กะทันหันทริป :: Mumbai-Pune, India :: Part XII (เที่ยวปูเน่ -4)
ปล่อยให้กลุ่มท่องเที่ยวไม่เคลื่อนไหวมาซะนาน ต้องกลับมาปัดฝุ่นรื้อฟื้นความทรงจำ แล้วเริ่มเล่าเรื่องตอนต่อไปซะที เนื่องจากคุณฟ้า (กาบริเอล) กระทุ้งมาเมื่อวันออกทริปบล๊อกแก็ง เธอไปอินเดีย 3 ครั้งแล้ว แต่เรายังเล่าทริปอินเดียทริปแรกไม่จบซะที แล้วก็มีสหายท่านหนึ่งรออ่านอยู่เช่นกัน
ขอท้าวความก่อนกว่า ทริปอินเดียครั้งแรกของเรา (7-11 มิถุนายน 2557) เกิดขึ้นแบบไม่ได้ตั้งใจ เพียงแค่ไปเป็นเพื่อนพี่สาวที่ต้องไปตรวจงานที่เมืองปูเน่ ดังนั้น ที่เที่ยว เราก็ไม่ได้กำหนดอะไรเป็นพิเศษ สุดแท้แต่ "บันดู" คนขับรถของบริษัทจะจัดให้
อ่านความเดิม >> นี่เป็นการเดินทางในวันที่ 9 มิถุนายน 2557
ออกจากพิพิธภัณฑ์ก็ราวบ่ายสี่โมงเย็นได้ ...สถานที่ต่อไปที่อยู่ในลิสต์ และเผอิญอยู่ในบนถนนไม่ไกลกันนั้น เป็นป้อมปราการ งั้นก็...มุ่งหน้าไปเที่ยวกันต่อเลยละกัน
ระหว่างทางที่รถแล่นไปตามถนน ..เร็วบ้าง..ติดบ้าง เราก็ยกกล้องเก็บสถาปัตยกรรมริมทางไปเรื่อยๆ
ที่จริงบ้านเรือนในเมืองปูเน่ก็สวยดีนะ มีงานประดับไม้แกะสลักตกแต่งลวดลายงามมาก แต่ก็เสียตรงที่ขาดการดูแลรักษา มันก็เลยดูเก่าและเขลอะมาก ถึงมากที่สุด อยากมีมนต์เรียกฝนให้ตกลงมาชะล้างฝุ่นที่เกาะอยู่ตามตึกหมดไปจังเลย
คิดไปเพลินๆ ตอนนี้เราก็มาถึง Shaniwa Wada ที่นี่เป็นปราสาทของเจ้าผู้ครองในสมัยโบราณ สร้างตั้งแต่ปีค.ศ.1730 และแล้วเสร็จสมบูรณ์เมื่อปีค.ศ.1732 ถูกไฟไหม้ เสียหายหมด เหลือเพียงป้อมปราการ กำแพง ที่ล้อมรอบพื้นที่ปราสาทไว้
เราซือบัตรผ่านประตู แล้วก้าวผ่านทางช่องประตูเล็กๆ เข้าสู่ภายใน พร้อมกับคนท้องถิ่นมากมาย มีครอบครัวและหนุ่มสาว พากันมาเที่ยวชมป้อมนี้ ซี่งในช่วงเย็นๆ จะมีการแสดงแสง-สีเล่าเรื่องราวในอดีตด้วย แต่เราก็ไม่ได้อยู่ดูหรอก เพราะต้องรีบกลับไปสมทมกับพี่สาว ...เจ้านายญีปุ่่นจะเลี้ยงต้อนรับ
บันดูก็เดินนำ พาเดินเที่ยวชมบรรยายภายในพื้นที่เบื้องหลังกำแพง
ขึ้นมาบนป้อมด้านหน้า ...มองลงไปเห็นบริเวณภายในทั้งหมด
และบนป้อมก็มีการตกแต่งด้วยงานแกะสลักไม้ บริเวณผนังกำแพงป้อมมีงานจิตรกรรมฝาผนังเขียนเรื่องรามายณะและมหาภารตะ แต่เรามองไม่ชัด ...ถ่ายซุมมาได้แค่นี้ เดาไม่ถูกว่าผนังด้านนี้เขียนเรื่องอะไร ตอนไหนนะ
ลานด้านหน้า นอกกำแพงป้อมปราการนี้ ก็มีรูปปั้นเจ้าของป้อม ตั้งไว้เด่นสง่า
ไหนๆ ก็เดินตามแนวกำแพง ...ก็ลองมองออกไปนอกกำแพงกันดูบ้่าง
แล้วเราก็ถูกบันดูคะยั้นคะยอให้ถ่ายรูปอีกแล้ว เที่ยวคนเดียว ..แต่ก็มีรูปถ่ายตัวเองเยอะอยู่นะ เธอถ่ายให้ฉัน ฉันถ่ายให้เธอบ้าง ...สลับกัน
พอสมควรแก่เวลาแล้ว ...ออกจากป้อมปราการ เดินทางกันต่อไป เดี๋ยวจะไม่ทันกินมื้อเย็น เพราะต้องย้อนกลับไปยังบริษัทพี่สาวเราที่อยู่อีกด้านนึงของเมือง
Auto Richaw พาหนะรับจ้างของเมืองปูเน่
แวะสุสานนิดนึง
มีฝนโปรยปรายลงมาเล็กน้อย
หลังจากนีก็ได้เวลาไปพบกับพี่สาวและเจ้านายที่ห้องอาหารญีปุ่นในโรงแรม (จำชื่อไม่ได้)
นี่เป็นมื้อพิเศษ จึงเป็นการกินอาหารญีปุ่นแบบไคเซกิ ที่เชฟจะทยอยเสริฟอาหารออกมาทีละจาน โดยที่เราไม่รู้เลยว่า จะได้กินอะไรบ้าง ...เชพออกมาถามแต่ละคน ใครกินอะไร ไม่กินอะไร เรากินทุกอย่าง ...เชฟก็ง่าย แต่สาวๆ ชาวอินเดียกินมังสวิรัต พี่เราไม่กินเนื้อ ก็เลยทำให้สาเกที่เจ้านายญี่ปุ่นหิ้วมาด้วย ..เป็นหมันไป ..ไม่มีใครดื่มกันเลย
ตามธรรมเนียมอะนะ ...ต้องมีพิธีกรรมเก็บภาพก่อนจะลงมือกิน มือนี้ ได้กินทั้งของปิ้งย่าง ของทอด ของต้ม ปิดท้ายด้วยข้าวผัดกระเทียม หอมมาก และเป็นมื้อที่อิ่มสุดๆ กลับถึงโรงแรม อาบน้ำ นอนอย่างไว พรุ่งนี้ บันดูจะพาเราไปไหนอีกบ้าง ...ยังไม่รู้เลย
โปรดติตามตอนต่อไป
Create Date : 10 มีนาคม 2559 |
Last Update : 13 มีนาคม 2559 10:11:00 น. |
|
11 comments
|
Counter : 2339 Pageviews. |
|
|
|
ชอบภาพขาวดำครับ
แสงสวยมากๆเลย
ผมชอบอินเดียครับ
เป็นประเทศที่มีอะไรให้น่าค้นหามากมายจริงๆ