แหล่งที่มา: DDproperty.com

อนันดาฯ ฉายภาพธุรกิจหลังเข้าตลาดหุ้นเต็มตัว เดินหน้าเปิดแบรนด์เพิ่ม แต่ยังคงเน้นคอนเซ็ปต์เกาะแนวรถไฟฟ้า ตั้งเป้าใน 3 ปีนี้รายได้จะเติบโตเฉลี่ยปีละ 25%

นายชานนท์ เรืองกฤตยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ ANAN เปิดเผยว่าบริษัทฯรู้สึกยินดีและภูมิใจที่ได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ซึ่งทำให้ชื่อเสียงของอนันดาฯ เป็นที่รู้จักในวงกว้างยิ่งขึ้น นอกจากนี้เงินที่ได้รับจากการระดมทุนจะนำไปใช้ในการขยายธุรกิจให้เติบโตยิ่งกว่าเดิม

“ต่อจากนี้ผมและคณะผู้บริหารรวมทั้งพนักงานบริษัททุกคนจะทุ่มเทกำลังกายและความสามารถอย่างเต็มที่เพื่อผลักดัน ให้ผลประกอบการของบริษัทมีอัตราการขยายตัวที่ดีอย่างต่อเนื่องและเข้มแข็ง และสร้างผลตอบแทนที่ดีให้แก่นักลงทุนในระยะยาว ดังนั้นการที่ราคาหุ้นอ่อนตัวลงในระยะสั้น อาจถือเป็นโอกาสอันดี ที่นักลงทุนจะสามารถเข้ามาลงทุนหุ้น ANAN ได้ในราคาที่ต่ำกว่าพื้นฐาน”

นอกจากนี้ นายชานนท์ยังได้เปิดเผยถึงนโยบายในการดำเนินธุรกิจหลังจากที่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ว่าจะยังคงมุ่งพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ประเภทคอนโดมิเนียมราคาระดับกลางประมาณ 2-4 ล้านบาท ภายใต้แบรนด์ “Ideo” และครองมาร์เก็ตแชร์เป็นอันดับ 1 ในด้านห้องชุดที่ติดสถานีรถไฟฟ้าในระยะไม่เกิน 300 เมตร ซึ่งในอนาคตยังมีศักยภาพที่จะเติบโตต่อไปได้อีกมาก ดังนั้นจึงมองว่าหุ้น ANAN น่าจะเป็นหุ้น Growth Stock เหมาะที่จะลงทุนในระยะยาว โดยตั้งเป้าใน 3 ปีนี้รายได้ของบริษัทจะเติบโตเฉลี่ยปีละ 25%

สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานในปี 2556 ของ ANAN คาดว่าจะเติบโตอยู่ในทิศทางที่ดี ซึ่งน่าจะเป็นปีที่มีอัตราการขยายตัวได้อย่างโดดเด่น โดยบริษัทเตรียมที่จะเปิดแบรนด์ใหม่เพิ่มเพื่อรองรับลูกค้าในบริเวณพื้นที่ซึ่งอยู่ห่างจากสถานีรถไฟฟ้าออกไป 300 – 600 เมตร

ปัจจุบัน ANAN มีโครงการที่พัฒนาภายใต้ บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ ทู จำกัด (เป็นบริษัทย่อย) ทั้งหมด 12 โครงการ โดย ณ วันที่ 30 ก.ย. 2555 มีโครงการที่ขายหมดแล้วจำนวน 8 โครงการ และมีโครงการที่เปิดจำหน่ายและอยู่ระหว่างการโอนกรรมสิทธิ์ทั้งหมด 4 โครงการ ทั้งนี้ ในเดือนกุมภาพันธ์ 2555 ได้เปิดตัวโครงการใหม่อีก 4 โครงการภายใต้ชื่อ “ไอดีโอ โมบิ” ซึ่ง ณ วันที่ 30 ก.ย. 2555 มีจำนวนยอดขายแล้วประมาณ 72.6% ของจำนวนห้องทั้งหมด หรือคิดเป็นประมาณร้อยละ 65.1 ของมูลค่าห้องชุดพักอาศัยทั้งหมด