หอมกลิ่นหวาน...และขมของชีวิต
Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2552
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
6 พฤษภาคม 2552
 
All Blogs
 
ความแค้นเป็นดังของหวาน...บทที่ 6 Sleeping with the enemy…กลางคืน



คนรับใช้นำรถเข็นใส่อาหารค่ำมาเสริฟถึงห้อง รังสฤษฏ์อุ้มหล่อนตัวลอยหวือมาที่โต๊ะทำงานซึ่งแปรสภาพเป็นโต๊ะอาหารอีกคราว อาหารวันนี้เป็นแกงเผ็ดเป็ดย่างสีแดงจัดจ้าน โยทะกาเห็นแล้วนึกถึงเลือดที่ไหลออกจากแผลตนเองขึ้นมาครามครัน ไข่เจียวฟูนุ่มและผัดผัก


ทั้งสองทานอาหารเย็นอย่างเงียบงัน เด็กสาวกำลังคิดว่าตนเองตกอยู่ในกับดักอันใหญ่เสียแล้ว รังสฤษฏ์ไล่ต้อนหล่อนราวกับลูกไก่ในกำมือ เขาคงต้องการให้หล่อนกดดันจนกลายเป็นบ้า จะทำอย่างไรดีกับการใช้ชีวิตอยู่กับคนวิกลจริตเช่นเขา


“อาหารไม่อร่อยหรือยังไงครับ”
เสียงทุ้มนุ่มถามอย่างสุภาพเมื่อเห็นหล่อนเขี่ยข้าวในจานไปมา
“คุณเสียเลือดไปมากจากแผล ควรจะกินอะไรสักหน่อยนะ”
คำพูดเหมือนหวังดีแต่มีแววเยาะ หล่อนเลื่อนจานออกไปเบาๆเป็นสัญลักษณ์ว่าอิ่มแล้ว เขาจึงอุ้มหล่อนกลับไปวางที่เตียง


“ไม่มีไม้ค้ำเหรอ คุณคงไม่อยากคอยอุ้มฉันที่ขาเจ็บไปโน่นมานี่ตลอดเวลาหรอกจริงใหม”
ชายหนุ่มยิ้มเย็นกับคำพูดนั้น สายตาคมกล้ามองลอดแว่นไปที่ร่างบาง


“ผมว่าดีออก ผู้ชายทุกคนชอบเข้าใกล้ของนุ่มนิ่มละเอียดอ่อน โดยเฉพาะผู้หญิง”
เขาหัวเราะหึๆขณะที่หล่อนเม้มปากไม่พอใจ รังสฤษฏ์สมเป็นหมอจริงๆ พวกคนเก่ง ฉลาด พิลึก...


ชายหนุ่มเดินไปที่ตู้เสื้อผ้าค้นอะไรกุกกักก่อนที่จะกลับมาพร้อมกับเสื้อผ้าชุดหนึ่ง ชุดแซกสั้นลายดอกไม้ที่ปฐมพงษ์เคยซื้อให้


“คืนนี้คุณใส่ชุดนี้นอน เดี๋ยวผมจะเช็ดตัวให้ ผมไม่ชอบนอนกับคนที่เนื้อตัวไม่สะอาด”
หล่อนอ้าปากค้าง ...เช็ดตัว ...นอน ...ชุดแซก


“ฉันทำเองได้ ฉันมีชุดนอนอยู่ ถ้าคุณไปเอาของฉันมาหมดแล้วก็น่าจะเห็นชุดนอนฉันสิ”
หล่อนหมายถึงกางเกงบ็อกเซอร์และเสื้อกล้ามผู้ชายที่หล่อนใส่นอนประจำ ของพวกนี้หล่อนมักไปซื้อพร้อมพี่ชายเพราะใส่แล้วสบายดี


“คุณใส่กางเกงนอนไม่ได้หรอกนะครับในสภาพอย่างนั้น”
เขาปรายตาไปที่ขาเล็กพันด้วยผ้าพันแผลสีขาว


“ใส่ชุดแบบที่ไม่มีขาจะดีกว่า”
“แต่ชุดนั่นมัน...”
หล่อนยั้งปากไว้ก่อนแต่ดูเหมือนคนตรงหน้าจะรู้ทันเสียแล้ว


“เสื้อผ้าทุกตัวมันก็ต้องเน่าเปื่อยไปตามกาลเวลา หรือไม่ก็ขาดวิ่น เราต้องทำใจ”
เขาหัวเราะหึๆ เดาถูกจริงๆว่าเสื้อผ้าที่หวานแว๋วสมเป็นผู้หญิงคนซื้อให้จะต้องเป็นพี่ชายของหล่อน เสื้อผ้าตัวที่ขัดกับบุคลิกของคนใส่อย่างแรง
“หรือคุณไม่อยากใส่เสื้อผ้านอน ผมก็ไม่ว่านะ”


หล่อนมองเขาตาเขียว นึกแช่งชักหักกระดูกเขาไปสารพัด ต้นเหตุที่หล่อนขาเจ็บก็เพราะเขา และต้นเหตุที่หล่อนต้องระเห็จมาอยู่ที่นี่ก็เพราะเขาอีกนั่นแหละ รังสฤษฏ์เดินลับหายไปทางห้องน้ำก่อนที่จะกลับมาพร้อมกับกาละมังพลาสติกสีทึม บนปากกาละมังมีผ้าสีขาวพาดอยู่


“ยังไม่เปลี่ยนเสื้อผ้าอีกเหรอ”
เขาเอียงคอถามอยู่ข้างเตียง
“หรือว่ารอให้ผมถอดให้”
โยทะกาหน้าร้อนผ่าวเมื่อคิดถึงเรื่องการเช็ดตัว ชายหนุ่มวางกาละมังเช็ดตัวที่มุมหนึ่งของห้อง มือใหญ่ขาวสะอาดเอื้อมมาเชยคางหล่อนขึ้น


“การไม่ตอบรับผมถือว่าไม่ปฏิเสธ”
มือของเขาเริ่มแกะกระดุมเสื้อนักศึกษา เด็กสาวรีบปัดป้องเป็นพัลวัน
“ฉันทำของฉันเองได้ คุณไม่ต้องมายุ่ง”
แต่กระนั้นมือใหญ่ก็ยังวนเวียนอยู่ใกล้กระดุมเสื้อหล่อน


“ทำไมล่ะครับ ตอนนี้คุณเป็นคนป่วยนะ”
ป่วยเพราะเขาเป็นสาเหตุทั้งหมดน่ะสิ...เด็กสาวเข่นเขี้ยวอยู่ในใจ


“ฉันจะเช็ดตัวเอง ฉันพอทำได้คุณไม่ต้องยุ่งหรอก”
ร่างบางดักคอเช่นนั้นเมื่อตอนกำลังแกะกระดุมเสื้อเม็ดที่สาม ทันใดนั้นชายหนุ่มก็อุ้มหล่อนลอยหวือเข้าไปในห้องน้ำ


“ผมว่าผมเช็ดตัวคุณในห้องน้ำเองเลยดีกว่า ขืนให้คุณทำ คืนนี้คงไม่เสร็จ แค่แกะกระดุมไม่กี่เม็ดยังช้า”
หล่อนดันอกเขาหนี ยางอายของผู้หญิงทำให้หน้าเป็นสีเลือดฝาด
แม้ว่าโยทะกาจะตกลงเป็นของเขา แต่มันยังไม่ใช่เวลานี้...


“เขาว่ากันว่าผู้หญิงยิ่งขัดขืนยิ่งทำให้ผู้ชายมีอารมณ์ คุณจะลองพิสูจน์ไหม”
เสียงทุ้มนั้นมากระซิบข้างหู ก่อนที่จะวางหล่อนลงที่ขอบอ่างอาบน้ำ


“เลือกมาว่าคุณจะถอดเสื้อผ้าเอง หรือให้ผมถอดให้”
เขายืดกายขึ้นเต็มความสูง ตระหง่านค้ำศรีษะหล่อน
“เร็วสิครับ ผมไม่ชอบรอนาน”
หล่อนเม้มปากอย่างขัดเคือง คิดอดสูตัวเองที่ต้องมาเผชิญกับสถานการณ์กระอักกระอ่วนเช่นนี้ มือใหญ่ของเขาเอื้อมเขามาใกล้ เด็กสาวตวาดแว้ด


“ไม่ต้อง ฉันทำเองได้”
โยทะกามองหน้าเขาด้วยดวงตาที่แข็งกร้าว ก็ยังดี…ที่เขายังให้หล่อนเป็นคนปลดเปลื้องเสื้อผ้าตัวเองออก
อย่างน้อยก็มีศักดิ์ศรีว่าตนเองเลือกเอง ร่างบางเล็กขาวโพลนไร้อาภรณ์ใดปกปิดจนแทบจะกลืนไปกับอ่างอาบน้ำ


เด็กสาวสะดุ้งวาบเมื่อความอุ่นของน้ำกระทบกายผ่านผ้าผืนใหญ่ รังสฤษฏ์เช็ดตัวหล่อนไปเรื่อยๆสีหน้านิ่งเฉย เขาเป็นหมอนี่นา...คงจะชินกับการเปลือยเปล่าของคนไข้


แต่บางครั้งยามร่างสูงโปร่งเข้ามาใกล้โยทะการู้สึกเหมือนได้กลิ่นบางอย่างเจือกับความร้อนของลมหายใจ ชายหนุ่มบิดผ้าลงในกาละมังก่อนที่จะชุบลงไปใหม่ เป้าหมายแต่ไปคือเช็ดหน้าอกเล็ก


“ฉันทำเองได้”
หล่อนรีบปฏิเสธ รีบกอดอกบังปทุมถันคู่เล็กเอาไว้
“ผมบอกว่าจะเช็ดตัวให้นะครับ ผมรับผิดชอบงานที่ตัวเองทำเสมอ”
เสียงนั้นมีแววเยาะ ดวงตาวาววับ ยิ่งเห็นหล่อนเขินอายเขายิ่งเกิดความรู้สึกอยากแกล้ง


ชายหนุ่มจึงรวบมือทั้งสองหล่อนขึ้นเหนือศรีษะเล็ก โยทะกาอ้าปากค้าง การยกมือทั้งสองข้างหล่อนขึ้นนั้นยิ่งทำให้ปทุมถันตั้งเต้ามากขึ้น


“ปล่อยนะ”
ร่างบางที่ส่วนบนถูกพันธนาการ พยายามใช้ส่วนล่างที่เหลืออยู่เตะถีบดันเขาแต่กว่าช้ากว่าขาแกร่งที่มาแทรกและดันไว้เสียจนหล่อนกระดิกกระเดี้ยวไม่ได้


“อยู่เฉยๆน่าคุณ รู้ไหมคนไข้ที่โวยวายน่ะพวกหมออย่างผมไม่ชอบหรอกนะ ”
ชายหนุ่มเช็ดประทุมถันหล่อนอย่างอ้อยอิ่ง ไล้ไปมาแผ่วเบา... ใบหน้าของหล่อนนั้นแดงแจ๋ไม่เท่าไหร่
แต่ความรู้สึกแปลกๆตึงแปล๊บที่ปลายปทุมถันนี่สิ...


“อย่างนั้นแหละดีแล้วครับ คุณเป็นคนป่วยอยู่นิ่งๆ เชื่อฟังหมออย่างผมซะ”
เขาตัวเราะหึๆ พลางลดมือกุมผ้าชุบน้ำอุ่นให้ต่ำลงๆเรื่อยๆ


“ไม่เอานะ อย่า!”
ส่วนล่างของลำตัวสัมผัสกับความอุ่นของผ้าชื้นน้ำ เด็กสาวงอตัวพยายามขัดขืนแต่เขาก็ยิ่งโถมตัวเข้ามาเรื่อยๆ


“ขอร้องล่ะ อย่า!”
เสียงหล่อนเครือเมื่อรู้สึกถึงการรุกราน


“ผมไม่ชอบอะไรที่มันสกปรก”
เขาบอกเสียงนุ่มก่อนที่จะเช็ดส่วนล่างอีกครั้ง จากนั้นจึงอุ้มหล่อนมานอนที่เตียง


โยทะการีบเอาผ้าห่มคลุมกาย อยากให้โลกถล่มลงในพริบตา
หมดแล้ว...หล่อนหมดแล้ว เขารุกรานหล่อนจนหมดตัว
ทั้งทางสายตา คำพูด และการกระทำ ล่วงเกินส่วนสงวน
แม้จะไม่ใช่เซ็กส์แต่หล่อนก็โตพอว่าจะรู้ว่าอะไรเป็นอะไร รังสฤษฏ์กลับมาอีกครั้งพร้อมกับเสื้อนอนลายขวาง


“นี่! ใส่ซะ เสื้อของผม มันตัวใหญ่ ดีว่าใส่ชุดแซกลายดอกไม้นอน กลางคืนผมจะได้ไม่รู้สึกว่านอนกับผ้าปูโต๊ะ”
ชายหนุ่มจงใจแขวะไปถึงรสนิยมคนเลือกชุดให้หล่อน แต่ทว่าร่างบางกลับไม่มีปฏิกิริยาอะไรเลย ยังห่มผ้านิ่งหันไปทางอื่น


“โยทะกา”
เป็นครั้งแรกที่เขาเรียกชื่อหล่อน ร่างสูงโน้มเขามาหา
“ใส่ซะ!”


พลันเด็กสาวดีดตัวขึ้นมาหยิกข่วนเขาเป็นพัลวันด้วยความคั่งแค้น ชายหนุ่มนิ่วหน้าแล้วก็จัดการรวบข้อมือเล็กนั้นไว้เหนือศรีษะอีกตามเคย


“ผมบอกแล้วไงว่าผู้หญิงยิ่งขัดขืนยิ่งทำให้ผู้ชายมีอารมณ์ คุณอยากจะลองเลยก็ได้นะ ผมพร้อมเสมอ”
ว่าแล้วเขาก็ดันร่างบางเปลือยเปล่าลงบนเตียง คนบนเตียงหายใจรัวเร็วเพราะความโกรธจนอกน้อยๆกระเพื่อมไหว ชายหนุ่มรู้สึกถึงความนุ่มนิ่มใต้ร่างของตนเอง


“คุณคงไม่รังเกียจผู้ชายที่ยังไม่อาบน้ำนะครับ แต่ช่างเถอะ เดี๋ยวก็เปื้อนอีก คราวนี้เราจะได้อาบด้วยกัน”
ใบหน้าของเขาห่างหล่อนเพียงคืบ จนได้กลิ่นลมหายใจเจือกลิ่นน้ำยาฆ่าเชื้อสะอาดๆ ดวงตาหลังแว่นสายตานั้นวับวาว ริมฝีปากหนากำลังโน้มเข้ามาหาหล่อน


เสียงกรีดร้องของโทรศัพท์มือถือดังขึ้น ทั้งสองประสานสายตาหยั่งเชิงกัน ก่อนที่รังสฤษฏ์จะปล่อยมือและถอนหายใจ เพราะรู้ดีกว่าเสียงเรียกเข้าที่ดังขึ้นนั้นเป็นเสียงเรียกเข้าที่เขาตั้งไว้เป็นหมายเลขพิเศษเฉพาะสายจากโรงพยาบาล


“ใส่เสื้อซะ หรือถ้าไม่อย่างนั้นก็นอนแบบเปลือยๆ แต่ก็ดีเหมือนกันผมจะได้นอนเปลือยด้วย”
เขายิ้มพลางยักไหล่ก่อนที่จะเดินไปหลังม่านเพื่อรับโทรศัพท์ โยทะกามองชายหนุ่มอย่างเดือดดาล เขาต้องการเพียงให้หล่อนอับอายจนถึงที่สุด สำหรับรังสฤษฏ์ร่างกายมนุษย์คงเหมือนของน่าสนุก เหมือนตุ๊กตาที่จะจับแหกแข้งแหกขายังไงก็ได้ ไร้พลังที่จะต่อกร


ขอบตาเด็กสาวร้อนผ่าว น้ำใสๆไหลริน มือบางรีบป้ายน้ำตาออก หล่อนจะไม่ยอมแพ้เขาเด็ดขาด
จะไม่ร้องไห้ให้คนวิปริตนั่นเห็น แม้เขาจะแล่เนื้อเอาเกลือทาหรือปู้ยี่ปูยำหล่อนเพียงใด


น้ำตาอันมีค่าของหล่อนมีไว้เพื่อปฐมพงษ์พี่ชายอันเป็นที่รักเพียงคนเดียว หล่อนหยิบเสื้อเขามาใส่แล้วเสยผมที่สั้นกุดของตัวเองขึ้น กลืนน้ำตาไว้ในอก อดทน…อดทนเท่านั้น...เพื่อพี่หม่อน แล้วทุกอย่างมันจะผ่านไป


รังสฤษฏ์กลับมาที่เตียงอีกครั้งเมื่อหนึ่งชั่วโมงผ่านไป แพทย์คนหนึ่งในโรงพยาบาลเขาประสบอุบัติเหตุที่เชียงใหม่ และมีคนไข้เคสสำคัญที่ผ่าตัดในอีกสามวันข้างหน้า


เขาจึงต้องสั่งงานเลขาหลายอย่าง พรุ่งนี้หลังตรวจคนไข้เสร็จต้องเข้าประชุมอีก ชีวิตของการเป็นผู้บริหารโรงพยาบาลสลับกับชีวิตการเป็นนายแพทย์นี่มันไม่ง่ายเลย
มีเรื่องวุ่นวายให้แก้ไขทุกครั้ง แต่เขาก็ผ่านมันมาได้ทุกทีโดยมีชาลิดาน้องสาวเป็นกำลังใจ
แต่ทว่าตอนนี้น้องสาวไม่อยู่แล้ว...


เสียงกรนเบาๆดังจากร่างเล็ก โยทะกานอนหลับขดตัวอยู่ภายใต้ผ้าห่มหนาหนุ่ม ดวงตาหลับพริ้ม


เด็กสาวคงจะหลับลึกมากขนาดเขาที่หล่อนแสนเกลียดมานั่งข้างเตียงก็ยังไม่รู้สึกตัว ชายหนุ่มเลิกผ้าห่มขึ้นดู ร่างบางสวมเสื้อนอนของเขา ปรกติเขาคิดว่าตัวเขาไม่ใหญ่มากแค่สูงเท่านั้น แต่เสื้อนอนของเขาเวลาโยทะกาใส่นอนกลับปิดได้ถึงเข่า หล่อนตัวเล็กจริงๆ


คนนอนหลับลึกดิ้นเล็กน้อยเพราะความเย็นของเครื่องปรับอากาศประกอบกับเขาเลิกผ้าห่มขึ้นด้วย


การดิ้นนั้นทำให้ชายเสื้อนอนเลิกขึ้นมา ปลีน่องขาขาวๆอวดสายตาผู้พบเห็นและเขายังรู้อีกว่าหล่อนไม่ใส่กางในนอน


รังสฤษฏ์ห่มผ้าให้หล่อนดังเดิม ในใจรู้สึกบอกไม่ถูก ศีลธรรมซึ่งซ่อนอยูที่ไหนซักแห่งหนึ่งในใจส่งเสียงประท้วงอยู่เนืองๆ ยิ่งเห็นหล่อนหน้าแดงปากคอสั่นเหมือนจะร้องไห้ การกลั่นแกล้งของเขาจึงหยุดชะงัก
เด็กสาวตัวนุ่มนิ่มยามที่เขากอด ดวงตาวาววับยามมองเขา


แม้จะเตือนตัวเองอยู่บ่อยครั้งว่าหล่อนคือน้องสาวของผู้ชายขายตัวที่ทำลายชาลิดา น้องสาวเขาต้องทุกข์ทรมาน แต่การเข้าใกล้และรอดูปฏิกิริยาตอบสนองของคนตัวเล็กนี่กลับทำให้เขาสนุกเป็นบางครั้ง


และออกจะหงุดหงิดในอาการอ้าปากเหวอเฟอะฟะของหล่อนอยู่บ่อยๆ เอะอะ...อะไรนิดหน่อยก็เป็นลม
เขาแปลกใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมตนเองจึงไม่ “จัดการ” กับหล่อนเสียที


บางทีนี่อาจจะเป็นสัญชาตญาณระหว่างคนเป็นพี่ชายกับคนเป็นน้องสาวก็ได้ เขาเคยเป็นพี่ชายขณะที่หล่อนกำลังจะ “เคย”เป็นน้องสาว


ชายหนุ่มสลัดเรื่องต่างๆออกจากหัวก่อนที่จะอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วจมลงสู่นิทรารมย์ โยทะกาดิ้นเข้ามาใกล้ใบหน้าเล็กเกาะแขนของเขาไว้ละเมอพึมพำบางอย่างฟังไม่ได้ศัพท์
ไฟในห้องปิดลงพร้อมกับรู้สึกสัมผัสนุ่มนิ่มอบอุ่นที่แขน


รังสฤษฏ์ตื่นขึ้นมาในตอนเช้าตรู่ ชายหนุ่มมักตื่นแต่เช้าจนเป็นนิสัยไม่ว่าจะนอนดึกแค่ไหน
เขาตั้งใจจะไปเรือนกล้วยไม้ แต่ทว่าจมูกกลับได้กลิ่นคุ้นๆเสียก่อน
กลิ่นนี้มีอยู่ในห้องนอนของเขาได้อย่างไร กลิ่นเลือด!
ชายหนุ่มหันขวับมาทางคนนอนเคียง เลิกผ้าห่มขึ้นทันใดก็พบต้นเหตุ


“คุณจะทำอะไรน่ะ”
โยทะกาโวยวายตื่นโดยพลัน เมื่อรู้สึกว่ามีผู้ล่วงล้ำเข้าส่วนล่างของร่างกาย
...ก็ไม่เชิงล่วงล้ำเสียทีเดียวเขายกแข้งยกขาหล่อนอ้าซ่าไปหมด
หรือนี่จะเป็นเซ็กส์แต่เช้าตรู่ที่เพื่อนทะลึ่งๆของหล่อนเรียกกันว่า “ล้างหน้าไก่”


“ปล่อยฉันสิ”
รังสฤษฏ์เป็นบ้าไปแล้วหรือยังไง หล่อนบริภาษเขาในใจ ส่วนล่างของร่างกายรู้สึกถึงความเหนอะหนะ
“คุณมีประจำเดือน”
เขาว่าพลางอุ้มหล่อนเข้าห้องน้ำไป


“เปลี่ยนเสื้อผ้าซะ เดี๋ยวผมเช็ดตัวให้ มีผ้าอนามัยมาด้วยหรือเปล่า”
คนถามพูดรัวเร็วใบหน้าเฉยเมย ขณะที่คนถูกถามใบหน้าแดงซ่าน
กรรม! ทำไมอะไรมันถึงได้พอเหมาะพอเจาะอย่างนี้ ถูกเขาเห็นส่วนสำคัญแล้วยังมีเรื่องวันเบาๆของผู้หญิงอีก โชคชะตาคงเป็นใจให้รังสฤษฏ์ดูถูกหล่อนแน่


“มีมาด้วยไหม? ขาเป็นแบบนี้คงใส่กางเกงในลำบาก”
เสียงนั้นราบเรียบแบบหมอพูดกับคนไข้ แต่เด็กสาวกลับตีความหมายว่าเขาจะหาเรื่องกลั่นแกล้งหล่อนให้อับอาย


“ไม่รู้สิ คุณไปขนของฉันมาจากคอนโดนี่ ได้ตรวจดูหรือเปล่าล่ะว่าเอามาครบไหม?”
หล่อนเหน็บเขา ชายหนุ่มนิ่วหน้า ก่อนที่จะออกไปข้างนอก สักพักจึงกลับมาในสภาพที่ทำเอาหล่อนเบิกตาโพลง
เขาสวมผ้าปิดปากและจมูก สวมถุงมือแนบเนื้อสีขาว ด้านบนของเขาสวมผ้าคาดสีเขียวครึ่งตัว สภาพเหมือนหมอกำลังจะไปผ่าตัด


“คุณจะทำอะไรน่ะ”
เด็กสาวเสียงสั่นเมื่อย่างสุขุมเข้ามาใกล้ นึกถึงหนังประเภทผ่าศพ แหวะสยองขึ้นมาทันใด


“ทำความสะอาด”
เสียงเขาอู้อี้ผ่านผ้าปิดปาก หล่อนชันตัวพุ่งออกจากขอบอ่างอาบน้ำด้วยแรงทั้งหมดที่มี แต่เขาก็คว้าตัวเอาไว้ก่อน
“จะไปไหน อย่าเรื่องมากน่า ตอนนี้ตัวคุณสกปรกต้องทำความสะอาดก่อน”
แว่นของเขาสะท้อนแสงวับวาวจนโยทะกากลืนน้ำลายดังเอื๊อกไม่ไว้ใจคนตรงหน้า


“นั่งลง”
เขาดึงหล่อนมาตำแหน่งเดิมและท่าเดิมของเมื่อคืนนี้ ผิดเสียแต่ว่าคราวนี้เอาน้ำยาบางอย่างมาเช็ดส่วนล่างที่เปรอะประจำเดือนให้ โยทะกาเม้มปาก ขบฟัน หลับตาลง กลืนความอับอายลงในลำคอ
ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ทุกอย่างมันจะผ่านไป...ผ่านไป


เขาอุ้มหล่อนกลับมาอีกครั้งห่อตัวหล่อนด้วยผ้าขนหนูผืนใหญ่มาที่เตียง คนรับใช้สองคนกำลังเปลี่ยนผ้าปูที่นอนและเบดเพลทกันใหญ่
“คุณเอิงคะ ของที่ให้ไปซื้อได้แล้วค่ะ”
คนรับใช้หญิงสูงวัยอีกคนหนึ่งเดินเข้ามาพร้อมกับถุงใบใหญ่ โยทะกาก้มหน้าหงุดด้วยความอับอายผู้สูงวัย


การที่ชายหญิงอยู่ในห้องกันตามลำพังทั้งคืนและหล่อนก็มาทั้งชุดนักศึกษาไม่ใครต่อใครก็ต้องคิดในเชิงชู้สาวอยู่แล้ว แต่ทว่าปฏิกิริยาของคนรับใช้ทุกคนต่างนิ่งสนิท เหมือนไม่ใช่เรื่องแปลก


“ขอบคุณครับป้าวันดี”
เสียงเจ้านายหนุ่มทุ้มนุ่มยิ้มอย่างคนใจดี พลันคนรับใช้ทั้งหมดก็ออกไปในทันใด ทั้งเหลือเพียงเขาและหล่อนตามเดิม รังสฤษฏ์อุ้มหล่อนมาวางที่เก้าอี้ก่อนที่จะเดินไปค้นของในถุง


“เอ้า! ใส่ซะ ผ้าอนามัยแบบห่วง วิธีใส่ก็อยู่ในกล่อง กางเกงในเอาเป็นแบบกระดาษใส่แล้วทิ้ง ไว้ขาคุณหายเจ็บค่อยกลับมาใส่เหมือนเดิม”
ของในถุงถูกยื่นมาตรงหน้าหล่อนทำหน้างงๆปนเอ๋อ


“ใส่ซะ! ผมไม่มีแรงทำให้คุณแล้ว เดี๋ยวผมจะอาบน้ำ แล้วก็มาใส่เสื้อผ้าให้ วันนี้ผมมีตรวจคนไข้แล้วก็ประชุมนะ”
เขาสั่งเสียงเฉียบขาดก่อนที่จะเดินดุ่มๆเข้าห้องน้ำไป


++++++จบบทที่6



Create Date : 06 พฤษภาคม 2552
Last Update : 6 พฤษภาคม 2552 4:17:44 น. 2 comments
Counter : 234 Pageviews.

 
แอบขำตอนที่หมอแต่งตัวเหมือนไปผ่าตัด 555 ไม่ได้เป็นกันทุกคนใช่ไหม คนเป็นหมอน่ะ


โดย: dena IP: 203.155.149.89 วันที่: 8 พฤษภาคม 2552 เวลา:10:06:09 น.  

 
ไม่รู้จะขำ หรือร้องไห้แทนไหมดี หมอเอิงช่างคิดได้เน๊อะ


โดย: Maple IP: 124.120.107.148 วันที่: 26 มีนาคม 2553 เวลา:21:47:24 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

จโกระ&ลาชา
Location :
สมุทรปราการ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]




Something has come and gone,and that it 's all.


free counters
Friends' blogs
[Add จโกระ&ลาชา's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.