้กลับมาดูใจครั้งสุดท้าย
แต่ 'ปอนด์' ไม่ได้ติดต่อกับพ่อแม่นานมากแล้ว และไม่อยากให้แม่เห็นว่าชีวิตของปอนด์ล้มเหลว จึงร่วมมือกับ 'ลิลลี่' อดีตแฟนเก่า ไปจ้างอีกสองคน มาเป็นครอบครัวปลอมๆ เพื่อไปเยี่ยมพ่อเป็นครั้งสุดท้าย แต่เรื่องราวกลับเลยเถิด เมื่อพ่อของปลอดรอดชีวิตได้อย่างปาฏิหาริย์ และทุกคนที่เหลือเริ่มจะรู้สึกผูกพันกันจริงๆ จนไม่กล้าบอกความจริงออกไป....
''จ้างมาเป็นครอบครัวปลอม อย่าอินได้เปล่า''
คือซีรีส์เรื่องนี้มีจุดเเข็งคือการดึงเอาเสน่ห์ของยุค Y2K (1999-2000) มาใช้ได้ดีมากๆ คือเห็นภาพในยุคสมัยนั้นเลย ซึ่งยุค Y2K เป็นยุคที่หนังหลายๆ เริ่มหยิบมาเล่นบ่อยๆ ในยุคหลังๆ (ก่อนหน้านั้นก็ยุค 90) ซึ่งเรื่องก่อนๆ เรายังรู้สึกว่าเหมือนดึงความเป็นยุคนั้นมาใช้ได้ไม่เต็มที่เท่าไหร่ คือยังพาเราไปอยู่ในยุคนั้นไม่ได้
แต่เรื่องนี้คือ ''ใช่เลยว่ะ'' เพราะตัวซีรีส์จะย้ำกับเหตุการณ์ที่ใกล้จะปีใหม่ 2000 ผู้คนยังวันสิ้นโลก ตัวละครในเรื่องก็ทำงานเกี่ยวกับสิ่งต่างๆ ที่มีในยุคนั้นอยู่เลย ทั้งร้านเช่าวิดิโอ, ร้านถ่ายรูป และก็คอลเซ็นเตอร์เพจเจอร์
อีกสิ่งที่ผมชอบซีรีส์เรื่องนี้มากๆ ก็คือ ประเด็นต่างๆ ที่ตัวละครทุกตัวต้องมีปมปัญหาของตัวเองทั้งสิ้น และ ''ปม'' ในเรื่องนี้ส่วนมากก็จะเริ่มต้น ที่การไม่พูดความจริง การไม่คุยกันตรงๆ การโกหกเพราะคิดว่าคนที่เรารักจะสบายใจ
ซึ่งหลายๆ คนก็น่าจะเคยคิดแบบนั้นนะ การไม่พูดความจริง การโกหกเพื่อให้คนที่เรารักสบายใจน่ะ มันเป็นสิ่งที่ทำได้นะ แต่ผลลัพธ์เมื่อเขารู้ความจริงเข้ามันก็น่ากลัวจริงๆ นะ
ถ้าการไม่โกหกแต่เเรก แม้มันจะเจ็บปวดนะตอนนั้น แต่ความเจ็บปวดนั้นมันน่าจะน้อยก็มารู้ความจริงในภายหลังนะ
ดังเช่นหลายๆ ตัวละครในเรื่องนี้ล้วนเจ็บปวดกับเรื่องเหล่านี้ทั้งสิ้น
เป็นซีรีส์ที่ผมชอบมากๆ ตอนแรกกะเปิดดูเเค่ผ่านๆ เนื่องจากกระแสเรง ถ้าไม่โดนก็แค่ปิด แต่พอดูตอนแรกมันเหมือนดึงเราให้ไปเอาใจช่วยครอบครัวๆ นี้จริงๆ
''ทำไมเราต้องเสียใจขนาดนี้ด้วยวะ''
''ความผูกพันมันไม่มีจริงไม่มีปลอมหรอก รู้สึกก็คือรู้สึก''
คะแนนความชอบส่วนตัว 9/10 
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [
จุดแข็งคือบททำให้ประสบความสำเร็จ