กะทันหันทริป :: Mumbai-Pune, India :: Part I (ก่อนเดินทาง)
อันที่จริงเรายังมีเรื่องเล่าจากการเดินทางหลายเรื่องค้างอยู่ แต่ขอลัดคิว มาเล่าทริปอินเดียนี้ก่อน เพราะความรู้สึกสดใหม่ยังติดอยู่ในใจ
ทริปนี้เริ่มขึ้นหลังจากที่เรา "คุย" กับ MD ว่า "จะลาออก" ในอีกสองเดือนข้างหน้านะ รุ่งขึ้น พี่สาวก็พิมพ์เข้ามาในไลน์กลุ่มครอบครัว แจ้งว่าจะต้องไป "อินเดีย" โอดครวญถึงการเดินทางคนเดียว ...ไม่รู้อะไรดลใจ เราพิมพ์ตอบลงไปว่า "ว่างอยู่ ...ไปด้วยก็ได้นะ" ทั้งๆ ที่ไม่รู้ด้วยว่าพี่เราไปเมืองไหน ทั้งๆ ที่ "อินเดีย" ยังไม่มีในแผนการเดินทางในระยะเวลาอันใกล้ แต่ก็เป็นประเทศที่ตั้งใจว่าจะไป โดยเฉพาะทริปสังเวชนียสถานทั้ง 4 ...อยากพาแม่ไป หลังจากที่อ่านหนังสือเกี่ยวกับการเดินทางทริปแบบนี้มาแล้ว 3 เล่ม
พอพี่สาวมั่นใจว่าเราไปด้วยแน่นอน ก็แจ้งค่าตั๋วเครื่องบินมาให้ทราบ ส่วนค่าที่พักกับมื้อเย็นไม่ต้องห่วง ...บริษัทพี่จัดให้ แค่ค่าตั๋ว ก็ทำให้เราอึ้ง บินการบินไทยจ้าาาาาา อิฉันก็บินโลว์คอสมาตลอด เพิ่งมาจ่ายไฮคอสก็คราวนี้แหละ จากนั้นก็จัดการเตรียมเอกสารประกอบการขอวีซ่าเข้าอินเดีย ....เพียบจ้า
การทำวีซ่า พี่สาวเราให้บริษัทตัวแทนดำเนินการ เราต้องจัดเอกสารมากมายส่งไปให้พี่ เร่งหนังสือรับรองจากบริษัท ถ่ายรูปขนาด 2 นิ้ว บนพื้นขาว ซึ่งดันถ่ายผิดต้องเป็นสี่เหลี่ยมจตุรัส บัญชีเงินฝาก ต้องมีเงินเกินเท่าไหร่จำไม่ได้แล้ว แต่เรามีน้อยกว่านั้น เพราะย้ายไปอีกบัญชี ก็เลยต้องโอนกลับเข้าไปให้เป็นยอด 19,000 บาท แล้วยังต้องแนบ "แผนการเที่ยว" ไปด้วย ....ตอนนั้นคิดอะไรไม่ออก เข้าเวป Trip Advisor เช็คว่าเมื่อง Pune (ซึ่งพี่บอกมาภายหลังว่าไปเมืองนี้แหละ) มีอะไรให้เที่ยว แล้วก็หยิบสถานที่ท่องเที่ยวมาพิมพ์เรียงๆ กัน ...ส่งไป จากนั้น ก็เขียนพักร้อน 1 วันเมื่อบริษัทตัวแทนนัดวัน เข้าไป "ยืนยันตนและประทับลายนิ้วมือ"
นัดกับพี่สาวที่ Terminal 21 กินข้าวกลางวันกัน แล้วก็ออกเดิน ที่จริงตัวแทนบริษัท บอกให้นั่งรถมอเตอร์ไซค์รับจ้างไปเลย 20 บาท แต่เราอยากเดินเล่นบนถนนอโศก พี่สาวที่รักก็ตามใจ เดินผ่านร้านรวง มีแต่ของกิน ในเวลาพักของพนักงานแถวนั้น ผู้คนขวักไขว่
เดินผ่านป้ายบอกทางไปสถานฑูตอินเดีย ..เราต้องไปยังอาคาร 235 เพราะบริษัทตัวแทนรับทำวีซ่าของสถานฑูตอยู่ที่นั้น เดินปาดเหงื่อไปเรื่อยๆ ไม่เห็นไอ้ตึกที่ว่าซะที ....จนจะสุดซอยนั่นแหละ ถึงได้เจอ
ด้านล่างมีที่ให้แลกบัตรก่อนขึ้นลิฟท์ แต่ไม่มีพนักงานประจำเคาน์เตอร์ เราสองคนก็เลยตรงดิ่งขึ้นลิฟท์ไปเลย
พอเจอตัวแทนของบริษัททัวร์ ก็เข้าไปเซ็นชื่อในแบบฟอร์มที่ทางนั้นกรอกมาให้ แล้วกดบัตรคิว รอเจ้าหน้าที่เรียกยืนเอกสาร พิมพ์ลายนิ้วมือ ทั้งมือซ้ายและมือขวา จ่ายเงิน...เป็นอันเสร็จ ทางบริษัทจะมารับวีซ่าให้(หลังจากที่มี SMS แจ้งว่าวีซ่าเรียบร้อยแล้ว)
จบไปหนึ่งขั้นตอน ....ที่นี่ก็มาถึงเรื่องโปรแกรมเที่ยวของเราเอง วัน-เวลา เดินทางของพี่สาว ปรับจาก 3 วัน 3 คืน เป็น 5 วัน 5 คืน เพราะทางสาขาอินเดียอยากให้พี่เราได้เที่ยว ก่อนทำงานเต็มเหยียด 3 วัน เราเอง ก็คิดเอาง่ายๆ ว่าพี่ทำงานไปนะ น้องเที่ยวเองได้ ไม่ต้องห่วง ฝากเช็ค ค่าเช่ารถพร้อมคนขับแค่นั้นพอ ...แล้วจะจัดการเอง แล้วไม่รู้ยังไง พี่สาวเราเช็คกับสาขาทางอินเดียให้ และได้รับคำตอบมาว่า ....เพื่อความสบายใจของยู บริษัทจัดรถบริษัทและคนขับรถพาน้องสาวยูเที่ยว ตามสบาย 3 วันเต็ม.... โอ้ว ...เย้ ...ประหยัดค่าเดินทางไปได้แล้ว
ที่นี่ ก็มาถึงเรื่องโปรแกรมเที่ยวซะที
แม้ว่าเราจะเดินทางท่องเที่ยวมาแล้วหลายแห่ง ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ทุกครั้งที่ผ่านมา เพื่อนเป็นคนจองตั๋วและที่พัก ส่วนโปรแกรมนั้น แม้จะไม่จัดเตรียมล่วงหน้า แต่ก็พอจะหาข้อมูลล่วงหน้า และมีเพื่อนคอยช่วยกันออกว่าเห็นว่า จะไปเที่ยวตรงนั้น ไปกินตรงนี้ แต่ทริปนี้ ต่างออกไป ...เดินทางไปพร้อมกับพี่สาวก็จริงอยู่ แต่เราต้องเที่ยวตามลำพัง ในประเทศที่เรารู้สึกลึกๆ ว่า "น่าจะเที่ยวยาก" เพราะภาษาอังกฤษเราก็ไม่ได้คล่องอะไรนัก อีกทั้ง สำเนียงภาษาอังกฤษของคนอินเดียก็รู้ๆ กันอยู่ว่าฟังยาก เราจะคุยกับคนขับรถได้รึป่าวนะ
พักปัญหานั้นไว้ก่อน ไปถึงก็รู้เอง ตอนนี้ต้องมาดูกันว่า มีอะไรน่าเที่ยวบ้าง โปรแกรมการเดินทางของพี่สาวเราคือ
ออกจากเมืองไทย คืนวันที่ 7 ถึงเมืองมุมไบราว 5 ทุ่ม (ตามเวลาท้องถิ่น) พักที่มุมไบ 1 คืน เช้าวันที่ 8 กินอาหารเช้าที่โรงแรม มีคนของบริษัทมารับ พาเที่ยวมุมไบ 1 น วันก่อนเข้าเมืองปูเน่ แล้วเราก็กิน-นอนที่ปูเน่ 3 คืน มือเช้ากินที่โรงแรม มื้อเย็นบริษัทเลี้ยงดินเนอร์ เราต้องดูแลตัวเองแค่มื้อเที่ยวเท่านั้น .... บ่ายวันที่ 11 ออกจากปูเน่เข้ามุมไป เครื่องขึ้นดึก ถึงบ้านเช้าวันที่ 12 ....จบทริป
เมืองมุมไบและเมืองปูเน่ ไม่ค่อยมีใครเที่ยว ...จนมาเขียนเป็นหนังสือมากนัก เรารื้อตั้งหนังสือท่องเที่ยวในบ้านดูแล้ว ...ซื้ออินเดียไว้หลายเล่ม ไม่มีเลย จากนั้น ก็มาหาข้อมูลในห้อง Blue Plannet ต่อ ...อ่ะ ...มีคนเคยไป Pune แต่เที่ยวน้อยไปนิด เพราะเขาไป Bussiness trip ย้ายไปหาข้อมูลจากเวปภาษาอังกฤษแทน เอาละ พอได้โปรแกรม 3 วัน มาจากกระทู้หนึ่งในเวปท่องเที่ยวอินเดียแล้ว ยังรู้สึกไม่วางใจ ...ขอหาหนังสือมาอ่านหน่อยนะ ...ก็ไปเจอหนังสือคู่มือ "อินเดีย" เล่มหนามา 1 เล่ม แนะนำประเทศอินเดียทั้งประเทศเลย กลาวถึง มุมไบ-ปูเน่ แค่ไม่กี่หน้าเอง คนเขียน เป็นสาวลุยเดียวเที่ยวเมืองมุมไบซะด้วย .... อีกเล่มที่ได้อ่านเพื่อทำความเข้าใจบุคลิกและวัฒนธรรมของคนเดีย ทำให้เราลดความหวั่นใจลงไปได้บ้าง ที่นี่ ก็รอเวลาให้ถึงวันเดินทาง
ตั้งใจควบคุมค่าใช่จ่ายตลอดทั้งทริปไม่ให้เกิน 3 หมื่นบาท (ปกติเราจะเที่ยวไม่เกิน 10,000 - 15,000 บาท) หมดไปกับค่าตั๋วแล้ว 2 หมื่นกว่า ค่ารถ ค่าที่พัก ค่ากิน ..ประหยัดไปเพราะบริษัทพี่สาวจัดให้ เราก็เลยแลกเงินไปประมาณ 9 พันกว่ารูปี (ราว 5,000 บาท) เพื่อใช้จ่ายระหว่าง 3 วัน เพราะทุกที่ที่จะไปล้วนมีค่าเข้าชม แล้วยังมื้อกลางวันที่ไม่รู้ว่าจะได้กินอะไรอีก เงินจำนวนนี้น่าจะพอ
เคลียร์การงานต่างๆ ให้เรียบร้อย เท่าที่เวลาจะอำนวย แล้วก็จัดกระเป๋า (ใบเดิม) ให้พร้อมเดินทาง ทริปนี้ จัดของลงกระเป๋ามากเป็นพิเศษ ทั้งกระดาษทิชชูเปียก ทั้งยาดม ทั้งยาแก้เมา แก้ปวดหัวปวดท้อง เรียกว่า ระมัดระวังตัวเต็มที่ ไหนๆ เราก็โหลดกระเป๋าใต้เครื่องอยู่แล้วนี่นา
เอาล่ะ พร้อมออกเดินทางแล้วค่ะ
โปรดติดตามตอนต่อไป
Create Date : 21 มิถุนายน 2557 |
Last Update : 8 ธันวาคม 2558 21:53:59 น. |
|
7 comments
|
Counter : 2683 Pageviews. |
|
|
|