คอลลิเออร์สฯ เผยตลาดคอนโดมิเนียมปี 2555 กลับมาบูมอีกครั้ง พบกว่า 47,000 ยูนิตเปิดขายในปีที่ผ่านมา พื้นที่รอบเมืองขึ้นแท่นทำเลยอดนิยม ปัญหาขาดแคลนแรงงานและผังเมืองเป็นปัจจัยหลักที่ส่งผลกระทบต่อจำนวนคอนโดเปิดใหม่ปี 2556

 

นายสุรเชษฐ กองชีพ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายวิจัย ของคอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย เปิดเผยว่า จากการสำรวจตลาดคอนโดมิเนียมในกรุงเทพฯ ในช่วงปี 2555 ที่ผ่านมาพบว่า ณ สิ้นปี มีจำนวนคอนโดฯ อยู่ในเมืองหลวงของไทยรวมทั้งสิ้น 354,900 ยูนิต เป็นคอนโดฯ ที่เปิดขายใหม่จำนวน 47,430 ยูนิต สูงกว่าจำนวนที่เปิดขายในปี 2554 ประมาณ 54% หรือประมาณ 16,650 ยูนิต โดยในไตรมาสสุดท้าย/ 2555 มีคอนโดฯที่เปิดขายประมาณ 13,200 ยูนิต

 

“พื้นที่รอบเมืองด้านทิศเหนือยังคงได้รับความสนใจจากผู้ประกอบการต่างๆ คิดเป็น 15% ของยูนิตที่เปิดขายในปีที่ผ่านมา โดยมีพื้นที่ในเขตเมืองชั้นในได้รับความนิยมเป็นอันดับที่ 2 คิดเป็น 10% ของจำนวนยูนิตที่เปิดใหม่ โดยโครงการส่วนใหญ่ที่เปิดขายใหม่ในเขตพื้นที่เมืองชั้นในนั้นไม่ได้ตั้งอยู่บนถนนสายหลักในพื้นที่ เนื่องจากผู้ประกอบการจะพัฒนาโครงการบนที่ดินที่อยู่ในซอย หรือถนนสายรอง เนื่องจากราคาที่ดินที่ยังไม่แพง” นายสุรเชษฐกล่าว

 

กลุ่มลูกค้ารายใหญ่ของตลาดคอนโดมิเนียมคือ ตลาดกลาง – ล่าง โดยผู้ประกอบการต่างพยายามดึงดูดกลุ่มลูกค้าในตลาดดังกล่าวโดยการคุมราคาขายให้ไม่เกิน 3 ล้านบาท ส่งผลให้กว่า 60% ของคอนโดฯ ที่เปิดขายในช่วงปีที่ผ่านมาเป็นโครงการที่อยู่ไกลจากสถานีรถไฟฟ้าทั้งบนดินและใต้ดินในระยะที่มากกว่า 1 กิโลเมตร เนื่องจากราคาที่ดินต่ำกว่า  ในขณะที่โครงการระดับบน ส่วนใหญ่จะตั้งอยู่ห่างจากสถานีรถไฟฟ้าปัจจุบันในระยะไม่เกิน 500 เมตร 

 

“ราคาขายเฉลี่ยของยูนิตที่เปิดขายใหม่ทั้งหมดสูงกว่าปี 2554 ประมาณ 12% โดยราคาขายเฉลี่ยของคอนโดฯ ในพื้นที่เมืองชั้นในสูงสุดอยู่ที่ 130,000 บาทต่อตารางเมตร ตามมาด้วยพื้นที่รอบเมืองด้านทิศใต้ที่มีราคาขายเฉลี่ยประมาณ 88,000 บาทต่อตารางเมตร และพื้นที่กรุงเทพฯ ชั้นนอกมีราคาขายเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 50,000 บาทต่อตารางเมตร”

 

สำหรับอัตราการขายได้ของยูนิตที่เปิดขายใหม่ในทุกทำเลช่วง Q4/2555 นั้นอยู่ที่ 69% ซึ่งเป็นอัตราที่สูงที่สุดเมื่อเทียบกับ 3 ไตรมาสก่อนหน้า เนื่องจากไม่มีปัจจัยลบรุนแรงมากระทบตลาดทำให้ความเชื่อมั่นของผู้ซื้อเพิ่มสูงขึ้น

 

นอกจากนี้ หลังจากที่รัฐบาลได้ประกาศเดินหน้าโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินและสีม่วงส่งผลให้ตลาดคอนโดฯ ตามแนวรถไฟฟ้าสายดังกล่าวเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัด โดยมีการเปิดขายโครงการคอนโดฯ ตามแนวเส้นทางการก่อสร้างรถไฟฟ้าทั้ง 2 สาย จากสถิติของกรมที่ดิน และฝ่ายวิจัยของคอลลิเออร์สฯ พบว่ามีคอนโดฯสร้างเสร็จและจดทะเบียนแล้ว ณ สิ้นปี 2555 ตามแนวรถไฟฟ้าสายสีม่วงประมาณ 22,600 ยูนิต และอีก 10,000 ยูนิตที่ยังอยู่ระหว่างการก่อสร้าง และมีกำหนดแล้วเสร็จก่อนสิ้นปี 2558 ในขณะที่แนวรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินมีจำนวนคอนโดฯ สร้างเสร็จประมาณ 17,500 ยูนิต และอีกกว่า  8,000 ยูนิตทีอยู่ระหว่างการก่อสร้างและมีกำหนดแล้วเสร็จก่อนสิ้นปี 2558  

 

นายสุรเชษฐมองว่าปัจจัยที่จะส่งผลต่อการพัฒนาโครงการคอนโดฯ ในปี 56 นี้ ได้แก่เรื่องของผังเมืองกรุงเทพฯ ฉบับใหม่ และปัญหาการขาดแคลนแรงงาน

“ความไม่ชัดเจนในบางประเด็นในผังเมืองใหม่นี้จะส่งผลกระทบต่อตลาดที่ดินในกรุงเทพฯ เนื่องจากผู้ประกอบการได้ชะลอการซื้อที่ดินในกรุงเทพฯ  โดยเฉพาะที่ดินที่อยู่ในซอย หรือถนนสายรองต่างๆ ในเขตเมืองเนื่องจากต้องการรอให้มีการประกาศใช้ผังเมืองฉบับใหม่อย่างเป็นทางการก่อน ในขณี่ผู้ประกอบการที่มีที่ดินแล้วจะเร่งพัฒนาโครงการออกขายก่อน” 

 

“ส่วนปัญหาการขาดแคลนแรงงานก็ยังคงเป็นปัญหาหลักของผู้ประกอบการทุกราย ดังนั้นผู้ประกอบรายใหญ่จึงหันมาลงทุนในการพัฒนาโรงงานผลิตชิ้นส่วนสำเร็จรูปของตนเอง และมีการเซ็นสัญญาจ้างระยะยาวกับผู้รับเหมาที่ทำงานร่วมกันในปัจจุบัน” นายสุรเชษฐ กล่าวสรุป

 

 

ข่าวอื่นที่น่าสนใจ  

อสังหาฯน้องใหม่เอมัสท์กรุ๊ปบุกตลาดขอนแก่น