สัญญารัก...เจเน็ต เดลีย์,บุญญรัตน์ แปล
สัญญารัก
เจเน็ต เดลีย์ บุญญรัตน์ แปล สนพ.เรือนบุญ พ.ศ.2546 ราคา 110 บาท
คำโปรยหลังปก
เพราะต้องการประชดพ่อ อีริก้าจึงแต่งงานกับนักแสวงโชคริมชายหาด และหวังว่าพ่อจะมาช่วยเธอได้ทันเวลา แต่แล้ว...เธอก็ต้องยอม เป็นภรรยาคืนเดียวของหนุ่มนักแสวงโชคคนนั้น แล้วหนีกลับบ้าน
เมื่อเธอได้พบกับหนุ่มอีกคนหนึ่งที่เพียบพร้อมไปทุกอย่าง แต่เธอกลับ พบว่าอุปสรรคสำคัญคือเธอยังไม่ได้หย่า และสามีคืนเดียวของเธอก็มาทวงสิทธิของเขา
เธอจึงต้องเลือก คนใดคนหนึ่งเพื่อหัวใจของเธอเอง...
++++++++++++++++++++++
Create Date : 15 ธันวาคม 2552 |
|
6 comments |
Last Update : 15 ธันวาคม 2552 2:53:20 น. |
Counter : 1248 Pageviews. |
|
|
|
^
^
ภาพเอามาจากเน็ตค่ะ เล็กไปหน่อยขอโทษทีนะคะ เพราะหนังสือที่อิฉันมีอยู่นี่มันเก่าแล้วก็สภาพเน่าแล้วเหมือนกัน
ไปสอยมาจากร้านหนังสือมือสองในงานสัปดาห์หนังสือค่ะ
ทีแรกซื้อมาเพราะราคาถูกค่ะ
แล้วก็คุ้นๆ ว่าเคยอ่านงานแปลของคุณบุญญรัตน์มาก่อน เลยซื้อมาอ่านฆ่าเวลาค่ะ
ผล...ตั้งแต่นั้นมาเป็นแฟนของเจเน็ต เดลีย์ และคุณบุญญรัตน์ แบบติดหนึบเลยค่ะ
ยิ่งช่วงนี้ป่วยเพราะอุบัติเหตุ จึงนอนแบ่บอยู่ห้อง จึงได้อ่านนิยายของ เจเน็ต เดลีย์ ซ้ำอีกครั้งค่ะ บอกไว้ก่อนเลยนะคะว่าไม่ค่อยมีฉากหวือหวา ผิดจากนิยายโรแมนซ์ทั่วไป
สอบถามความจากน้องที่สนพ.เรือนบุญในงานสัปดาห์หนังสือ เขาน่าจะเป็นคนใกล้ชิดกับคุณบุญญรัตน์เพราะเรียกชื่อเล่นคุณบุญญรัตน์ด้วย น้องเขาเล่าให้ฟังว่าจริงๆ แล้ว เจเน็ต เดลีย์ เขียนค่อนข้างอีโรติคเหมือนกันแต่คุณบุญญรัตน์จะตัดทอนส่วนที่ไม่ค่อยเหมาะสมกับวัฒนธรรมไทยออก
ถ้ามองจากมุมของอิฉันก็เห็นว่าไม่ได้ทำให้เสียอรรถรสในการอ่านเลยค่ะ มีเรื่องติก็คือไม่มีชื่อต้นฉบับของเรื่องเป็นภาษาอังกฤษกำกับไว้ เวลาเข้าเว็ปไซต์ของ เจเน็ต เดลีย์ จะงงเล็กน้อย แต่พออ่านคำโปรยภาษาอังกฤษก็จะรู้เลยว่ามาจากเรื่องอะไร(ซึ่งจุดนี้เป็นปัญหาของหนังสือแปลยุคเก่าๆ อยู่แล้วค่ะ ที่ไม่แจ้งชื่อเรื่องต้นฉบับเป็นภาษาอังกฤษ)
อีกเรื่องคือภาษาสเปน ที่ไม่มีการแปลความหมายให้ เล่นเอาอิฉันแปลกใจว่าคำว่า เอสต้า มาเนน่า เควริด้า กับ เอสโพซ่า นี่มันแปลว่าอะไร
ใครรู้ภาษาสเปนช่วยบอกอิฉันที T...T
เอาล่ะพล่ามมานาน มาถึงเนื้อเรื่อง อะแฮ่ม...เน่ากำลังดี ชอบฉากเจอกันในโรงแรม ซาน อันโตนิโอ บทพูดเชือดเฉือนกันสุดๆ
ยกตัวอย่าง
"ฉันยินดีที่จะขายวิญญาณของตัวเองให้กับซาตานเสียดีกว่า ตั้งแต่วันที่แต่งงานกับคุณ" อีริก้าตอบโต้อย่างเผ็ดร้อน
"หรือไม่เช่นนั้น ฉันก็คงแต่งงานกับซาตานไปแล้วกระมัง"
"ถึงแม้ว่ามันจะเป็นพิธีแต่งงานในนรก"
น้ำเสียงที่เยาะหยันของเขา ใบหน้าที่ราวกับรูปปั้นทองแดงนั้นรบกวนจิตใจเธอยิ่งนัก
"มันก็ยังเป็นสิ่งที่ถูกต้องทั้งทางนิตินัยและพฤตินัยอยู่ดี ผมอยากจะให้คุณนึกถึงเรื่องนี้ไว้ด้วย"
โอ้...นี่ขนาดบทแปลนะเนี่ย อยากเห็นบทต้นฉบับจัง มันจี๊ดถูกใจดี เล่นเอาใจเต้นระรัวไปหลายนาที
โครงเรื่องเป็นแบบโรแมนซ์จ๋า แต่บทสนทนาพาเพลินแล้วก็หมั่นไส้คุณพระเอก ที่มาขู่นางเอกฟ่อๆ อยู่อย่างนั้นแหละ เป็นอิฉันหน่อยละไม่ได้ ขืนมีผู้ชายละตินรูปหล่อ พ่อรวย มาทำอย่างนี้ใส่ล่ะก็ คงอดไม่ได้ที่จะประเคนตบสักฉาด(เผื่อว่าจะฟลุค ได้จูบกลับมามั่ง555)
โดยรวมอ่านได้สบายค่ะ เดินเรื่องเร็วดี บทหวานๆ (เอิ่ม...เถียงกันทั้งเรื่องนะคะ ไม่ค่อยหวานเท่าไหร่ อ่านไปทั้งเกิดอารมณ์อยากตบหัวพระเอกที่ชอบขู่ฟ่อๆ แล้วก็นางเอกที่ประมาณว่า...หัดคิดเข้าข้างตัวเองมั่งสิยะ ผู้ชายเขามาตามแถมบอกให้เราทิ้งผู้ชายคนปัจจุบันอีก เขาทั้งรักทั้งหึงย่ะ555)
เจเน็ต เดลีย์ ค่อนข้างจะทำได้ดีนะคะ ในส่วนของนิยายเล่มเล็ก ส่วนนิยายตระกูล'เจ้า' ซึ่งว่าด้วยเรื่อง ครอบครัวคอลด์เดอร์ที่อิฉันได้มาครบชุดห้าเล่มนี่พระเอกแต่ละคนแบบ...รู้สึกเหมือนโดนเหวี่ยงออกจากโลกแห่งความฝันอย่างไรอย่างนั้นเลยค่ะ T...T เพราะเป็นผู้ชายที่มีเลือดเนื้อมาก จนบางครั้งก็นึกเกลียดเลยละค่ะ
ไว้วันหลังจะมารีวิวให้อ่านใหม่ค่ะ
ปล.นิยายที่มารีวิวค่อนข้างจะเก่าแล้วนะคะ ถ้าจะหาซื้อได้คงเป็นเว็ปหนังสือมือสองค่ะ เพราะสอบถามทางเรือนบุญแล้ว ว่ายังไม่มีการตีพิมพ์ออกมาใหม่