Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2557
 
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
9 กรกฏาคม 2557
 
All Blogs
 
โคลเซสุดยอด!! 'อินทรี'ถล่ม'แซมบ้า'คารัง 7-1 ลิ่วชิงบอลโลก



มิโรสลาฟ โคลเซ ครองสถิติทำประตูสูงสุดในศึกฟุตบอลโลก หลังมีส่วนร่วมควงเพื่อนในทีมอย่าง โทนี โครส และ อันเดร ชูร์เล ที่กดคนละ 2 ตุงไล่ถล่ม "แซมบ้า" บราซิล เละคารัง 7-1 พา "อินทรีเหล็ก" เยอรมนี ผ่านเข้าชิงศึกเวิลด์คัพ 2014...

การแข่งขันฟุตบอลโลก 2014 รอบสุดท้าย ที่ประเทศบราซิล เมื่อวันพุธที่ 9 ก.ค. เวลา 03.00 น. ตามเวลาในไทย เป็นเกมรอบรองชนะเลิศ​ ณ สนาม เอสตาดิโอ มิเนเรา เมือง เบโล ฮอริซอนเต "แซมบ้า" บราซิล ทีมเจ้าภาพ แชมป์โลก 5 สมัย ลงสนามพบกับ "อินทรีเหล็ก" เยอรมนี แชมป์โลก 3 สมัย

เกมนี้ บราซิล ขาด เนย์มาร์ ศูนย์หน้าคนสำคัญที่มีอาการบาดเจ็บและไม่มี ติอาโก ซิลวา ปราการหลังกัปตันทีมที่ติดโทษ​แบน ทำให้ หลุยส์ เฟลิเป สโคลารี ต้องส่ง เบอร์นาร์ด ลงล่าตาข่ายร่วมกับ ออสการ์, เฟร็ด และ ฮัลค์ ขณะที่เกมรับส่ง ดันเต ลงยืนเซ็นเตอร์ร่วมกับ ดาวิด ลุยซ์ ที่สวมปลอกแขนกัปตันทีมในนัดนี้

ด้าน โยอาคิม เลิฟ เทรนเนอร์เยอรมนี ไม่มีปัญหาเรื่องการจัดทีม เมซุต โอซิล, มิโรสลาฟ โคลเซ และ โธมัส มุลเลอร์ ผนึกกำลังล่าตาข่าย ถอย ฟิลิปป์ ลาห์ม ลงมาเล่นแบ็กขวา

เริ่มเกมครึ่งแรก บราซิล เจ้าภาพก็เปิดฉากบุกใส่จนได้ทักทายก่อนตั้งแต่ 3 นาทีแรกจากจังหวะที่ มาร์เชโร แต่งบอลเข้าเท้าซ้ายก่อนจะซัดจากนอกกรอบเขตโทษ แต่บอลไม่ตรงกรอบ และหลังจากนั้น 5 นาที เยอรมนี ได้ตอบโต้ เมซุต โอซิล จ่ายบอลยัดเข้ากลางให้ ซามี เคดิรา วิ่งเข้ามาแปเน้นๆ แต่ดันไปติด โทนี โครส พวกเดียวกันเอง

แต่เพียงชั่วอึดใจ น.11 "อินทรีเหล็ก" ก็มีประตูขึ้นนำจนได้ จากจังหวะที่ โทนี โครส เปิดลูกเตะมุมฝั่งขวาข้ามไปที่เสาไกลให้ โธมัส มุลเลอร์ วิ่งเข้ามาแปโล่งๆ เข้าไป ทำให้ เยอรมนี ขึ้นนำไปอย่างรวดเร็ว 1-0


โธมัส มุลเลอร์ ซัดเปิดทาง
หลังจากที่โดนขึ้นนำแต่หัววัน บราซิล ก็เร่งทำเกมบุกหนักแต่ยังไม่ได้ลุ้นจังๆ สักที และเมื่อมาถึง น.23 แฟนบอลเจ้าภาพได้ช็อกกันทั้งสนาม เมื่อ เยอรมนี นำห่างเป็น 2-0 จากจังหวะที่โทนี โครส แทงบอลเข้ากลางให้ โธมัส มุลเลอร์ ตอกส้นส่งบอลคืนให้ มิโรสลาฟ โคลเซ วิ่งมากดติดเซฟ จูลิโอ เซซาร์ ก่อนจะตามมายิงซ้ำอีกทีไม่เหลือซาก และนั่นยังทำให้เขากลายผู้เล่นที่ทำประตูมากสุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอลโลก จากผลงาน 16 ประตู มากกว่า โรนัลโด ของบราซิล ที่ทำไว้ 15 ประตู


ลูกยิงประวัติศาสตร์ของ มิโรสลาฟ โคลเซ
นาทีต่อมา เกมรุกของ เยอรมนี ยังคงดุดัน ซัดเพิ่มเป็น 3-0 เรียบร้อย หลัง ฟิลิปป์ ลาห์ม ลากบอลขึ้นมาริมเส้นฝั่งขวาก่อนจะเปิดเข้ากลางบอล โธมัส มุลเลอร์ วิ่งมาซัดแต่ไม่โดนบอล ลูกไหลต่อไปเข้าทาง โทนี โครส กดเต็มข้อไม่พลาด


โทนี โครส กดตุงตาข่าย
หลังจากนั้น 2 นาที เยอรมนี ไม่รอช้า โกยสกอร์นำห่างเป็น 4-0 โทนี โครส หลุดเข้าไปทำชิ่งจ่ายให้ ซามี เคดิรา ก่อนจะแตะคืนให้ โครส กดเข้าไปง่ายๆ


โทนี โครส ยิงได้อีกหนึ่ง
น.29 "เซเลเซา" ยังเมาหมัด โดนอัดเพิ่มไปอีกหนึ่งตุง เมซุต โอซิล ได้บอลหลุดเข้าเขตโทษก่อนจะไหลให้ ซามี เคดิรา แปเข้าไปง่ายๆ "อินทรีเหล็ก" นำขาดเป็น 5-0


ซามี เคดิรา กดเพิ่มไปอีก
หลังจากนั้นทีมเจ้าภาพพยายามจะไล่เอาประตูคืน แต่ก็เจาะแนวรับเยอรมนีไม่ผ่าน ทำให้จบครึ่งแรก เยอรมนี นำ บราซิล ไปก่อน 5-0


กลับมาต่อในครึ่งหลัง บราซิล รีบแก้เกม ส่ง รามิเรส และ เปาลินโญ ลงแทน ฮัลค์ กับ แฟร์นันดินโญ ส่วน เยอรมนี ส่ง แพร์ แมร์เตซัคเกอร์ ลงมาแทน แมตต์ ฮุมเมลส์

รูปเกมเป็น "แซมบ้า" ที่เดินเครื่องบุกหนัก ขณะที่ทีมตัวแทนจากยุโรปเริ่มเน้นเกมรับ มาถึง น.52 เจ้าถิ่นได้ลุ้น เฟร็ด แทงบอลให้ รามิเรส หลุดเข้าเขตโทษด้านขวาก่อนจะตบเข้ากลาง แต่ มานูเอล นอยเออร์ พุ่งออกมาตัดบอลได้ทันก่อนถึง ออสการ์ ถัดมานาทีเดียว บราซิล ได้ลองอีกครั้งจากลูกยิงของ ออสการ์ แต่ นอยเออร์ ป้องกันเอาไว้ได้

น.54 นอยเออร์ โชว์ซุปเปอร์เซฟหลัง เปาลินโญ พาบอลหลุดเดี่ยวเข้าเขตโทษก่อนจะกดเต็มข้อแต่นายด่าน "อินทรีเหล็ก" ทุบทิ้งได้ทัน บอลมาเข้าทาง เปาลินโญ ยิงซ้ำอีกทีแต่ นอยเออร์ ปัดออกหลังได้อีก และใน น.62 เยอรมนี ก็มีเสียวจากจังหวะโต้กลับ โธมัส มุลเลอร์ ส่องด้วยขวาหน้าเขตโทษ แต่ ชูลิโอ เซซาร์ บินปัดทิ้งได้ทัน

เกมบีบหัวใจกองเชียร์เจ้าถิ่นเข้าไปเรื่อยๆ จนมาถึง น.69 บราซิล ก็ต้องช้ำใจเพิ่ม เมื่อ เยอรมนี นำห่างเป็น 6-0 ฟิลิปป์ ลาห์ม เติมเกมขึ้นมาเปิดบอลเรียดไปหน้าประตูและเป็น อันเดร์ ชูร์เล ตัวสำรองที่ยิงเข้าไปง่ายๆ และหลังจากนั้นเพียง 10 นาที เยอรมนี ก็ยิงเพิ่มเป็น 7-0 จาก ชูร์เล คนเดิมที่โดดรับบอลจาก โธมัส มุลเลอร์ ในกรอบเขตโทษทางซ้าย ก่อนจะยิงแสกหน้า จูลิโอ เซซาร์ เช็ดใต้คานเข้าไปตุงตาข่าย


อังเดร์ ชูเลร์ ลงมายิง
ในท้ายเกม น.90 เจ้าภาพมาได้ประตูปลอบใจจากจังหวะเปิดบอลยาวขึ้นหน้าและเป็น ออสการ์ ที่รับบอลลงแตะหลบ เยอโรม บัวเต็ง เข้ากลางก่อนจะซัดผ่าน นอยเออร์ เข้าไป จบการแข่งขัน เยอรมนี เอาชนะ บราซิล ไปด้วยสกอร์ขาดลอย 7-1 เข้ารอบชิงชนะเลิศไปรอพบผู้ชนะระหว่าง อาร์เจนตินา กับ เนเธอร์แลนด์ ส่วน บราซิล ไปชิงที่ 3.

รายชื่อ 11 ตัวจริง

บราซิล : จูลิโอ เซซาร์, ดาวิด ลุยซ์, มาร์เซโล, ดันเต, ไมคอน, แฟร์นันดินโญ, ฮัลค์, ออสการ์, หลุยส์ กุสตาโว, เบอร์นาร์ด, เฟร็ด

เยอรมนี : มานูเอล นอยเออร์, เบเนดิกท์ โฮเวเดส, แมตต์ ฮุมเมลส์, ฟิลิปป์ ลาห์ม, เยอโรม บัวเต็ง, ซามี เคดิรา, บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์,โทนี โครส, เมซุต โอซิล, มิโรสลาฟ โคลเซ, โธมัส มุลเลอร์

ข้อมูลจาก //www.thairath.co.th/



Create Date : 09 กรกฎาคม 2557
Last Update : 9 กรกฎาคม 2557 11:22:34 น. 0 comments
Counter : 939 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ล่องแม่ปิง
Location :
เชียงใหม่ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 11 คน [?]




อังกฤษเป็นชาติที่เริ่มเล่นฟุตบอล แต่บราซิลเป็นชาติที่สอนการเล่นฟุตบอล

มีคำพูดธรรมดาๆประจำฟุตบอลโลกอยู่ประโยดหนึ่งว่า"ฟุตบอลโลกที่ไม่มีบราซิล ก็ไม่ใช่ฟุตบอลโลก"


จะจริงเท็จประการใด แฟนบอลทั่วโลกยังไม่เคยทราบ เพราะที่ผ่านมา 20 ครั้ง และครั้งที่ 21 ในปี 2018 บราซิลยังคงได้เข้ามาเล่นรอบสุดท้ายอิกครั้ง ในฐานะเจ้าภาพ


ผมยังนึกไม่ออกว่าหากบราซิลไม่สามารถผ่านเข้ามาเล่นในรอบสุดท้ายของฟุตบอลโลก ฟุตบอลโลกในปีนั้นจะขาดอะไรไปบ้าง....มนต์ขลังลีลาแซมบ้า. สีเขียว-เหลืองที่แต่งแต้มฟุตบอลโลกทุกครั้งเสมอมา หรือกองเชียร์ที่แต่งองค์ทรงเครื่องกันมา น้องๆขบวนพาเหรดงานคานิวัล ผมว่าคงไม่เกิดขึ้นในรุ่นของผมนะครับ
Friends' blogs
[Add ล่องแม่ปิง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.