|
Something sweet.(10)...เรื่องหลังงานวัด
เทียนจุดเวียนพระพุทธา ตัวข้าบุษบาขออธิษฐาน เทียนที่เวียนนมัสการ บันดาลให้หทัยสมปรารถนา ดลจิตอิเหนา ให้เขามารักข้า ขอองค์พระปฏิมาเมตตาช่วยคิดอุ้มชู ขอเทียนที่เวียนวนดลฤทัยสิงสู่ ให้องค์ระเด่นเอ็นดูอย่าได้รู้คลายคลอน
อ้า องค์พระพุทธา ตัวข้าบุษบาขอกราบวิงวอน ข้าสวดมนต์ขอพระพรวิงวอนให้ หทัยระเด่นปรานี รักอย่าเคลือบแฝง ดังแสงเทียนริบหรี่ ขอองค์ระเด่นมนตรี โปรดมีจิตนึกเมตตา ขอเทียนที่เสี่ยงทาย ดลให้คนรักข้า รักเพียงแต่บุษบา ดั่งข้านี้ตั้งใจ
ใจของระเด่นมนตรีเมื่อกลับมาในโบสถ์นั้นราวกับได้ยินเสียงเพลงแว่วลอยตามลมมา หญิงสาวนั่งพับเพียบอยู่ตรงหน้าพระประธานในโบสถ์ มือเรียวยาวขาวสะอาดกระพุ่มดอกไม้ธูปเทียนไว้ที่อก ดวงตาหลับพริ้ม ขนตาอันงอนงามทอดยาวเป็นแพ บุษบากำลังตั้งจิตอธิษฐานให้เรื่องร้ายๆที่เกิดขึ้นกับหล่อนหายไป ก่อนที่จะวางดอกไม้บนถาด ปักธูปเทียนลงบนกระถาง ผมดำยาวระยับเลื่อมแสงไฟยามขยับกาย
“ ที่ในงานเป็นยังไงบ้างคะ หน้าเวทีน่ะ “ เสียงหวานใสปลุกเขาขึ้นจากภวังค์ ชายหนุ่มสูดลมหายใจเรียกสติเบาๆ “ วุ่นวายนิดหน่อย แต่ทางตำรวจเคลียร์ได้ “ เขาโทษว่าเป็นความผิดปรกติของจิตใจที่มองเห็นคนตรงหน้านี้ดูผิดแปลกไป เครื่องสำอาง การแต่งกายคือเวทมนต์ของผู้หญิง... เปลี่ยนคุณบุษบาเชฟขนมหวานให้กลายเป็นนางบุษบาของอิเหนาได้
“ แล้วคุณเห็นเพื่อนฉันไหม ฉันเป็นห่วงพิณ “ เสียงบุษบาร้อนใจ ชายหนุ่มคุกเข่าลงนั่งใกล้ๆ “ ยัง ผมบอกตำรวจให้ช่วยหาแล้ว คงจะตกใจแล้วก็พลัดหลงกันมากกว่า ตอนนี้คนเจ็บก็ส่งโรงพยาบาลแล้ว “ ชายหนุ่มพูดไปเรื่อยๆในใจนั้นเต้นรัวอย่างประหลาด
“ มีคนเจ็บด้วยเหรอคะ แย่จัง งานในวัดแท้ๆ ยังมีคนทำบาปอีก “ หล่อนบ่นเบาๆดวงตาปรือหลุบต่ำอันเป็นผลมาจากขนตาปลอมแผงใหญ่ “ ก็อย่างนี้แหละ ผู้ชาย เลือดร้อน “ ชายหนุ่มเสไปหยิบธูปเทียนเวียนจากพานข้างๆกระถางธูปมาเตรียมไหว้ ร่างสูงใหญ่หย่อนเงินใส่ตู้รับบริจาคไปหนึ่งร้อยบาท บุษบาช่วยหยิบธูปและเทียนที่อยู่ฝั่งหล่อนให้เขา
ผู้คนในโบสถ์เวลานี้เหลือเพียงผู้เฒ่าผู้แก่ ต่างอมยิ้มเมื่อเห็นทั้งสองนั่งเคียงกัน ระเด่นมนตรีอธิษฐานขอให้อย่าเกิดเหตุวุ่นวายอะไรอีก คืนนี้หัวใจเขาเต้นรัวแรงมากจนคิดว่าหัวใจจะวายหลายครั้งแล้ว ครั้งหนึ่งก็ตอนปรากฏตัวของบุษบา ครั้งต่อมาก็ตอนที่วัยรุ่นตีกันมีคนโยนระเบิดขวดขึ้นเวที คนแรกที่เขานึกถึงคือหล่อน
“ ดูเดียร์เอาไว้นะ “ ชายหนุ่มหันไปสั่งวิทยากรแล้วรีบกระโดดแผล่วขึ้นเวที แล้วพาหล่อนออกมา เมื่อกลับไปดูสถานการณ์ภายนอกอีกครั้งหลังจากพาหล่อนมาไว้ที่โบสถ์ ทุกคนถามหาคนรู้จักของตนเต็มไปหมด “ มีใครเห็นคุณบุษบาบ้างไหมครับ มีใครเห็นบ้าง “ เสียงหมอจัตวาถามอยู่ลั่นๆ ราวกับหล่อนเป็นคนสำคัญกับหมอหน้าขาวมาก
“ นายระเด่นเห็นคุณบุษบาไหม “ หมอหน้าขาวหันมาถาม “ เปล่า “ ร่างสูงตอบเสียงห้วนจนวิทยากรหัวเราะกิ๊ก แล้วก็ต้องรีบทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้เพราะหนุ่มผมดกเห็นตั้งแต่แรกที่คนหัวโล้น "ชิง" นางบุษบาไปจากเวทีท่ามกลางความโกลาหลและเสียงเรียกหาของหมอจัตวา
“ งั้นเดี๋ยวผมไปช่วยหาทางอื่น วิทฝากเดียร์ด้วยเดี๋ยวฉันกลับมา “ ชายหนุ่มตัดบทง่ายๆก่อนที่จะมาที่โบสถ์ ระหว่างที่พนมมืออธิษเขาปรายตามองหล่อนแว่บหนึ่ง คิดประมวลผลถึงสาเหตุของอาการใจเต้นปั่นป่วน และการกระทำที่ไร้สาระราวกับหมาหวงก้างของตน
เขาไม่ใช่เด็กหนุ่ม ผ่านชีวิตมาก็สามสิบกว่าปีแล้ว อารมณ์ความรู้สึกหลากหลายก็รู้อยู่ คำตอบของอาการใจเต้นกับคนตรงหน้านั้นเขารู้อยู่แล้วว่ามันหมายถึงอะไร ระเด่นมนตรีคิดอยู่บ่อยๆว่าเขาคงเกิดอยู่ใต้ดวงดาวแห่งความผิดหวัง หรือไม่ก็เคราะห์กรรมจากชื่อนี้ ความรักระหว่างเขากับหญิงที่พึงใจจึงมักอับปางลงเสมอ มักจะมีอะไรซ่อนเร้นให้เขามารู้ความจริงทีหลัง และเผชิญกับความร้าวรวดตลอดมา
ความรักของเขาไม่ได้ง่ายและสุขสมหวังอย่างในวรรณคดีเลย อิเหนาในละครมากเมีย…แต่ระเด่นมนตรีในชีวิตจริงกลับไม่มีใครเลย
บุษบาขยับตัวยุกยิก ผ้าถุงเลื่อมระยับของหล่อนล้อแสงไฟ อาการของคนตรงหน้านี้ทำให้เขารู้ว่าหญิงสาวมีเลือดเนื้อมีชีวิต ระเด่นมนตรีละสายตาจากหล่อนมองตรงไปที่องค์พระประธานแล้วตัดสินใจอธิษฐาน “ ผมระเด่นมนตรี ขออธิษฐาน ขอโอกาสผมสักครั้งที่จะรักใครสักคน ขอให้เธอคนนั้นรักผมจริง “ เสียงในใจเขานั้นกังวาลก้อง
“ ผมจะไม่ยอมทำผิดต่อเธออีก ผมขอให้คนๆนั้นเป็นคุณบุษบา ผมจะเสี่ยงทาย…” เสียงทายอะไรดีล่ะ! ชายหนุ่มกวาดตาไปทั่วบริเวณภายในโบสถ์ ก็พบกับ “ ผมจะเสี่ยงเซียมซี สองครั้งกับคุณบุษบา ถ้าได้เลขสิบเอ็ดทั้งสองครั้ง ทั้งสองคน แสดงว่าผมกับกับเธอเป็นเนื้อคู่กัน คนที่จะอยู่กับผมชั่วชีวิต “ คำอธิษฐานที่แสนจะตีขลุมไปเอง ระเด่นมนตรีรู้
แต่การที่หล่อนชื่อนี้ และมาหาในวันและเวลาที่เหมาะเจาะ มันน่าจะเป็นสัญญาณของอะไรบางอย่าง ถ้าไม่เขาจะตัดใจเสีย และหักห้ามอาการใจเต้นของตน แต่ถ้าใช่ล่ะ ถ้าใช่…
“ ไปเสี่ยงเซียมซีกัน “ เขาชวน หญิงสาวเลิกคิ้ว ชายหนุ่มเดินไปหยิบกระบอกเซียมซีมายื่นให้อันหนึ่ง ของเขาก็มีอยู่ที่มืออีกอัน “ ที่นี่วัดไทย ไม่ใช่เหรอคะ ทำไมมีเซียมซีได้ “ หญิงสาวถามงงๆมือหมุนกระบอกเสียมซีไปมา
“ มนุษย์ชอบการเสี่ยงยังไงละครับ โดยเฉพาะคนไทยเรื่องดูหมอเรื่องเสี่ยงทายนี่ยิ่งชอบ “ เขาพูด พยายามให้น้ำเสียงเป็นปรกติแต่ในใจนั้นเต้นรัวแรงแทบจะระเบิด
“ เสี่ยงเซียมซีฆ่าเวลา แล้วค่อยกลับ เอาสนุกๆ “ เขาหลอกล่อ แต่ผลของมันนั้นสำหรับเขาไม่สนุกดังที่ปากว่า บุษบายอมทำตามอย่างง่าย หล่อนยกกระบอกเซียมซีขึ้นอธิษฐาน ก่อนจะเริ่มเขย่า
ระเด่นมนตรีชอบเลขสิบเอ็ดเพราะความหมายของมันคือหนึ่งคน กับคนหนึ่งมายืนคู่กัน หนึ่งเป็นเลขเดี่ยว สันโดษ แต่ยามที่คนสันโดษทั้งคู่มาอยู่ด้วยกันนั้นเขาคิดว่ามันโรแมนติค เซียมซีของเขาตกลงแล้ว ชายหนุ่มยังไม่กล้าหยิบดู ขณะที่ของหญิงสาวก็ตกลงแล้วเช่น
“ คุณได้เลขอะไร “ ชายหนุ่มถามเสียงแผ่ว การเสี่ยงครั้งที่หนึ่งของเขาและหล่อนคำตอบคือ…
“ คุณได้เลขอะไร “ ชายหนุ่มถามเสียงแผ่ว การเสี่ยงครั้งที่หนึ่งของเขาและหล่อนคำตอบคือ… “ มันเลือนน่ะคุณ ฉันดูไม่ออก “ หญิงสาวหยิบแท่งเซียมซีมาเพ่งดู อายุการใช้งานของมันคงเก่าคร่ำคร่า ตัวอักษรที่จำนวนเลขจึงหลุดร่อนเลือนลางไป
“ งั้นเอาใหม่เดี๋ยวผมไปเปลี่ยนให้ใหม่ “ ชายหนุ่มรวบเซียมซีของเขาและหล่อนใส่กระบอกทันใด เอาใหม่…เขาบอกตัวเอง เมื่อกี้เขาเห้นแว๊บๆว่าเซียมซีที่ตกลงตรงหน้าเขาเป็นเลขเก้า ไม่เป็นไร…ถือว่าการเสี่ยงทายไม่สมบรูณ์เพราะอุปกรณ์ไม่พร้อม
ระเด่นมนตรีเปลี่ยนกระบอกและแท่งเซียมซีเสียใหม่แล้วยื่นมาตรงหน้าของหญิงสาว บุษบารับมาแล้วก็อดสงสัยไม่ได้ ท่าทางคนตรงหน้ากระตือรือร้นเป็นพิเศษ แต่ไม่ได้ติดใจอะไรคิดเสียแต่ว่ารีบเสี่ยงให้จบๆ เขาจะได้พากลับไร่เสียที ผลการเสี่ยงทายเซียมซีครั้งที่สองแต่ระเด่นมนตรีนับเป็นหนึ่งคือ
“ สิบเอ็ด “ หญิงสาวหยิบไม้เซียมซีมาเพ่งดูอีกครั้งพร้อมกับร้องบอก ระเด่นมนตรีใจลิงโลดเพราะเขาก็ได้เซียมซีไม้ที่สิบเอ็ดเหมือนกัน “ ลองเสี่ยงอีกครั้งสิคุณ “ หญิงสาวนิ่วหน้าหันมามองทางเขา “ เป็นการกระจายความเสี่ยง สมมุติว่าใบนี้ได้ผลออกมาไม่ดี จะได้เก็บอีกใบไว้แทนยังไงล่ะ “ ตรรกะของชายหนุ่มแปลกๆ แน่ละสิ…เพราะเขาเพิ่งคิดได้สดๆร้อนๆ
“ ถ้าเซียมซีใบที่ออกมาไม่ดีเราจะเอาไว้ใต้ฐานพระพุทธรูป ถ้าใบไหนดีจะเก็บไว้ในกระเป๋าตังค์ “ “ แล้วอย่างนี้ไม่เปลืองกระดาษแย่เหรอคะ “ ระเด่นมนตรียักไหล่ ในใจภาวนาให้องค์พระประธานช่วยดลใจให้หล่อนเชื่อคำโกหกของเขา “ ของสิ้นเปลืองบางอย่างมันก็แลกกับความสบายใจของคนเรานะครับ “ บุษบาเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะเริ่มเขย่ากระบอกเซียมซี และผลแท่งเซียมซีครั้งนี้ก็ออกมาตรงกันคือ…สิบเอ็ด
“ แด๊ดดี๊ “ เสียงเดียร์เรียก พร้อมกับร่างป้อมนั้นวิ่งมากอดเขา วิทยากรเดินยิ้มตามเข้ามาในโบสถ์ “ พี่บุษบา แด๊ดดี๊เก่งจังหาพี่บุษบาเจอแล้ว “ เด็กชายชมเสียงใส วิทยากรคุกเข่าลงใกล้หญิงสาว
“ เป็นอะไรหรือเปล่าครับคุณบุษบา “ ชายหนุ่มถามอย่างห่วงใย หล่อนเพียงยิ้มบางๆให้ “ ไม่เป็นไรหรอกค่ะ แค่เท้าแพลงตอนวิ่งนิดหน่อย “
หนุ่มผมดกผงกศรีษะรับรู้ ก่อนที่จะปรายตาไปยังบางสิ่ง “ กำลังทำอะไรอยู่เหรอครับนี่ “ “ เสี่ยงเซียมซีค่ะ น่าแปลกนะคะคุณวิท ฉันเสี่ยงเซียมซีสองครั้งได้เลขสิบเอ็ดสองครั้งเลยค่ะ “ หล่อนรายงานเสียงรื่นเริง การที่วิทยากรกับเดียร์เข้ามาในโบสถ์ช่วยลดบรรยากาศแปลกๆ ระหว่างหล่อนกับระเด่นมนตรีได้เป็นอย่างดี
“ งั้นเดี๋ยว ผมไปเอาใบเซียมซีทำนายผลให้นะครับ นายระเด่นล่ะได้เลขอะไร “ วิทยากรแกล้งถาม ลางสังหรณ์ใจเขาบอกว่าเรื่องเซียมซีที่ออกตรงกันสองครั้งของบุษบานี่มันน่าจะมีเหตุ “ ได้ใบที่สิบเอ็ด เดี๋ยวกลับไปที่กองอำนวยการงานวัดได้แล้ว “ ชายหนุ่มตัดบทอุ้มลูกชายตัวป้อมขึ้นและเดินนำออกไป แว่บหนึ่งวิทยากรเห็นเจ้านายหัวโล้นยิ้มมุมปาก
“ พิณ “ บุษบาเขยกเข้ามาหาเพื่อนอย่างดีใจ พิณสุดาปลอดภัยและใสแจ๊คเก๊ตหัวกะโหลกลายแปลกอยู่ “ ดีจังที่เธอปลอดภัย อ้าวขาเจ็บเหรอ “ เพื่อนอุทานเมื่อเห็นอาการ หญิงสาวเพียงแต่ยิ้มๆไม่ได้สนใจอะไร
“ กลับกันเถอะ คุณบุษบา คนในไร่ของเราครบ เรื่องจัดการเหตุ เดี๋ยวตำรวจจัดการเอง “ ระเด่นมนตรีหันมาบอกปลายเสียงนั้นทอดแผ่วนุ่ม พิณสุดามาประคองหล่อน ขณะที่เดียร์จับมือหล่อนไว้แน่น เด็กชายห่วงหล่อนมาก เดินตามหล่อนต้อยๆ
“ เดี๋ยวก่อน เดี๋ยวก่อน “ พอลล่าส่งเสียงแหลมเล็กมาแต่ไกล วิยะดาและชารันเดินตามมาทีหลัง “ อย่าเพิ่งไป ผลการประกวดล่ะ “ คุณกระเทยหันซ้ายหันขวา บุษบาทำหน้าปุเลี่ยน เหตุการณ์เกิดขนาดนี้พอลล่ายังมีแก่ใจถามหาผลประกวดอีก
“ คุณกรรมการ ผลการประกวดล่ะ “ เจ้าหล่อนรี่เข้าไปที่เลขานุการของงานประกวดคือนายกอบต. “ คะแนนดิบ ก่อนที่จะรวมผลคะแนนลูกโป่ง คุณบุษบาได้สูงที่สุดครับ “ พอลล่า วิยะดา และพิณสุดากรี๊ดกร๊าด หันมาแท็คมือประสานกันดังแปะๆ มิเสียแรงที่ลงมือทั้งขัดทั้งเกลาบุษบาจนได้ตำแหน่ง
“ อย่าลืมเอาสายสะพายกับมงกุฎไปให้ที่ไร่อสัญด้วยนะคะคุณกรรมการ ไปเมื่อไหร่อย่าลืมบอกฉันจะเอากล้องไปถ่ายรูป ว่าเนี่ย เด็กปั้นของฉัน “ วิทยากรหัวเราะคิกคัก ถ้าพอลล่าไปที่ไร่อสัญจริงๆระเด่นมนตรีคงออกงิ้วแน่ แต่บางทีอาจจะไม่ก็ได้ เพราะคุณกระเทยก็ยังมีความดีความชอบที่แปลงโฉมบุษบาให้งามจนคนตะลึง
“ พิณเอาเสื้อใครมาใส่น่ะ ลายแปลกจัง “ หญิงสาวทักเมื่อยามอยู่กันสองคนในรถ ระเด่นมนตรีให้พวกหล่อนกับเดียร์นั่งรอในรถไปก่อนส่วนเขาไปคุยอะไรกับกำนันเชิดอีกด้านหนึ่ง บุษบาก็เพิ่งรู้เหมือนกันว่าเขามีรถซีอาร์วีด้วย “ ของคนแถวนี้น่ะ เขาให้ยืม เห็นว่าตอนกลางคืนอากาศมันเย็น “ พิณสุดาตอบแต่ตานั้นเสไปมองทางอื่น เจ้าของเสื้อเขาบอกแล้วนี่ว่าไม่เอาคืน
สาวผิวคล้ำถอยหนียามสีหนามขยับเข้ามาใกล้ “ คุณหิวหรือเปล่า แถวโน้นมีร้านขายข้าวโพดต้มด้วยนะ เคยกินหรือเปล่าข้าวโพดต้มของปากช่อง อร่อยนะ “ ชายหนุ่มชวนแต่หญิงสาวก็ยังไม่ขยับอยู่ดี “ ไปด้วยกันสิ เดี๋ยวผมค่อยพาคุณกลับมาที่กองอำนวยการงานวัด “ แต่กระนั้นก็ยังไม่มีการขยับตัวจากหญิงสาวตรงหน้า เว้นเสียแต่ว่าสายตาระแวดระวังที่ฉายชัด
“ ฉันจะกลับไปกองอำนวยการ “ พิณสุดาถอดเสื้อคืนให้เขา เท้าเตรียมจะก้าวไปอีกทาง สีหนาทเดินอย่างรวดเร็วเข้ามาใกล้ เขาฉวยเสื้อคืนมาและคลุมให้หล่อนดังเดิม “ คุณจะรีบไปทำไม ไปตอนนี้ก็ช่วยอะไรไม่ได้ เหตุการณ์ยังไม่สงบเลย “ ชายหนุ่มบ่น หญิงสาวผงะหนี
“ ฉันจะไปรออยู่ที่นั่น ฉันจะไปรอบุษบา คุณไม่ต้องมาตามฉันหรอก อยากไปกินข้าวโพดก็ไป “ “ คุณไปด้วยกันสิ เอ้า…อย่างนั้นก็ได้ เดี๋ยวผมพาไปที่กองอำนวยการ “ หนุ่มผมยาวกล่าวอย่างยอมแพ้ แต่ทว่า “ ไม่ ฉันไปเองได้ “ น้ำเสียงหล่อนแปร่งปร่า จนชายหนุ่มรู้สึกได้
“ คุณไม่ไว้ใจผมเหรอ “ เขาถามเสียงเรียบ สายตาคมกล้านั้นจ้องหล่อนนิ่ง พิณสุดาไม่ตอบ ในใจนั้นเต้นระรัวหล่อนต้องทำอะไรให้เด็ดขาดเสียที ปล่อยให้คนอันตรายอย่างนี้มาวอแวอยู่ไม่ได้ แม้จะร่ำรวยและเป็นลูกชายคนเดียวแต่ถ้านิสัยเฉกเช่นดังข่าวลือละก็ หล่อนขอผ่าน…
“ คนที่ไร่อสัญคงบอกเรื่องผมแล้วใช่ไหม เรื่องอุบัติเหตุ “ ชายหนุ่มเสียงขื่น อุบัติเหตุที่เกิดจากอารมณ์ชั่ววูบ เขาไม่ได้ตั้งใจ เขาแค่ถูกผู้หญิงทรยศ เขาทุ่มเทให้หล่อนทุกอย่าง แต่ได้กลับมาเพียงการหลอกลวง หล่อนคบกับเขาเพียงเพราะเขารวย เด็ก และหลอกง่าย หลังอุบัติเหตุชายหนุ่มตัดสินใจจะสู้คดี แต่ผู้เป็นพ่อกลับใช้เงินมหาศาลล้มคดีไปเสีย
“ แกนี่มันโง่จริงๆ ชื่อเสียงเสียไปเพราะผู้หญิงคนเดียว “ พ่อผู้เป็นนายพลบริภาษเขา พ่อซึ่งมีผู้หญิงไม่ซ้ำหน้า บางทีพ่อเขาคงไม่เคยรักใครเลย แม้แต่แม่ของเขาเอง การที่สีหนาทมองเห็นการใช้ชีวิตของผู้เป็นพ่อในเรื่องผู้หญิง มันทำให้เขาเป็นคนที่จริงจังในความรัก เขาทุ่มให้คนรักทุกอย่างเพื่อให้หล่อนมีความสุข
การทรยศหักหลังของคนรักเก่า นำมาซึ่งความเจ็บปวด และยังมีเรื่องคดีอีก เขาไม่ถูกลงโทษ แต่สังคมก็ตัดสินเขาไปเรียบร้อยแล้ว ชายหนุ่มจึงหมดอาลัยตายอยาก หลีกหนีโลกความเป็นจริงเข้าสู่งานอดิเรกสุดกู่ จนกระทั่งพบพิณสุดา ความรู้สึกบางอย่างบอกเขา ว่าบางที ถ้าเป็นคนนี้ ถ้าเป็นคนนี้…เขาจะไม่ทำผิดพลาดอีก
“ หยุดยุ่งกับฉันเสียที “ พิณสุดาเอ่ยประโยคนั้นช้าๆชัดๆ สายตาหล่อนสบตาเขานิ่ง “ เพราะผมเป็นคนเคยมีคดีเหรอ “ “ ไม่ใช่ “ หล่อนตอบสียงอึกอัก จริงๆแล้วมันก็มีส่วน
“ เพราะผมทำให้คนตายเหรอ “ สาวผิวคล้ำเสียววาบ เขาพูดออกมาเองเลยนะ คนตรงหน้าหล่อนนี่คงอยู่ในประเภทอันตรายสุดกู่แน่ “ ไม่ใช่ “
“ แล้วสาเหตุล่ะ ที่คุณไม่อยากให้ผมยุ่งกับคุณ “ นั่นนะสิ…สาเหตุอะไรดี ที่จะทำให้คนเราปฏิเสธการต่อสายพันธ์กัน นอกเสียจากสาเหตุพื้นๆดังเช่น “ ฉันไม่ได้คิดอะไรกับคุณเลย นอกเสียจากว่าคุณเคยช่วยเหลือฉัน การที่คุณมาวอแวฉันอยู่อย่างนี้ทำให้ฉันลำบาก ฉันไม่ได้ชอบคุณ “ พูดออกมาแล้วพิณสุดาก็ต้องกลั้นหายใจ
คนตรงหน้ายังมองหล่อนนิ่ง หญิงสาวเลือกทำเลบอกปัดความสัมพันธ์ได้เหมาะ ถ้าหากมีอะไรเกิดขึ้น ผู้คนที่อยู่ในงานจะได้ช่วยหล่อนจากสีหนาทได้ แต่ทว่าเขากลับนิ่งเฉย แว่นตาปิดบังสภาพที่แท้จริงของดวงตา
“ คุณต้องการอย่างเหรอ “ เสียงเขาแหบแห้งจนแทบจะปนไปกับเสียงดนตรีอันรื่นเริงของงานวัด “ ใช่ค่ะ “ พิณสุดาย้ำหนักแน่น ชายหนุมผงกศรีษะ
“ ได้ ถ้านั่นเป็นความต้องการของคุณ กองอำนวยการอยู่ทางฝั่งโน้น “ ชายหนุ่มบุ้ยปากไปทางหนึ่ง “ ผมคงไม่ไปส่งนะ เพราะคุณคงไม่ต้องการ “ เขาหันหลังจะเดินไปอีกทาง หญิงสาวถอดเสื้อเขาออก “ เดี๋ยวก่อนคุณ แล้วเสื้อนี่ล่ะ “
“ ไม่เป็นไร ผมให้แล้ว ไม่เอาคืน “ เสียงนั้นหนักแน่นก่อนที่ตัวคนพูดจะเดินลับหายไปกับผู้คน พิณสุดารู้สึกผิดนิดหน่อย แต่จะทำอย่างไรได้
สีหนาทอันตรายเกินไป แค่คนรู้จักยังพอเลี่ยงกันได้แต่นี่เขาแสดงท่าทีว่ามาจีบหล่อน ตัดไฟเสียแต่ต้นลมนั้นดีแล้ว หล่อนมีสิทธิ์เลือกก็ขอเลือกสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับตัวเอง
ไม่เป็นไร…สำหรับผู้ชายบางคนการติดเนื้อต้องใจในผู้หญิงนั้นง่าย พอๆกับที่ลืมผู้หญิงสักคนง่ายดายเช่นเดียวกัน แต่พิณสุดาไม่ได้นึกถึงเลยว่า ผู้ชายบางคนนั้นกลับกัน
“ ฮัลโหล นี่สีหนาทนะ “ ชายหนุ่มผมยาวแอบมองหญิงสาวผิวคล้ำที่นั่งอยู่ในรถซีอาร์วี “ ฮื่อ มีเรื่องจะให้ช่วยหน่อย ช่วยสืบประวัติผู้หญิงคนหนึ่งให้หน่อย เอาแบบละเอียดยิบ แล้วส่งมาให้ฉัน “ ปลายสายเมื่อทราบความต้องการก็แสดงน้ำเสียงร้อนรน เขาหัวเราะหึๆ “ ไม่ต้องห่วง ฉันไม่ได้เอาไปแก้แค้นใครหรอก ยังไงก็ฝากด้วยละกัน ไม่ต้องบอกพ่อนะ “
ปลายสายตัดไปแล้วพร้อมกับอาการยิ้มแยกเขี้ยวของสีหนาท ความต้องการของหล่อน เขาปฏิบัติตามแล้ว ต่อไปก็เป็นความต้องการของเขาบ้างล่ะ ถ้าหล่อนไม่ชอบ เขาจะทำให้ชอบ
เมื่อโอกาสถูกตัดเขาจะสร้างใหม่ การเจอผู้หญิงที่พึงใจใช่ว่าจะเจอกันง่ายๆ ครั้งนี้เขาจะไม่ให้พลาดอีกแล้ว ถ้าข้อมูลของหล่อนมาเมื่อไหร่คงต้องมีการวางแผนรบ ใครกันนะที่บอกว่างานอดิเรกBB Gunของเขาไร้ประโยชน์ อย่างหนึ่งที่มันใช้ได้ ก็คือวางแผนการเด็ดหัวใจเจ้าหล่อนนั่นไง
หญิงสาวร่างบางในชุดกางเกงสามส่วนเสื้อเชิ้ตเข้ารูปนั่งสถบก่นด่าสรรพสิ่งอยู่ในรถมินิคูเปอร์คันเล็ก วันนี้มันวันซวยอะไรของเจ้าหล่อน ขับรถมาจะหาโรงแรมที่พัก รถก็ดันน้ำมันหมด มือถือก็แบทตอรี่หมด ที่นี่เป็นที่ไหนก็ไม่รู้
หล่อนรู้เพียงแต่ว่าเป็นอำเภอปากช่อง แต่ไม่รู้ว่าอยู่ส่วนไหนของอำเภอ แถมตอนนี้ก็มืดค่ำ รถที่ผ่านมาหรือ? ก็ไม่มีเอาเสียเลย หล่อนรู้สึกเคว้งคว้างเหมือนอยู่ตัวคนเดียวในโลก
บางทีนี่อาจจะเป็นการลงโทษคนวิปริตอย่างหล่อนก็ได้ คู่หมั้น การแต่งงาน แฟนตัดสัมพันธ์ ผู้ชายตามตื้อ ชีวิตหล่อนนี่มันช่างน้ำเน่าได้สุดๆจริงๆ บางทีเรื่องที่น้ำเน่าที่สุดก็คือ หล่อนไม่ได้ชอบผู้ชาย…
เสียงรถดังแว่ว หญิงสาวหันขวับไปมอง รถสีดำคันหนึ่งวิ่งฝ่าความมืดมา “ จอดก่อนค่ะ จอดก่อน “ ร่างบางรีบกระวีกระวาดโบก แต่ทว่ารถคันนั้นกลับวิ่งผ่านไป หล่อนคอตก หมดหวัง สงสัยคืนนี้คงต้องนอนตากยุงอยู่ในรถ
“ รถเป็นอะไรเหรอคุณ “ รถซีอาร์วีสีดำคันนั้น ถอยกลับมา พร้อมกับหนุ่มหล่อตัวสูงผมดกดำ เปิดประตูมาถามเหตุ หญิงสาววาบในใจ สิ่งที่หล่อนเกลียดเข้าไส้มาแล้ว
“ รถเสียเหรอ “ คนตรงหน้าเท้าสะเอวถาม หล่อนจ้องเขาเป๋ง แสดงทีท่าไม่ไว้ใจเต็มที่ “ รถคุณเขาเป็นอะไรเหรอคะ “ เสียงหวานใสราวกับระฆัง เพศที่หล่อนคุ้นเคย กระจกรถด้านหลังเลื่อนลงพร้อมกับใบหน้าซึ่งแต่งแต้มเครื่องสำอางเสียหมดจดยื่นออกมา “ รถฉันน้ำมันหมดค่ะ “ หล่อนตอบอย่างลิงโลด ผู้หญิง หล่อนชอบผู้หญิงที่สุด
สังฆาตื่นนอนสายเล็กน้อย เพราะเมื่อคืนชายหนุ่มรอตอบอีเมล์จากบริษัทสาขาอเมริกา ความจริงงานพวกนี้เลขาเขาจะเป็นคนทำ แต่เนื่องจากพักนี้เขาว่างจึงดึงมาทำเอง ระเด่นมนตรีตั้งแต่มาซื้อไร่นี่ ก็โยนงานโครมมาให้เขาและน้องชาย นานๆทีหรือไม่ก็วิกฤตจริงๆชายหนุ่มจึงจะหันมาสนใจบริษัท
“ นายเหมาะกับงานบริหารจัดการ ฉันเหมาะกับงานออกแดดลุยกลางแจ้งมากกว่า “ ระเด่นมนตรีบอกเขาเช่นนี้ในวันที่ยกงานต่างๆให้เขา แม้ว่าจะมีสายเลือดต่างกัน นามสกุลก็คนละนามสกุล แต่ความสัมพันธ์ระหว่างพี่น้องก็แนบแน่น เขาไม่เคยคิดว่าตนเองเป็นคนนอกตระกูลเลย
คนของเขาอีเมล์มาบอกที่อยู่ของผู้หญิงในอดีตซึ่งเป็นต้นเหตุให้เขาขาหัก ชายหนุ่มยิ้มเย็น ความริษยาอาฆาตของผู้หญิงนี่ช่างน่ากลัว ทั้งๆที่เขาเลิกกับหล่อนเพราะหล่อนจับปลาสองมือ แต่กระนั้นหล่อนก็ยังใช้ปลาตัวที่สองมาทำร้ายเขาซะฉิบ ปลาเขาจัดการแล้ว จนผู้ปกครองของปลาตัวสั่นงันงก ส่วนหล่อนหนีไปกบดานอยู่เมืองนอก
ไม่เป็นไร เขายังปราณีจึงส่งแค่รูปถ่ายปลาที่โดนจัดการไปให้ดูต่างหน้า สังฆาเป็นคนใจดีกับผู้หญิงมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว แต่มีข้อแม้ว่าผู้หญิงคนนั้นต้องดีด้วยก่อน
“ พี่บุษบาคะเล่าเรื่องประวัติครัวซองให้ฟังหน่อยสิคะ เขาว่ากันว่ามันเกิดจากการสาปแช่งในสงครามน่ะจริงหรือเปล่า “ เสียงใสไม่คุ้นหูดังขึ้นภายในห้องอาหาร สังฆานิ่วหน้า มีแขกมาหรือ? แต่เช้าตรู่เช่นนี้
ชายหนุ่มเขยกไม้ค้ำเขาไปในห้องอาหารพร้อมกับบอดี้การ์ด คนที่อาศัยอยู่ในบ้านนี้นั่งกันอยู่อย่างพร้อมเพรียง ผิดเสียแต่ว่ามีเพิ่มขึ้นคนหนึ่ง “ อ้าว คุณสังข์ตื่นแล้วเหรอครับ เชิญครับ “ วิทยากรลุกมาเลื่อนเก้าอี้ ใบหน้านั้นยิ้มราวกับหน้ากาก ซึ่งชายหนุ่มก็ส่งยิ้มแบบเดียวกันกลับไป เปรมยกอาหารของเขามาเสริฟ ชายหนุ่มมองลอดแว่นไปยังเจ้าของเสียงผู้มาใหม่
เมื่อนั้น สังคามาระตาเฉิดฉัน เห็นองค์อรไทวิไลวรรณ ที่ได้ตุนาหงันกันมา เป็นบุพเพสันนิวาสแต่ชาติก่อน เผอิญให้อาวรณ์เสน่หา แต่เวียนชายชำเลืองนัยนา ดูนางกุสุมาเทวี ไม่เป็นอันเสวยพระกระยาหาร ตะลึงลานอาศัยในโฉมศรี เสโทซึมซาบอายอินทรีย์ ภูมีซับพักตร์เนืองไปฯ
“ เอ้อ! สังข์ นี่คุณโรส รถเธอเสีย เมื่อคืนนี้ก็เลยมาพักกับเรา น้องชายผมสังฆา “ ระเด่นมนตรีอธิบายเสียงเรียบ แต่ไม่เข้าหูหนุ่มแว่นผู้ขาหักเลย ดวงตากลมโตสีน้ำตาลอ่อนที่ยิ้มให้เขาตามมารยาท แล้วก็หันไปพูดเสียงอ่อนเสียงหวานกับบุษบาร่างสูงนั่นต่างหากที่ตรึงให้ บางอย่างในช่องอกด้านซ้ายของเขาทำงานรัวเร็ว
+++++++++++จบบทที่10
Create Date : 21 เมษายน 2552 |
Last Update : 21 เมษายน 2552 23:57:15 น. |
|
1 comments
|
Counter : 373 Pageviews. |
|
|
|
โดย: นิด IP: 115.87.199.5 วันที่: 13 มิถุนายน 2553 เวลา:16:12:51 น. |
|
|
|
|
|
|
|
เคยจับได้เลขนี้ กะชายหนุ่มคนนึง ไม่รู้จะลงเอยกันอะเปล่า