Kanchana Paha
โกลเด้นแลนด์ประกาศแผนธุรกิจ พลิกขาดทุนเป็นกำไรภายในปี 2558 ประเดิมปีนี้เตรียมลงทุนรวมกว่า 3,000 ล้านเดินหน้าพัฒนาโครงการอาคารสำนักงานย่านรัชดาฯ-พระราม 4 และโครงการแนวราบ 2 โครงการ
นาย ธนพล ศิริธนชัย ประธานอำนวยการ บริษัท แผ่นดินทอง พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GOLD แถลงแผนธุรกิจ 3 ปี เพื่อพลิกฟื้นบริษัทจากผลขาดทุนสะสมกว่า 1,600 ล้านบาทให้มีกำไรให้ได้ภายในปี 2558 โดยเริ่มจากปีแรกที่จะมุ่งปรับโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure) วางระบบบัญชี บริหาร และจัดกำลังคน เพื่อรองรับการเติบโตตามแผนธุรกิจ โดยเตรียมงบกว่า 30 ล้านบาทในการปรับปรุงด้านระบบคอมพิวเตอร์
หลังจากที่บริษัท ยูนิเวนเจอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ UV ได้เข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่กว่า 51% ใน GOLD เมื่อปลายปีที่แล้ว และได้มอบหมายให้นายธนพลเข้ามาดูแลและเป็นผู้นำองค์กรตั้งแต่เมื่อต้นปีเพื่อทำการศึกษาและวางแผนธุรกิจที่จะพลิกฟื้นบริษัทอย่างรวดเร็ว โดยแผนดังกล่าวจะแบ่งเป็น 3 ปี (2556-2558) 3 ช่วง ได้แก่ ปีแรกจะเป็นเรื่องของการปรับพื้นฐาน (Rebuild Foundation) ของบริษัทได้แก่การสะสางปัญหาเก่าๆ ลงทุนด้านระบบคอมพิวเตอร์ และระบบบัญชี จัดรูปแบบธุรกิจหลัก ในปีที่สองเป็นเรื่องการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับทรัพย์สิน (Unlocking Value) และในปีที่สาม เป็นการก้าวขยายธุรกิจให้ครบวงจร (Growth Diversification)
”ต้องยอมรับว่า GOLD มีทรัพย์สินที่น่าสนใจและมีมูลค่ามาก เพียงแต่ที่ผ่านมายังขาดเงินทุนที่จะสนับสนุน เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับทรัพย์สิน หลายโครงการมีปัญหาข้อพิพาทเรื่องเดิมๆ มีค่าใช้จ่ายด้านการเงิน และบุคคลค่อนข้างสูง แต่มีรายได้น้อยทำให้เกิดการขาดทุนติดต่อกันมาหลายปี อย่างไรก็ตามเมื่อ UV เข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ทำให้เกิดความพร้อมด้านการเงิน และสร้างความเชื่อมั่นในตัวบริษัทให้กับทั้งคู่ค้าพนักงาน และผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง”
นายธนพล กล่าวต่อว่าสิ่งสำคัญในปีนี้ คือการเตรียมความพร้อมเรื่องปัจจัยพื้นฐานของบริษัทและจัดแผนธุรกิจให้เกิดความชัดเจน เราคงจะเน้นเรื่องการเพิ่มประสิทธิภาพของโครงการที่ดำเนินการอยู่ ไม่ว่าจะเป็นการเร่งปล่อยพื้นที่เช่าสำนักงานอาคารสาทรแสควร์ และอาคารโกลเด้นแลนด์ การเพิ่มผลกำไรของเซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์ Ascott และ Mayfair Marriott
ทั้งนี้ ในปีนี้ บริษัทได้เตรียมงบสำหรับการลงทุนพัฒนาโครงการใหม่ไว้กว่า 3,000 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นการพัฒนาอาคารสำนักงานและโรงแรมมูลค่าโครงการ 4,700 ล้านบาทบนพื้นที่กว่า 8 ไร่ บริเวณรัชดาฯ พระรามสี่ (ไผ่สิงโต) ซึ่งจะใช้เงินลงทุนประมาณ 2,000 ล้านบาทและอีกประมาณ 1,000 ล้านบาทไว้สำหรับซื้อที่ดินเพิ่มเพื่อพัฒนาโครงการแนวราบทั้งบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮาส์ โดยจะเน้นตลาดที่มีดีมานด์อยู่ในปัจจุบันที่ราคาประมาณ 3-5 ล้านบาทมากกว่าที่จะเป็นบ้านหรูราคา 20-30 ล้านบาทเหมือนในอดีต
“ตลาดที่อยู่อาศัยยังมีแนวโน้มการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง เราจึงมีแผนที่จะเดินหน้าในการพัฒนาต่อไป โดยขณะนี้เราได้จัดทีมสำหรับรุกตลาดแนวราบขึ้นมาใหม่ โดยคาดว่าจะเริ่มจากการเปิดประมาณ 2 โครงการภายในปีนี้ เป็นทำเลในกรุงเทพฯ เช่นเดิม ส่วนที่ดินเปล่าในต่างจังหวัด และสนามกอล์ฟ คงไม่ได้เป็นธุรกิจหลักของบริษัท หากมีข้อเสนอที่ดีเราก็พร้อมที่จะขายออกไป” นายธนพล กล่าว
ปัจจุบัน GOLD มีโครงการที่อยู่ในการพัฒนาปัจจุบัน ได้แก่ เซอร์วิส อพาร์ทเมนท์ 2 แห่ง ภายใต้แบรนด์ เมย์แฟร์ แมริออท เอ็กเซ็คคิวทีฟ ในซอยหลังสวน ที่บริษัทถือหุ้นอยู่ 33% และแบรนด์ ดิแอสคอท สาทร กรุงเทพ ที่บริษัทร่วมทุนอยู่ 60% ซึ่งโครงการเซอร์วิส อพาร์ทเมนท์ทั้ง 2 แห่งนี้อยู่ในกองทุนอสังหาริมทรัพย์ นอกจากนี้ยังมีโรงแรมหรู W สาทร และอาคารสำนักงานเกรดเอให้เช่า 2 แห่งได้แก่ อาคารสาทร สแควร์ ซึ่งมีพื้นที่กว่า 74,000 ตารางเมตรมีสัดส่วนผู้เช่าอยู่ที่ 60% และอาคารโกลเด้นแลนด์ในซอยมหาดเล็กหลวง 1 บนถนนราชดำริ ซึ่งมีสัดส่วนผู้เช่าเกือบ 100%
โดยสัดส่วนรายได้ปัจจุบันมาจากอาคารสำนักงาน 90-95% และจากโครงการแนวราบ 5-10% แต่ในอีก 3 ปีคาดว่าสัดส่วนรายได้จากโครงการแนวราบจะเพิ่มขึ้นเป็น 30-40%
อัพเดทข่าวในแวดวงอสังหาริมทรัพย์ ทางอีเมลส่งตรงจากเว็บไซต์อสังหาฯ อันดับ 1 ของเมืองไทยฟรี สมัครได้ที่นี่
ข่าวอื่นที่น่าสนใจ