The Mitchells vs. the Machines (2021) บ้านมิตเชลล์ปะทะจักรกล
''เรื่องครอบครัวมันไม่ใช่เรื่องง่าย แต่มันคุ้มค่ามากที่ฝ่าฟัน อาจจะเป็นสิ่งเดียวที่คุ้มค่าเลยด้วย''
เคยเห็นในกลุ่ม Netflix คุยกันเรื่องการ์ตูนจาก Netflix ที่พลาดไม่ได้ และเห็นหลายคนยกเรื่องนี้ขึ้นมาแนะนำ ประมาณว่า
''ห้ามพลาดเลยนะครบรสจริงๆ''
ส่วนตัวก่อนดูเรื่องนี้ไม่ค่อยชอบการ์ตูนที่มีงานภาพแบบเรื่องนี้อยู่แล้ว (งานแอนิเมชั่นจะไปโดนกับฝั่ง Disney, Pixar หรือกระทั่ง DreamWorks มากกว่า)
เรื่องนี้จึงเป็น List ที่แค่เป็น List ในกระดาษจริงๆ
จนมีคอหนังที่คุยกันประจำท่านหนึ่งแนะนำมาว่า
''ดูให้ได้นะ''
ผมเลยลองเปิดใจหาเวลามานั่งดูเรื่องนี้สักรอบ แล้วคือว่าโดนแต่ซีนแรกๆ เลยครับ
ด้วยความที่เรื่องนี้ Set เนื้อเรื่องเป็น ''เรื่องราวของครอบครัวที่เริ่มจะห่างกัน''
ฝั่งลูกก็เริ่มจะโตขึ้น กำลังจะเข้ามหาวิทยาลัย มีสังคมใหม่ เป็นเพื่อนที่เหมือนจะชอบอะไรเหมือนๆกัน
ส่วนฝั่งพ่อก็จะยึดติดอยู่กับการมองลูกเป็นเด็กเสมอ
บางอย่างที่เคยเล่นกับลูกตอนเด็ก ตอนนั้นลูกอาจจะชอบ แต่พอลูกโตขึ้นมา ก็อาจเล่นแบบนั้นกับลูกไม่ได้เเล้ว
เหมือนว่าโลกของ ''พ่อ'' กับ ''ลูก'' ค่อยๆ โคจรแยกออกจากกัน เชื่อว่าเป็นสิ่งที่เคยเกิดขึ้นกับหลายครอบครัว
ทุกอย่างเหมือนว่าจะเหมือนเดิม แต่เมื่อกาลเวลาผ่านไป มันย่อมไม่เหมือนเดิม
วันหนึ่งไม่ว่ายังไงก็ต้องแยกกันไปใช้ชีวิตตามทางของตนเอง แต่ด้วยสายใยของครอบครัว ความรักนั้นจะยังเหมือนเดิมเสมอ เพียงแค่ต้องเปลี่ยนวิธีแสดงออก
มีหลายๆ ซีนเลยนะ ที่เเอบน้ำตาไหลไม่รู้ตัว ทั้งๆที่หนังยังไม่ตั้งใจบิ๊วอะไรเลย
อย่างเช่นเพลง Live Your Life - T.I. feat. Rihanna ที่ใช้เป็นตัวแทนเรื่องราวความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นของพ่อลูกคู่นี้ในอดีต คือพอได้ยินเพลงนี้แล้วส่วนตัวก็แอบนึกถึงตอนวัยรุ่นๆเหมือนกัน ตอนนั้นเพลงนี้ดังมาก ไปไหนก็ได้ยิน
ทำให้ทุกครั้งที่เพลงนี้ดังขึ้นในหนัง ความทรงจำเก่าๆ ก็ไหลย้อนเข้ามา มันมหัศจรรย์จริงๆนะ
แล้วนอกจากประเด็นครอบครัวโดยเฉพาะพ่อลูกแล้ว หนังยังใส่เรื่องราวของเทคโนโลยีปัจจุบันเข้ามาด้วย เราต้องปรับตัวให้เข้ากับเทคโนโลยี ถ้าน้อยไปก็จะเป็นเหมือนตัวละครพ่อที่ปรับตัวไม่ทันโลก ถ้ามากไปเทคโนโลยีก็จะย้อนกลับมาทำร้ายเรา
ทำให้เราต้องสร้างสมดุลดีๆ ใช้เทคโนโลยีให้ทันยุคสมัย ในขณะเดียวกันก็เงยหน้ามาดูโลกบ้าง นั่นล่ะครับที่เรื่องนี้จะสื่อ
ยังมีตัวละครแม่กับน้องที่มาคอยเป็นกาวใจให้พ่อกับพี่สาว ซึ่งเรื่องนี้ถือว่าเฉลี่ยบทกันดี
นี่ยังไม่นับรวมความเป็นแอ็คชั่นของตัวเรื่อง คอมเมดี้ที่ทำได้ดี แบบว่าดีมากๆ และยังมีซีนจิกกัดพร้อมคารวะหนังหลายๆ เรื่องอีกด้วย
เป็นอีกเรื่องที่ดีเกินคาดครับ ไม่อยากให้พลาดกันเลย
คะแนนความชอบส่วนตัว 8/10
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [