หอมกลิ่นหวาน...และขมของชีวิต
Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2552
 
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
26 กรกฏาคม 2552
 
All Blogs
 

ความแค้นเป็นดังของหวาน...บทที่ 16 ...พริตตี้วูเมน(100%)



เอิ่ม...เอารูปไหมมาอวด
จะประมาณนี้
ฝรั่งชอบ
แต่คนไทยคงบอกว่าดำไปมั้ง...อิอิ
แต่อิฉันว่าเซ็กซี่ดีออก5555
ส่วนอีกรูปก็หมอเอิงค่ะ เวอร์ชั่นดาร์คไซด์
เขียนหมอเอิงโดยนึกถึงหน้าพี่เบเป็นหลักค่ะ
เพราะอธบายตั้งแต่ตอนต้นแล้วว่าหมอเอิงขาวหล่อสวมแว่น
ขณะที่ไหมคล้ำผมสั้น





+++++++++++++++++


โยทะกาตื่นไปเรียนที่มหาวิทยาลัยแต่เช้าตามปรกติ เมื่อคืนกว่าหล่อนและรังสฤษฏ์จะกลับถึงบ้านก็ดึกมากแล้ว เพราะเกิดอุบัติเหตุบนถนน ถึงบ้านโยทะกาเก็บของอาบน้ำแล้วก็นอนเลย คุณหมอหนุ่มคุยโทรศัพท์ติดพันอยู่กับใครคนหนึ่งเขาตอบรับแต่เพียงคำว่า“ครับๆ”เท่านั้น เด็กสาวคร้านจะสนใจ เมื่อหัวถึงหมอนก็หลับเป็นตาย


แต่น่าแปลกเมื่อไปถึงห้องเรียนแล้วกลับไม่พบกลุ่มเพื่อนสนิท
“กลุ่มเธอมากันเกือบครบนะวันนี้ขาดแต่จีน”
เพื่อนร่วมชั้นชายคนหนึ่งกระซิบบอก
“แต่เมื่อกี้แพทเขารับโทรศัพท์ใครก็ไม่รู้ รีบร้อนมากมันเลยลากเจ้าเงินเจ้าทองไปด้วย”


โยทะกาจึงลองโทรศัพท์หาพัชรพงษ์ดู ...เป็นสัญญาณสายไม่ว่าง
โทร.หาจิรัฐิติกาลไม่มีคนรับสาย โทร.หาช้อนเงินช้อนทองก็เป็นสัญญาณติดต่อไม่ได้ หล่อนร้อนใจห่วงเพื่อนว่ามีเรื่องเดือดร้อนอะไรหรือเปล่า แม้จะโดนพัชรพงษ์เคืองเรื่องรังสฤษฏ์ก็ตาม


ทว่าอาจารย์เข้าห้องเรียนมาเสียก่อน โยทะกาจึงต้องโยนความห่วงทิ้งไปแล้วมาตั้งใจเรียนหนังสือ หล่อนคิดว่าพัชรพงษ์คงจัดการทุกเรื่องได้ ยิ่งมีสองหนุ่มตามไปด้วยละก็ ทุกเรื่องหายห่วง


หลังเรียนเสร็จเด็กสาวลองโทร.หาเพื่อนอีกก็ยังไม่มีคนรับสาย จึงส่งข้อความไปถามข่าวและให้โทร.กลับ ช่วงบ่ายหล่อนใช้เวลาอยู่ในห้องสมุดเพื่ออ่านหนังสือ นอกจากอ่านหนังสือเรียนที่จำเป็นแล้วโยทะกาก็ยังดูหนังสือสมัครงานด้วย หล่อนอยากได้งานพิเศษทำ ไม่อยากถอนเงินในบัญชีของพี่ชายมาใช้ด้วยเรื่องส่วนตัว


แม้ค่ารักษาพยาบาลรังสฤษฏ์จะออกให้เพื่อแลกกับตัวหล่อน แต่อนาคตก็ไม่รู้จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง การมีเงินก้นถุงไว้มากๆนั้นดีที่สุด เด็กสาวกำลังคิดว่าจะไปรับวาดรูปในตลาดนัดกลางคืนเหมือนเก่าดีไหม แต่บ้านของรังสฤษฏ์นั้นอยู่ไกลจากตลาดนัดที่เคยไปรับจ้างวาดรูปมาก ค่าเดินทางไม่คุ้มแน่


หรือว่าจะไปของานรุ่นพี่ทำดู พวกงานเล็กน้อยๆอย่างช่วยพิมพ์รายงาน ระหว่างที่กำลังนั่งคิดหางานเพิ่มรายได้อยู่นั้น โทรศัพท์มือถือก็สั่นดังหวือๆขึ้น หมายเลขที่โทร.มาไม่คุ้น


“สวัสดีค่ะคุณโยทะกานะคะ ฉันอรอุมาค่ะเลขาฯของหมอเอิง”
คนรับสายนิ่วหน้าพยายามนึกหน้าคนโทร.มา เพราะไม่ชอบรังสฤษฏ์สมองของโยทะกาจึงพลอยไม่จดจำคนของเขาไว้ด้วย


“วันนี้หมอเอิงให้ดิฉันมารับคุณค่ะ”
หล่อนปฏิเสธไปตามเคย พอโดนเซ้าซี้หนักๆเข้าเด็กสาวก็กดปุ่มวางสายแล้วปิดโทรศัพท์ให้เครื่องดับเสียเลย รังสฤษฏ์จะบังคับหล่อนไปถึงไหน แค่นี้ก็กระดิกตัวไม่ได้อยู่แล้ว โยทะกานั่งดูหนังสือสมัครงานต่อสักพัก เสียงหนึ่งก็ดังขึ้นใกล้ๆ


“คุณโยทะกาคะ อรมารับแล้วค่ะ”
เลขาฯหน้าแฉล้มของรังสฤษฏ์มายืนอยู่ข้างโต๊ะ
“เดี๋ยวเรามีธุระต้องไปทำด้วยกัน รีบไปเถอะค่ะเดี๋ยวจะค่ำมืดเสียก่อน”
ว่าแล้วคุณเลขาฯก็มาจับมือหล่อนอย่างถือวิสาสะ


“ฉันบอกแล้วยังไงคะว่าไม่ไป ฉันจะอ่านหนังสือ”
มิวายที่เด็กสาวจะค้านตามเคย อรอุมายิ้มเย็นบอกเสียงอ่อนหวาน
“พอทำธุระเสร็จแล้วฉันจะได้พาคุณโยทะกาไปเยี่ยมคุณปฐมพงษ์ด้วยกันยังไงละคะ แล้วจะมีคุณหมออีกท่านจะคุยเรื่องการดูแลพี่ชายคุณเพิ่มเติม”
พอเจอไม้นี้เข้าน้องสาวคนป่วยจึงเงียบกริบลงได้


“ดิฉันขอเรียกชื่อเล่นคุณโยทะกาว่าคุณไหมนะคะ เรียกชื่อเล่นจะได้รู้สึกคุ้นเคยกันมากกว่า”
โยทะกาคร้านจะขัดอะไร คนของรังสฤษฏ์ทุกคนดูเหมือนจะจับจุดอ่อนหล่อนได้หมด นกรู้กันเสียเหลือเกิน ระหว่างทางที่โยทะกาและอรอุมานั่งรถไปด้วยกัน เลขาฯสาวขับรถเพลงเปิดเพลงคลอในรถเบาๆ


โยทะกามีโอกาสพินิจดูคุณเลขาฯ อรอุมาสวย ผิวขาว รูปร่างสูงโปร่ง ท่าทางคล่องแคล่ว จะว่าไปแล้วรอบกายของรังสฤษฏ์ก็มีแต่สาวสวย ทั้งชาลิดาผู้เป็นน้องสาว อรอุมาเลขาฯ ปรียาวดีดาวคณะบริหาร ส่วนคู่หมั้นที่ไม่เคยเห็นหน้าของรังสฤษฏ์ก็คงจะสวยมากเช่นกัน เพราะเป็นถึงญาติของคนสวยเฉกเช่นปรียาวดี


ถ้าไม่เพราะความแค้นกับพี่ชาย โยทะกาคงไม่ได้มาใกล้เขา หางตาของรังสฤษฏ์คงไม่แลหล่อนสักกระผีก อารมณ์แห่งโทสะความแค้นนี่ทำได้ทุกอย่างจริงๆ


มือสีแทนหยิบไอพ็อดขึ้นเปิด เสียบหูฟังแล้วพิงหลังกับเบาะนุ่มหลับตาพริ้มฟังเพลงที่ตัวเองชอบ ปิดกั้นตัวเองจากทุกสิ่ง อย่างน้อยก็กว่าจะถึงจุดหมายปลายทาง เลขาฯของเขาคงมีสติพอ หากรังสฤษฏ์จะสั่งอะไรแปลกๆ คุณอรอุมาคนนี้คงจะไม่บ้าจี้ทำตามคำสั่งพิลึกๆของเจ้านายเป็นแน่


อรอุมาลอบมองเด็กสาวที่หลับตาพริ้มฟังไอพ็อดอยู่อย่างสบายอารมณ์ ตอนนี้เด็กคนนี้เป็น‘คู่’ของรังสฤษฏ์ เด็กสาวที่ดูแตกต่างจากผู้หญิงทุกคนที่เคยรายล้อมเขา ทีแรกอรอุมาคิดว่าเจ้านายเสียหน้าที่ถูกมันตรีนีถอนหมั้น จึงไปคว้าใครก็ได้มาควงแก้ขัด แต่พอนานๆไปหล่อนรู้สึกว่ารังสฤษฏ์ดูอารมณ์ดีแปลกๆ เหมือนกำลังสนุก


ปรกติแล้วอรอุมาแทบจะเดาอารมณ์ของรังสฤษฏ์ไม่ออกเลย คุณหมอหนุ่มมักจะยิ้มตลอด รอยยิ้มที่อบอุ่นน่าหลงใหล แต่บางครั้งก็เหมือนหน้ากาก อรอุมายอมรับว่าครั้งหนึ่งเคยหลงใหลและแอบรักรังสฤษฏ์ ทว่าทำงานด้วยกันนานวันเข้าความรู้สึกเหล่านั้นกลับจางหายไป


รังสฤษฏ์ดีเสมอต้นเสมอปลายเป็นสุภาพบุรุษ เนี้ยบสมบรูณ์แบบ แทบจะเรียกว่าเจ้านายในฝันเลยก็ว่าได้ เพียงแต่อรอุมา‘รู้สึก’ว่าเขาซ่อนบางอย่างไว้ในใจ แม้จะสนิทสนมกันเท่าไรเขาก็ยังมีกำแพงบางอย่างกั้นทุกคนไว้เสมอ


‘บางทีนะคะคุณอร สองก็ไม่เข้าใจพี่เอิงเลย อ่านใจยากไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่’
ชาลิดาเคยเปรยถึงพี่ชายเอาไว้ สำหรับอรอุมาแล้วตอนนี้รังสฤษฏ์เป็นเพียงผู้ชายที่เอาไว้มองและฝันถึงบ้างในบางครา ถ้าหากจะให้รักจริงๆแล้วไซร้ อรอุมารู้ดีว่าเขาคงไม่รักหล่อน ...บางทีแม้แต่มันตรีนีอดีตคู่หมั้นรังสฤษฏ์ก็อาจจะไม่เคยรัก


“อีกนานไหมคะ กว่าเราจะถึงที่ๆจะไปทำธุระเนี่ย”
คนนั่งข้างลืมตาขึ้นแล้ว
“อีกสักประมาณสิบนาทีก็ถึงแล้วค่ะ”
หล่อนยิ้มหวานให้‘คู่’คนล่าสุดของเจ้านาย


“คุณไหมหิวอะไรไหมคะ นี่ก็บ่ายสามแล้ว”
เด็กสาวส่ายหน้าเบาๆ แล้วหันไปเก็บไอพ็อดเข้าย่าม อรอุมามองแล้วนึกอยู่ในใจ ตั้งแต่ทำงานเป็นเลขาฯของรังสฤษฏ์มา โยทะกาเป็นคนที่แตกต่างจากผู้หญิงก่อนๆ แต่หล่อนก็ถูกชะตากับเด็กสาวที่สุด แม้กริยาจะแข็งๆ หน้าบึ้งตึงไม่อ่อนหวาน แต่จากประวัติที่สืบมาได้และการปฏิบัติกับพี่ชายยามป่วยไข้นั้นทำให้อรอุมารู้สึกว่าเด็กคนนี้สู้ชีวิต เข้มแข็ง


ที่สำคัญรังสฤษฏ์เข้าหาโยทะกาเอง ขณะที่สาวน้อยแสดงปฏิกิริยาต่อต้านอยู่ร่ำไป ทำเอาอรอุมาพลอยสนุกไปด้วย ได้เห็นรังสฤษฏ์โกรธชนิดไฟในดวงตาเต้นร่าๆ เวลาโยทะกาขัดใจ นานๆ ทีจะได้เห็นคุณหมอหนุ่มแสดงท่าทางเป็นผู้ชายปรกติบ้าง อย่างน้อยหล่อนก็รู้สึกได้ว่าทำงานกับมนุษย์ มีชีวิตมีจิตใจ ไม่ได้ทำงานกับเทวดาชั้นฟ้าที่เลอเลิศจนหาจุดบกพร่องไม่ได้


อรอุมาพาโยทะกาเข้าร้านเสื้อหรู เลือกชุดราตรีราคาแพงระยับ
“หมอเอิงให้คุณไหมเตรียมตัวไปออกงานพรุ่งนี้ค่ะ”
เด็กสาวทำหน้างงงัน ...ออกงานอย่างนั้นหรือ งานอะไรกัน
“คุณตาของหมอเอิงจะจัดงานแซยิดขึ้นที่บ้านใหญ่ค่ะ หมอเอิงจะให้คุณไหมไปด้วย”
โยทะกานึกย้อนถึงคำบอกเล่าของญาติรังสฤษฏ์ที่ชื่อชานนท์ขึ้นมาทันใด


“ฉันไม่ไปหรอกค่ะ งานอย่างนั้นน่ะ ฉันไม่เกี่ยวอะไรกับพวกเขาเสียหน่อย”
“เกี่ยวสิคะ” อรอุมายิ้มเย็นอีกครา
“ตอนนี้คุณไหมเป็นแฟนหมอเอิงนี่คะ หมอเอิงก็เลยอยากพาคุณไหมไปให้ญาติผู้ใหญ่รู้จัก”


แค่คิดอรอุมาก็สนุกแล้ว ถ้าโยทะกาไปปรากฏตัวพร้อมกับรังสฤษฏ์ นางหงส์คอเชิดอย่างมันตรีนีจะทำหน้ายังไง แม้จะถอนหมั้นกันไปแล้ว แต่งานแซยิดคุณตาของรังสฤษฏ์พนันได้เลยว่าสาวไฮโซต้องมา งานใหญ่และรวมคนมีชื่อเสียงในสังคมขนาดนั้น


“หมอเอิงบอกว่างานนี้ให้ดิฉันจัดการแต่งตัวคุณไหมให้สวยที่สุด”
คนพูดตาเป็นประกายอย่างรื่นเริง ขณะที่คนที่‘ต้องสวย’ทำหน้าเหยเก อรอุมาพูดชักแม่น้ำทั้งห้ามาว่านล้อมเวลาโยทะกาทำหน้าเหม็นเบื่อ เมื่อต้องมาเลือกชุด เสื้อผ้าหน้าผม วัดตัวและปรึกษากับดีไซน์เนอร์สไตลิสในร้านหรู


“ต๊าย! โอเคมากเลยค่ะ ผิวแทนอย่างนี้หน้าตาเอ็กซ์โซติสขนาดนี้ เดี้ยนชอบค่ะ จะแปลงให้เป็นไรฮาน่าให้ดู”
ทั้งดีไซเนอร์ทั้งสไตลิสชายหัวใจหญิงต่างวี้ดว๊ายกระตู้วู้เมื่อเห็นโยทะกา
แล้วไรฮาน่านี่เป็นใครกันล่ะ ...โยทะการู้จักแต่ เอวิล ลาวีน


การทำตัวเป็นคนสวยในวันแรกแค่ไม่กี่ชั่วโมงก็ทำเอาเด็กสาวเหนื่อยใจเป็นที่สุด ขากลับความอ่อนล้าและเซ็งในอารมณ์แสดงออกทางสีหน้า คุณเลขาฯสาวจึงพาไปทานอาหารค่ำ อรอุมาพาโยทะกาไปทานร้านสุกี้ สาวสวยยิ้มพอใจเมื่อเห็นคนตัวเล็กเจริญอาหาร ลวกเนื้อและผักทานอย่างสนุกสนาน


ประสบการณ์จากการทำงานเป็นเลขาฯมายาวนาน อรอุมาจึงชอบลอบสังเกตนิสัยคน ดูรสนิยม และภาษากายที่แต่ละคนแสดงออก เพื่อจะได้เอาใจได้ถูก ยิ่งหล่อนเป็นคนหาข้อมูลเกี่ยวกับโยทะกามากับมือ
การประมวลผลยิ่งง่ายเข้า


อรอุมาเดาถูกว่าโยทะกาเป็นคนสบายๆ ไม่เรื่องเรื่องมาก แม้จะมีคนบอกว่าจะจ่ายเงินให้ก็ตาม โยทะกายังยืนยันจะเลือกใส่ชุดที่ราคาไม่แพงมาก ไม่ยอมเปลี่ยนทรงผมหรือเข้าคอร์สบำรุงผิว บ่นว่ายุ่งยาก อรอุมาต้องคอยตะล่อมตลอด


งานนี้เลขาฯสาวทุ่มสุดตัวตั้งใจจะแต่งให้สาวน้อยเจิดจรัสเพื่อหักหน้ามันตรีนี เพราะรู้เดาได้ว่าตัวการที่ปล่อยข่าวลือว่ารังสฤษฏ์ช้ำใจจากมันตรีนีแล้วไปคว้าเอาเด็กญาติคนไข้ ก็คือตัวมันตรีนีเองนั่นแหละ คราวนี้แหละจะได้รู้กันสักทีว่ามันตรีนีสำคัญตัวเองผิด


โยทะกากลับถึงบ้านรังสฤษฏ์ประมาณสามทุ่ม อรอุมาบอกว่าจะนัดคุณหมอให้อีกครั้งให้มาคุยเกี่ยวกับการรักษาปฐมพงษ์ วันนี้น้องสาวจึงงดไปเยี่ยมพี่ชายหนึ่งวัน ที่โทรศัพท์มือถือมีข้อความสายไม่ได้รับจากพัชรพงษ์สี่สาย หล่อนลองโทร.กลับไปก็ไม่มีคนรับ โทร.หาช้อนเงินช้องทองหรือจิรัฐิติกาลก็ไม่มีคนรับเช่นกัน ยิ่งทำให้ร้อนใจและห่วงเพื่อนมาก เด็กสาวจึงส่งข้อความบอกให้เพื่อนโทร.กลับ


ก่อนจะนอนโยทะกาคิดถึงงานแซยิดของคุณตารังสฤษฏ์พรุ่งนี้ ไม่รู้ว่าเขามีแผนอะไรหรือเปล่า หล่อนไม่ไว้ใจ อย่ากระนั้นเลยพรุ่งนี้หาทางเลี่ยงไม่ไปงานดีกว่า คิดได้อย่างนั้นโยทะกาก็ยิ้มอย่างพอใจ ถ้ารังสฤษฏ์รู้ว่าหล่อนไม่ยอมไปงานเขาคงเต้นเป็นเจ้าเข้า


ถือเสียว่าเอาคืนที่เมื่อวานนี้เขาลากหล่อนออกไปทานข้าวนอกบ้านแบบไม่เต็มใจ โยทะกานอนหลับพร้อมกับกอดเจ้าหมีพูห์ที่ได้จากเกมปาลูกดอกสมาชิกใหม่ร่วมเตียงตัวใหม่ไว้กับอก


ประมาณตีสองรังสฤษฏ์จึงกลับเข้ามา คุณหมอหนุ่มนิ่วหน้าเมื่อไฟในห้องมืดอีกแล้ว พอเปิดไฟความเคืองที่โดนขัดคำสั่งเรื่องปิดไฟก็หายไปหมด ภาพบนเตียงทำเอาเขาหัวเราะหึๆ
“แม่หมีกับลูกหมี”
ทั้งขาทั้งแขนสีแทนของโยทะกาพาดป่ายเจ้าหมีพูห์ตัวเหลืองอ๋อย ริมฝีปากหล่อนพึมพำอะไรสักอย่างฟังไม่ได้ศัพท์


รังสฤษฏ์ส่ายศีรษะแล้วเดินเข้าห้องน้ำไปและกลับมาอีกครั้งเมื่อครึ่งชั่วโมงต่อมา คราวนี้ทั้งโยทะกาทั้งเจ้าหมีพูห์กลิ้งมานอนเอาเสียกลางเตียง รังสฤษฏ์ไม่มีที่นอนเลยทีนี้ พอดันทั้งคนทั้งหมีออกไป สองแรงแข็งขันก็ดันกันเข้ามายึดพื้นที่อีก แถมต่อด้วยแม่หมียังมีแตะเบาๆที่ชายโครงเขาอีกแน่ะ


“ฤทธิ์มากจริงๆ นะโยทะกาขนาดหลับนะเนี่ย”
ชายหนุ่มบ่นอยู่ในใจ การต่อสู้เพื่อยึดพื้นที่นอนของตัวเองดำเนินไปสักพัก
ก่อนที่เขาจะตัดสินใจโยนสิ่งแปลกปลอมบนเตียงออกไป หมีพูห์ตัวเหลืองอ๋อยสวมเสื้อสีแดงจึงไปนอนแอ้งแม้งบนพื้นห้อง


รังสฤษฏ์ทอดกายนอนได้สักที แต่แม่หมีพูห์ที่ขาดความอบอุ่นจากลูกไปแล้ว กลับเบียดกระแซะมาใกล้เขายิ่งขึ้น มือและขามาก่ายกอดร่างเขา อกเล็กๆ ภายใต้เสื้อบังทรงตูมขึ้นมาไรๆ ไม่รู้ว่าโยทะกาจะใส่ทำไมทั้งๆ ที่เขาเห็นหล่อนทุกสัดส่วนอยู่แล้ว หล่อนคงคิดละสิว่าเสื้อในอย่างนี้จะป้องกันเขาได้ รังสฤษฏ์จึงแกล้งถอดเสื้อในโยทะกาออก หล่อนยังหลับไม่รู้เรื่อง...


ชายหนุ่มชักจะรู้อย่างหนึ่งแล้วล่ะว่าโยทะกาเป็นคนขี้เซามากๆ พอถอดเสื้อในออกอะไรที่ควรโผล่ก็โผล่ อกหล่อนเล็กนิดเดียว ...เล็กกว่ามือเขาเสียอีก ไม่รู้จะหวงไปทำไม ไม่ได้เร้าอารมณ์เขาเลย ผู้หญิงที่เขาเคยเจอมานั้นทั้งสวยทั้งเซ็กซี่รังสฤษฏ์ยังไม่ค่อยจะสน แล้วกับเด็กตัวเล็กๆ ผอมๆ นี่นะเหรอ


“แล้วนายเอาหน้าไปซบอกเขาทำไมล่ะ”
ใจร้องร้องถามเมื่อจมูกของเขาไปซบเอาที่ร่องอกไม้กระดานของคนตัวเล็กอย่างลืมตัว
“มันเป็นแค่สัญชาตญาณของผู้ชาย...มันเป็นแค่สัญชาตญาณ”
ใจอีกฝั่งหนึ่งของเขารีบค้านทันที


“มีผู้หญิงนอนอยู่ข้างตัวแถมใส่เสื้อผ้าน่าหวาดเสียว ใจไม่สั่นไหวก็คงจะแปลกเกินไปล่ะ อีกอย่างผู้หญิงคนนี้ก็เคยมีอะไรกับนายนะ”
เสียงภายในใจยั่วเย้า เด็กสาวครางอืออออ้อมแขนบางคว้าหมีตัวใหม่มากอดแนบอก งวดจมูกคุณหมียิ่งกดลึกเข้าไปใหญ่ กลิ่นกายสาวเจือกับกลิ่นแป้งเย็นตรางูทำเอาเขาแทบสำลัก กลิ่นทำให้มัวเมาจนหลงไปจูบยอดปทุมถัน คนนอนหลับหัวเราะคิกคักดันหน้าเขาออก


“อย่านะไอ้หมาบ้า พี่หม่อนช่วยไหมด้วยสิ อย่ามัวแต่หัวเราะ หมามันเลียไหมจนเปียกไปทั้งตัวแล้ว!”
ชื่อพี่ชายหล่อนเป็นดังการคลายมนต์สะกด ชายหนุ่มผละจากร่างนั้นราวกับโดนของร้อน

“อย่าลืมสิ! รังสฤษฏ์พี่ชายของเด็กคนนี้ฆ่าน้องสาวนาย”
เสียงลึกทุ้มต่ำจากก้นบึ้งหัวใจเตือน
“อย่าลืม...”


ใช่! เขาต้องไม่ลืม ปฐมพงษ์ทำอะไรไว้กับชาลิดาเขาต้องทำให้น้องสาวของมันเจ็บเท่านั้น เขาจะพ่ายแพ้ต่อความผูกพันธ์หรือความกำหนัดไม่ได้รังสฤษฏ์นอนหันหลังให้โยทะกา ในใจท่องคำว่าอย่าลืม...อย่าลืมไปแทบทั้งคืน

+++++อีกห้าสิบเปอร์เซ็นต์ที่เหลือ

เช้าวันต่อมาซึ่งเป็นวันเสาร์โยทะกาไม่มีเรียน หล่อนตื่นประมาณเจ็ดโมงเช้า ที่นอนข้างตนเองไร้เงาของรังสฤษฏ์
แต่หล่อนก็พึมพำแช่งชักหักกระดูกเขาเมื่อพบว่าเสื้อชั้นในบังทรงของตนเองถูกถอดออก โยทะการีบเข้าห้องน้ำสำรวจดูร่างกายของตนเองในกระจกทันที
โล่งอก...ไม่มีอะไรบุบสลาย ไร้รอยจูบ หรือแม้แต่รอยล่วงล้ำอะไรบนร่างกาย กระนั้นหล่อนก็คิดว่าเขาผิดอยู่ดีที่จู่มาถอดเสื้อชั้นในออก
การกระทำแบบนี้บ่งบอกถึงเจตนาที่ไม่บริสุทธิ์


แต่แหม ...อีกใจหนึ่งกระแนะกระแหน รังสฤษฏ์เขาก็ไม่เคยทำอะไรบริสุทธิ์ใจกับหล่อนอยู่แล้วนี่ หมอหนุ่มตั้งใจจะทำลายหล่อนอยู่แล้วทั้งกายและใจ
เขาพร่ำกรอกหูถึงแต่ความแค้น ใบหน้าที่ยิ้มสาแก่ใจราวกับคนวิกลจริต
หากเล่าให้ใครฟังจะมีคนเชื่อหล่อนหรือไม่หนอว่าเขามีนิสัยแท้จริงเป็นเช่นนี้ ความดำมืดที่ซ่อนอยู่ในจิตใจขาวสะอาดของผู้มีอาชีพแพทย์
คนอย่างเขาคงสะกดคำว่าอภัยไม่เป็น


เด็กสาวพยายามโทรศัพท์หาเพื่อนเพื่อถามข่าวแต่กลุ่มหล่อนไม่มีใครรับสายกันเลยสักคนเดียว หล่อนจึงทำเหมือนเคยคือส่งข้อความไปหาให้โทร.กลับ
โยทะกาอาบน้ำแต่งตัวเสร็จแล้ว ประมาณสิบนาทีเด็กรับใช้ก็เข้ามาทำความสะอาดห้อง พร้อมกับบอกว่ารังสฤษฏ์เชิญไปทานอาหารเช้า
หล่อนบอกแต่เพียงว่าไม่หิวแล้วเดินลงไปนั่งเล่นที่สวน โดยเอากระดานรองวาดรูป กระดาษ และดินสอไปด้วย
ห่างการวาดรูปมานานโยทะกาอยากจะฝึกมือเสียหน่อย อีกอย่างหล่อนไม่อยากไปทะเลาะกับรังสฤษฏ์บนโต๊ะอาหารให้เสียฤกษ์หรอก
วันนี้โยทะกาใส่กางเกงขาสั้นลายพรางแบบทหารสีกรมท่า เสื้อยืดตัวโคร่งใหญ่สีดำ


หล่อนลองสเก็ตช์รูปต่างๆ ภายในสวนโดยใช้นาฬิกาข้อมือจับเวลาไปด้วย
นี่เป็นสิ่งที่โยทะกาฝึกฝนตนเองในเวลาว่าง เพราะอาจารย์คณะหล่อนมักเตือนนักศึกษาให้ยึดกฎหลักที่สำคัญคือเส้นตายหรือdeadlineในการทำงาน
งานของสถาปนิกคือการรวมความต้องการของลูกค้าและศิลปะที่จับต้องได้เข้าด้วยกัน


ลูกค้าให้งานสถาปนิกมาออกแบบชิ้นหนึ่ง และกำหนดเส้นตายที่จะดูผลงานมาให้ หากสถาปนิกทำช้าหรือคิดงานไม่ออก มีสิทธิ์ที่จะชวดงานสูง
นั่นหมายถึงไม่ได้เงินเดือน บริษัทเสียชื่อ การฝึกตัวเองให้เป็นคนทำงานเร็ว เช่นการสเก็ตช์รูปได้เร็ว คิดอะไรเร็ว ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี


‘ถ้าพวกเธอคิดว่างานสถาปนิกคือการได้ออกแบบอาคารโก้ๆ นั่นเป็นความคิดที่ผิด งานของเราคือการรวมทั้งศาสตร์และศิลป์ที่จะใช้ได้ในชีวิตจริงมาไว้ด้วยกัน
ที่สำคัญงานของเราทำแข่งกับเวลาแล้วก็ตอบโจทก์ของลูกค้าให้ได้ ไม่ว่าเขาจะเป็นอาเฮียขายหมูหรือนักธุรกิจพันล้าน
ถ้าเขาบอกว่าไม่ชอบคำเดียว งานก็เป็นอันชวด’


โยทะกาไม่อยากบอกเลยว่าจนถึงขนาดนี้ หล่อนยังงงๆกับคำว่าspaceอยู่ดี
ที่ทำคะแนนวิชาในคณะได้สูงๆนั้น เวลาทำงานส่งอาจารย์โยทะกาอาศัยสัญชาตญาณล้วนๆว่า มันน่าจะเป็นอย่างนั้น มันน่าจะเป็นอย่างนี้
หล่อนคิดตามประสาคนจนว่าให้งานที่ออกแบบใช้ประโยชน์ได้สูงสุด ส่วนความสวยเป็นเรื่องรองลงมา
เพราะคนจ่ายเงินสร้างตึกก็อยากให้คุ้มค่าเงินแล้วก็สวยเป็นหน้าเป็นตา โดยมากอย่างแรกมักจะมีอิทธิพลมากกว่า


“คุณไหมคะ คุณไหม”
จู่ๆ อรอุมาก็โผล่มาด้านหลัง เล่นเอาคนที่กำลังสเก็ตช์ภาพอยู่มือค้าง
“วันนี้เราจะไปเข้าสปากันนะคะ แล้วช่วงบ่ายจะไปเอาชุด ช่างเขาเร่งงานให้แล้วค่ะว่าจะเสร็จเย็นนี้”
โยทะกาปฏิเสธว่าไม่รู้เรื่องการไปสปา แต่เรื่องรับชุดเพื่อไปงานแซยิดของคุณตารังสฤษฏ์นั้นหล่อนรู้แล้ว


“หมอเอิงไม่ได้บอกคุณไหมเหรอคะ ก็เขาบอกเองนี่ว่าคุณไหมอยากไป”
หล่อนนิ่วหน้าเมื่อได้ยินชื่อคนต้นเรื่อง แต่พอถามถึงเขาก็ได้คำตอบจากอรอุมาเพียง
“หมอเอิงไปโรงพยาบาลแล้วค่ะ วันนี้มีเคสลูกค้าต่างชาติมาปรึกษาเกี่ยวกับเรื่องการย้ายมาที่โรงพยาบาลเรา หมอเอิงคงเข้างานแค่ช่วงบ่าย
ไม่มีงานเอกสารอะไรมาก เขาเลยให้อรมาพาคุณไหมไปสปาค่ะ”


วันนี้ทั้งวันโยทะกาต้องเข้าคอร์สบำรุงผิว อบร่ำบ่มตัว โดยมีอรอุมาประกบติด แม้เด็กสาวจะทำหน้าเบื่อขนาดไหน
เลขาฯคนสวยก็ทำเป็นไม่สนใจ ขับรถพาหล่อนตระเวนไปตามสปา ช่วงกลางวันก็พาเข้าร้านอาหารหรู สอนมารยาทบนโต๊ะอาหาร
แล้วอรอุมาก็ต้องแปลกใจ เมื่อพบว่าโยทะการู้จักมารยาทในการทานอาหารตะวันตกดีกว่าที่คิด


“พี่ชายฉันเขาชอบทำอาหาร ชอบสะสมพวกจานชามแบบฝรั่งสวยๆ วันดีคืนดีก็เอามาใส่อาหารฝรั่งที่ทำเองแล้วบังคับให้ฉันกินด้วย”
ปฐมพงษ์ทำงานอยู่ในคลับชั้นสูง ลูกค้าที่มาใช้งานมีแต่พวกเงินหนา ต้องการบริการที่ดีที่สุด
บางครั้งพี่ชายก็ต้องเป็นคู่ควงออกงานกับลูกค้า เรื่องมารยาททางสังคมจึงจำเป็นมาก เขาจึงพลอยสอนหล่อนไปด้วย


‘ต้องฝึกมารยาทเอาไว้นะไหม สักวันหนึ่งลูกค้าไฮโซเขาจะต้องเชิญไหมไปทานอาหารด้วย แล้วก็แนะนำว่า
...นี่คือสถาปนิกที่ออกแบบตึกสวยๆให้บริษัทเดี้ยนค่ะ’
ประโยคสุดท้ายพี่ชายแกล้งจีบปากจีบคอเลียนเสียงผู้หญิง น้องสาวได้แต่หัวเราะลั่น คิดถึงพี่ชายทีไรโยทะกาน้ำตารื้นทุกที
อรอุมาจึงส่งทิชชู่ให้พร้อมกับปลอบ
“พี่ชายของคุณไหมต้องหายดีแน่นอนค่ะ อย่ากังวลไปเลย”


หลังจากนั้นโยทะกาก็ถูกพาไปร้านทำผม เพื่อจัดการทำทรงผมใหม่ ช่างจัดการซอยผมไล่ผมเป็นเลเยอร์มากขึ้น
อรอุมาอยากให้ทำสีผมเพิ่มแต่โยทะกาไม่ยอมท่าเดียว หล่อนชอบผมสีดำสนิทของตัวเองมากกว่า
ช่างจึงจัดการทำทรีทเม้นท์ผมและอบไอน้ำให้อย่างดี กินเวลาร่วมไปสองชั่วโมง
ร้านสุดท้ายของวันที่พวกหล่อนเข้าไปคือร้านเสื้อที่เพิ่งเข้าไปเมื่อวาน ชุดของโยทะกาแก้ขนาดเสร็จแล้ว


“คุณพี่เร่งให้สุดตัวเลยนะคะคุณน้อง”
ดีไซเนอร์จีบปากจีบคอบอกอรอุมา ขณะที่สไตล์ลิสเอาชุดไปให้คนตัวเล็กลองสวมดู
“ว๊าว...น่ารักจังเลยค่ะคุณไหม”
อรอุมาชมเปาะเมื่อคู่ควงคืนนี้ของเจ้านายตนเองออกมา ชุดที่โยทะกาเลือกและอรอุมาเห็นดีด้วยคือชุดแซกสั้นเหนือเข่ามาหลายคืบสีโอลด์โรส
ที่อกมีดีเทลเป็นชายผ้ายกขึ้นมาคาดทับด้วยริบบิ้นผ้าสีเดียวกัน ตอนที่หล่อนเลือกคิดว่าไม่น่าจะสั้นจนเห็นขาอ่อนขนาดนี้


“สุดยอดค่ะคุณน้อง ผิวสีแทนกับชุดนี้ยิ่งเจิดจรัสเข้าไปใหญ่”
โยทะกาดูตัวเองในกระจก ผู้หญิงที่สะท้อนเงาอยู่ตรงหน้าช่างปราดเปรียว แต่งหน้าบรรจงด้วยเครื่องสำอางชั้นดี ไม่เหลือคราบเด็กแนวเลย
อกหล่อนก็เต่งตูมเซ็กซี่ เพราะฝีมือการโกยและเสื้อชั้นในดันทรงจากการเลือกสรรของอรอุมา


ส่วนเครื่องประดับสไตล์ลิสให้หล่อนใส่ต่างหูห่วงอันใหญ่ซึ่งมีห่วงซ้อนด้านในอีกที
รองเท้าส้นสูงแบบเปลือยเท้าโชว์ให้เห็นเล็บที่ทามาอย่างประณีต ฝีมือการเจ้ากี้เจ้าการของอรอุมาอีกเช่นกัน
ส่วนตัวเลขาฯสาวเองก็ไปเปลี่ยนชุดแล้วเช่นกัน เป็นชุดแซกเกาะอกสีฟ้ามีผ้าลูกไม้คลุมทั้งตัว


“เราจะเข้างานกันเลยนะคะคุณไหม หมอเอิงจะรออยู่ที่งานค่ะ”
อรอุมาบอกขณะที่ทั้งสองเดินไปลานจอดรถของร้านเสื้อ โยทะกาเดินช้าๆอย่างไม่ถนัด ส้นสูงหลายนิ้วจะให้ถนัดอย่างไรไหว
รองเท้าหรูกับผ้าใบคู่เก่งของหล่อนนั้นเป็นคนละเรื่องกันเลย


ระหว่างที่นั่งรถไปกับอรอุมามีสายโทร.เข้าเป็นสายจากช้อนเงิน
หล่อนรีบรับสายเพื่อนแล้วถามรัวเร็วถึงเรื่องที่ไม่เข้าเรียนเมื่อวานนี้ แฝดผู้พี่อึ้งไปครู่ก่อนจะบอกเพียงแต่ว่าไม่มีอะไร ไม่ต้องห่วง แล้วก็ตัดสายไปเลย
โยทะกาจึงลองโทร.หาพัชรพงษ์แต่สายไม่ว่าง ทำไมนะ...หล่อนรำพึงในใจ เพื่อนทุกคนจึงทำท่าเหมือนมีลับลมคมในอะไรกับหล่อน
หรือว่าเรื่องการเป็นผู้หญิงของรังสฤษฏ์นั้นทำให้เพื่อนทุกคนเคืองมาก จนไม่อยากคบ ไม่อยากพูดคุย เด็กสาวหัวเราะขื่น
หากเป็นเช่นนั้นจริงมิตรภาพของเพื่อนหล่อนก็คงบอบบางยิ่งนัก



รถของอรอุมาเลี้ยวเข้าไปในประตูที่ติดกำแพงสูงแห่งหนึ่ง รถแล่นเข้าไปเรื่อยๆ จนถึงลานจอด แม้จะเป็นช่วงหัวค่ำแต่ก็มีรถมากมายเกือบเต็มพื้นที่
มีสายโทรศัพท์เข้าตอนที่อรอุมากำลังเดินคู่กับโยทะกาเข้างาน เลขาฯ สาวขอตัวไปคุยโทรศัพท์ แต่ติดสายนาน
โยทะกาเบื่อจะรอประกอบกับหล่อนไม่อยากจะมางานนี้อยู่แล้ว เด็กสาวจึงเดินเลี่ยงหลบไปทางด้านหนึ่งที่ไม่ใช่ทางเข้างาน
ยิ่งเดินไปเรื่อยๆ ผู้คนที่มางานก็ยิ่งบางตา เสียงดนตรีจากงานเลี้ยงดังมาแว่วๆ


บริเวณที่หล่อนเดินเข้ามาคงจะเป็นสวนเพราะมีต้นไม้ใหญ่หลายต้น กระถางต้นไม้แบบจีนใส่ต้นบอนไซวางอยู่เป็นระยะ
ที่สุดทางเดินเป็นบ้านทรงไทยสีดำสนิทใต้ถุนสูง ทั่วบ้านเปิดไฟไว้สว่างจ้า นานๆทีโยทะกาจะมีโอกาสเห็นบ้านทรงไทยสวยๆ ในกรุงเทพฯ
เลือดนักศึกษาคณะสถาปัตย์จึงร้อนจนอดที่จะรีบเดินเข้าไปดูไม่ได้


“นั่นน่ะเป็นพื้นที่หวงห้ามของเจ้าของบ้านนะครับ คุณอย่าเข้าไปดีกว่า”
เสียงแหบต่ำดังอยู่ใกล้ๆ เมื่อโยทะกาหันขวับไปดูก็พบกับญาติของรังสฤษฏ์ที่ชื่อชานนท์
ชายหนุ่มใส่สูทสีดำสนิทเชิ้ตขาวไม่ผูกเนคไทด์ สวมแว่น ผมเรียบเหมือนเคย
“ถ้าคุณมางานแซยิดของคุณหมอชาญชัยคุณตาผมละก็ เชิญทางนี้ดีกว่าครับ”
เขาเผยมือไปทางงานเลี้ยงด้วยใบหน้ายิ้มๆ


โยทะกาจึงได้แต่ยิ้มเจื่อนให้อย่างลุแก่โทษ
ก่อนที่จะยอมตามกลับเข้างานแต่โดยดี ครู่เดียวเสียงโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้น หล่อนกดรับสาย
“คุณไหม อยู่ไหนคะเนี่ย”
อรอุมาร้อนรนมากที่จู่ๆ คนที่มาด้วยก็หายไปเสียเฉยๆ
“ฉันกำลังกลับเข้างาน ไม่ต้องเป็นห่วงหรอกค่ะ”
แล้วโยทะกาก็กดตัดสายไป รีบสาวเท้าเดินเข้า แต่เพราะไม่ชินกับรองเท้าส้นจึงพลิกร้อนถึงคนที่เดินมาด้วยต้องรีบมาพยุงช่วย


“เป็นอะไรมากหรือเปล่าครับ เจ็บเท้าตรงไหน”
ชานนท์ถามห่วงใย สองแขนยังโอบร่างบางไว้ จนเขาได้กลิ่นของน้ำหอมชั้นดีที่อรอุมาฉีดพรมให้โยทะกา
“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันไม่ค่อยชินกับสั้นสูง”
หล่อนหลุดปากออกไปเสียได้ แต่ก็ช่างเถอะพูดความจริงนี่นา มีผู้หญิงตั้งมากมายที่ไม่ชอบเจ้ารองเท้าประเภทนี้


“ผมคิดว่าไม่ชินน่ะดีล่ะครับ รองเท้าสูงๆมีแต่จะทำให้กระดูกเท้าเสื่อมเร็ว เพราะต้องแบกรับน้ำหนักอย่างผิดหลักสรีระศาสตร์
แถมอาจจะมีปัญหากับหมอนรองกระดูกอีกต่างหาก”
โยทะกาจ้องเขาเขม็ง ชานนท์ช่างพูดจาเต็มไปด้วยวิชาการเหมือนญาติเขาเลย


“ขอโทษครับ ผมอาจจะพูดมากไป บังเอิญผมเป็นหมอกระดูก”
โอ้... โยทะกาเจอแพทย์เฉพาะทางเข้าอีกคนแล้วหรือนี่ รังสฤษฏ์ทางสมอง ชานนท์ทางกระดูก อย่าบอกนะว่า...
“หวังว่าคุณตาของคุณเจ้าของวันเกิดวันนี้ คงไม่ใช่หมอหรอกนะคะ”
เขาปล่อยมือจากหล่อนแล้ว โยทะกาพยายามยืนบนส้นสูงให้มั่นคงอยู่


“บังเอิญใช่ครับ ท่านเป็นสูตินารีแพทย์ ผมยังโดนท่านทำคลอดมาเองกับมือเลย”
ชานนท์บอกเสียงรื่นเริง ตกลงแล้วตระกูลของรังสฤษฏ์นี่คงจะเป็นหมอกันหมด
โยทะกาภาวนาให้คนที่นิสัยร้ายกาจในตระกูลนี้มีแค่รังสฤษฏ์คนเดียว
ไม่เช่นนั้นจะสูญเสียทรัพยากรบุคลากรทางการแพทย์ดีๆ ไปอย่างน่าเสียดาย


“ว่าแต่เราคุยกันมาตั้งนานแล้ว ยังไม่รู้จักชื่อกันเลย ผมชานนท์ครับ คุณล่ะชื่ออะไร”
เขาถามเมื่อเดินเข้ามาเกือบจะถึงบริเวณงานแล้ว เสียงดนตรีดังขึ้นมาเรื่อยๆ ผู้คนที่เดินไปมาในบริเวณนั้นก็เริ่มมากขึ้น
ปรกติชานนท์ไม่ใช่คนเจ้าชู้ แต่กับผู้หญิงคนนี้เขารู้สึกสะดุดใจแปลกๆ


โยทะกาเลิกคิ้วกับคำถาม ชานนท์จำหล่อนไม่ได้เลยหรือยังไง หล่อนก็ว่าหล่อนไม่ได้เปลี่ยนไปมากเลยนะ
เอ...หรือว่าเวทมนตร์ของเครื่องสำอางกับเสื้อผ้าจะมีผลกับเด็กแนวอย่างหล่อนจริงๆ
พลันสายตาโยทะกาก็เห็นสิ่งมีชีวิตสีขาวใส วิ่งไต่ไปบนเส้นผมสีดำสนิทของคุณหมอหนุ่ม
“มีแมงมุมไต่อยู่บนผมของคุณน่ะค่ะ”


สิ้นเสียงหล่อน ใบหน้าของคนตัวสูงกว่าเริ่มซีด ตัวเกร็ง
“ปัดออกเถอะค่ะ มันคงจะเกาะคุณตอนที่เดินมาจากสวน”
“ขุ...คุณช่วยปัดมันออกให้หน่อย”
โยทะกาเลิกคิ้วกับท่าทีที่แปลกไปของเขา


“ผมกลัวแมงมุม!”
ชานนท์สารภาพอย่างไม่อาย เขาเป็นกลัวแมงมุม(Arachnophobia) เพราะว่าตอนเด็กถูกแมงมุมแม่มีพิษกัดที่ขาจนเกือบตาย
พิษของมันและความเจ็บปวดจากแผลที่เหวอะหวะทำให้เขาแขยงสัตว์ประเภทนี้ทุกชนิด


“คุณช่วยผมด้วย”
ชายหนุ่มไม่กล้าขยับตัวเพราะกลัวแมงมุมจะตกใจแล้ววิ่งไปซุกใต้ร่มผ้า จะยิ่งแย่เข้าไปใหญ่ คนถูกขอร้องทำหน้างงแล้วก็อมยิ้ม
ชานนท์กับรังสฤษฏ์นี่เหมือนกันเลย ตัวโตเสียเปล่าแต่กลับกลัวในสิ่งเล็กๆ
“นั่งลงสิคะ ฉันเอื้อมมือไม่ถึง เดี๋ยวจะปัดให้”
เอาเถอะ ช่วยก็ช่วยไหนๆ เขาก็อุตส่าห์ช่วยไม่ให้หล่อนล้มเพราะเจ้าส้นสูงเมื่อครู่ ชานนท์ย่อตัวลงในทันใด
จะเรียกว่าย่อก็ไม่ถูก เรียกว่าคุกเข่าลงดีกว่า ผู้คนที่เดินผ่านไปผ่านมาได้แต่มองอย่างแปลกใจ


“อย่าเพิ่งลุกนะคะ มันมีสองตัว ฉันเพิ่งเอาออกได้แค่ตัวเดียวเอง”
หล่อนรีบบอกเมื่อหยิบเจ้าแมงมุมตัวแรกไปวางบนพุ่มไม้แถวนั้น แต่พอหันกลับมาเจ้าแมงมุมตัวที่สองกลับหายไปจากผมเขาเสียแล้ว


“มันอยู่ในคอเสื้อผม ทางด้านหลัง”
คนกลัวแมงมุมจับขั้วหัวใจรีบบอกเสียงสั่น หน้ายังซีดไม่หาย เด็กสาวชะโงกตัวไปทางด้านหลังเขา นิ้วมือบางสีแทนไล่ไปตามคอเสื้อสูท
หล่อนตัวเล็กนิดเดียวแม้ชานนท์จะนั่งคุกเข่าอยู่ ศีรษะของเขาก็ยังสูงประมาณหน้าอกหล่อน
ก็เพราะประมาณหน้าอกนี่แหละ เวลาโยทะกาหาเจ้าแมงมุมหน้าอกของหล่อนจึงเกือบปะทะอยู่กับใบหน้าของเขา
เรียกว่าห่างกันไม่กี่นิ้ว ชานนท์รู้สึกถึงสถานการณ์หมิ่นเหม่จึงเลื่อนใบหน้าออกเพราะเกรงจะดูไม่ดี


“อย่าขยับสิคุณเดี๋ยวแมงมุมมันก็ไม่ออกหรอก”
โยทะกาที่ตอนนี้สนใจแมงมุมมากกว่าเอ็ดเสียงดุ มือบางดันต้นคอเขาเข้ามาใกล้ตัว
ใกล้จนจมูกชานนท์แทบจะฝังอยู่ในร่องอกที่เป็นไข่ดาวหน่อยๆ เพราะผ่านการ‘โกย’มาแล้ว
“อกจะถึงสามสิบสองหรือเปล่าเนี่ย”
เขาไพล่คิดไปตามประสาผู้ชายทั่วไปซึ่งทะลึ่งหน่อยๆ แม้เวลากลัวสุดขีดเรื่องพวกนี้ก็แว่บขึ้นมาบ้าง


“จับได้แล้ว!”
โยทะกาอุทาน มือข้างหนึ่งหยิบแมงมุมเจ้าปัญหาชูขึ้นมา
ส่วนอีกข้างก็ดันต้นคอคนคุกเข่าอยู่ดันเสียจน... ชานนท์รู้สึกว่าอกของเจ้าหล่อนไม่ถึงสามสิบสองก็ไม่เป็นไร
เพราะความนุ่มนิ่มที่สัมผัสเต็มๆ หน้านั้นผ่าน...


“คุณไหม!”
อรอุมาเรียกดังลั่น น้ำเสียงตกใจมาก ด้านหลังของเลขาฯคนสวยคือคุณหมอหนุ่มที่เดินยิ้มตามมา เพราะยิ้มแค่ปากแต่ตานั้นไม่!
อาการที่ชานนท์เห็นแล้วรู้สึกเย็นยะเยือก เพราะรู้ดีว่าเจ้าตัวกำลังอยู่ในอารมณ์ใด
ชื่อเล่นที่อรอุมาเรียก คุ้นหูและได้ยินมาเมื่อวันก่อน ถ้าเช่นนั้นชื่อวีรสตรีผู้กล้าที่เอาแมงมุมออกให้เขาก็คงจะเป็น...
“โยทะกา”
รังสฤษฏ์เรียกชื่อจริงหล่อนเสียงทุ้มนุ่ม
“ผมมารับคุณแล้วครับ”

++++++++++++





 

Create Date : 26 กรกฎาคม 2552
19 comments
Last Update : 8 สิงหาคม 2552 5:58:01 น.
Counter : 1291 Pageviews.

 

 

โดย: wbj 26 กรกฎาคม 2552 19:27:26 น.  

 

 

โดย: บี๋ (Yushi ) 26 กรกฎาคม 2552 22:06:59 น.  

 

:)

 

โดย: Natee IP: 173.88.223.191 27 กรกฎาคม 2552 4:12:43 น.  

 

คิดถึงหมอเอิงจัง เมื่อไรได้อ่านคะ

 

โดย: เจ้าหญิงหิมะแดง IP: 124.157.230.20 27 กรกฎาคม 2552 18:01:54 น.  

 

พรุ่งนี้ก็จะได้เจอหมอเอิงอีก
ดีใจจัง

 

โดย: maybe IP: 10.19.1.110, 202.28.180.202 6 สิงหาคม 2552 21:32:11 น.  

 

ในที่สุดก็ได้อ่าน หย่าลืมอีก 50% นะคะ

 

โดย: เจ้าหญิงหิมะแดง IP: 124.157.230.209 6 สิงหาคม 2552 21:58:11 น.  

 

ขอโทษ ต้องบอกว่าไหมซวยจริงๆ

 

โดย: พี่หมูน้อย 9 สิงหาคม 2552 21:28:38 น.  

 

Wow!!!! จะมีศึกชิงนางไหมเนี่ย

 

โดย: แสนดีคนในพื้นที่ 15 สิงหาคม 2552 12:43:23 น.  

 

คนเขียนหายไปหนายยยยยย

 

โดย: นกตัวเล็ก IP: 110.164.28.217 7 กันยายน 2552 13:43:17 น.  

 

ไม่ได้แวะเข้ามานาน

โอ้โห ให้ไหมคล้ำขนาดนั้นเลยหรอคะ

ก็เซ็กซี่ดี แต่ไม่คิดว่าจะคล้ำขนาดนี้ ฮ่าๆ

ดูตรงข้ามกับหมอเอิงดีจริงๆ

 

โดย: มังกรเขียวหัวยุ่ง (cruduslife ) 7 ตุลาคม 2552 8:45:56 น.  

 

ไหมมมแย่แล้วงานเข้า...
หมอเอิงของขึ้นแล้ววว ...55+

รักเรื่องนี้จริงเป็นกำลังใจน๊าคะ

 

โดย: แพน IP: 124.122.130.219 14 ตุลาคม 2552 19:47:15 น.  

 

ยังติดภาระกิจอยู่หรือคะไม่ทราบว่าเมื่อไหร่จะกลับมาอ่ะ มีคนคิดถึงมากๆๆๆๆๆค่ะ

 

โดย: คนรอ IP: 110.164.163.170 7 ธันวาคม 2552 20:27:58 น.  

 

รออ่านทุกวันเลยนะคะ สนุกมาก กลับมาเร็วๆนะ คิดถึง

 

โดย: ยู่ยี่ IP: 125.26.214.85 16 ธันวาคม 2552 9:23:37 น.  

 

where are u going i miss u story

 

โดย: fat IP: 219.74.56.119, 220.255.7.111 11 กุมภาพันธ์ 2553 0:31:09 น.  

 

เมื่อไหร่จะมาอัพซักทีหนอ

 

โดย: runnavee IP: 203.144.144.164 15 กุมภาพันธ์ 2553 20:03:30 น.  

 

ชอบอ่านมากๆเลยค่ะ

 

โดย: Lemon Problem IP: 161.200.208.189 26 มีนาคม 2553 0:57:11 น.  

 

รอออออออออออออออออออออออ ต่อไป ใช่มั้ยยยยยยยยยยยยยยยยยย

 

โดย: หนุ่ย IP: 58.137.11.34 13 สิงหาคม 2553 13:15:16 น.  

 

คิดถึงค่ะ เมื่อไหร่จะได้มาอัพต่อละคะ คิดถึงมาก ๆ เลย มาเร็วๆนะคะ

 

โดย: คนรอ IP: 58.8.121.175 2 กันยายน 2553 9:33:26 น.  

 

คงไม่ได้อ่านแล้วสินะ TT

 

โดย: อิง IP: 58.8.153.26 23 กันยายน 2561 12:50:34 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


จโกระ&ลาชา
Location :
สมุทรปราการ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]




Something has come and gone,and that it 's all.


free counters
Friends' blogs
[Add จโกระ&ลาชา's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.