Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2557
 
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
8 กรกฏาคม 2557
 
All Blogs
 
วิถีแซมบ้า


เข้าสู่ช่วงสัปดาห์สุดท้ายของทัวร์นาเมนต์ก็ให้รู้สึกว่ามีวันที่ไร้เกมลูกหนังเยอะไป 

        คือถ้าไม่มีบอลแล้วอยู่ในเมืองที่มันไปไหนมาไหนสะดวก ก็คงไม่เท่าไหร่ แต่นี่รีโอ เด จาเนโร มันใหญ่เกินไป และการไปเดินเล่นในใจกลางเมืองต้องนั่งรถหลายต่อ ก็เลยขี้เกียจ 

        กระนั้นพอวันว่างเป็นวันอาทิตย์ก็ต้องไปหาที่เดินออกกำลังและระบายทรัพย์ออกจากกระเป๋าซักหน่อย 

        ก็ไม่ได้ไปไหนไกลหรอกคุณ ห้างสรรพสินค้าใหญ่ในเมืองอย่าว่าแต่อยู่ตรงไหน ชื่ออะไรยังไม่รู้เลยเพราะไม่ได้สนใจ เมื่อร้านรวงส่วนใหญ่ปิดในวันอาทิตย์ หรือต่อให้เปิดก็ปิดเร็ว ไปเดินตลาดนัดที่เปิดเฉพาะวันอาทิตย์ดีกว่า 

        ว่าแล้วก็นั่งรถเมล์สาย 525 ไปลงแถวเมโทรโอโซริโอ้ ซึ่งอยู่ติดกับหาดอีปาเนม่า เผื่อว่าจะมีอะไรแปลกใหม่ในชีวิต ที่นั่นมีตลาดนัดขนาดไม่ใหญ่ไม่เล็กให้เดินฆ่าเวลาอยู่บ้าง เป็นตลาดที่เปิดในวันอาทิตย์ตั้งแต่ 9 โมงเช้าถึง 6 โมงเย็น ซึ่งในช่วงที่นักท่องเที่ยวกำลังเต็มประเทศเช่นนี้ ก็จะมีเสียงในฟิล์มภาษานู้นภาษานี้อยู่รอบตัวตลอดเวลา 

        ตลาดนัดที่ไปเดินเขาตั้งชื่อว่าตลาดนัดฮิปปี้แห่งอีปาเนม่า ซึ่งของที่ขายก็ไม่ใช่แนวฮิปปี้เท่าไหร่ หนักไปทางเสื้อผ้ากับเครื่องเงิน เครื่องประดับแนวเดียวกันซะมาก 

        ที่น่าสนใจหน่อยเห็นจะเป็นภาพวาด ที่ตั้งแผงกันเป็นเรื่องเป็นราวอยู่ 

        ของท็อปฮิตหาซื้อได้ง่ายก็คงจะเป็นรูปปั้นจำลองคริชตู้ เฮเดนตอร์ หรือพระเยซูที่สถิตอยู่เหนือยอดเขาคอร์โดวาโด้ แต่เป็นที่น่าเสียดายที่ไม่ค่อยมีงานดีๆ 

        จะซื้อของแบบนี้เน้นถูกอย่างเดียวไม่ได้นะคุณ ต้องดูวัสดุ ดูความประณีตด้วย ส่วนใครที่ฝากซื้อแล้วอยากได้แบบที่ปลุกเสกมาแล้วนั้น บอกเลยว่าเดี๋ยวปลุกเสกให้เอง เพราะขี้เกียจปีนขึ้นเขาไปซื้อบนนู้นอีกครั้ง 

        คริชตู้ เฮเดนตอร์ ช่วงนี้มีผู้มีจิตศรัทธาอยากจะหาโอกาสครั้งหนึ่งในชีวิตขึ้นไปสักการะพระองค์อยู่มาก วันๆ เข้าคิวกันยาวเป็นกิโล ถ้ามารีโอแล้วตั้งใจจะขึ้นไปที่นั่น ขอแนะนำว่ากรุณาตั้งใจไปแต่เช้า เพราะเขาปิดไม่ให้ขึ้นหลัง 5 โมงเย็น ซึ่งก็ต้องเผื่อเวลาเข้าคิวเป็นชั่วโมงอีก จะได้ไม่ต้องไปเสียเที่ยว 

        ''เปา อาซูการ์'' หรือภูเขา Sugarloaf ก็เป็นอีกแหล่งท่องเที่ยวที่คิวยาวมาก แต่ขึ้นไปแล้วก็งั้นๆ ไม่ได้รู้สึกว่าเป็นสถานที่ที่ต้องไปเหมือนคริชตู้ เฮเดนตอร์ 

        ไม่นับ 2 สถานที่นี้ ใครอยากเจอคนเยอะๆ ก็ไปโคปาคาบาน่า หรืออีปาเนม่า ซึ่งในวันอาทิตย์ผู้คนจะออกมาเล่นสเก๊ต บอร์ด มาวิ่ง มาปั่นจักรยานจนจะโดนจักรยานชนเอา 

        บนถนนหน้าหาดยังมีศิลปินข้างถนน มาเล่นดนตรีบ้าง ขายของบ้างประปราย ไม่นับบนชายหาดที่ผู้คนมาเล่นฟุต วอลเล่ย์ หรือฟุตบอลธรรมดาให้เห็นกัน ก็เป็นวันอาทิตย์ที่มีสีสันไปอีกแบบ 

        เดินเล่นแถวตลาดนัดอยู่ประมาณ 1 ชั่วโมง ไม่ได้อะไรเป็นชิ้นเป็นอัน เพราะไม่ได้ตั้งใจจะมาซื้ออะไรเป็นพิเศษ แต่ก็ไม่วายเสียเวลาส่วนใหญ่ไปกับการยืนดูภาพวาด ซึ่งโดยมากเป็นภาพวาดสีน้ำมันรูปสัญลักษณ์ต่างๆ ของรีโอและบราซิล เป็นต้นว่าชายหาดโคปาคาบาน่าหรืออีปาเนม่า, คริชตู้ เฮเดนตอร์ แล้วก็สลัม งานศิลปะตามตลาดนัดแบบนี้ราคาไม่ได้แพงมาก แต่ปัญหาได้อยู่ที่ตอนซื้อ อยู่ที่ตอนขนกลับบ้านซะมากกว่า 

        ก็เลยตัดใจไม่ซื้อจะดีกว่าหลังจากยืนเพ่งพิศอยู่นานหลายชิ้น... 



งานศิลปะราคาไม่แพงที่วางขาย แต่เผอิญขี้เกียจหอบ เลยปล่อยมันไว้ที่เดิม




        ที่น่าสนใจอีกอย่างคืออาหารท้องถิ่นทั้งคาวและหวาน ขาดไม่ได้ก็คือป๊อปคอร์นไตพัง ของกินเล่นอันดับ 1 ของชาวบราซิเลียน ซึ่งหาซื้อได้ตามป้ายรถเมล์ทั้งหลาย แต่เจ้าที่เจอที่ตลาดนัดฮิปปี้นี่แปลกหน่อย นอกจากจะมีรถเค็มกับรถหวานให้เลือกเหมือนเจ้าอื่นๆ แล้ว เขายังมีทั้งเกลือกับนมข้นไว้โรยหน้า สนนราคา 3-5 เฮไอช์แล้วแต่จะซื้อถุงเล็กถุงใหญ่ 

        โรยเกลือนี่ก็พอเข้าใจแม้มันไม่น่าจะต้องโรยอีกเนื่องจากของกินทุกอย่างที่นี่เค็มจะตายห่าอยู่แล้ว แต่ป๊อปคอร์นโรยนมข้นนี่ไม่เข้าใจ 555! ไหนจะต้องมือเลอะ ไหนจะรสชาติไม่น่าเข้ากัน เลยขอกินแบบออริจินั่ลเหมือนเดิม   

        อาจเพราะบราซิลปลูกข้าวโพดได้มาก ข้าวโพดเลยกลายเป็นของกินเล่นยอดฮิต นอกจากข้าวโพดคั่วแล้ว ข้าวโพดเป็นฝักๆ ก็มี ที่นี่เขาใช้วิธีต้มในน้ำเกลือ พอมีคนซื้อก็จะคีบขึ้นมาเอาเนยทา แล้วรองด้วยเปลือกข้าวโพด เก๋ไปอีกแบบ 

        พูดง่ายๆ คือตั้งแต่มาที่นี่ ยังไม่เคยเห็นเขาใช้กล่องโฟมใส่อาหารเลย 

        ข้าวโพดต้มแซมบ้า ราคาฝักละ 5 เฮไอช์ ถ้าไม่คูณก็พอกินได้ ไม่ถือว่าแพง แต่พอคูณ 15 เข้าไปให้มันเป็นเงินบาทไทย กินไม่ลงขึ้นมาทันที! 

        ที่น่าสนใจอีกอย่างเพราะเห็นคนเข้าคิวกันยาว คือเค้กมะพร้าวเวอร์ชั่นบราซิเลียน ที่มีชื่อเรียกว่า Tapioca พ่อค้าจะตัดแป้งสาลีนึ่งสภาพแฉะกว่าซาลาเปาเป็นแผ่นๆ ใช้กระดาษรอง แล้วโรยด้วยนมข้น โปะด้วยมะพร้าวขูดฝอยๆ กินกันจังจนน่าลอง แต่เผอิญกระแดะไม่กินแป้ง ไม่กินหวาน ก็เลยไม่นึกอยากชิม ทำให้ต้องนึกตามว่า 3 อย่างนี่รวมกัน มันจะหวานแสบไส้ไปถึงไหนหว่า 

        เดินตลาดนัดเสร็จ ทะลึ่งอยากกินสตาร์บัคส์ ซึ่งปกติอยู่เมืองไทย สตาร์บัคส์แทบไม่ได้แอ้มตังค์ เพราะกินกาแฟเย็นปีละ 2 แก้วได้ ที่เหลือกินกาแฟร้อนแถมเป็นกาแฟดำ ก็เลยไม่รู้ว่าจะต้องไปจ่ายแพงๆ ที่ ''ตาบัคส์'' ทำไม 

        มา ''ตาบัคส์'' ที่นี่ก็ต้องเข้าคิวยาวนิดนึง เมื่อถึงตาเรา เลือกว่าจะดื่มอะไรแล้วก็จ่ายตังค์ เขาจะให้แก้วมาเขียนชื่อตัวเราแล้วก็ยื่นให้เขา จากนั้นก็ไปรอคิวเรียกชื่อ 

        ก็เลยได้รู้กันหมดว่าใครชื่ออะไร ซึ่งถ้าเป็นชื่อเต็มๆ ของชาวบราซิเลียน วันๆ คงไม่ต้องทำมาหากินกันแล้ว 

        พูดถึงเรื่องชื่อ จะเป็นเจ้าหน้าที่ในมีเดีย เซนเตอร์ หรือประชาชนคนทั่วไปและแฟนบอล ต่างก็งุนงงกับการอ่านนามสกุลคนไทยมาก ประมาณว่านามสกุลพวกมึงจะยาวไปไหน กูอ่านไม่ได้ 

        ในทางกลับกัน ไอ้เราก็นึกในใจว่าชื่อ-สกุลพวกเอ็งต่างหาก ที่จะยาวไปไหน ดูอย่างชื่อนักฟุตบอลเป็นต้น ถ้าเขียนเต็มๆ ใช้พื้นที่ชื่อละวานึงเห็นจะได้ 

        เพราะเหตุนี้ นักบอลแซมบ้าจึงถูกเรียกขานจาก ''ชื่อเล่น'', ''ชื่อหน้า'' หรือ ''ชื่อที่ใช้ในวงการ'' ทั้งนั้น 

        จาก เปเล่ ถึง โรนัลดินโญ่ ไหนจะยังจะมี การ์รินช่า กับ โรนัลโด้ คั่นยุคสมัย นักเตะแซมบ้าสวนใหญ่เป็นที่รู้จักจากชื่อที่เรียกกันสั้นๆ  

        อย่างนักเตะชุดนี้ ชื่อของ เนย์มาร์, เปาลินโญ่, ออสการ์, มาร์เซโล่ หรือ เฟร็ด เป็นชื่อที่เราคุ้นเคย แต่อันที่จริงมันไม่ใช่ชื่อตามบัตรประชาชนของพวกเขา 

        ยกตัวอย่างชื่ออดีตประธานาธิบดีคนก่อนหน้า ''ป้าจิลม่า'' ที่ชื่อ ''ลุยซ์ อีนาซิโอ ลูล่า ดา ซิลวา'' ไม่มีใครเรียกชื่อลุงเขายาวเหยียดขนาดนั้น เขาเป็นที่รู้จักในนาม ''ลูล่า'' ซึ่งก็ยังดีที่ชื่อเล่น ''ลูล่า'' อยู่ในชื่อจริงของเขาด้วย ไม่เหมือนบางคน หรือนักเตะส่วนใหญ่ ที่ชื่อเล่นหรือชื่อที่ใช้ในวงการ ไม่ได้มาจากคำไหนในชื่อเต็มอันยาวเหยียดของพวกเขา  

        ไม่ต้องดูอื่นไกล ''ราชันลูกหนังโลก'' นั่นปะไร ชื่อจริง เอ๊ดสัน อรันเตส ดู นาสซิเมนโต้ แต่คนทั้งโลกเรียก ''เปเล่'' เฉย ซึ่งชื่อเล่นนี้ เขาได้มาตั้งแต่สมัยเป็นนักเรียน แถมจำไม่ได้แล้วว่าใครเป็นคนตั้ง และไม่รู้ว่ามันแปลว่าอะไร รู้แต่ว่ามันแผลงมาจากชื่ออดีตนักฟุตบอลที่เขาชื่นชอบของวาสโก ดา กาม่า คือ ''บิเล่''  

        มานูเอล ฟรานซิสกู้ ดูส ซานโตส นี่พูดไปก็ไม่น่าจะมีใครรู้จัก แต่ถ้าบอกว่า ''การ์รินช่า'' ไงล่ะ อ๋อ! 

        อีกตัวอย่างก็เช่น ริคาร์ดู้ อีเซคซง ดูส ซานตูส เลติ เรียกแบบนี้คนงงตายโหง แต่พอบอกว่าเขาคือ ''กาก้า'' ค่อยถึงบางอ้อกันเป็นแถว 

        แต่อย่าง ''เหยินใหญ่'' หรือ โรนัลโด้ ลุยซ์ นาซาริโอ เด ลีม่า นี่ ยังไม่งงเท่าไหร่ เพราะชื่อ ''โรนัลโด้'' ที่ใช้ในวงการ อยู่ในชื่อสกุลฉบับเต็มของเขาด้วย 

        เป็นธรรมเนียมของคนบราซิล ที่จะเรียกขานกันด้วยชื่อเล่น เนื่องจากชื่อสกุลเต็มๆ มันยาวซะเหลือเกิน นอกจากนั้นการเรียกชื่อเล่นหรือชื่อในวงการ ยังเป็นการแสดงถึงความใกล้ชิดสนิทสนม อย่างอดีตประธานาธิบดีลูล่านั้น ให้คนเรียกเช่นนั้นก็เพื่อให้ชนชั้นล่างของสังคมรู้สึกว่าเข้าถึงได้ และก็ไม่ได้มีแต่คนดังหรือพวกที่มีอาชีพนักฟุตบอลเท่านั้น ที่คนรู้จักจากชื่อเล่น จะเป็นหมอ บาทหลวง นักร้อง วิศวกร ผู้สื่อข่าว คนก็เรียกด้วยชื่อเล่นเช่นกัน  

        บางตำราบอกว่าการเรียกชื่อเล่นแบบนี้มีมาตั้งแต่ยุคที่ยังมีทาส ซึ่งในแดนแซมบ้านั้นมีการเลิกทาสกันในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 โดยสมัยก่อนทาสจะถูกเรียกด้วยชื่อเล่นหรือชื่อที่มันสั้นกว่าชื่อสกุลจริงๆ เช่น ชูเอา (Joao) นี่เป็นชื่อยอดฮิต และอาจมีบ้างที่ถูกเติมที่มาให้จะได้รู้ว่ามาจากไหน เป็นต้นว่า ''ชูเอา คองโก'' 

        ไอ้การเติมที่มาให้นี่ยังมีใช้ในวงการฟุตบอลด้วย อย่าง ''เหยินเล็ก'' โรนัลดินโญ่ นั้น นอกจากจะได้ชื่อ โรนัลดินโญ่ ที่หมายถึง ''โรนัลโด้น้อย'' พอมี โรนัลดินโญ่ โผล่มาอีกตัว เอ้ย! อีกคน เจ้าเหยินน้อยก็ต้องพ่วงด้วย โรนัลดินโญ่ เกาโช่ เพื่อบ่งบอกที่มา ว่าหมายถึง โรนัลดินโญ่ แห่งรีโอ กรันเด้ ดู ซูล นะไรงี้ 

        ว่ากันว่าสมัยที่คนอังกฤษนำฟุตบอลมาให้คนบราซิเลียนรู้จักในช่วงศตวรรษที่ 19 นั้น ชาวแซมบ้าเรียกขานกันเองด้วยนามสกุลเหมือนคนอังกฤษอยู่เลย แต่พอกีฬาฟุตบอลเริ่มเป็นที่นิยมก็ไม่ไหวแล้ว นามสกุลซ้ำกันเยอะเหลือเกิน และพอทีมชาติบราซิลยุคดึกดำบรรพ์เริ่มลงสนามแมตช์แรกในประวัติศาสตร์ในปี 1914 ก็เริ่มใช้ชื่อเล่นกันแล้ว 

        สำหรับทีมแซมบ้าชุดปัจจุบัน มีนักเตะอยู่ 17 จาก 23 คนที่โลกรู้จักด้วยชื่อเล่นเดี่ยวๆ ไม่มีนามสกุลต่อท้าย ซึ่งไอ้การกำหนดชื่อเล่นหรือชื่อที่ใช้ในวงการนี่ก็ไม่มีกฎตายตัวอีก ประมาณว่าชื่อ อุไร ปทุมมาวัฒนา แต่ชาวบ้านเรียก ''หมวย'' ทั้งๆ ที่หน้าตาก็ฝรั้งฝรั่ง (กระเต็มหน้าไง) 

        เขียนไปเขียนมาก็ชักจะยาว เอาเป็นว่าที่บราซิล ชื่อนั้นสำคัญเหมือนที่อื่น เพียงแต่ที่มาหลากหลายซะเหลือเกิน แต่ต่อไปถ้าเจอคนบราซิลหัวเราะนามสกุลยาวๆ ของคนไทย เหมือนที่หลายคนเจอมา จะเรียกคนๆ นั้นสั้นๆ ว่า ''ไอ้ห่า'' กับ ''อีหอก'' แล้วล่ะตัวเอ๊งงง 555!!!  

        มาเฟียรี่ 

ข้อมูลจาก //www.siamsport.co.th/



Create Date : 08 กรกฎาคม 2557
Last Update : 8 กรกฎาคม 2557 12:35:26 น. 0 comments
Counter : 826 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ล่องแม่ปิง
Location :
เชียงใหม่ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 11 คน [?]




อังกฤษเป็นชาติที่เริ่มเล่นฟุตบอล แต่บราซิลเป็นชาติที่สอนการเล่นฟุตบอล

มีคำพูดธรรมดาๆประจำฟุตบอลโลกอยู่ประโยดหนึ่งว่า"ฟุตบอลโลกที่ไม่มีบราซิล ก็ไม่ใช่ฟุตบอลโลก"


จะจริงเท็จประการใด แฟนบอลทั่วโลกยังไม่เคยทราบ เพราะที่ผ่านมา 20 ครั้ง และครั้งที่ 21 ในปี 2018 บราซิลยังคงได้เข้ามาเล่นรอบสุดท้ายอิกครั้ง ในฐานะเจ้าภาพ


ผมยังนึกไม่ออกว่าหากบราซิลไม่สามารถผ่านเข้ามาเล่นในรอบสุดท้ายของฟุตบอลโลก ฟุตบอลโลกในปีนั้นจะขาดอะไรไปบ้าง....มนต์ขลังลีลาแซมบ้า. สีเขียว-เหลืองที่แต่งแต้มฟุตบอลโลกทุกครั้งเสมอมา หรือกองเชียร์ที่แต่งองค์ทรงเครื่องกันมา น้องๆขบวนพาเหรดงานคานิวัล ผมว่าคงไม่เกิดขึ้นในรุ่นของผมนะครับ
Friends' blogs
[Add ล่องแม่ปิง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.