Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2557
 
29 มิถุนายน 2557
 
All Blogs
 
ฉบับที่19:ส่องเกมแซมบ้า-ชิเลโน่..byเจมส์ ลาลีกา



นับแต่เปิดฉากครั้งแรกเมื่อวันที่ 12 มิ.ย. ล่วงมาสองสัปดาห์ ที่สุดแล้วเราก็ได้ 16 ทีมครบถ้วน
        ไล่เรียงรายชื่อกันแล้วอาจพูดได้ว่าเป็นฟุตบอลโลกที่พลิกล็อกที่สุดครั้งนึงก็ว่าได้ เพราะตัวเต็งและอดีตแชมป์โลกหลุดปลิวไปแล้วหลายราย
        อดีตแชมป์โลกหนึ่งสมัย ทยอยกันเก็บกระเป๋ากลับบ้านเรียบร้อย ไล่ตั้งแต่ สเปน, อังกฤษ และ อิตาลี ส่วนทีมใหญ่อย่าง โปรตุเกส และ รัสเซีย ก็เอาตัวไม่รอดเช่นกัน  
        16 ทีมประกบคู่ออกมาเป็น 8 คู่ ซึ่งบางคู่เราต้องขยี้ตาซักสองรอบจึงจะทำใจเชื่อได้ว่า นี่เป็นแมตช์รอบน็อกเอาต์จริงๆ 
        เป็นที่น่าสังเกตว่า คราวนี้นอกจากทีมใหญ่จะพลิกล็อกร่วงตกรอบแล้ว บรรดาตัวแทนจากอเมริกาใต้ยังทำผลงานได้เลิศอีกต่างหาก
        6 ชาติละตินอเมริกา พาเหรดเข้ารอบน็อกเอาต์ได้ถึง 5 ชาติด้วยกัน จะมีเพียงแค่เอกวาดอร์ ในกลุ่ม อี เท่านั้น ฝ่าดงแข้ง ฝรั่งเศส กับ สวิตเซอร์เเลนด์ ไม่ไหว
        เมื่อทราบโปรแกรมที่แน่ชัดแล้ว "เจ๊" มาเฟียรี่ หัวหน้าทัพ "แซมบ้าฟรุ้งฟริ้ง"จัดการแบ่งหน้าที่ติดตาม 8 คู่ ให้กับพวกเรา 
        คุณลิตเติ้ลโจที่หลงใหลมนต์เสน่ห์ของหาดโกปากาบาน่า ที่ทั้งขาวและอวบ ขอลงหลักปักฐานที่รีโอ ดูเกม โคลอมเบีย-อุรุกวัย ซึ่งมีข่าวว่ารายหลังอาจจะประท้วงไม่ยอมเล่น หลังกองหน้าตัวเก่ง หลุยส์ ซัวเรซ โดนแบนแต๊ดแต๋
        ประเด็นของกัดของ "เหยิน" จนถูกลงดาบครั้งใหญ่ แม้ทำให้สมาคมลูกหนังอุรุกวัยไม่พอใจ แต่เชื่อเหอะว่า สุดท้ายเกมนี้ก็ต้องเกิดขึ้นแน่นอน พวกเขาไม่กล้าแลกกับฟีฟ่าหรอก
        ด้าน "เจ๊" กับ "เบน ไม่ต้องสืบ" (จากศพ) ก็จะรั้งอยู่ที่มาราคาน่า ร่วมกับพี่ลิตเติ้ลโจ เช่นกัน แต่พอจบแมตช์ปุ๊บ ก็จะจับเครื่องตีเข้าเมืองหลวงบราซิเลียตาม ฝรั่งเศส บู๊กับ ไนจีเรีย อีกดอก 
        อานิกร หรือ ก.ป้อหล่วน ชนะคะแนนอย่างเป็นเอกฉันท์ ลงใต้ไปปอร์ตู อเลเกร ตาม เยอรมัน ทีมรัก หวดกับจอมพลิกล็อก แอลจีเรีย 
        "oNe"  คนข่าวร่างเล็กบุกแดนคนเถื่อน เซา เปาลู ไปตามดู อาร์เจนตินา-สวิส 
        ไก่ป่า กับ ซันเดย์ สองคู่ซี้แจ็กพอตแตก ได้ดูคู่ใหญ่สุด "คอสตาริกา-กรีซ" เหตุนี้ "เจ๊" จึงเพิ่มทริปปลอบใจให้ดูอีกคู่คือ เบลเยียม-สหรัฐฯ  
        "วิศรุต"จากสยามสปอร์ต กับ ฉัตรดนัย เจ้าของฉายา "ฉัตรรุงรัง" ที่ป่านนี้ยังไม่ได้กลับฐานที่รีโอ ต้องไปฟอร์ตาเลซ่า ติดตามเกม ฮอลแลนด์-เม็กซิโก ต่อ
        สุดท้ายผมกับ "หำเข่าโหด" ตากล้องมากรัก เมื่อสเปนตกรอบไปแล้ว "เจ๊" เลยแซวเข้าให้ว่า "มึงไม่มีอะไรทำแล้วใช่มั้ย?" งั้นตีตั๋วไปเบโล โอรีซอนชี ดูเกมเจ้าภาพ บราซิล ดวลแข้ง ชิลี ละกัน
        ทัพแซมบ้าของ เฟลิเป้ สโคลารี่ เข้ารอบมาในฐานะแชมป์กลุ่ม เอ ด้วยผลงานชนะ 2 เสมอ 1 ซึ่งถือว่าไม่สมบูรณ์แบบ และมีรอยด่างพร้อยเล็กๆ 
        เกมแรกกับโครเอเชีย ได้จุดโทษแบบน่ากังขา นัดสองไปหลุดเสมอเม็กซิโกมา 0-0 ขณะที่เกมถล่มแคเมอรูนก็ยังมีลูกโขกของ เฟร็ด ที่ต้องวิเคราะห์กันต่อว่า "ตกลงมันล้ำหน้าหรือเปล่า?"  
        แต่ถึงอย่างนั้น โดยรวมแล้วใครต่อใครต่างก็ยกให้พวกเขาเป็นต่อ 
        ส่วนชิลีนั้นฟอร์มรอบแรกเยี่ยมทีเดียว ต่อยจิงโจ้ตาแตกในเกมแรก 3-1 ก่อนหักเขากระทิงให้ใครต่อใครชีช้ำอีก 2-0 (ฮือ)
        หน้าตาของแชมป์กลุ่ม เอ ที่ต้องดวลกับรองแชมป์กลุ่ม บี อาจไม่ถือว่าเป็นไปตามคาดมากนัก เพราะทีแรกกะเกณฑ์กันว่าไม่ ฮอลแลนด์ ก็ สเปน นี่แหละที่จะเป็นคู่ดวลกับทัพเซเลเซา
        เเต่เมื่อวันพลิกออกมาเป็นชิลี ก็ดูท่าว่าเจ้าภาพจะเบาใจอยู่ไม่หยอก กระนั้นก็ตาม จากเหตุการณ์ที่ผ่านมาบ่งชี้หลักฐานชัดเจนแล้วว่า บอลโลกหนนี้ไว้ใจไม่ได้
        เจ้าภาพเรียกศรัทธาจากแฟนๆ กลับมาได้ทันเวลา เมื่อจัดการขยี้แคเมอรูนเละเทะ 4-1 
        เนย์มาร์เวลานี้แทบจะกลายเป็นเทพเจ้าไปแล้ว หลังเหมาอีก 2 ตุง ส่วนเฟร็ดก็สลัดความกดดันจากการถูกตีตราว่าเป็นหมายเลข 9 ที่ขี้เหร่ที่สุดเท่าที่บราซิลเคยมีมาในบอลโลก เบิกลูกแรกให้ตัวเองสำเร็จ จากลูกโขกที่กึ่งๆ ว่าจะล้ำหน้า
        อย่างไรก็ดี แม้จะถูกยกให้เป็นต่อ แต่ก็ยังมีแฟนๆ อีกมากที่มองว่า บราซิลชุดนี้ยังเล่นได้ไม่น่าประทับใจนัก
        แดนหน้าถือว่าโอเคแค่เนย์มาร์คนเดียว ส่วนที่เหลืออย่างเฟร็ด และฮัล์คนั้นยังพิสูจน์อะไรไม่ได้ว่ามีดีพอจะบันดาลชัยชนะให้ทีมได้ 
        จินตนาการดูว่า ถ้าดาวยิงบาร์ซ่าเล่นไม่ออก หรือบาดเจ็บ บราซิลจะหลงเหลืออาวุธอะไรไปทิ่มแทงชิลี 
        แผงกลางอย่าง ออสการ์, หลุยส์ กุสตาโว่, แฟร์นันดินโญ่ หรือ เปาลินโญ่ ยังคายพิษสงไม่ออก การสร้างสรรค์เกมแบบเฉียบขาดถือว่ายังมีไม่มาก 
        นอกจากนี้ ในเรื่องของการยืนระยะก็ยังไม่ดี บางจังหวะครอบครองเกมได้ แต่หลายครั้งก็พลาดง่ายๆ จนถูกคู่ต่อสู้ไล่บี้กดดัน 
        แนวรับถือเป็นจุดที่ดูว่าแข็งแกร่งที่สุดของทีม เพราะสโคลารี่เป็นบอลสไตล์รับแน่น กระนั้นก็ปฏิเสธลำบากว่าพวกเขายังมีช่วงโหว่ให้เห็นอยู่
        บราซิลมีฟูลแบ็กที่เก่งเกมรุกทั้งสองฝั่งอย่าง ดาเนียล อัลเวส และ มาร์เซโล่ ซึ่งจะว่าไปแล้ว เหมือนดาบสองคม 
        ข้อดีคือ สนับสนุนเกมบุกของทีมได้ แต่ข้อเสียก็คือ เวลาเล่นรุกแล้วพลาด มักเปิดพื้นที่ให้คู่แข่งได้โจมตีอยู่เสมอ ทำให้คู่เซนเตอร์ฮาล์ฟอย่าง ดาวิด ลุยซ์ และ ติอาโก้ ซิลวา ต้องทำงานหนัก 
        ด้านชิลีแม้ภาพรวมดูแล้วเป็นรอง แต่ผลงานที่แสดงออกมาให้เห็นนั้นบ่งชี้ชัดเจนว่าพวกเขาดุดันขนาดไหน 
        แนวรุกแต่ละคนทั้งปราดเปรียวและหนุ่มแน่น ขณะที่แผงกลางกับหลังเหนียวแน่น สู้ทุกจังหวะ ซึ่งเกมชำเราสเปนที่มาราคาน่านั้น ถือเป็นตัวอย่างที่ชัดเจน บรรดาแข้งเทพจาก ลา ลีกา แทบไม่มีโอกาสได้ลุ้นเข้ายิงประตูเลย
        จริงอยู่ "กระทิงดุ" ลดทอนความกร้าวแกร่งลงไปจากเมื่อ 4 ปีก่อนมาก แต่จากมุมมองส่วนตัวนั้น รูปเกมในวันที่พวกเขาแพ้อัศวินสีส้ม 1-5 ยังไม่ดูสิ้นหวังเท่ากับแพ้ให้ชิลี 0-2
        อาร์ตูโร่ วิดัล, เอดูอาร์โด้ วาร์กาส และ อเล็กซิส ซานเชซ 3 คนนี้เฉียบขาดในจังหวะสังหาร อีกทั้งยังมีเทคนิคการเล่นที่ดีเยี่ยม 
        ทั้งสามคนมีศักยภาพมากพอที่จะเอาชนะแนวรับบราซิลในจังหวะดวลกันตัวต่อตัวได้ เหตุนี้เชื่อแน่ว่า สโคลารี่คงไม่กล้าแลกกับชิลีตรงๆ ตั้งแต่แรก และสองแบ็กอย่างอัลเวส และมาร์เซโล่ ต้องถูกกำชับให้เล่นรับมากกว่ารุกในนัดนี้ 
        เด็กๆ ของ ฮอร์เก้ ซามปาโอลี่ มาเน้นรับแล้วโต้ตามสไตล์บอลรองแน่ โดยเน้นการป้องกันในพื้นที่สุดท้ายเป็นหลัก ส่วนบราซิลเจ้าภาพอาจครองเกมได้มากกว่า แต่คงไม่ถึงกับบุกแบบเต็มตัว 
        เหตุนี้ บราซิล VS ชิลี สองยักษ์แดนละตินที่โคจรมาเจอกัน จึงมีความเป็นไปได้สูงที่เกมจะออกมาไม่สนุก ไม่เอนเตอร์เทนแฟนบอลอย่างที่ใครต่อใครคาดหวัง 
        กระนั้นมันจะเป็นเกมที่บีบหัวใจแฟนบอลทั้งสองทีมอย่างไม่ต้องสงสัย จังหวะผิดพลาดแค่ครั้งเดียวอาจตัดสินชี้ขาดผู้ชนะได้ในพริบตา
        ในฐานะเจ้าภาพแล้ว บราซิลตั้งความหวังไปที่การคว้าแชมป์สถานเดียว ซึ่งเกมในคืนวันที่ 28 มิ.ย. นี้ พวกเขาจำต้องพิสูจน์ให้โลกได้เห็นว่า นี่คือทีมที่ดีและคู่ควรกับตำแหน่งแชมเปี้ยน
        การเอาชนะชิลีให้ได้สวยๆ เป็นหนทางเดียวในการแก้ไขข้อกังขาต่างๆ ในทีมชุดนี้ของสโคลารี่ แต่หากพลาดท่าขึ้นมาแล้วละก็ งานนี้ก็ตัวใครตัวมันล่ะครับ

-เจมส์ ลา ลีกา-

ข้อมูลจาก //www.siamsport.co.th/





Create Date : 29 มิถุนายน 2557
Last Update : 29 มิถุนายน 2557 2:42:33 น. 0 comments
Counter : 935 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ล่องแม่ปิง
Location :
เชียงใหม่ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 11 คน [?]




อังกฤษเป็นชาติที่เริ่มเล่นฟุตบอล แต่บราซิลเป็นชาติที่สอนการเล่นฟุตบอล

มีคำพูดธรรมดาๆประจำฟุตบอลโลกอยู่ประโยดหนึ่งว่า"ฟุตบอลโลกที่ไม่มีบราซิล ก็ไม่ใช่ฟุตบอลโลก"


จะจริงเท็จประการใด แฟนบอลทั่วโลกยังไม่เคยทราบ เพราะที่ผ่านมา 20 ครั้ง และครั้งที่ 21 ในปี 2018 บราซิลยังคงได้เข้ามาเล่นรอบสุดท้ายอิกครั้ง ในฐานะเจ้าภาพ


ผมยังนึกไม่ออกว่าหากบราซิลไม่สามารถผ่านเข้ามาเล่นในรอบสุดท้ายของฟุตบอลโลก ฟุตบอลโลกในปีนั้นจะขาดอะไรไปบ้าง....มนต์ขลังลีลาแซมบ้า. สีเขียว-เหลืองที่แต่งแต้มฟุตบอลโลกทุกครั้งเสมอมา หรือกองเชียร์ที่แต่งองค์ทรงเครื่องกันมา น้องๆขบวนพาเหรดงานคานิวัล ผมว่าคงไม่เกิดขึ้นในรุ่นของผมนะครับ
Friends' blogs
[Add ล่องแม่ปิง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.