เปิดสถิติคู่ชิงแชมป์โลก “อาร์เจนติน่า” ข่มแข้ง “เยอรมนี” รีแมทช์ไฟนอล ครั้งที่ 3 ขณะที่ “ดัทช์แมน” งอแงร้องฝ่ายจัดยกเลิกศึกชิงที่ 3 ส่วน “แซมบ้า” ประกาศกำชัยกู้ศรัทธา

            การแข่งขันฟุตบอลโลก ครั้งที่ 20 ที่ประเทศบราซิล ระหว่างวันที่ 12 มิถุนายน-13 กรกฏาคมนี้ โดยที่คู่ชิงชนะเลิศ จะมีขึ้นในวันอาทิตย์นี้ ที่มาราคาน่า ระหว่าง “อินทรีเหล็ก” เยอรมนี แชมป์โลก 3 สมัย เจอกับ “ฟ้าขาว” อาร์เจนติน่า ในเวลา 02.00 น.ตามเวลาประเทศไทย

            คู่นี้ถือเป็นการพบกันเป็นครั้งที่ 3 ในรอบชิงชนะเลิศ และเป็นคู่ที่เข้ามาพบกันในนัดชิงชนะเลิศ มากที่สุดในประวัติศาสตร์ 84 ปีฟุตบอลโลก ซึ่งการพบกันใน 2 ครั้งแรกนั้น เริ่มจากปี 1986 อาร์เจนติน่า เอาชนะไปได้สุดมันส์ 3-2 คว้าแชมป์โลกเป็นสมัยที่ 2 แต่จากนั้นในอีก 4 ปีต่อมา เยอรมันตะวันตก ในสมัยนั้นก็ลบแค้นเอาคืนด้วยการชนะ 1-0 ครองโลกเป็นสมัยที่ 3

            ขณะที่สถิติที่พบกันทั้งหมด 20 นัด “ฟ้าขาว” เหนือกว่าด้วยการเอาชนะไปได้ทั้งสิ้น 9 นัด เสมอ 5 เยอรมนี ชนะ 5 นัด แต่ยิงประตูได้ทีมละ 28 ประตูเท่ากัน โดยจากการพบกัน 20 ครั้ง เป็นการดวลกันในฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย ถึง 6 เกมเลยทีเดียว ซึ่ง เยอรมนี แพ้ให้แค่ครั้งเดียวเท่านั้น

           ทางด้านการแข่งขันในวันเสาร์ที่ 12 กรกฎาคมนี้ ที่กรุงบราซิเลีย จะเป็นนัดชิงอันดับที่ 3 ระหว่างสองผู้ผิดหวังจากรอบรองชนะเลิศ “แซมบ้า” ทีมชาติบราซิล เจ้าภาพ พบกับ “อัศวินสีส้ม” ทีมชาติเนเธอร์แลนด์

            ก่อนเกมจะเริ่มขึ้น หลุยส์ ฟาน กัล กุนซือทีมชาติเนเธอร์แลนด์ ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือ ฟีฟ่า ควรที่จะยกเลิกแมทช์ชิงที่ 3 ไปได้แล้ว เพราะมันไม่มีประโยชน์อะไรเลย แถมนักเตะของเขาแทบจะไม่ได้พักเลย

            “ผมพูดเรื่องนี้มาเป็น 10 ปีแล้วว่า ไม่ควรมีการเตะนัดชิงที่ 3 ซึ่งในครั้งนี้มันไม่ยุติธรรมเลย เพราะเรามีเวลาพักฟื้นร่างกายน้อยกว่าคู่แข่ง 1 วัน แค่นี้มันก็ไม่แฟร์เพลย์แล้ว แต่สิ่งที่เลวร้ายยิ่งกว่าตามความคิดของผมก็คือ มีโอกาสแพ้ 2 เกมติดต่อกัน หากเป็นเช่นนั้น คุณจะรู้สึกแย่หนักขึ้นไปอีก ทั้งที่ตลอดทัวร์นาเมนท์เล่นได้ดีมาตลอดทั้ง 5 เกม แต่มาแพ้ในรอบรองชนะเลิศ และรอบชิงชนะเลิศ ผมคิดว่าควรจะเลิกซะที เพราะฟุตบอลโลก มีรางวัลที่สำคัญที่สุดอย่างเดียวก็คือ ตำแหน่งแชมป์โลกเท่านั้น” ฟาน กัล กล่าวในที่สุด

            ในส่วนของความพร้อมของการลงสนามนัดชิงอันดับ 3 หลุยส์ เฟลิปเป้ สโคลารี่ กุนซือ“แซมบ้า” ยืนยันว่าจะใส่ชุดที่ดีที่สุดลงสนามเพื่อกอบกู้ศักดิ์ศรีและศรัทธาคืนมา หลังจากแพ้เละเป็นประวัติศาสตร์ประเทศให้กับ เยอรมนี ในรอบตัดเชือกถึง 1-7

            โดยแนวรับได้ ติอาโก้ ซิลวา กัปตันทีมกลับมาลงสนามอีกครั้ง ซึ่งจะจับคู่เป็นเซ็นเตอร์ฮาล์ฟกับ ดาวิด ลุยซ์ ส่วนเกมรุก เนย์มาร์ ยังไม่สามารถกลับมาเล่นได้เนื่องจากเจ็บหนัก จะส่ง แบร์นาร์ด, ออสการ์ และฮัล์ค ลงเดินเกมรุก พร้อมกับให้ เฟร็ด ปักหลักเป็นหน้าเป้า

            ทางฝั่ง “ฟลายอิ้งดัทช์แมน” ที่แพ้จุดโทษให้กับ อาร์เจนติน่า ในรอบตัดเชือก น่าจะไม่ส่ง รอน ฟลาร์ กองหลังตัวแกร่งที่ยิงจุดโทษพลาดในเกมที่แล้วลงเล่น เพราะมีปัญหาบาดเจ็บ ทำให้ โจเอล เฟลท์มัน น่าจะได้ลงเล่นแทน รวมไปถึง มิเชล ฟอร์ม กับ ทิม ครูล ก็ลุ้นลงเฝ้าเสาแทนที่ของ ยาสเปอร์ ซิลเลสเซ่น อีกคนหนึ่งด้วย ส่วนเกมรุก คลาส แยน ฮุนเตลลาร์ จะได้ยืนหัวหอกคู่กับ อาร์เยน ร็อบเบน เนื่องจาก โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ที่กรำศึกหนักมาตลอด และสะบักสะบอมมาทั้งทัวร์นาเมนท์คงจะได้พัก

            สำหรับ บราซิล กับ เนเธอร์แลนด์ มีสถิติที่สูสีกันถึงขีดสุด เมื่อพบกันทั้งหมด 11 นัด ผลัดกันแพ้ชนะฝั่งละ 3 นัด เสมอ 5 นัด และยิงได้ฝ่ายละ 15 ประตูเท่ากันอีกด้วย ทั้งนี้เป็นการเจอกันในฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย 4 ครั้ง เริ่มจากปี 1974 รอบ 2 เนเธอร์แลนด์ ชนะ 2-0, ปี 1997 บราซิล ชนะ 3-2 รอบ 8 ทีมสุดท้าย, ปี 1998 เสมอกัน 1-1 ก่อนที่ บราซิล ชนะจุดโทษ 4-2 ในรอบรองชนะเลิศ และล่าสุดเมื่อ 4 ปีก่อน เนเธอร์แลนด์ ชนะ 2-1 ในรอบ 8 ทีมสุดท้าย

            ทั้งนี้ฟุตบอลโลกที่ประเทศบราซิล ผ่านไปแล้วทั้งหมด 62 นัด มีการยิงประตูกันได้ทั้งหมด 167 ลูก เฉลี่ยนัดละ 2.69 ประตู/นัด

ข้อมูลจาก //www.naewna.com/