หลุยส์ เฟลิเป สโกลารี กุนซือทีมชาติบราซิล ย้ำขุนพล “แซมบ้า” ห้ามประมาทชิลี ทีมม้ามืดร่วมดินแดนละตินอเมริกา เป็นอันขาด เพราะเป็นทีมที่มีเกมรุกสุดอันตราย พร้อมสั่งแนวรับจับตายอเล็กซิส ซานเชซ และอาร์ตูโร วิดาล 2 คีย์แมนตัวอันตรายของชิลี ในเกมรอบ 16 ทีมสุดท้าย ศึกฟุตบอลโลก 2014 ที่บราซิล คืนนี้ (28 มิ.ย.) โดยนัดนี้ บราซิลจะยังใช้เนย์มาร์ ยอดกองหน้าตัวเก่ง ที่กระทุ้งไปแล้ว 4 ประตูในเวิลด์คัพครั้งนี้ ลงทะลวงตาข่ายชิลีเหมือนเดิม ขณะที่ ฮอร์เก ซามปาโอลี กุนซือชิลี มั่นใจชิลีมีดีพอที่จะล้มเจ้าภาพบราซิลตกรอบ เพราะทีมแซมบ้าชุดนี้มีจุดอ่อนอยู่ที่แนวรับ พลิกปูมสถิติที่ผ่านมา ทั้งคู่เคยเจอกันมา 68 นัด บราซิลเหนือกว่าคว้าชัยได้ถึง 48 นัด ชิลีชนะแค่ 7 นัด และอีก 13 นัดเสมอกัน เริ่มเตะ 23.00 น. ถ่ายทอดสดให้ชมทางช่องอาร์เอส ฟีฟ่า และทรูสปอร์ต เอชดี 3 (668) ส่วนเกมคู่ดึก “จอมโหด” อุรุกวัย จะไร้เงาหลุยส์ ซัวเรซ กองหน้าตัวฉกาจ เนื่องจากโดนแบนยาว 9 นัด และห้ามยุ่งเกี่ยวกับฟุตบอล 4 เดือน โทษฐานกัดไหล่คิเอลลินี กองหลังอิตาลี ในการปะทะกับ โคลอมเบีย ในเกมน็อกเอาต์รอบ 16 ทีม เกมนี้มีข่าวลือว่าทีมอุรุกวัยขู่วอล์กเอาต์ไม่ลงเตะกับโคลอมเบีย หากอุทธรณ์โทษแบนของซัวเรซไม่ผ่าน ส่วนยอดไปรษณียบัตรทายผลฟุตบอลโลกพุ่งกระฉูด ขายกว่า 111 ล้านฉบับแล้ว

ศึกฟุตบอลโลก 2014 รอบสุดท้าย ที่ประเทศบราซิล เดินทางมาถึงรอบ 16 ทีมสุดท้ายแล้ว ซึ่งคืนวันที่ 28 มิ.ย. มีเกมดวลแข้งรวม 2 คู่ โดยคู่แรกเป็นการพบกันระหว่าง “แซมบ้า” บราซิล เจ้าภาพและอดีตแชมป์โลก 5 สมัย จะดวลกับ ชิลี ทีมม้ามืดร่วมดินแดนอเมริกาใต้ ที่สนามเอสตาดิโอ มิไนเรา ในเมืองเบโล ฮอริซอนเต เริ่มเตะ เวลา 23.00 น. ถ่ายทอดสดให้ชมทางช่องอาร์เอส ฟีฟ่า, ช่อง 5 และทรูสปอร์ต เอชดี 3 (668)

“แซมบ้า” บราซิล ทีมของกุนซือหลุยส์ เฟลิเป สโกลารี ผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายตามคาด หลังจบรอบแบ่งกลุ่มด้วยการเป็นแชมป์กลุ่มเอ หลังชนะ 2 เสมอ 1 (ชนะโครเอเชีย 3-1, เสมอเม็กซิโก 0-0, ชนะแคเมอรูน 4-1) เก็บได้ 7 คะแนน โดยยิงได้ถึง 7 ลูก และเสียไปแค่ 2 ประตู แต่การต้องมาเจอกับชิลี ทีมคู่ปรับร่วมดินแดนละตินอเมริกาในรอบนี้ไม่ใช่งานง่ายสำหรับอดีตแชมป์โลก 5 สมัยอย่างบราซิลแน่นอน เพราะทีมชาติชิลีชุดนี้พิสูจน์ให้เห็นแล้วพวกเขาไม่ธรรมดา เคยทำผลงานช็อกโลกคว่ำแชมป์เก่า “กระทิงดุ” สเปน ลงได้ราบคาบ 2-0 มาแล้วในเกมรอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มบี จนสุดท้ายแชมป์เก่าสเปนต้องร่วงตกรอบแรกไปอย่างสุดช้ำในที่สุด

นัดนี้ หลุยส์ เฟลิเป สโกลารี กุนซือทีมชาติบราซิล ย้ำขุนพลนักเตะ “แซมบ้า” ห้ามประมาทชิลีอย่างเด็ดขาด “หลายคนบอกว่าชิลีไม่น่าผ่านเข้ารอบในกลุ่มของพวกเขาได้ แต่ผมไม่ประหลาดใจเลย ชิลีเป็นทีมที่มีคุณภาพ พวกเขาเล่นได้ดี ถ้าเลือกได้ ผมไม่อยากเจอชิลีเลย มันยากเสมอเมื่อต้องเผชิญหน้ากับทีมจากอเมริกาใต้ด้วยกัน”สโกลารีกล่าวหลังทราบว่าต้องเจอกับชิลีในรอบ 16 ทีมสุดท้าย

ขณะที่เนย์มาร์ ดาวยิงตัวฉกาจของบราซิล ก็ออกมาเตือนเพื่อนร่วมทีมแซมบ้าเช่นกันว่า ต้องระวังอเล็กซิส ซานเชซ กองหน้าตัวอันตรายของชิลี เอาไว้ให้ดี ห้ามประมาทหัวหอกชิลีเป็นอันขาด เนื่องจากเนย์มาร์รู้พิษสงของซานเชซเป็นอย่างดี เพราะทั้งคู่เล่นร่วมกันในทีมบาร์เซโลนา “ผมโทร.คุยกับอเล็กซิสมาตลอดตั้งแต่ฟุตบอลโลกเริ่มขึ้น ตอนนี้เราต้องมาเป็นคู่ต่อสู้กัน เขาเป็นนักเตะชั้นแนวหน้า และผมชื่นชมเขามาตลอด เราจำเป็นต้องระวังเขาตลอดเวลาและห้ามปล่อยให้เขามีพื้นที่เล่นเป็นอันขาด เขาสามารถสร้างความแตกต่างให้กับทีมได้”

แมตช์นี้คาดว่า “บิ๊กฟิล” สโกลารี กุนซือทีมแซมบ้า จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงตัวผู้เล่น โดยจะใช้ผู้เล่นชุดเดิมจากรอบแบ่งกลุ่ม ผู้รักษาประตูจะเป็นฮูลิโอ เซซาร์ ส่วนแนวรับ 4 คน ประกอบด้วย มาร์เซโล, ดานี อัลเวส, ติอาโก ซิลวา และดาวิด ลุยซ์ ขยับขึ้นมาที่แดนกลาง หลุยส์ กุสตาโว รับบทมิดฟิลด์ตัวรับ โดยมีเปาลินโญ, ออสการ์ และฮัล์ค เป็น 3 ประสานทำเกมรุก ขณะที่คู่กองหน้าจะเป็นเนย์มาร์ หัวหอกซุปเปอร์สตาร์ของทีม ที่ซัดไปแล้ว 4 ประตูในเวิลด์คัพหนนี้ นำเป็นดาวซัลโวสูงสุดของทัวร์นาเมนต์ร่วมกับลิโอเนล เมสซี ของอาร์เจนตินา ผนึกกำลังล่าตาข่ายกับเฟรด

ทางด้านทีมชาติชิลี ทำผลงานยอดเยี่ยมจากการเล่น 3 นัดในรอบแบ่งกลุ่ม เริ่มจากถล่ม ออสเตรเลีย 3-1 ต่อด้วยหักเขา “กระทิงดุ” สเปน แชมป์เก่า 2-0 ก่อนจะปิดท้ายด้วยการแพ้ให้กับฮอลแลนด์ 0-2 ทำให้พวกเขามี 6 แต้ม ผ่านเข้ารอบด้วยการเป็นทีมอันดับ 2 ในกลุ่มบี สำหรับการเล่นในรอบ 16 ทีมสุดท้ายนั้น ชิลีทีมของกุนซือฮอร์เก ซามปาโอลี หวังจะสร้างเซอร์ไพรส์อีกครั้ง ด้วยการน็อกเจ้าภาพบราซิลตกรอบนี้ให้ได้ เนื่องจากซาม– ปาโอลีมั่นใจชิลีมีสิทธิ์ล้มบราซิลตกรอบ เพราะมองว่าทีมแซมบ้าชุดนี้มีจุดอ่อนอยู่ที่แนวรับ คาดว่าเกมนี้ ซามปาโอลี กุนซือชิลี จะจัดทัพใหญ่เต็มสูบลงบู๊ โดยจะได้อาร์ตูโร วิดัล กองกลางตัวสำคัญจากยูเวนตุสกลับมาเป็นตัวจริง ประสานงานทำเกมรุกร่วมกับชาร์ลส์ อารันกิซ โดยมีอเล็กซิส ซานเชซ และเอดูอาร์โด วาร์กัส ยืนเป็นคู่หัวหอก

สำหรับสถิติที่ผ่านมา ทั้ง 2 ทีมเคยเจอกันมาแล้ว 68 นัด ปรากฏว่า บราซิลเหนือกว่าหลายขุม โดยเก็บชัยชนะได้มากถึง 48 นัด ขณะที่ชิลีชนะไปเพียง 7 นัด และที่เหลืออีก 13 นัดเสมอกัน ส่วนการ เจอกัน 2 ครั้งหลังสุดในศึกฟุตบอลโลก ชิลีก็เป็นฝ่ายพลาดแพ้ให้กับบราซิลมาตลอด ทั้งในเวิลด์คัพ 1998 ที่ฝรั่งเศส และฟุตบอลโลก 2010 ที่แอฟริกาใต้