หอมกลิ่นหวาน...และขมของชีวิต
Group Blog
 
 
เมษายน 2552
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
 
18 เมษายน 2552
 
All Blogs
 
Something sweet...เรื่องในงานวัด...บทที่9


Something sweet...เรื่องในงานวัด

“ ต๊าย! อีกระเทยหัวนกแก้ว ออกจากหลุมมาแล้วเหรอยะ ยังไงงานประกวดนางงามครั้งนี้
น้องเฟริ์นก็ต้องชนะแน่ๆ “
คุณกระเทยหัวโปกแหกปากดังลั่นๆ พลางหัวเราะฮิๆแบบแม่มด กระเทยเจ้าของร้านตัดผมนามจริงว่าพร
แต่ชอบให้ใครๆเรียกว่าพอลล่า เม้มปากเชิด


“ หุบปากไปเลยนะ นังกระเทยหัวโปกปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม บังเอิญน้องดาวเจออุบัติเหตุหรอกย่ะ
ไม่อย่างนั้นนางงามปีนี้คงเป็นคนสวยของจริงๆไม่ใช่จากมีดหมอ “
คำพูดของพอลล่าทำเอาสาวอีกคนที่ใส่สายเดี่ยวตาลุกวาว เพราะพาดพิงถึงตนจังๆ


“ ถ้าทำแล้วสวย ทำแล้วดี ก็ดีนี่พี่ ผู้ชายเข้าหา ไม่เหมือนใครบางคนหรอก อยากเข้าหาผู้ชายแต่ผู้ชายเขาเกลียดจนต้องโกนหัวหนี “
เสียงนั้นจีบปากจีบคอลอยหน้าลอยตา ผู้ชายคนที่พูดคงหมายถึงระเด่นมนตรี
บุษบาเข็นรถโดยที่มีเดียร์นั่งมาด้วยแล้วก็มาเจอกับวิยะดาและพอลล่า ครั้งแรกที่เจอ คุณกระเทยมองหล่อนตั้งแต่หัวจรดเท้าแล้วเบ้ปากยิ้มเหยียด บุษบาฉุนนิดหน่อยแต่ไม่อยากเอามาเป็นอารมณ์เพราะรู้ดีว่าอารมณ์หึงหวงของเพศที่สามนั้นรุนแรงยิ่งนักและรู้อีกข้อว่าเถียงไปก็เท่านั้น หล่อนเถียงไม่ทันพวกนี้หรอก


“ สวัสดีฮะพี่ดาว “
เดียร์ยิ้มแป้นเปิดการสนทนาก่อน เด็กชายคุ้นเคยกับวิยะดาดี เพราะสาวน้อยมักจะติดสอยห้อยตามผู้เป็นพ่อเข้ามาในไร่อสัญบ่อยๆ วิยะดาชอบระเด่นมนตรีแต่ดูเหมือนชายหนุ่มจะคิดเอ็นดูหล่อนเป็นเพียงเด็ก
มีค่าเทียบเท่าพี่สาวเดียร์


“ สวัสดีจ๊ะ น้องเดียร์ สวัสดีค่ะคุณบุษบา “
วิยะดานั้นได้ยินข่าวเล่าลือเกี่ยวกับคุณบุษบามานานแล้ว แต่เนื่องด้วยไม่สบโอกาสหาข้ออ้างไปที่ไร่อสัญได้สักที
จนมาเกิดอุบัติเหตุ เมื่อได้เห็น สาวน้อยก็ค่อยโล่งใจหน่อย ที่บุษบาหน้าตาท่าทางธรรมดากว่าที่คิด


คนอย่างนี้พี่ระเด่นของหล่อนคงไม่สนใจ ภรรยาเก่าของเขาจินตะหราสวยกว่านี้มาก
สาวน้อยรู้สึกเบื่อเป็นกำลัง ขาเจ็บ ไปไหนไม่ได้ ผู้เป็นพ่อก็วุ่นอยู่กับงานประจำปี
หล่อนจึงมาคุยเล่นกับพอลล่า ช่างเสริมสวยที่หล่อนวางตัวให้เป็นคนแต่งหน้าให้นางงามตั้งแต่แรก
คุยกันไปคุยกันมาจึงออกมาซื้อของโดยมีสารถีเป็นเจ้าของรถซีอาร์วีตัวต้นเหตุ


บุษบายิ้มให้ตามมารยาท ใจนั้นนึกอยากจะเข็นรถหนีไปให้ไกลๆรู้สึกถึงสายตาไม่ชอบใจจากทั้งสองคน
ผู้ชายผิวขาวตัวสูงคนหนึ่งเดินเข้ามาใกล้แล้ววางดาร์คช็อคโกแลตบาร์ลงในรถเข็นคันข้างๆวิยะดา
หญิงสาวแลดูชอคโกแลตแล้วก็นิ่วหน้า คนที่จะซื้อดาร์คโกแลตแสนขมปี๋แล้วก็เป็นบาร์ไปเยอะขนาดนี้ คงอยู่ในวงการทำขนมเหมือนหล่อนเป็นแน่ พอปรายตาไปทางคนผิวขาวก็ต้องอุทาน


“ ชารัน “
หนุ่มผิวขาวหันมาตามเสียงก่อนจะยิ้มกว้างอย่างดีใจ
“ บุษบาเป็นไงมายังไงนี่ มาเจอกันที่นี่ได้ “
ก่อนที่ทั้งสองจะทักทายอะไรกันต่อ เฟริน์ลูกสาวกำนันพนมกับคุณกระเทยหัวโปกช่างเสริมสวยคู่บุญก็ปรากฏตัวขึ้น และการสาดคำพูดใส่กันจึงเริ่มมาแต่บัดนั้น


“ ต๊าย! อีกระเทยหัวนกแก้ว แน่จริงมาตบกันเลยไหม “
คุณกระเทยหัวโปกเตรียมจะง้างมือ วิยะดาต้องรีบฉุดตัวพอลล่าเอาไว้ก่อน
“ อย่าเลยพี่ ตบแล้วเดี๋ยวจะเสียมือ แต่งหน้าหนูอาจจะไม่สวย แต่เอ๊ะ! ไม่เป็นไรหรอกยังไงหนูก็ชนะแน่
สงสารแต่ใครบางคนก็ไม่รู้ ลงทุนขัดตัวเสริมสวยมาประกวด แต่บุญไม่ถึงเลยอด “
เฟริ์นแขวะยิ้มๆนิสัยการเกทับกันนี่ตกมาถึงรุ่นสาวน้อยผู้เป็นลูกด้วย วิยะดาหน้าตึงจ้องคนใส่สายเดี่ยวเขม็ง


“ ทำไมจ๊ะดาว จ้องฉันทำไมเหรอ เรื่องจริงทั้งนั้น บุญเธอไม่ถึงมาหลายหนแล้วไม่ใช่เหรอ พ่อกำนันของเธอเอาเธอไปใส่พานถวายให้นายระเด่นหลายรอบแล้วแต่นายระเด่นไม่รับ “
วิยะดาปรี๊ดแตก เขยกตัวพุ่งเข้าใส่คนพูดทันที ชารันและบุษบาต้องรีบไปแยกออก
“ ปล่อย บอกให้ปล่อยฉันยังไงล่ะ “
วิยะดาดิ้นพรวดๆจากการประคองของชารัน พูดเรื่องนี้ขึ้นมาทีไรสาวน้อย” ของขึ้น “ ทุกที


“ อะไร เกิดอะไรขึ้น “
พิณสุดาพรวดเข้ามาเมื่อสถานการณ์เริ่มบานปลาย สีหนาทเดินตามหลังมาด้วย ทั้งสองฝ่ายต่างเข่นเขี้ยวใส่กัน
แต่พอแลเห็นว่ามีผู้คนเมียงมองมากขึ้นจึงเริ่มสงบลงบ้าง แต่ก็ยังออกอาการฮึดฮัดอยู่
“ เชอะ ฉันไม่อยากจะเอาพิมเสนไปแลกกับเกลือ ยังไงการประกวดฉันก็ต้องชนะ ไปละนะแม่วิยะดา
งานประกวดนี้สำหรับนางงาม ไม่ใช่สำหรับคนขาหัก “
เฟริ์นหัวเราะฮิๆพลางพยักเพยิดเดินควงแขนไปกับคุณกระเทยหัวโปก


“ เพราะคุณ เพราะคุณคนเดียวเลย “
สาวน้อยหันมาแว้ดชารัน ชายหนุ่มมีสีหน้าลำบากใจ บุษบามองหน้าคนโน้นทีคนนี้ทีอย่างไม่เข้าใจในสถานการณ์ ชารันจึงเป็นเจ้ามือเลี้ยงทุกคนในร้านไอครีมใกล้ห้างสรรพสินค้า
บุษบาจึงได้รู้ว่าหนุ่มกรุงเทพฯที่ขับรถชนวิยะดาคือเพื่อนหล่อนนั่นเอง


ชายหนุ่มเป็นเพื่อนคนไทยเพียงไม่กี่คนที่หล่อนพบขณะเรียนอยู่ต่างประเทศ
ชารันเรียนวิชาทำขนมเหมือนหล่อน แต่ครั้งสุดท้ายที่จำได้คือชายหนุ่มบอกว่าจะกลับไปดูแลกิจการโรงแรมในเครือครอบครัวของเขาเองนี่ แล้วทำไมเขาจึงมาอยู่ที่นี่…


“ มันมีเหตุนิดหน่อย เธอเอาเบอร์โทรศัพท์หน่อยสิเดี๋ยวจะเล่าให้ฟัง “
ชารันบอกยิ้มๆ เขาเป็นคนรูปร่างหน้าตาดี สุภาพ และขี้เล่น ผิดกับหล่อนที่เป็นคนเอาจริงเอาจังในการเรียน
พิณสุดาปลื้มในความหล่อสะอาดของชารันมาก จนสีหนาทนึกไม่พอใจขึ้นมาตะหงิดๆ
ชายหนุ่มถือวิสาสะมานั่งกินไอครีมด้วย หนุ่มผมยาวให้เหตุผล
“ บังเอิญผ่านมาครับ “


บุษบาไม่ได้ติดใจอะไรเพราะว่าเขาเคยช่วยเพื่อนหล่อนไว้ หญิงสาวคิดว่าเขาคงมาทักตามประสาคนคุ้นเคย
ขณะที่สองสาว พอลล่าและวิยะดาแสดงท่าทีหวาดๆเมื่อเห็นสีหนาท


“ คุณสองคนรู้จักกันเหรอ “
วิยะดาจ้องหนุ่มสาวตัวสูงตาเป๋ง
“ ใช่ รู้จักกันมาตั้งแต่สมัยเรียน “
ชารันตอบพลางยิ้มในตา สาวน้อยเมินหน้าหนี อีตาหนุ่มกรุงเทพฯชีกอนี่มาเทียวไล้เทียวขื่อหล่อนตั้งแต่คราวอุบัติเหตุนั่นแล้ว เขาเสนอตัวเป็นสารถีพาหล่อนไปโน่นมานี่ตลอด โดยไม่กลัวอำนาจของกำนันเชิดพ่อหล่อนเลย


แม้ว่าจะโดนพ่อหล่อนซักเสียละเอียดยิบทุกครั้งว่าจะพาไปไหน ไปกับใครกลับกี่โมง และพ่อหล่อนให้คนตามตลอด ความจริงแล้วหล่อนเครียดที่ขาเจ็บก็เลยแกล้งเขาต่างหาก ชายหนุ่มเพียงแค่มองหน้าแล้วก็ยิ้มๆ
เขาบอกพ่อหล่อนว่าเป็นกุ๊กอยู่ในโรงแรมแถวเขาใหญ่ ไม่รู้ว่าเป็นกุ๊กประเภทไหน เรียกเมื่อไหร่ก็มาได้เมื่อนั้น


“ โอ๊ย! เจ็บใจ แค้น เครียด “
พอลล่าหวีดร้องด้วยเสียงที่บีบเล็ก สะบัดหน้าไปมา
“ แค้นอีนังกระเทยหัวโปก กับลูกสาวกำนันพนม “
“ โทษทีนะเจ๊ที่ขาหนูมาเป็นอย่างนี้ “
วิยะดาว่าพลางปรายตามาทางชารัน แต่ชายหนุ่มก็ยังมีทีท่านิ่งเฉย


“ เรื่องอะไรกันเหรอคะ แล้วเมื่อกี้นี้ใครเหรอที่เกือบทำให้คุณพี่ผมสวยโกรธ “
พิณสุดาหยอดคำหวานออกอาการอยากรู้อยากเห็นเต็มที่ พอลล่าพอถูกชมเข้าหน่อยก็ดีใจ
แต่ยังไว้ท่าค้อนคนชมขวับๆ
“ ไม่มีเรื่องอะไรหรอกค่ะ ก็แค่คนสวยกับไม่สวยทะเลาะกัน ว่าแต่คุณน้องเป็นใครเหรอคะ “


พิณสุดาจึงแนะนำแบบติดตลกว่าเป็นนางสนมของบุษบา และสาวผิวคล้ำยังชมผมหลากสีของพอลล่าอีกว่าช่างอินเทรนด์ดีเหลือเกิน สรรพนามเริ่มเปลี่ยนตั้งแต่ที่พิณสุดาบอกว่าทำงานโรงแรมและมีบัตรลดร้านทำผมดังกับ
สปาที่พวกดารานางแบบไปใช้บริการกันบ่อย บัตรส่วนลดพวกนี้มาจากแผนกเซลล์ของโรงแรมที่ต้องติดต่อกับสื่อต่างๆตลอดเวลา สาวผิวคล้ำเอาติดกระเป๋ามาด้วยและสัญญาว่าจะเอามาให้พอลล่าเพื่อพัฒนาธุรกิจร้านตัดผม เพราะพิณสุดาหยอกมุกไปว่า เป็นผู้หญิงอย่าหยุดสวย


“ ฉันล่ะเจ็บใจจริงๆ มงกุฎนางงามควรจะอยู่กับคนที่คู่ควร ไม่ใช่นางงามมีดหมออย่างลูกสาวกำนันพนม “
พอลล่ากระฟัดกระเฟียด
“ ไม่เป็นไรหรอกค่ะ คุณพอลล่า หาคนอื่นไปประกวดแทนก็ได้นี่คะ ที่นี่เป็นอำเภอออกจะใหญ่ สาวๆคงจะเยอะ “
“ เขาไปอยู่ที่อื่นกันหมดสิคะคุณน้อง ไม่ใช่หน้าเทศกาลตามปฏิทิน คนเขาไม่กลับมากันหรอก พูดแล้วก็เจ็บใจ “
พิณสุดาพยักหน้าเข้าใจ แค้นเรื่องความสวยของผู้หญิงนั้นใหญ่หลวงนัก


ขณะที่วิยะดาถอนหายใจยาวนึกเจ็บใจในโชคชะตาตัวเอง บทจะโชว์ความสวย กว่าจะขอพ่อกำนันมาประกวดนางงามได้ก็แทบตาย เจออุบัติเหตุโครมเดียวกลายเป็นนังเป๋ไปเลย
“ เอาไอติมเพิ่มไหม “
ชารันปุ้ยปากไปทางถ้วยไอครีมตรงหน้าที่พร่องไปเยอะแล้ว
สาวน้อยมีลักษณะนิสัยตามผู้หญิงทั่วไป เครียดแล้วกิน…


“ เพราะคุณคนเดียว ฉันเลยอดประกวดนางงาม “
วิยะดายังต่อว่าเขาไม่เลิก
“ ผมขอโทษนะคุณ แต่มันเป็นอุบัติเหตุจะให้ผมทำยังไง หรือคุณจะให้ผมแต่งหญิงไปประกวดนางงามให้ดีไหมครับ “
ชายหนุ่มประชดเล็กๆ เขาฟังเรื่องความผิดของตนเองมาจนหูชา
ไม่รู้ว่าผู้หญิงจะยึดติดอะไรหนักหนา วิยะดาค้อนเขาประหลับประเหลือก


“ แหม ถ้าฉันไปทำศัลยกรรมทันล่ะก็ จะเข้าประกวดหักหน้านังกระเทยหัวโปกเสียเลย “
พอลล่าพึมพำอย่างเซ็งในอารมณ์
“ แล้วรายละเอียดการประกวดมีว่ายังไงบ้างคะคุณพอลล่า “
พิณสุดารีบถามต่อ หญิงสาวได้เค้าลางความน่าสนุกบางอย่างแล้ว คุณกระเทยจึงสาธยายให้ฟังคร่าวๆถึงรายละเอียดการประกวด


“รู้อยู่หรอกว่าเป็นเหตุสุดวิสัย แต่ก็อดเจ็บใจไม่ได้ “
เสียงบีบเล็กนั้นทิ้งท้ายอย่างมีอารมณ์


พิณสุดามองหน้าเพื่อนอย่างมีความหมาย สมองคิดประมวลผลบางอย่าง
“ คุณพอลล่ามั่นใจในฝีมือตัวเองขนาดไหนคะ “
หญิงสาวลองถามหยั่งเชิง คนโดนถามกอดอกเชิดหน้าอย่างหยิ่งทะนง
“ อย่างฉันล่ะก็ต่อให้หน้าเยินขนาดไหนก็แต่งให้สวยได้ “
พอลล่ามั่นใจในฝีมือของตนเองมาก เพราะก่อนที่จะกลับมาอยู่ปากช่อง หล่อนเคยทำงานอยู่กองถ่ายรายการทีวี สมัยนั้นได้แต่งหน้าดารานางแบบเต็มไปหมด ถ้าไม่เพราะกลับมาดูแลบุพการีที่ชราลงแล้วล่ะก็ หล่อนคงอยู่ที่นั่นอีกยาว


“ งั้นฉันขอเสนอบุษบาให้ลงประกวดค่ะ “
“ ห๋า “
ทุกคนอุทานพร้อมกับมองมาที่หล่อนเป็นตาเดียว ขนาดคนโดนเสนอชื่อยังร้องเสียงหลง
“ อย่ามาล้อเล่นน่าพิณ ไม่ขำเลยนะ “


เพื่อนผิวคล้ำส่ายนิ้วจุ๊ๆ
“ เป็นการรับผิดชอบด้วยเพราะคุณชารันเพื่อนเธอทำให้คุณดาวขาหัก เธอที่เป็นเพื่อนแล้วก็เป็นผู้หญิงจะได้ช่วยรับผิดชอบไง “
พิณสุดาพูดเองเออเองเป็นฉากๆ บุษบาอ้าปากค้าง
เพื่อนผิวคล้ำของหล่อนนี่คิดอะไรแผลงๆ เป็นไปไม่ได้หรอก


พอลล่าหรี่ตาดูหญิงสาวตรงหน้า หน้าตาแม้จะเรียบๆ แต่ผิวพรรณดีแบบคนไม่ค่อยออกแดด ตัวสูงโปร่ง
ผมยาวดำขลับ ถ้าเอามาแต่งตัวเข้าหน่อยคงจะกล้อมแกล้มพอไหว
แม้ว่าหล่อนจะชื่อนางบุษบาอันเป็นศรัตรูหัวใจของหล่อนกับนายระเด่นก็เถอะ
ศักดิ์ศรีของคน(ที่ตัวเองคิดว่า)สวยในตำบลนั้นไม่ยอมให้ใครมาหยาม ทำให้พอลล่าพอจะปลงใจเนรมิตความสวยให้บุษบา


“ ถึงไม่ชนะก็พอจะเอาเป็นก้างขวางคอพวกนังกระเทยหัวโปกได้ “
พอลล่าคิด
“ ยิงนกทีเดียวได้หลายตัวจริงไหมคะ “
พิณสุดาทิ้งท้ายพลางยิ้มเจ้าเล่ห์ให้ทุกคน


การจะจัดการให้บุษบาได้เข้าประกวดนางงามประจำอำเภอนั้นไม่ยาก เพราะมีเส้นสายอันแข็งแกร่งของกำนันเชิดหนุนหลังอยู่ แม้ระเด่นมนตรีจะทำสีหน้าปั้นยากเมื่อกำนันเชิด พอลล่า และวิยะดามาขอตัวบุษบาให้เข้าประกวด


“ กำนันแน่ใจแล้วเหรอ “
ลุงสุขถามได้ตรงใจหนุ่มๆที่รู้เรื่องนี้ เพราะบุษบานั้นจัดอยู่ในพวกหน้าตาพอใช้ได้
แต่ไม่น่าจะสวยพอที่จะเข้าประกวด
“ น่า ถือว่าช่วยๆกัน ตอนนี้หาใครไม่ได้แล้ว อีกอย่างไอ้หนุ่มกรุงเทพฯตัวต้นเหตุก็เป็นเพื่อนคุณบุษบาด้วย “


ส่วนตัวต้นเหตุกับคนที่ต้องประกวดนางงามแอบไปคุยกันอยู่ในโรงเก็บของ อาณาจักรขนมส่วนตัวของหล่อน
“ ไหนว่าเธอบอกว่าทำงานอยู่กับคุณลุงคุณป้าล่ะ “
คุณลุงคุณป้าที่ชารันพูดถึง บุษบามักใช้เรียกผู้มีพระคุณเสมอ


“ มีเหตุบางอย่างน่ะไว้วันหลังจะเล่าให้ฟัง ว่าแต่รันเถอะ ไหนว่าดูแลกิจการทางบ้านล่ะ “
คนถูกถามยักไหล่แล้วยิ้มๆตามนิสัย
“ บังเอิญแนวคิดไม่ตรงกันน่ะ เลยแยกตัวออกมาก่อน ตอนนี้ช่วยงานคนรู้จักอยู่ “
เขาไม่อยากบอกเพื่อนเลยว่าคนรู้จักนั่นคือลูกน้องเก่าของพ่อเขาอีกที ทุกคนที่โรงแรมเกรงใจเขามาก
ชายหนุ่มจึงร่อนไปร่อนมาได้เป็นสารถีจำเป็นให้วิยะดาได้เต็มที่


“ แล้วไปขับรถอีท่าไหนล่ะถึงไปชนเอาคุณวิยะดาได้ “
ชารันยิ้มแล้วเริ่มเล่าเหตุการณ์ต้นเรื่องให้ฟัง ชายหนุ่มเล่าว่าเขาขับรถมาดีๆจู่ๆก็มีนกสีขาวตัวใหญ่บินต่ำมาก
มาชนกระจกรถเขา ชารันตกใจจึงเปิดที่ปัดน้ำฝนไล่ รถส่ายไปมาเล็กน้อยก่อนที่จะได้ยินเสียงโครม
และร่างของวิยะดานั่งจุมปุ๊กอยู่หน้ารถ สาวน้อยแว้ดๆใส่เขาตลอด


ชายหนุ่มขอโทษขอโพยอยู่นานแต่เมื่อเหลียวกลับมาดูนกตัวต้นเหตุ
กลับไม่เห็นแม้ขนมันสักเส้น นกหายไปราวกับเสกจนเขาคิดว่าถูกผีหลอกกลางวันแสกๆเข้าแล้ว
หลังจากนั้นชารันจึงกลายเป็นม้าใช้ของวิยะดา ชายหนุ่มคิดว่าดีเหมือนกันเพราะเขาชักจะชอบสาวน้อยจอมยุ่งอย่างลูกสาวกำนันเชิดเข้าเสียแล้ว


ทางด้านพิณสุดาก็ต้องอ้าปากค้าง อึ้งกับข่าวที่ได้ยินเกี่ยวกับสีหนาทจากปากของเปรม พิณสุดาไม่ชอบใจที่คนอย่างสีหนาทมาราวีหล่อนอยู่เรื่อย การรู้เขารู้เรานั้นดีที่สุด หล่อนจึงเลียบเคียงถามเปรมว่าสีหนาทเป็นใคร
เปรมเล่าให้ฟังตามประสาซื่อ หญิงสาวจึงได้รู้ว่าเขาเป็นลูกชายคนเดียวของท่านนายพล
นั่นทำให้คะแนนของเขาดีขึ้นหน่อย แต่มาตกวูบจนติดลบกับคำบอกเล่าประโยคหลัง


“ เขาลือกันนะครับคุณ ว่าท่านนายพลน่ะให้คุณสีหนาทมากบดานที่ไร่ เพราะแกไปก่อเรื่องใหญ่ไว้ “
สาวผิวคล้ำหูผึ่ง เปรมทำท่าจะผละหนี หญิงสาวจึงรีบดึงตัวเขาไว้ก่อน เด็กหนุ่มเหลียวซ้ายแลขวาด้วยกลัวคนผ่านไปผ่านมาจะได้ยินก่อนที่จะป้องปากกระซิบ


“ รู้แล้วเหยียบไว้นะครับคุณ ข่าวเขาว่าคุณสีหนาทเคยมีแฟน แล้วแฟนนอกใจ ขับรถหนีไปกับคนอื่น
คุณสีหนาทแค้นขับรถไล่ตาม จนรถทั้งสองคนตกหน้าผาตาย ถูกตำรวจจับ
แต่รอดมาได้เพราะอิทธิพลของท่านนายพล เห็นว่าเสียค่าปิดคดีไปหลายล้าน “
พิณสุดาได้ฟังแล้วก็วาบในใจ กลืนน้ำลายอย่างฝืดเฝือ


“ เขาว่ากันว่า คุณสีหนาทน่ะเป็นพวกรักแรงเกลียดแรง ชอบความรุนแรง ชอบสะสมปืน วันดีคืนดีก็เอาปืนออกมายิงเล่น นายธนาคนดูแลไร่นายพลที่ว่าร้ายๆยังกลัวคุณสีหนาทเลยครับ “
หญิงสาวนึกถึงหน้าของสีหนาทแล้วก็เย็นยะเยือกในใจ มิน่าล่ะ! หล่อนถึงรู้สึกว่าเขาแปลกๆ พวกชอบความรุนแรงหนีคดีมานี่เอง ไม่ได้การ…ถ้าเจอเขาครั้งต่อไปคงต้องถอยห่างแล้ว น่ากลัวจริงๆ
ทำไมคนอย่างนั้นถึงตามมาวอแวหล่อนได้ก็ไม่รู้



“ ไม่นะ ไม่เอา เด็ดขาด “
บุษบาส่ายศีรษะท่าเดียวตอนที่พิณสุดาเกลี้ยกล่อมให้หล่อนลงประกวด
“ เถอะน่า ถือว่าช่วยๆกันนะบุษบา ถือว่าเป็นประโยชน์ส่วนรวมนะ “
เพื่อนพยายามตะล่อม แต่หญิงสาวยังปฏิเสธเสียงแข็ง
“ ฉันไม่เอา ฉันประกวดไม่เป็น มันไม่เหมาะกับฉันหรอก “


“ ลองดูก่อนสิ แล้วค่อยบอกว่าทำได้หรือไม่ได้ “
พิณสุดายิ้มปลอบ แต่คนตัวสูงก็ยังไม่ยอมอยู่ดี ถ้าใช้ไม้นวมไม่ได้ก็ต้องใช้ไม้แข็ง สาวผิวคล้ำอยากให้บุษบารู้จักแต่งเนื้อแต่งตัวเสียบ้าง จากสายตาผู้หญิงด้วยกันหล่อนว่าบุษบานั้นสวยและมีเสน่ห์ แต่ติดตรงที่ว่าเป็นคนซีเรียสแล้วก็บ้าการทำขนม พิณสุดาชอบมองร่างสูงๆของเพื่อนเวลาเคลื่อนไหว


บุษบาดูดีและเดินสวย หล่อนเสียอีกที่ตัวเล็กจนต้องใส่ส้นสูงและเสื้อผ้าอำพรางความขาสั้นของตนเอง
พิณสุดาอยากเห็นเพื่อนแต่งตัวสวยครบเครื่องสักครั้ง จะได้พิสูจน์กันไปเลยว่า
ชื่อบุษบาที่เป็นชื่อเรียกของเพื่อนนั้น ตั้งได้ไม่ผิดตัว


รุ่งเช้าวันต่อมาพอลล่าและวิยะดาก็มารับพวกหล่อนไปเก็บตัวประกวดนางงาม
ท่ามกลางอาการอิดออดของบุษบา
“ ให้ว่องนะยะให้ว่อง แม่บุษบา บุญขนาดไหนแล้วที่หล่อนได้ประกวด หล่อนไม่ต้องกลัวหรอกย่ะ
ทำตามที่ฉันบอกรับรองเริ่ด “
พอลล่าทั้งขู่ทั้งปลอบด้วยเสียงแหลมเล็ก


ชะรอยบุษบาจะรู้แล้วว่าตนเองคงหนีชะตากรรมการประกวดนางงามไม่พ้น พิณสุดานั้นตอนนี้แปรพักตร์ไปเป็นผู้ช่วยพอลล่าเต็มที่ บุษบาโดนจับเข้าคอร์สเสริมสวย และเดินแบบบนส้นสูง


เมื่อกลับมาถึงไร่หล่อนจึงหลับเป็นตายทุกวัน แต่มิวายพิณสุดายังมาจัดอาหารและทำสมูทตี้บำรุงสุขภาพให้หล่อน
ส่วนผสมต่างๆก็คือแอปเปิ้ลปอกเปลือกครึ่งผล แครอทปอกเปลือกครึ่งหัว น้ำส้มครึ่งแก้ว โยเกิร์ตสูตรธรรมชาติหนึ่งถ้วย ปั่นรวมกันในเครื่องปั่น เติมน้ำแข็ง หากต้องการความหวานจะใส่น้ำผึ้งประมาณหนึ่งถึงสองช้อนโต๊ะ


พิณสุดาและพอลล่าจัดให้หล่อนหล่อนดื่มสมูทตี้ทุกเช้าและเย็น โดยเปลี่ยนประเภทผลไม้ไปเรื่อยๆ
“ ความงามน่ะ ต้องเริ่มจากภายใน เป็นผู้หญิงอย่าหยุดสวยนะยะหล่อน “
เสียงของพอลล่าแม้จะเจืออาการจิกกัด แต่เนื้อแท้ในถ้อยคำนั้นหวังดีเป็นอย่างยิ่ง บุษบาชอบทานผลไม้อยู่หรอก แต่ถ้าจะให้ทานทุกมื้อก็ไม่ไหว


“ จะเป็นคนสวยต้องอดทน “
พอลล่ากำชับตอนที่เห็นหญิงสาวทำหน้าเหม็นเบื่อ บุษบาคิดว่าตนเองโชคดีอยู่ครามครันที่เกิดมาไม่ค่อยสวย
เลยไม่ต้องระวังอะไรมาก ครั้งนี้เท่านั้นที่หล่อนจะยอม ครั้งนี้เท่านั้น…


เรื่องที่บุษบาเข้าประกวดนางงามประจำอำเภอเป็นที่โจษขานและวิจารณ์กันสนุกปาก
หลายคนพนันขันต่อและตั้งหน้าตั้งตารองานวัดประจำปีกันเต็มที่
“ ข้าว่าคุณบุษบาจะชนะ ห้าเอาสอง “
เสียงคนงานในไร่อสัญพนันกันครื้นเครง
“ ข้าว่าสิบเอาหนึ่ง “
อีกคนเกทับ ท่ามกลางเสียงฮือฮา


“ เฮ้ย! พวกแกก็คิดเป็นละครไปได้ คุณบุษบาของเราหน้าตาธรรมดาจะตาย มีดีแค่สูง แต่งตัวยังไงคงชนะการประกวดไม่ได้ ข้าได้ข่าวมาว่าลูกสาวกำนันพนมที่ชื่อเฟริน์น่ะไปศัลยกรรมมาทั้งตัวสวยเช้งกระแดะอย่างกับดารา ถ้าประกวดกับคนแบบนี้ข้าว่าไม่ชนะหรอก “
เสียงหนึ่งค้าน แต่อีกหลายเสียงก็เถียงเข้าข้างบุษบา


“ ของปลอมมันจะไปสู้ของจริงได้ยังไง ยังไงคุณบุษบาของเราน่ะก็ไก่งามเพราะขนคนงามเพราะแต่งเว้ย “
หลายเสียงเฮฮาหัวเราะกันเป็นลูกคู่ ถือว่าเป็นความรื่นเริงอย่างหนึ่งในงานเทศกาล นอกจากได้เที่ยวงานแล้ว
ยังได้มีเรื่องให้ลุ้นกันเป็นที่สนุกสนาน


วันงานวัดมาถึงแล้ว ระเด่นมนตรีไม่เห็นหน้าบุษบาตั้งแต่เจ้าจรดค่ำของวันนี้
“ พวกเราขอตัวคุณบุษบาไปเตรียมตัวสำหรับประกวดนางงามอำเภอค่ะ “
วิยะดาโทรมาบอกโดยมีเดียร์ติดสอยห้อยตามไปด้วย เขายอมให้เป็นกรณีพิเศษ
สงสัยงานประกวดนางงามคราวนี้เขาคงเห็นบุษบาในชุดไทยเลื่อมระยับใส่กรรณเจียกหูเป็นแน่


“ อ้าว นายระเด่นมาแล้วเหรอ เชิญๆ “
เสียงกำนันเชิดร้องมาจากโต๊ะกรรมการ ข้างๆกันนั้นมีกำนันพนมคู่อรินั่งหนวดกระดิกอยู่
ชายหนุ่มยกมือไหว้ผู้ใหญ่ทั้งสอง นอกจากนั้นยังมีท่านสารวัตรนั่งอยู่ถัดไป
“ ปีนี้ลงทุนหนักเหรอนายระเด่น ขนาดให้คุณบุษบาเข้าประกวด “
กำนันพนมสัพยอก
“ นี่แหละนะบุญมีแต่กรรมมาบัง คนที่ไม่ใช่ก็คือไม่ใช่ “
กำนันหนวดงามแขวะคู่อริเป็นผลให้อีกฝ่ายขมวดคิ้วเต้นร่าๆ


“ เอ็งว่าใครวะ ไอ้พนม มันเป็นอุบัติเหตุโว้ยเรื่องนังหนูลูกสาวข้าน่ะ ยังไงก็ดีกว่าลูกสาวเอ็งที่ไปทำศัลยกรรมก็แล้วกัน “
กำนันเชิดต่อปากต่อคำอย่างไม่ลดละ คู่อริแม้ใจจะเดือดปุดๆที่มีคนมาว่าลูกสาวสุดที่รักแต่ก็ทำได้เพียงยักไหล่
“ ทำยังไงได้ล่ะ ไก่งามเพราะขน คนงามเพราะแต่ง สมัยนี้มันต้องมีตัวช่วย “
แม้ปากจะพูดไปเช่นนั้นแต่กำนันหนวดงามก็อดนึกเคืองลูกสาวไม่ได้ที่ไปผ่าตัดยัดเฉือนร่างกายที่พ่อแม่ให้มาเช่นนั้น ระเด่นมนตรีได้แต่ยิ้มๆมองดูสองผู้เฒ่าฮึมฮัมเกทับใส่กันเรื่องลูกสาว


“ คืนนี้ตำรวจคงจะทำงานหนักหน่อยนะครับ ท่านสารวัตร “
ชายหนุ่มหันไปทักทายอีกคน ชายในชุดลำลองยักหน้ายิ้มตอบ
“ เป็นธรรมดาครับ ผมให้ลูกน้องเตรียมดูไว้แล้ว งานวัดทีไรพวกหนุ่มๆเลือดร้อนทุกที “
“ หนุ่มๆก็อย่างนี้แหละครับ ใครๆก็คะนอง “
ระเด่นมนตรีหัวเราะลงคอ เห็นด้วยกับผู้พูด สักพักวิทยากรกับคนงานที่ไร่ก็เข้ามาสมทบ
โดยคืนนี้ลุงสุขอยู่โยงเฝ้าไร่


“ พวกผมจะมาเชียร์คุณบุษบา “
คนงานในไร่พูดเป็นเสียงเดียวกัน งานประกวดนางงามนี้คะแนนแบ่งออกเป็นสองส่วน ส่วนแรกมาจากคะแนนลูกโป่งที่ขายโดยกองอำนวยการประกวด อีกส่วนมาจากคะแนนของคณะกรรมการซึ่งก็เป็นผู้มีชื่อเสียงนับหน้าถือตากันในอำเภอ งานในวันนี้ผู้คนพลุกพล่านคึกคัก แสงสีตระการตา เสียงโฆษกประกาศกำหนดการของงานดังมาลั่นๆ


“ สวัสดีครับ นายระเด่น กำนัน สารวัตร “
หมอจัตวาหน้าขาวเดินยิ้มหน้าบานมาแต่ไกล
“ วันนี้คุณบุษบาเข้าประกวดนางงามด้วยเหรอครับ “
พอเห็นหมอจัตวาพูดถึงหญิงสาวทีไร ระเด่นมนตรีรู้สึกหงุดหงิดอย่างบอกไม่ถูก
“ ครับ บังเอิญคนที่จะประกวดเกิดอุบัติเหตุก็เลยถือว่าช่วยๆกัน “
ชายหนุ่มตอบอย่างเสียไม่ได้


ขณะที่หมอจัตวาเตรียมซื้อลูกโป่งให้บุษบาเต็มที่
น่าเสียดายที่เขาไม่ได้เป็นกรรมการการประกวดด้วย ไม่เช่นนั้นล่ะก็เขาจะเทคะแนนให้บุษบาเต็มร้อย



การประกวดเริ่มต้นขึ้นแล้ว โฆษกเริ่มประกาศรายชื่อนางงามให้มาโชว์ตัว บุษบาใจสั่นตึ้กตั้ก หล่อนแทบไม่เห็นตัวเองในกระจกเลย เพราะพิณสุดา พอลล่า และวิยะดา มะรุมมะตุ้ม พอกโน่น พอกนี่ จับหล่อนใส่อะไรก็ไม่รู้เต็มไปหมด เวลาที่หล่อนตกแต่งเจ้าขนมทั้งหลายคงรู้สึกแบบเดียวกันกระมัง พอลล่ายืดผมหล่อนเสียตรงเป๊ะและเอาบางอย่างมาครอบศรีษะ


* ให้ทรงภูษายกพื้นตอง ห่มสไบตาดทองผ่องใส
สอดสีทับทิมซับใน แล้วใส่สะอิ้งสังวาลทรง
ตาบประดับยอดดวงพวงเพชร ทรงกรแก้วเก็จก่องกง
เข็มขัดรัดรอบเอวองค์ ธำมรงค์เพชรเรืองรุจี
ทรงปรัดผัดพักตร์เปล่งเปล่ง ดังบุหลันวันเพ็ญผ่องศรี
ทรงมงกุฎสำหรับพระบุตรี เสร็จแล้วเทวีไม่ลีลา


“ เอาผ้านี่ ถือพาดแขนแบบเจ้านายทางเหนือนะ จะได้ดูแบบชวาหน่อย “
เสียงบีบแหลมเล็กของคุณกระเทยจีบปากจีบคอจัดท่าให้เสร็จสรรพ ชุดประกวดเป็นเกาะอกและผ้าถุง
ทรงเครื่องแบบชวาปนบาหลี


“ แหม ถ้าได้ดอกลีลาวดีมาอีกหน่อยล่ะก็…เหมาะ “
เสียงพอลล่าบ่งบอกอาการเสียดายมาก จนวิยะดาย่นจมูก
“ แค่นี้ก็พอแล้วล่ะเจ๊ ใส่อะไรมากไปเดี๋ยวคุณบุษบาก็หนักหัวจนเดินไม่ได้หรอก “
ความริษยาของสาวน้อยแล่นมาเป็นริ้วๆ เมื่อคู่แข่งหัวใจแต่งตัวออกมาแล้ว เข้าท่ากว่าที่คิด
พอลล่าค้อนประหลับประเหลือก แล้วก็มองฝีมือตนเองอย่างชื่นชม


“ ฉันดูตลกมากไหมพิณ “
บุษบาถามเสียงอ่อยๆเพื่อนทำหน้าปลาบปลื้มยิ้มกว้างจนปากแทบจะฉีก
“ ไม่เลยบุษบา วันนี้เธอสวยมาก มั่นใจในตัวเองไว้ “
พิณสุดาเปลี่ยนมาใส่ผ้าแถบเกาะอกโชว์สะดือ นุ่งผ้าถุง ผมมัดไพล่ไปทางซ้ายประดับดอกไม้สด นัยว่าเพื่อนจะแสดงเป็นนางกำนัลของบุษบา รถที่นำทั้งหมดไปงานประกวดคือรถซีอาร์วีตัวต้นเหตุของชารัน
เมื่อเพื่อนเห็นหล่อนก้าวออกมาจากร้านของพอลล่า เขาก็อึ้งไปหลายวิ


“ อย่ามัวแต่อึ้งสิคุณ พาพวกเราไปงานประกวดได้แล้วเดี๋ยวจะสาย “
วิยะดาหันมาแว้ด ชายหนุ่มจึงได้สติรีบมาขับรถให้
“ ไก่งามเพราะขน คนงามเพราะแต่งจริงๆ “
คำสุภาษิตนี้เท่านั้นที่เขานึกออกเมื่อเห็นบุษบา


“ พี่บุษบาสวย “
เดียร์ชมดวงตาเป็นประกายระยิบระยับ หล่อนยิ้มตอบไม่ถนัดนัก ตาก็มองไม่ชัด ขนตาทำให้หนักจนต้องปรือตาตลอด ที่เขาว่ากันว่าใส่ขนตาปลอมแล้วเซ็กซี่หล่อนคิดว่าคงเพราะสาเหตุนี้เอง มองไม่ชัด ต้องกระพริบตาถี่ๆ


ผู้เข้าประกวดนางงามต้องไปยืนต่อหน้ากรรมการที่ด้านล่างของเวทีก่อน เพื่อให้เห็นหน้าตาที่ชัดเจน
เพราะไฟบนเวทีส่องสว่างจ้าจนเห็นผู้เข้าประกวดหน้าเหมือนกันไปหมด พอถึงตอนที่บุษบาเดินเข้าไปพร้อมกับพิณสุดา หล่อนได้ยินแต่เสียงฮือฮา แล้วก็เงียบกริบ

*เมื่อนั้น ระเด่นมนตรีเรืองศรี
เหลียวไปรับไหว้เทวี ภูมีดูนางไม่วางตา
งามจริงยิ่งเทพนิมิต ให้คิดเสียดายเป็นหนักหนา
เสโทหลั่งทั้งกายา สะบัดปลายเกศาเนืองไป


ระเด่นมนตรีรู้สึกใจเต้นรัวแรงหายใจติดขัด
ผู้หญิงตรงหน้าเขานี่ ใช่ผู้หญิงที่ทำขนมให้เขากินอยู่ทุกวันหรือเปล่า?
ทำไมหล่อนจึงได้เปลี่ยนไปถึงเพียงนี้
สวยจนเขาลืมหายใจ เสน่ห์พร่างพราย ผิวขาวลออ อกอิ่ม ผมดำยาวไปจนถึงกลางหลัง


“ แม่เจ้าโว๊ย! สวยเด็ดจริงๆ “
เสียงคนงานในไร่พึมพำ พอลล่ายืนภูมิใจในผลงานของตน แม้จะนึกฉุนในความสวยของร่างโย่งที่เกินหน้าเกินตาไปหน่อย บุษบาเป็นคนไม่แต่งตัว แต่มีส่วนเว้าส่วนโค้งพอประมาณ ด้วยหุ่นที่สูงทำให้ใส่ชุดไทย นุ่งผ้าซิ่นแล้วดูสง่า


ผิวของหญิงสาวขาวอย่างคนที่ทำงานอยู่แต่ในร่มมาตลอด
เพิ่มการแต่งหน้าเข้าไปนิดหน่อย พอลล่าคิดว่าฝีมือการแต่งหน้าหล่อนยังไม่ตก
แต่ก็ต้องยอมรับว่าการที่แต่งออกมาได้สวยขนาดนี้พื้นฐานของหน้าตาต้องดีอยู่ก่อนด้วย
…แต่ฝันไปเถอะที่คนอย่างพอลล่าจะชมบุษบาให้ได้ยิน ยังไงหล่อนก็คิดว่าตัวเองสวยกว่า


“ คุณบุษบาพยายามเข้านะครับ วันนี้ผมเชียร์อยู่ “
หมอจัตวารี่เข้ามาหา หญิงสาวยิ้มให้พอเป็นพิธี พอจะก้าวออกไปก็สะดุดส้นสูงเสไปเล็กน้อย
ชายหนุ่มรีบเข้าไปประคอง
“ เป็นอะไรหรือเปล่าครับคุณบุษบา “
หมอหนุ่มหน้าขาวถามด้วยความห่วงใย นอกจากหญิงสาวจะสวยผุดผาดในคืนนี้แล้ว กลิ่นก็ยังหอมจรุงจิตเพราะพอลล่าทุ่มทุนสร้างฉีดน้ำหอมแสนแพงให้หล่อน


คุณกระเทยบอกหล่อนว่าที่คืนนี้ยอมให้เพราะกะจะฉีกหน้ากระเทยคู่อริช่างเสริมสวยประจำของลูกสาวกำนันพนม ความแค้นของเพศที่สามนี่ช่างน่ากลัวจริงๆ


“ เปล่าคะ ขอบคุณค่ะ “
บุษบาตอบไปแค่นั้นแล้วรีบก้าวตามกลุ่มนางงามไปขึ้นเวที ระเด่นมนตรีมองภาพนั้นแล้วบอกไม่ถูก
นึกค่อนแคะว่าจัตวาเป็นหมอชีกอ เห็นผู้หญิงสวยหน่อยเป็นไม่ได้ ส่วนบุษบาก็เหลือเกิน
ไม่รู้ว่าจะล้มจริงหรือว่าแกล้งยั่วหมอหน้าขาวกันแน่ เห็นแล้วมันน่าหงุดหงิด


*เจ้าเอยเจ้าดวงยิหวา ดั่งหยาดฟ้ามาแต่กระยาหยัน
ได้เห็นโฉมฉายเสียดายครัน ฉุกคิดใจไม่ทันคิดเอย


วิทยากรปรายตาดูอาการสองหนุ่มแล้วก็ลอบยิ้ม
งานนี้สงสัยเขาอยู่เฉยๆคงได้เห็นศึกชิงนางแน่ แต่ท่าทางคนก่อศึกคงยังไม่รู้ตัว ว่าโปรยเสน่ห์ไว้มากแค่ไหน


นางงามเดินขึ้นไปประกวดเป็นเวทีแล้ว บุษบายิ่งตื่นเต้นหนักขึ้นไปอีก
“ ทำยังไงดีล่ะพิณ ฉันตื่นเต้นจัง กลัวใส่ส้นสูงเดินแล้วหกล้มอายเขาตายเลย “
หญิงสาวครางจับมือเพื่อนไว้ พิณสุดาหัวเราะคิกคักขำกับอาการตื่นเวทีของคนตรงหน้า
“ จะไปตื่นเต้นอะไรล่ะบุษบา ทีเธอสาธิตวิธีทำขนมให้แขกที่โรงแรมดูยังทำได้ แถมบรรยายเป็นภาษาอังกฤษด้วย เรื่องแค่นี้น่ะขี้ประติ๋ว “
แต่กระนั้นคนตัวโย่งก็ไม่คิดว่าขี้ประติ๋วดังเพื่อนปลอบ


“ ก็นั่นมันต้องทำขนมด้วยนี่ อีกอย่างไม่ต้องใส่องค์ทรงเครื่องขนาดนี้ “
หล่อนใจแฟบลงทุกทีๆด้วยใกล้จะถึงชื่อหล่อนแล้ว
“ นี่นะ นางบุษบา “
เสียงพอลล่าจีบปากจีบคออย่างหมั่นไส้
“ หล่อนไม่ต้องกลัวไปหรอกย่ะ ระดับฝีมือฉัน หล่อนแค่เดินโชว์ฝีมือสวยๆของฉันก็พอ ถ้ากลัวก็คิดซะว่าเดินตามไร่มันไร่เผือก คิดเสียว่าคนดูเป็นเผือกมันในไร่ “


คำแนะนำปนประชดของพอลล่าแม้จะปนไปด้วยถ้อยคำจิกกัด แต่ก็พอจุดประกายให้หล่อนบ้าง
หัวมัน…ทุกคนคือหัวมัน รีบๆเดินให้จบๆจะได้กลับไปไร่สักที
เสียงพิธีกรประกาศชื่อหล่อน พิณสุดา พอลล่าและวิยะดารุนหลังหล่อนขึ้นเวที บุษบาสูดลมหายใจเฮือก
เป็นไงเป็นกัน อายเป็นอาย คุณพระคุณเจ้า ขอให้หล่อนอย่าสะดุดส้นสูงหกล้มเลยเจ้าประคู๊ณ…


การเดินโชว์ตัวเป็นไปอย่างปลอดภัย หลังจากนั้นหญิงสาวจึงมายิ้มหวานเรียงแถวหน้ากระดานกับผู้ประกวดคนอื่น ปีนี้มีผู้ผู้เข้าประกวดนางงามอำเภอสิบกว่าคน การประกวดจึงผ่านไปโดยไว เผลอแป๊บเดียวบุษบาได้เข้ารอบสี่คนสุดท้ายกับเขาด้วย รอบต่อไปเป็นการตอบคำถาม ประเภทอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมหรือทัศนคติต่างๆ
ซึ่งผู้เข้าประกวดคนอื่นตอบว่าอะไรบ้างบุษบาไม่ทันได้ฟัง เพราะหูอื้อด้วยความตื่นเต้น
หล่อนได้ตามคำถามหลังเฟริ์นลูกสาวกำนันพนม ที่เห็นหล่อนแล้วก็ยิ้มเยาะประจำ


“ ต่อไปเป็นคำถามของคุณบุษบานะครับ เชิญเลือกซองคำถามได้เลย “
พิธีกรเอาซองคำถามสามซองมาให้เลือก บุษบาเลือกซองซ้ายสุด
“ เอาละครับ ได้คำถามแล้ว คำถามนี้จากคุณระเด่นมนตรี “
พลันเสียงวีดวิ๊วเฮฮาก็ดังไปทั่วบริเวณ บุษบาใจกระตุกวูบ อะไรมันจะบังเอิญขนาดนั้น… คำถามในซองเป็นคำถามจากคณะกรรมการหลายคน จึงไม่แปลกที่เขาจะตั้งคำถาม


แต่ทำไมหล่อนจะต้องจับได้ด้วยนี่นะสิ!
หญิงสาวคิดว่าคำถามของเขาต้องไม่ธรรมดาแน่


“ คำถามนะครับ มีคำกล่าวไว้ว่าผู้หญิงชอบคนเลว เป็นแฟนกับคนดี แต่งงานกับคนรวย “
นั่นประไร คำถามอย่างนี้ถึงจะสมเป็นระเด่นมนตรี เขาช่างมีอคติกับผู้หญิงเหลือเกิน
หล่อนนึกใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มหยันของเขาออกในทันใด
“ ขอบคุณสำหรับคำถามค่ะ “
บุษบายิ้มเย็น แปลก!พอนึกถึงใบหน้าระเด่นมนตรีแล้วอาการใจเต้นตึกตักของหล่อนหายไปในทันใด
สงสัยหล่อนจะเคืองตัวคนคิดคำถามมาก


“ ดิฉันคิดว่าเป็นทฤษฎีการเติบโตของผู้หญิงค่ะ ชอบคนเลวจะเป็นตอนเด็กหูตายังไม่กว้างไกลแยกแยะอะไรไม่ออก เมื่อแยกออกแล้วจึงมาชอบคนดี หลังจากนั้นจึงคิดถึงอนาคตความมั่นคงจึงแต่งกับคนรวย
แต่เหนือสิ่งอื่นใดคนที่เราเลือก ผู้หญิงจะเลือกคนดีที่เรารักมาเป็นคู่ชีวิตค่ะ “
เสียงปรบมือดังเกรียวกราวทันทีที่หล่อนตอบจบ หญิงสาวตอบได้ดีที่เดียว


ระเด่นมนตรีเขียนคำถามส่งไปๆ
ตอนที่ให้คณะกรรมการตั้งคำถาม เขาหวังจะได้ฟังคำตอบประมาณรักเด็ก รักธรรมชาติ อะไรเถือกนั้น
ไม่คิดเลยว่าคนตอบจะกลายเป็นบุษบา


“ เอาล่ะครับ ต่อไปจะถึงช่วงการให้คะแนนนะครับ กรรมการจะให้คะแนนผู้เข้าประกวด ส่วนพ่อแม่พี่น้องสามารถเพิ่มคะแนนให้ผู้เข้าประกวดได้โดยการซื้อลูกโป่งจากกองอำนวยการนะครับ “
ผู้คนเฮโลกันไปซื้อลูกโป่งจากกองอำนวยการ โดยกำหนดให้ซื้อได้สูงสุดคนละห้าใบ หมอจัตวาหัวเสียนิดหน่อยที่ได้ลูกโป่งมาน้อย แต่เขาติดสินบนให้คนรู้จักไปซื้อมาเพิ่มอีก เขาหวังจะให้บุษบาประทับใจในความทุ่มเท


“ นายระเด่นครับ นายระเด่น “
คนงานในไร่พากันมายิ้มกะลิ่มกะเหลี่ย
“ คนอื่นเขาไปซื้อลูกโป่งเพิ่มคะแนนให้นางงามกันแล้วนะนายระเด่น “
คนที่ท่าทางเป็นหัวโจกบุ้ยปากไปทางกองอำนวยการขายลูกโป่ง


“ แล้วไง “
ชายหนุ่มเสียงเข้มท่าทางไม่หยี่หระต่ออะไรทั้งสิ้น แต่ในใจนั้นกำลังนึกหมั่นไส้หมอจัตวาหน้าขาวที่ตาลีตาเหลือกไปซื้อลูกโป่งมาให้สาว


“ นายไม่คิดจะซื้อลูกโป่งให้คุณบุษบาบ้างเหรอ ยังไงก็เป็นคนไร่เดียวกันน่าจะเชียร์กันหน่อย “
คนพูดพยายามชักแม่น้ำทั้งห้า แต่เจ้านายหัวโล้นเพียงทำหน้าเฉยเมย
“ พวกผมมันก็เบี้ยน้อยหอยน้อย “
คนงานหลายคนพึมพำเสียงอ่อยๆ วิทยากรจึงเป็นฝ่ายควักธนบัตรสีม่วงมาให้
“ พวกแกเอานี่ไปก่อน บอกคุณบุษบาว่ากำลังใจจากพวกเรา “


แต่ไม่ทันไรธนบัตรสีเทาก็ปรากฏตามมา
“ เอานี่ดีกว่า ถ้าจะลงทุนให้คนในไร่แล้วล่ะก็ เอาให้หนัก ถ้าไม่อย่างนั้นคนจะมองว่าคนไร่อสัญขี้เหนียว “
ระเด่นมนตรีเกทับเต็มที่ พวกคนงานยิ้มดีใจรีบรับเงินไปซื้อลูกโป่งในทันใด
วิทยากรหัวเราะหึๆขำกับอาการท่ามากของคนหัวโล้น


บุษบาได้ลูกโป่งมากมายจนนิ้วพันเชือกยุ่งไปหมด มีแต่คนอวยพรให้หล่อนชนะ ขณะที่ใจนั้นหล่อนภาวนาขอให้การประกวดจบลงเร็วๆ หญิงสาวทรมานกับการเป็นคนสวยมามากแล้ว
“ ปัง “
เสียงดังขึ้นจากอีกฝั่งหนึ่งของงาน ผู้คนแตกฮือ สักพักตำรวจในเครื่องแบบวิ่งเข้ามารายงานกับท่านสารวัตร


“ คนตีกัน “
“ วัยรุ่นตีกัน “
เสียงพึมปากต่อปากดังไปทั่วจนโฆษกต้องประกาศไม่ให้ตื่นตกใจ เพราะตำรวจไประงับเหตุแล้ว
ขณะที่กลุ่มนางงามผู้เข้ารอบสุดท้ายกำลังกลับไปยืนเรียงแถวบนเวที ความโกลาหลก็เกิดขึ้นอีกครา
เมื่อกลุ่มวัยรุ่นอีกกลุ่มหนึ่งที่หลบตำรวจมาจากฟากหนึ่งของงานวิ่งมาใกล้เวที


“ เฮ้ย! หยุดนะ “
เสียงตำรวจวิ่งไล่หลังมา หนึ่งในนั้นจึงโยนระเบิดขวดขึ้นที่หน้าเวทีเพื่อถ่วงเวลาการหนี ระเบิดเสียงตูม
ผู้คนกรี๊ดกร๊าดสับสนอลหม่าน วิ่งหนีตายออกจากเวที บุษบาถูกชนล้มตกส้นสูงนั่งแหมะอยู่บนพื้นเวทีนั้นเอง หญิงสาวเจ็บจี๊ดที่ข้อเท้า สงสัยจะแพลง


“ บุษบา “
เสียงพิณสุดาร้องเรียกอย่างเป็นห่วง
“ บุษบาอยู่ไหนน่ะ ว๊าย! “
เสียงเพื่อนอุทาน บุษบายิ่งร้อนใจจึงถอดร้องเท้าทิ้งเสีย พยุงตัวลุกขึ้นเขยกจะไปหาเพื่อน
“ ฉันอยู่นี่พิณ “
หญิงสาวส่งเสียงเรียกไปแต่ไม่มีเสียงตอบกลับ


“ พิณ อยู่ไหน “
ร่างโปรงโย่งยังตะโกนหาเพื่อนอยู่ พลันใครคนหนึ่งก็เข้ามาฉุดมือหล่อนไปเสียก่อน ระเด่นมนตรีนั่นเอง!
“ ไปเร็วออกจากที่นี่ อันตรายนะ “
ชายหนุ่มบอกพลางลากหล่อนลิ่วๆแต่หญิงสาวยังขัดขืนด้วยใจห่วงเพื่อน
“ เดี๋ยวก่อน ช่วยหาพิณก่อน “


“ หลบไปก่อนเถอะน่า “
เสียงปังระคนกับเสียงตูมดังมาอีกระรอก นี่มันอะไรกัน งานวัดประเภทไหน? หล่อนยังอยู่ในเมืองไทยหรือเปล่า หรือว่าอยู่ในสงครามอิรัก ทำไมต้องเล่นอาวุธสงครามกันขนาดนี้


“ เร็วสิคุณ หลบไปก่อน “
เขายังดึงหล่อนไปอยู่ดี จนสังเกตเห็นว่าหญิงสาวเดินขากระเผลก
“ คุณบุษบา อยู่ไหนครับ ปลอดภัยหรือเปล่า“
ระเด่นมนตรีได้ยินเสียงหมอจัตวาว่าดังมาแว่วๆ ไม่ได้การล่ะ! เร็วเท่าความคิดชายหนุ่มจึงรวบตัวหญิงสาวมาอุ้ม
บุษบาตกตะลึงอ้าปากเหวอ เขาอุ้มหล่อนไว้แนบอกโดยไม่แสดงท่าทีว่าหนักเลย


“ เกาะไว้แน่นๆจะพาไปที่ปลอดภัย “
เขาสั่งเสียงเข้มแล้วพาหล่อนออกจากเวทีโดยไว


พิณสุดาวิ่งหนีละล้าละลัง เหลียวหลังมองหาเพื่อนตลอด ขณะที่คนข้างหน้าก็ยังจับมือหล่อนไว้แน่น
“ พอแล้วคุณ พอแล้ว “
หญิงสาวผิวคล้ำแว้ด หอบหายใจจนอกกระเพื่อม อกอิ่มที่อยู่ภายใต้ผ้าแถบรัดอก ผมลุ่ยลงเล็กน้อย
“ ห่างจากเวทีแล้วคงไม่เป็นไร “


ทั้งสองวิ่งมาไกลพอดู คนบริเวณนี้ไม่ได้มีท่าทีแตกตื่น ผู้ชายหลายคนที่ผ่านมาลอบเมียงมองพิณสุดาหลายคน
เพราะหล่อนในคืนนี้แต่งตัวเซ็กซี่อวดหุ่นเต็มที่ แต่พอรับรู้ถึงสายตาพิฆาตจากสีหนาทก็คอย่นหลบฉากกันไปหมด


“ โอ๊ย! แล้วนี่เพื่อนฉันบุษบาจะเป็นยังไงบ้างละนี่ “
พิณสุดาทำท่าจะเดินกลับไปทางเดิม ชายหนุ่มต้องดึงมือไว้
“ ไม่เป็นไรหรอกน่า ผมเห็นนายระเด่นที่เวทีแว๊บๆคงช่วยกันทัน “
สีหนาทปลอบพลางถอดเสื้อแจ๊คแก๊ตยีนส์รูปหัวกะโหลกมาคลุมให้หล่อน
หญิงสาวนิ่วหน้าขยับเท้าจะหนีเขา เสียงเล่าลือเรื่องกิตติศัพท์ของเขาจากเปรมผุดขึ้นมาในหัว


“ ใส่ซะ ที่นี่ไม่ใช่กรุงเทพฯ งานนี้พวกวัยรุ่นคะนองมันเยอะ เกิดเจอพวกกลัดมันมาเห็นคุณแต่งตัวอย่างนี้แล้วจะยุ่ง “
ชายหนุ่มนึกอยากจะถอดแจ๊ตแก๊ตให้พิณสุดาคลุมตั้งแต่เห็นหล่อนข้างเวทีการประกวดนั่นแล้ว ผู้หญิงอะไร…
แต่งตัวไม่รู้จักกาลเทศะ แม้ว่าจะเป็นงานประกวดตอนกลางคืนก็ตาม


“ อู๊ย! คนนั้นใครวะ คนที่ยืนอยู่ข้างนังพรน่ะ หุ่นงี้สุดยอด “
เสียงผู้ชายที่ใกล้เขาวิจารณ์หล่อน ชายหนุ่มอารมณ์เดือดปุดๆเขาไม่ได้โกรธพวกที่ปากคะนองเช่นนี้หรอก
แต่เขาโกรธหญิงสาวตรงหน้านี่ต่างหาก เมื่อไหร่ถึงจะเลิกแต่งตัวยั่วยวนสักที


“ คุณจะพาฉันไปไหน “
บุษบาร้องเมื่อระเด่นมนตรีพาหล่อนเข้ามาหลบในโบสถ์ เนื่องจากมีงานโบสถ์จึงเปิดให้ไหว้พระได้ถึงเที่ยงคืน
ผู้คนในโบสถ์เมื่อเห็นชายหนุ่มอุ้มหญิงสาวมาก็ชี้ชวนกันดูพลางหัวเราะคิกคัก
“ อ้าว ไปชิงนางบุษบามาแล้วเหรอนายระเด่น ถึงขั้นเผาเมืองเลยไหม “
ชายหนุ่มไม่ได้ตอบอะไรตีหน้าเครียด กระซิบบอกร่างโย่งที่ทรงเครื่องอยู่


“ คุณรอผมอยู่ที่นี่ อย่าไปไหน เดี๋ยวผมไปดูสถานการณ์ก่อน “
เขาสั่งเสียงเข้มก่อนที่จะทิ้งหล่อนไว้กับผู้คนและคำถามมากมาย กว่าจะตอบได้หมดเล่นเอาเหนื่อย
“ เฮ้อ ตีกันอีกแล้ว ไอ้เด็กพวกนี้ “
คนเฒ่าคนแก่ที่ไหว้พระอยู่พึมพำ อาการอยากรู้อยากเห็นกลายเป็นสงสาร


“ งานปีนี้สงสัยจะล่มอีกแล้ว เอ้า! คุณบุษบาไหนๆก็ไหนๆแล้วมาไหว้พระหน่อยเถอะ
ทำบุญเอาไว้เผื่ออะไรๆมันจะดีขึ้น “
ผู้เฒ่าผมขาวยื่นดอกไม้ธูปเทียนมาตรงหน้า


+++++++++จบบทที่9

*ส่วนของบทกลอนนั้นมาจากเรื่องอิเหนา บทพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยค่ะ



Create Date : 18 เมษายน 2552
Last Update : 18 เมษายน 2552 16:49:03 น. 1 comments
Counter : 465 Pageviews.

 
สวัสดีค่าคุณจโกระ

ตอนนี้ไม่มีแรงอ่านซ้ำตอนเก่าๆ

แต่อยากอ่านของใหม่ๆ มากกว่า หุหุ

เลยชะแว้บมาทักทายเฉยๆ

ยังไงเรื่องนี้จะได้อ่านกันต่อก็พฤษภาใช่ไหมคะ

คนอ่านรอด้ายยยยยย...

ตอนนี้ตามเก็บนิยายบ้าง เรื่องสั้นบ้างของคุณจโกระไปก่อน

ชอบทุกเรื่องเพราะพระเอกน่ารัก(และบางทีแปลกๆ)ทุกเรื่อง

เป็นกำลังใจให้จ้า


โดย: มังกรเขียวหัวยุ่ง (cruduslife ) วันที่: 18 เมษายน 2552 เวลา:17:57:42 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

จโกระ&ลาชา
Location :
สมุทรปราการ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]




Something has come and gone,and that it 's all.


free counters
Friends' blogs
[Add จโกระ&ลาชา's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.