หอมกลิ่นหวาน...และขมของชีวิต
Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2552
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
6 พฤษภาคม 2552
 
All Blogs
 
ความแค้นเป็นดังของหวาน...บทที่ 5 Sleeping with the enemy…โหมโรง



โยทะกาตื่นขึ้นมาในยามเช้า ข้างกายไม่มีร่างของรังสฤษฏ์ ร่างบางเลิกผ้าห่มที่คลุมตัวออก กายเล็กนั้นเปลือยเปล่า หล่อนกลืนก้อนแข็งๆแห่งความอัปยศลงคอ


เมื่อคืนร่างเปลือยของหล่อนปรากฏอยู่ต่อหน้ารังสฤษฏ์
เขาให้หล่อนยืนอยู่กลางห้องนาน…จนหล่อนหนาวยะเยือก
สายตาวาววับที่มองลอดแว่นมานั้นทำให้หล่อนไหวสะท้าน


เสียงเคาะประตูดังขึ้น หล่อนหลบแผล่วไปข้างเตียง หยิบผ้าห่มมาคลุมร่างกาย ชายหนุ่มเปิดประตูคุยกับใครคนหนึ่งสักพักประตูปิดลงพร้อมกับรถเข็นอาหารที่เขาเข็นเข้ามา


“อาหารเย็น ผมไม่ชอบกินอาหารเย็นบนเตียงหรอกนะ”
เขาเข็นรถไปอีกทางหนึ่งที่มีเพียงม่านกั้น โต๊ะทำงานตัวใหญ่ตั้งตระหง่าน
“มาสิครับ”
เสียงทุ้มนุ่มเชิญชวนและเริ่มเปิดอาหาร ชายหนุ่มดัดแปลงโต๊ะทำงานเป็นโต๊ะอาหารอย่างรวดเร็ว


หล่อนเดินลากผ้าห่มคลุมร่างไปด้วย เขาเลิกคิ้วเมื่อเห็นหล่อนอยู่ในสภาพดักแด้


“ผมไม่ชอบให้มีกลิ่นอาหารติดบนผ้าห่ม”
เด็กสาวเม้มปากแล้วจึงเดินไปที่เตียง วางผ้าห่มลงและหยิบเสื้อผ้าของตนเองขึ้นมา


“แล้วผมก็ไม่ได้บอกให้คุณใส่เสื้อผ้าด้วย”
เสียงเขาไล่หลัง หล่อนชะงัก หันไปมองเขาตาเขียว
“ผมยังอยู่ในช่วงตรวจสอบสินค้าอยู่นะครับ เชิญทานอาหารเย็น”


“คุณคงไม่อยากทานอาหารเย็นกับชีเปลือยหรอกจริงใหม”
หล่อนแขวะ ชายหนุ่มหัวเราะเบาๆ จัดจานอาหารไปเรื่อยๆ


“ผมไม่เห็นมีชีเปลือยสักคน ผมเห็นแต่สุภาพสตรีที่ทรงเสน่ห์ เหมือนรูปภาพผู้หญิงกับนกแก้ว”
เขาหมายถึง*ภาพผู้หญิงกับนกแก้ว( Woman with a parrot) ของ Gustave Courbet


“คุณมันวิปริต ฉันรูปร่างเหมือนเด็กออกอย่างนี้ คุณเป็นโลลิคอนหรือยังไง”
หล่อนเดินมาเผชิญหน้ากับเขา ยางอายรู้สึกว่าเหลือน้อยลงทุกที


“ถ้าคุณหมายถึงโลลิต้าคอมเพล็กล่ะก็ ผมว่าผมไม่นะ แต่บางทีมันอาจจะน่าสนใจก็ได้”
เขาผายมือไปที่เก้าอี้อีกตัวเป็นสัญญาณให้หล่อนนั่ง เด็กสาวจึงนั่งทั้งที่ร่างกายยังเปลือยเปล่า


ดวงตากลมโตมองประเมินคนตรงหน้า หล่อนเดาไม่ออกว่าเขาจะเอาอย่างไรกับหล่อน จะทำอะไรก็ไม่ทำ
ชายหนุ่มเหมือนแมวที่กำลังยอกล้อกับหนูซึ่งเป็นเหยื่อผู้โชคร้าย


“กินผักเสียบ้างสิ คุณเขี่ยผักทิ้งอีกแล้วนะ”
รังสฤษฏ์สังเกตพฤติกรรมการกินอาหารของคนตรงหน้ามาสองครั้งแล้ว หล่อนมักจะเอาผักทิ้งไปหมด
คราวแซนวิชนั่นก็เหมือนกัน


แม้ว่าเขาจะเลวร้ายกับหล่อนอย่างไรแต่ความเคยชินในอาชีพแพทย์ก็ยังหลุดออกมาบ้าง คนโดนว่านิ่วหน้าแต่กระนั้นก็ยังเขี่ยผักทิ้งเหมือนเดิม ชายหนุ่มหรี่ตามองร่างเล็กแล้วก็ละเลียดทานอาหารเย็นต่อ โต๊ะอาหารเงียบสงบได้ยินเพียงเสียงช้อนส้อมกระทบกัน
เด็กสาวถอนหายใจยาวเขี่ยอาหารในจานเล่น


“เวลาคนเราถอนหายใจนี่อกจะกระเพื่อม เซ็กซี่ดีนะ โดยเฉพาะผู้หญิง”
เขาเปรยลอยๆเล่นเอาหล่อนทิ้งช้อนรีบเอามือมาปิดหน้าอก


“โรคจิต คุณเห็นคนหุ่นอย่างฉันแล้วยังเกิดอารมณ์อยู่อีกเหรอ”
โยทะกาหน้าแดง หล่อนรู้ว่าตนเองไม่ใช่คนสวย รูปร่างผอมบาง หุ่นเหมือนเด็กๆ เพื่อนร่วมคณะแซวบ่อยๆว่าหล่อนข้ามฝั่งผิดมาเรียนจากฝั่งเด็กประถม


“ผู้หญิงทุกคนมีเสน่ห์เป็นของตัวเอง เอาล่ะ...ถ้าคุณอิ่มแล้วก็ไป ล้างหน้าแปรงฟัน
อาบน้ำแล้วไปนอนรอผมที่เตียง”
ชายหนุ่มบอกทั้งที่ตาของเขายังจับจ้องอาหารอยู่ เด็กสาวกลืนน้ำลายอย่างฝืดเฝือ


นี่สินะ…สิ่งที่จะต้องเกิดขึ้นในอนาคต หล่อนอยากจะร้องไห้เหลือเกินแต่ร้องไม่ออก
“ผ้าเช็ดตัวคุณใช้อันที่ผมวางไว้ให้บนอ่างล้างหน้าได้เลย แล้วผมจะรอนะครับ”
เขาหันมายิ้มให้ ยิ้มจนตาหยี แต่หล่อนเห็นเป็นยิ้มของตัวโจ๊กเกอร์วิกลจริตมากกว่า


หลังอาบน้ำเช็ดตัวเสร็จ ห้องนอนไม่ปรากฏเงารังสฤษฏ์ หล่อนได้ยินเสียงสวบสวบจากอีกทางด้านหนึ่งของม่าน
ห้องทำงานของเขา


โยทะกาซุกร่างเปลือยเปล่าลงในผ้าห่ม ถาวนาขอให้คืนนี้ผ่านไปโดยเร็ว
“เพื่อพี่หม่อน เพื่อพี่หม่อน”
หล่อนท่องไว้ในใจ เวลาผ่านไป นาที สามสิบนาที ชั่วโมง สองชั่วโมง แต่ทว่าคนหลังม่านก็ไม่ออกมาซักที


ดวงตากลมโตของหล่อนเริ่มจะหรี่ลงเพราะง่วงงุน เด็กสาวไม่ยอมแพ้พยายามเรียกสติตนเองไว้อยู่
จนฝืนความเมื่อยล้าไม่ไหวหลับไปในที่สุด รังสฤษฏ์มองดูภาพร่างบางหลับอุตุจากหน้าจอโน้ตบุค


โยทะกาคงไม่รู้ว่าหลายห้องในบ้านนี้ติดกล้องวงจรปิดไว้ เขาเห็นพฤติกรรมหล่อนบนเตียงตลอด
ความหวาดกลัว ความกระวนกระวายเช่นนั้นแหละที่เขาอยากให้หล่อนเป็น


การทำร้ายร่างกายใครสักคนหนึ่งมันง่ายเกินไป ที่เขาอยากเห็นคือความย่อยยับทางจิตใจ
หมดศักดิ์ศรี อดสู ความเครียดสะสมที่จะทำร้ายจิตใจ กัดกร่อนจนร่างกายอ่อนล้า


แม้ใจเขาจะเต้นแปลกๆไปบ้างตอนที่เห็นร่างเล็กนั้นเปลือยเปล่า ชายหนุ่มรู้ว่าเป็นเพียงสัญชาตญาณการสืบพันธุ์ของเพศชาย แม้ว่าอย่างไรหล่อนก็เป็นผู้หญิง เขาขอแค่ระบายความเจ็บปวดจากการสูญเสีย
ความสิ้นหวังที่ตัวเองเหลือเพียงคนเดียวในโลกเพียงเท่านั้น


… ความเกรี้ยวกราด จุดมืดบอดในหัวใจของแพทย์ตัวอย่างที่ดีงาม
แม้จะรู้ว่าผิดแต่เขาขอเพียงเวลานี้เท่านั้น ขอให้หล่อนอยู่ใกล้
รองรับโฉมหน้าด้านมืดของเขา
รองรับส่วนด้อยในสายเลือดที่ไม่สมบรูณ์แบบ
จนกว่าเขาจะเรียกรังสฤษฏ์คนเดิมกลับคืนมาได้


โยทะกายกมือปิดต้นคอตนเองแล้วก็อ้าปากค้าง กระจกเงาในห้องน้ำยามเช้าสะท้อนภาพหล่อนและรอยจูบ
…ช้ำแดงทั่วบริเวณลำคอจนถึงหน้าอก รังสฤษฏ์!
หล่อนนึกถึงใบหน้าขาวๆนั้นขึ้นมาทันที เขาลักหลับหล่อน!


โยทะการีบเอาสบู่มาถูซอกคอตนเองในทันใด
ขยะแขยงขนลุกเกรียว เลว...เขาช่างเลวที่สุด เมื่อหล่อนเอาผ้าเช็ดตัวพันกายออกมาจากห้องน้ำก็พบกับคนรับใช้ยืนอยู่ข้างเตียง


“เสื้อผ้าของคุณซักเรียบร้อยแล้วนะคะ”
คนรับใช้วางชุดนักศึกษาหล่อนไว้บนเตียง เด็กสาวทำสีหน้าไม่ถูก ไม่กล้าสบสายตานิ่งสงบของหญิงรับใช้คนนี้เลย


“อาหารเตรียมเสร็จแล้วนะคะ คุณลงไปทานได้เลยค่ะ”
“ขอบคุณค่ะ แล้วเอ่อ...หมอเอิงละคะ”
หญิงคนนั้นยิ้มละไม
“คุณเอิงอยู่ที่สวนค่ะ”


เมื่อแรกที่หล่อนเข้ามาในบ้านหลังนี้ เด็กสาวไม่ได้สังเกตถึงความใหญ่โตของตัวบ้านเลย บริเวณกว้างขวาง สนามหญ้าสีเขียว คนรับใช้มากมาย


“คุณเอิงอยู่ที่เรือนกล้วยไม้ครับ”
คนสวนบอกเมื่อโยทะกาเอ่ยถาม มือคล้ำแดดผายไปที่เรือนไม้หลังหนึ่ง สภาพภายในเป็นฝ้า ร่างบางในชุดนักศึกษาก้าวเข้าไป พลันก็ได้ยินเสียงพึมพำ สลับกับเสียงผิวปาก


“ขอโทษทีนะที่ไม่มีเวลามาดูเลย เธอออกดอกได้สวยมากจ้ะ”
เสียงรังสฤษฏ์กำลังพูดคุยกับใครบางคนอยู่ ร่างบางเหลียวซ้ายแลขวาทั้งเรือนกล้วยไม้มีแค่เขากับหล่อนเพียงสองคนเท่านั้นนะ
“ชอบปุ๋ยที่ใส่ให้ใหม่ไหม? หรือว่าจะเอาสูตรใหม่”
ร่างสูงพูดเสียงนุ่ม มือขาวสะอาดลูบไล้ดอกกล้วยไม้สีชมพู


“โตเร็วๆนะ”
หมอหนุ่มยิ้มอ่อนโยนกับดอกกล้วยไม้ ในความคิดหล่อนคนที่พูดคุยกับต้นไม้นั้นไม่ได้ผิดปรกติ
แต่สำหรับภาพตรงหน้านี้ทำเอาเด็กสาวสยองพิลึก รังสฤษฏ์เป็นหมอโรคจิตจริงๆนะหรือ


เขาอารมณ์แปรปรวน ตีสองหน้า ไล่ต้อนหล่อนมาตลอด ทีอย่างนี้ล่ะก็มาทำใจดีพูดคุยกระหนุงกระหนิงกับต้นไม้ คนปรกติกลายเป็นคนบ้า หมอก็เป็นบ้าได้เหมือนกันเพราะหมอก็คือคน


“อรุณสวัสดิ์ครับ แอบฟังคนอื่นมันไม่ดี พี่ชายคุณไม่ได้สอนมาเหรอ”
ร่างสูงหันมาทางหล่อน เขาอยู่ในชุดกางเกงแพรจีนเสื้อคอป่าน ชายหนุ่มในยามเช้าไม่ได้ใส่แว่น
ผมยุ่งเล็กน้อย โยทะกาเม้มปาก เขาจะว่าหล่อนเด็กสาวไม่ถือ แต่ถ้าว่าพี่ชายล่ะก็...หล่อนยอมไม่ได้


“สอน...แต่มารยาทดีๆฉันเอาไว้ใช้เวลาจำเป็น อีกอย่างพี่ชายฉันก็ไม่ได้สอนเหมือนกันว่ามีผู้ชายเลวๆรังแกผู้หญิงตอนหลับ”
ถ้อยคำนั้นโบราณสุดกู่ หล่อนยังหน้าบางไม่กล้าพูดว่าลักหลับหรือมีเซ็กส์


รังสฤษฏ์หัวเราะในลำคอ ขณะที่อีกคนมองเขาอย่างเจ็บแค้น เมื่อคืนหล่อนนอนดิ้นกว่าที่คิด
กลิ้งไปกลิ้งมาตลอด ชายหนุ่มชินกับการนอนคนเดียวมาตั้งแต่เด็ก เมื่อมีอีกคนมานอนข้างจึงเกิดอาการนอนไม่หลับ


แม้คนๆนั้นจะมีรูปร่างไม่ต่างกับเด็กก็ไม่ปาน แต่การเสียดสีเนื้อแนบเนื้อ อือออในลำคอตลอด มันรบกวนจิตใจของเขา โดยเฉพาะเวลาที่หล่อนพึมพำ
‘พี่หม่อน พี่หม่อน’


ชายหนุ่มลุกขึ้นนิ่วหน้ามองคนตัวเล็กที่หลับอยู่ เขาบอกว่าจะทำลายหล่อนก็จริงอยู่หรอก
แต่ยังไม่ใช่เวลานี้ รังสฤษฏ์จึงจัดการลงโทษสาเหตุที่ทำให้เขานอนไม่หลับด้วยการจุมพิต


ผิวขาวๆร่างบางๆทำให้เขาแกล้งเพลินจนเกือบเลยเถิด
เจ้าผู้ชายขายตัวนั่น…มันเลี้ยงน้องสาวมายังไงนะ
ขนาดโดนผู้ชายรุกรานขนาดนี้แล้วยังไม่ตื่น ถ้าไม่ซื่อจนเซ่อเขาก็คิดว่าต้องมารยาจัดแน่นอน
…แล้วคนตรงหน้านี่เล่า


“ผมแค่ทำเครื่องหมายไว้เท่านั้น เห็นคุณหัวเราะคิกคักชอบอยู่นี่”
เขาตอบหน้าตาย เด็กสาวใบหน้าร้อนผ่าว เมื่อคืนหล่อนไม่รู้สึกอะไรเลยสักนิด ฝันว่าไปเดินจตุจักรกับพี่ชายแล้วเผลอไปเล่นกับหมาขนนุ่ม


“ฉันเปล่า...”
โยทะกาแวดเสียงสูง รังสฤษฏ์เข้ามาดึงมือหล่อนออกไปพร้อมกัน
“ไปทานข้าวเช้ากันเดี๋ยวผมไปส่งที่มหาวิทยาลัย”


“แกเคยได้ยินประโยคนี้ไหม”
หล่อนถามเพื่อนสาวเฉกเช่นพัชรพงษ์ขึ้นมาลอยๆ เพื่อนเลิกคิ้วแต่พองามด้วยกลัวกลายเป็นกระเทยแก่ก่อนวัย
“Sleeping with the enemy”


“อ๋อ! หนังสงครามผัวเมีย”
เพื่อนเปรยเบาๆ
“ทำไม ทีนี้แกไปเจออะไรมาอีกล่ะ”


“เปล่าแค่ลองถามดู”
หล่อนยักไหล่ คำพูดนี้ช่างตรงกับชีวิตหล่อนเสียเหลือเกิน วันนี้โยทะกานั่งรถยนต์คันใหญ่มากับรังสฤษฏ์ โชคดีที่ไม่มีคนรู้จักมาพบหล่อนมิฉะนั้นอาจจะต้องอธิบายยาว


“ ว่าแต่อาการพี่หม่อนเป็นยังไงบ้างล่ะ “
เพื่อนถามด้วยความห่วงใย หล่อนยิ้มเพียงบางๆและตอบว่าไม่เป็นไร


โยทะการู้สึกเช่นนั้นจริงๆเวลาอยู่ใกล้รังสฤษฏ์ เขาเป็นประเภทที่สามารถฆ่าคนด้วยรอยยิ้มได้ ต่อหน้าทุกคนเขาแสดงตัวเป็นคนดีมีคุณธรรม แต่ลับหลังแล้วเขาจ้องจะดับลมหายใจปฐมพงษ์และทำลายหล่อนตลอดเวลา


“ว่ายังไงสาวๆไปเรียนกันเถอะเดี๋ยวอาจารย์ก็เม้งหรอก” “
จิรัฐิติกาลเพื่อนหนุ่มอีกคนเดินมาพร้อมกับปณต พัชรพงษ์แกล้งลุกขึ้นมาซบแขนชายหนุ่ม
เขาหัวเราะทำท่าแหยงๆแต่ก็ไม่ได้ถืออะไร


“ไหม เรามีบัตรส่วนลดร้านบะหมี่ที่ไหมชอบกินด้วยล่ะ เดี๋ยวไปกินด้วยกันไหม เราเลี้ยง”
“ไม่หรอกจีน”
ร่างบางส่ายศรีษะพร้อมกับเอ่ยชื่อเล่นเพื่อน
“พักนี้เราไมค่อยหิว โทษทีนะ”


พัชรพงษ์กับปณตมองตากัน ต่างคนต่างนึกสงสารหนุ่มตี๋รูปหล่อพ่อรวยเสียเหลือเกิน
จะรุกจะจีบสาวรึ…ก็กล้าๆกลัวๆ โอกาสตอนนี้เปิดแล้ว เพราะปฐมพงษ์ป่วยอยู่


ทุกคนรอบข้างโยทะการู้กันหมดยกเว้นเจ้าตัว ว่าพี่ชายนั้นหวงน้องสาวตัวเล็กขนาดไหน
แม้ปากจะชอบค่อนขอดเรื่องความตัวเล็กหน้าเด็ก ตูดปอด อกแฟ่บ ของน้องสาวขนาดไหน
แต่ก็แทบไม่มีชายผู้คนไหนเข้าใกล้โยทะกาได้เลย


“มานี่สิ ผมจะพาคุณไปดูอะไร”
รังสฤษฏ์เข้ามาหาหล่อนเมื่อเด็กสาวมาเยี่ยมพี่ชาย
“เกี่ยวกับการรักษาพี่หม่อนหรือเปล่า ถ้าเปล่า ฉันไม่ไป”
แม้หล่อนจะดักคอไว้เช่นนั้นแต่เขาก็ฉุดมือผอมบางไปจนได้
“เกี่ยวสิครับ มากเลยด้วย”


ร่างสูงจูงมือหล่อนไปตามทางเดินยาว แอร์เย็นเฉียบ แสงสว่างจ้า กลิ่นน้ำยาฆ่าเชื้อลอยคละคลุ้ง
ห้องนั้นเป็นห้องใหญ่มีล็อคเกอร์ติดป้ายอยู่ โยทะกากลืนน้ำลายอย่างฝืดเผือ บรรยากาศในห้องนี้แปลกๆ
เจือความพิศวงจนขนลุกซู่


ชายหนุ่มเลื่อนล็อคเกอร์หนึ่งออก กระตุกให้หล่อนมาเผชิญกับสิ่งที่อยู่ในล็อคเกอร์
“ผมขอแนะนำให้คุณรู้จักน้องสาวผม สอง...ชาลิดา”


ร่างนั้นเป็นสีเทาขาวซีด แต่ยังมีเค้าความสวยอยู่มาก จมูกอุดด้วยสำลี กลิ่นบางอย่างคละคลุ้ง กลิ่นศพ!
โยทะกาปัดมือจากเขาวิ่งเตลิดออกไปนอกห้อง หนี!...หล่อนต้องหนี ภาพศพของชาลิดายังตามมาหลอกหลอน


หล่อนมองเห็นร่างนั้นชิดใกล้จนแทบจะเห็นอาการแย้มยิ้ม รังสฤษฏ์! เขาวิกลจริตไปแล้ว
“เคร้ง”
หล่อนชนเข้ากับรถเข็นอุปกรณ์พยาบาล กรรไกรวาววับมาปักที่ขาผอมบาง เสียงวี๊ดว้ายดังไปทั่วบริเวณพร้อมอาการแปล๊บที่ส่วนล่าง โยทะกาเห็นเสื้อกาวน์สีขาวของหมอไหวๆก่อนที่สติจะดับไป


ในฝันหล่อนเห็นชาลิดาและปฐมพงษ์นั่งรถไปด้วยกัน
“สองขอโทษคุณหม่อน สองขอโทษ”
ใบหน้างดงามนั้นปริ่มน้ำตาพี่ชายหล่อนมือหนึ่งขับรถ ส่วนอีกมือหนึ่งโอบกอดปลอบคนข้างกาย
“ไม่เป็นไรหรอกครับคุณสอง ไม่เป็นไร”


รถแล่นด้วยความเร็ว มีรถเสียหลักสวนมา พี่ชายหักหลบ แสงไฟวูบเข้ามา รถคันใหญ่มาอยู่ตรงหน้า!
เสียงตูมดังชัดในความรู้สึก เด็กสาวรู้สึกราวกับว่าร่างกายอัดยับ เกร็งไปตามแรงกระแทก ความเจ็บปวดในความฝันส่งผ่านมายังเนื้อกายหล่อน


“พี่หม่อน คุณสอง”
ร่างบางพึมพำทะลึ่งพรวดจากเตียง แสงไฟสว่างจ้า เหลียวมองโดยรอบ ห้องที่หล่อนนอนเมื่อคืน
ห้องของรังสฤษฏ์! หล่อนชาบริเวณขา ผ้าพันแผลสีขาวพันแน่นอยู่
เจ้าของห้องเดินมาจากม่านสีทึบใบหน้านิ่งเฉย โยทะกาเตรียมกระเถิบถอยหนี


“คุณนี่ วิ่งไม่ดูตาม้าตาเรือ เพิ่มงานให้โรงพยาบาลของผมจนได้”
เขามานั่งที่เตียงข้างๆหล่อน ชุดที่สวมอยู่ของเด็กสาวยังเป็นชุดนักศึกษา


“ฉันจะกลับบ้าน”
หล่อนบอกเสียงลอดไรฟัน ไม่อยากอยู่กับคนแสนชั่วร้ายอย่างเขาสักวินาทีเดียว ร่างสูงหัวเราะหึๆ
“คุณขาเจ็บนะ เดินไม่ไหวหรอก”


“ต่อให้ต้องคลานไป ฉันก็จะกลับบ้าน คุณแค่ซื้อฉันเป็นผู้หญิงชั่วคราว ฉันมีสิทธิ์จะนอนที่ไหนก็ได้”
ปากพูดไปแต่ขาก็ยังเจ็บแปลบ ไม่หรอก…หล่อนจะไม่แสดงความอ่อนแอให้เขาเห็น


“เห็นจะไม่ได้หรอกครับ”
เขาโคลงศรีษะ แล้วหันไปรูดม่านสีดำกั้นระหว่างห้องนอนและห้องทำงานออก สิ่งหนึ่งปรากฏต่อหน้าสายตา
โต๊ะเขียนแบบของหล่อน! หนังสือ แม้กระทั่งกระบองเพชรในห้องที่คอนโด


“ผมเป็นหมอนะครับ จรรยาบรรณแพทย์คงจะปล่อยให้คนเจ็บอยู่ตามลำพังไม่ได้ เพราะฉะนั้นเราจะอยู่ด้วยกัน”
ชายหนุ่มยิ้มจนตาหยี แต่โยทะกากลับเห็นว่ารอยยิ้มของเขานั้นฉีกไปถึงใบหู รอยยิ้มของปีศาจร้าย…


+++++++จบบทที่5


* ภาพผู้หญิงกับนกแก้ว( Woman with a parrot) ของ Gustave Courbet วาดขึ้นในปี 1866
Creditภาพ: //www.listedartistsgallery.com/images/gustav_courbet_woman_with_parrot_rah1.jpg



Create Date : 06 พฤษภาคม 2552
Last Update : 6 พฤษภาคม 2552 2:53:27 น. 1 comments
Counter : 330 Pageviews.

 
สนุกมากเลยค่ะ . พระเอกแอบจิต สาสรานางเอกจังเลย


โดย: แช่ะๆ IP: 124.120.57.177 วันที่: 13 ตุลาคม 2552 เวลา:21:01:05 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

จโกระ&ลาชา
Location :
สมุทรปราการ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]




Something has come and gone,and that it 's all.


free counters
Friends' blogs
[Add จโกระ&ลาชา's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.