กรกฏาคม 2551

 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
23
24
25
26
27
28
29
30
31
 
 
ถวายเทียนจำนำพรรษาแล้วพากันไปเที่ยว


วันแรกของการมาถึงจังหวัดเลย (17 กรกฏาคม) หลังจากถวายเทียนจำนำพรรษาไปได้เพียงสองวัดก็หมดเวลาพอดี คณะทัวร์ฯจึงเข้าพักที่ "ไร่วรัญญารีสอร์ท" อ.ภูเรือ จังหวัดเลย




ตามกำหนดการของโปรแกรมคณะฯเราจะขึ้นไปชมพระอาทิตย์ขึ้นที่บนยอดเขาภูเรือ เราจึงต้องตื่นแต่เช้าและออกจากที่พักเวลาประมาณ 05.30 น. นั่งรถปิคอัพท้องถิ่นขึ้นไปคันละประมาณ 13 คน


เช้านี้โชคไม่ดีเลยเพราะมีฝนตกลงมาตั้งแต่เมื่อคืน ก็หน้านี้ยังเป็นหน้าฝนอยู่นี่นะ บนยอดภูเรือนอกจากจะมีลมพัดแรงตามปกติแล้ว ยังแถมด้วยสายฝนโปรยปรายลงมาอีก มันช่างหนาวเย็นยะเยือกอย่าบอกใครเชียว หมอกปกคลุมไปทั่วบริเวณยอดเขาแทบจะไม่เห็นอะไร อย่าว่าแต่จะดูพระอาทิตย์ขึ้นเลย

ทางเดินขึ้นยอดเขาภูเรือระยะทางประมาณ 1 กม.จากจุดที่จอดรถ

เป็นธรรมชาติของนักท่องเที่ยวชาวไทยทั้งหลาย เมื่อไปท่องเที่ยวที่ไหนจะต้องหาสัญญลักษณ์ของสถานที่นั้นๆถ่ายรูป นี่ก็เช่นกันต้องจัดคิวขึ้นไปถ่ายรูปกับป้ายชื่อภูเรือกันทุลักทุเล ที่ยืนถ่ายรูปกันข้างล่างก็มีนะ จะบอกให้

บนยอดภูเรือมีศาลาเล็กๆประดิษฐานพระพุทธรูปให้นักท่องเที่ยวชาวพุทธได้กราบไหว้สักการะ


หลังจากสายหมอกจางลงบ้างแล้ว เราก็ยังไม่เห็นพระอาทิตย์ขึ้นมาสักที คณะเรามีเวลาน้อยจึงต้องจำใจลงมายังที่พัก เพื่อรับประทานอาหารเช้า เพราะวันนี้มีโปรแกรมที่จะต้องไปถวายเทียนจำนำพรรษาอีกหลายวัด จนกว่าจะครบ ๙ วัด เราไปถวายเทียนจำนำพรรษาด้วยกันนะ



วันนี้คณะเราเปลี่ยนที่พักเป็นโรงแรมภูหลวง ซึ่งตั้งอยู่ในตัวเมืองจังหวัดเลย และจะพักอยู่สองคืน

เช้าวันรุ่งขึ้นเป็นวันที่สามของการเดินทาง (วันเสาร์ที่ 19 กรกฏาคม) หลังจากรับประทานอาหารเช้าแล้ว คณะเราก็ออกเดินทางสู่ อ.เชียงคาน เพื่อชมแม่น้ำโขงที่ "แก่งคุดคู้"


วันนี้แม่น้ำโขงมีน้ำมากเลยไม่เห็นแก่งต่างๆ ดูภาพทิวทัศน์โดยรอบๆไปก็แล้วกันนะ

บริเวณที่นักท่องเที่ยวมาชมแม่น้ำโขง ก็จะมีชาวบ้านละแวกนั้นเอามะพร้าวแห้งทั้งลูกมาแกะเป็นลิงในลักษณะต่างๆกัน นับเป็นภูมิปัญญาของชาวบ้าน มีนักท่องเที่ยวสนใจซื้อหากันไปบ้างเหมือนกัน



เพิงสำหรับขายของที่ระลึกให้นักท่องเที่ยว มีสินค้าสารพัดชนิด เช่น เสื้อผ้า หมวก ของที่ระลึก อาหารขบเคี้ยว มะพร้าวแก้ว มะขามกวน เป็นต้น ฯลฯ

ก่อนจะพักรับประทานอาหารกลางวัน คณะเราเดินทางไปชมวัดศรีคุณเมือง บ้านเชียงคาน ตำบลเชียงคาน อำเภอเชียงคาน จังหวัดเลย วัดนี้สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2199 ตามประวัติเล่ากันว่า มีพระครูบุตรดี เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ ร่วมกับพระยาอนุพินาศ เป็นประธานฝ่ายฆราวาส นำชาวบ้านสร้างวัดพร้อมกับการตั้งบ้านเมือง และถือเป็นวัดเก่าแก่ของชาวบ้าน






มีสถาปัตยกรรมที่สำคัญคือ โบสถ์ เป็นศิลปะอิทธิพลล้านนาและล้านช้าง หลังคาซ้อนกันสองชั้น แต่ละชั้นทำลดหลั่นลงมาจากบน นอกจากนี้ยังมีพระพุทธรูปเก่าแก่หลายองค์ องค์ที่เป็นพระประธาน เป็นพระพุทธรูปปางสมาธิ อิทธิพลศิลปะสมัยสุโขทัย ขนาดหน้าตักกว้าง ๑ เมตร อยู่ในยุคสมัยอยุธยาตอนปลาย

หลังจากรับประทานอาหารกลางวันที่ร้านอาหารริมแม่โขงแล้ว คณะเราเดินทางสู่ บ้านนากะเซ็ง ดูทัศนียภาพแม่น้ำเหือง ที่กั้นเขตแดนระหว่างไทยกับลาว ชมสะพานมิตรภาพไทย-ลาว ที่เปิดใช้เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2547


แม่น้ำเหือง


ซุ้มประตูสะพานมิตรภาพไทย-ลาว


หลังจากนี้คณะเราเดินทางมาชมพระธาตุสัจจะ ที่อำเภอท่าลี่

พระพุทธรูปที่ประดิษฐานอยู่ด้านหน้าองค์พระธาตุสัจจะ



หลังจากนมัสการสักการะองค์พระธาตุสัจจะแล้ว คณะเราก็เดินทางกลับที่พักโรงแรมภูหลวงเพื่อพักผ่อนตามอัธยาศัย

วันรุ่งขึ้นคือวันนี้ เป็นวันอาทิตย์ที่ 20 กรกฏาคม 2551 เป็นวันสุดท้ายที่คณะเราจะเดินทางกลับกรุงเทพมหานคร หลังจากเสร็จสิ้นการรับประทานอาหารเช้าแล้ว คณะเราเดินทางสู่อำเภอหนองหิน เพื่อจะชมสวนผาหินงาม อันได้รับสมญานามว่าเป็น "คุณหมิงเมืองไทย"

พระบรมฉายาทิสลักษณ์ของล้นเกล้าทั้งสองพระองค์ตั้งเด่นอยู่ด้านหน้าสำนักงานดูแล "สวนผาหินงาม" ซึ่งอยู่ในความดูแลควบคุมของ อบต.ปวนพุ อำเภอหนองหิน จังหวัดเลย




นักท่องเที่ยวจะเดินทางเข้าไปในบริเวณสวนหินผางามตามลำพังไม่ได้ เพราะอาจจะหลงทาง ทาง อบต.ปวนพุ จึงได้จัดนัดเรียนซึ่งได้รับการอบรมมาเป็นอย่างดีเป็นไกค์นำทาง โดยเดินทางเข้าไปด้วยรถอีแต๋นของชาวบ้านที่คอยมาให้บริการรับ-ส่งนักท่องเที่ยวในราคาย่อมเยา กลุ่มละ 10 คน

เมื่อเข้าไปในสวนผาหินงามแล้ว จะพบกับความมหัศจรรย์ของธรรมชาติ ที่สร้างสรรค์ผลงานโดดเด่น ที่อุดมไปด้วยความหลากหลายทางชีวภาพ และประติมากรรมหินปูน ที่ธรรมชาติได้สร้างสรรค์มาเป็นระยะเวลากว่าล้านปี

สวนผาหินงาม เป็นเทือกเขาหินปูนขนาดเล็ก ความสูงเหนือระดับน้ำทะเล 500-750 เมตร เนื้อที่ประมาณ 9000 ไร่ จากลักษณะทางธรณีวิทยาบ่งชี้ว่ามีอายุระหว่าง 250-280 ล้านปี

ผ่านกระบวนการผุกร่อนจากลม แดดฝน และแตกหักจากแผ่นดินไหว การสั่นสะเทือนของแผ่นดินหลายครั้ง จึงทำให้เกิดเขาหินปูนในบริเวณสวนผาหินงาม ภายในสวนผาหินงามจะมีถ้ำมากกว่า 400 ถ้ำ เป็นหุบเขาป่าดิบแล้ง และป่าเบ็ญจพรรณที่คงความสมบูรณ์ มีพืชพรรณที่น่าสนใจและหายากมากถึง 1000 ชนิด นอกจากนี้ใกล้ๆกับสวนผาหินงามยังมีน้ำตกเพียงดิน และ น้ำตกผาห้อม ที่สวยงามอีกด้วย





คณะเราเที่ยวชมสวนผาหินงามอยู่จนถึงเวลาเที่ยงวัน จึงเดินทางกลับออกมารับประทานอาหารกลางวันที่ ภัตตาคารอ๊อดดาวเงิน อำเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น หลังจากรับประทานอาหารกลางวันเสร็จแล้ว จึงเดินทางกลับกรุงเทพฯผ่านเส้นทางชัยภูมิ เขาใหญ่ นครราชสีมา สระบุรี ถึงกรุงเทพฯโดยสวัสดิภาพ เวลาประมาณ 22.00 น.













ข้อมูลบางส่วนจากเอกสารแนะนำการท่องเที่ยวของ อบต.ปวนพุ
ภาพประกอบถ่ายโดยมือถือ NK N81



Create Date : 22 กรกฎาคม 2551
Last Update : 5 พฤศจิกายน 2559 10:36:03 น.
Counter : 1494 Pageviews.

4 comments
  
ชมแล้วครับ ภาพและเส้นทางสวยมาก (นอกจากภาพบริเวณป่าหินงาม)
ได้แต่อิจฉาและรอคอย
อิจฉา คนไปเที่ยวแต่ผมไม่ได้ไปเที่ยวด้วย
รอคอย เผื่อคนเดินทางจะหา ป้ายแขวนห้องพัโรงแรม มาฝากให้ผทสะสมบ้าง!
โดย: ศุภชัย IP: 125.24.234.183 วันที่: 22 กรกฎาคม 2551 เวลา:21:12:36 น.
  
สวัสดีครับ คุณศุภชัย
ผมตั้งใจจะเอาแผ่นป้ายที่แขวนหน้าห้องพักมาฝากคุณ แต่ทั้งสองโรงแรมที่พักไม่มีป้ายเลยครับ เข้าใจว่าเขาคงเลิกใช้แล้วนะ โอกาสหน้าถ้าไปที่ไหนอีกจะไม่ลืมนำมาฝากคุณแน่นอนครับ
โดย: หนุ่มร้อยปี (หนุ่มร้อยปี ) วันที่: 23 กรกฎาคม 2551 เวลา:9:19:26 น.
  
ขอบคุณครับที่แวะไปเยี่ยมกัน
ชอบภาพชุดข้างบนมากๆครับ น่าเที่ยวจริงๆ
ภาพที่สาม ถ้าได้ไปเดินเล่นท่ามกลางหมอกแบบนั้นคงสุขใจมากเลยครับ
โดย: ลุงแอ๊ด วันที่: 25 กรกฎาคม 2551 เวลา:9:15:18 น.
  
ขออนุญาตถามเป็นความรู้นะคะ
ทำไมเรียก
"เทียนจำนำพรรษา" คะ

ขอบคุณค่ะ
โดย: โสดในซอย วันที่: 28 กรกฎาคม 2551 เวลา:9:34:00 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

หนุ่มร้อยปี
Location :
กรุงเทพ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 24 คน [?]



บล็อกนี้สร้างสรรค์ขึ้นเมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2549 โดย ชายไทยวัยสูงอายุ มีวัตถุประสงค์ในการบันทึกและนำเสนอเรื่องราวต่างๆแบบครอบจักรวาล อาทิ ภาพยนตร์ ดนตรี รายการทีวี หนังสือน่าอ่าน อาหารน่ากิน ท่องเที่ยว สะสมสิ่งของ ตำนานชีวิตบุคคลน่าสนใจ รู้ไว้ใช่ว่า จิปาถะ
ฯลฯ เป็นต้น คำขวัญประจำบล็อก ประสบการณ์ชีวิตที่ดีในอดีต คือทรัพยากรที่ทรงคุณค่าในปัจจุบัน คำขวัญประจำตัวเจ้าของบล็อก "อายุเป็นเพียงตัวเลข" บรรณาธิการบริหารบล็อกคือ หนุ่มร้อยปี บล็อกนี้ไม่สงวนลิขสิทธิ์ตามกฏหมาย ท่านใดเห็นว่าข้อเขียนหรือภาพประกอบในบล็อกนี้มีประโยชน์ สามารถนำไปใช้ได้ แต่โปรดอ้างอิงชื่อบล็อกนี้ด้วย จักขอบคุณยิ่ง