Blasphemy: สาสน์ลับจากหลุมดำ
Blasphemy by Douglas Preston (2008)
เรื่องนี้เป็นผลงานฉายเดี่ยวของ Douglas Preston ผู้เขียนซึ่งปกติเป็นคู่หูดูโอ้กับ Lincoln Child ที่เขียนซีรี่ยส์นักสืบเอฟบีไอ เรื่องแรกสร้างเป็นหนังมานานแล้วยังจำกันได้รึเปล่า The Relic...ตอนนี้ออกเป็นซีรี่ยส์มาหลายเล่มแล้วค่ะ
ก่อนอื่นขอบ่นเรื่องรูปแบบปกก่อน (เพิ่งบ่นกับอออ.ไป) ทำไมหน้าปกหนังสือสมัยนี้ที่มีเนื้อหาวิทยาศาสตร์ลึกลับผจญภัยต้องมีรูปคนวิ่งออกมาจาก...เลือกภาพตามเนื้อหาเรื่องนะคะ...ปิระมิด (หามัมมี่ - -)... ถ้ำ (หาซากอารยธรรมโบราณ)... โบสถ์ (หาจอกศักดิ์สิทธิ์..มันมีอยู่จอกเดียวหากันได้เป็นร้อยเล่ม ไม่หาอย่างอื่นกันบ้างรึไงยะ) ใครเคยเห็นเงาคนวิ่งออกมาจากสถานที่แปลกๆบนหน้าปกหนังสือก็คอมเม้นต์บอกอป.ด้วยนะคะ
คำโปรย>>เดี๋ยวนี้ช่างสรรหาคำชมคำเชียร์กันได้อย่างครีเอทจริงๆ A superb read! A page-turning thriller about science and religion in which good and evil collide at the speed of light. Youll be up all night with this book Jeffrey Deaver
เนื้อเรื่องย่อหลังปก
ลึกลงไปในหุบเขาใจกลางอริโซน่า เครื่องเร่งอนุภาคที่ใหญ่ที่สุดในโลกกำลังเริ่มทำการไขปริศนาจุดกำเนิดของสรรพสิ่งซึ่งก็คือการสร้างหลุมดำขึ้นมานั่นเอง ผู้ควบคุมโครงการนี้คือชายผู้ได้รับรางวัลโนเบล Gregory North Hazelius และเครื่องเร่งอนุภาคนี้ที่ทีมนักวิทยาศาสตร์ตั้งชื่อให้ว่า อิซาเบลล่า ก็เป็นเครื่องจักรที่มีราคาแพงที่สุดที่มนุษย์เคยสร้างขึ้น บางคนเชื่อว่าอิซาเบลล่าจะไขปริศนาเรื่องกำเนิดจักรวาลได้ แต่บางคนก็คิดว่ามันจะทำให้เกิดหลุมดำขนาดเล็กที่อาจทำลายโลกมนุษย์... นักเทศน์ออกรายการโทรทัศน์ชื่อดัง Don T. Spates ออกมาโจมตีว่าอิซาเบลล่าคือซาตานยุคใหม่ที่คิดต่อต้านพระคัมภีร์และท้าทายพระเจ้า และเขาก็พร้อมที่จะทำทุกอย่างเพื่อหยุดโครงการนี้
เมื่อ Hazelius และทีมนักวิทยาศาสตร์สิบสองคนเริ่มสตาร์ทเครื่องเร่งอนุภาค พวกเขาก็ค้นพบกับเรื่องอัศจรรย์ลึกลับที่ต้องเก็บไว้ไม่ให้โลกภายนอกรับรู้เป็นอันขาด ทำให้รัฐบาลสหรัฐต้องส่งอดีตซีไอเอผู้ลาออกไปเป็นนักบวช Wyman Ford เข้าไปสืบเรื่องราวในฐานปฏิบัติการณ์อิซาเบลล่าเพื่อล้วงความลับนั้น...ความลับที่อาจทำลายโลก...หรือกอบกู้โลกของเราได้
ปิดเครื่อง! ปิดอิซาเบลล่าเดี๋ยวนี้! เมอร์เซอร์ตะโกน
จากนั้นจอแสดงภาพก็กลายเป็นสีขาวและดับไป
อะไรกันเนี่ย เชงรัวนิ้วบนแป้นคีย์บอร์ด ข้อมูลฉันหายไปหมดแล้ว!
ตัวอักษรหนึ่งตัวค่อยๆปรากฏขึ้นบนจอภาพ กลุ่มนักวิทยาศาสตร์เงียบเสียงลงทันทีพลางจ้องมองภาพข้างหน้าอย่างไม่กะพริบตา ไม่มีใครขยับตัวแม้แต่น้อย
จากนั้นโวลคอนสกี้ก็เริ่มหัวเราะออกมา เป็นเสียงหัวเราะที่เหมือนเสียสติและสิ้นหวัง
ดอลบี้ร้องด้วยความโกรธ นายเป็นคนทำใช่มั๊ย
โวลคอนสกี้ส่ายหัว ผมยุ่งสกปรกสะบัดไปมา
นายคิดว่ามันตลกนักใช่มั๊ย ดอลบี้ลุกจากเก้าอี้พลางกำหมัดแน่น นายแฮ็คโครงการทดลองสี่หมื่นล้านเหรียญแล้วคิดว่ามันตลกมากงั้นเหรอ
ฉันไม่ได้แฮ็คอะไรโว้ย โวลคอนสกี้พูดขึ้น แกหุบปากซะ
ดอลบี้หันหน้ามาทางทีมที่เหลือ ใครทำ...ใครแฮ็คอิซาเบลล่า เขาหันกลับไปทางจอภาพแล้วอ่านคำที่ปรากฏขึ้นออกมาดังๆอย่างกราดเกรี้ยว
GREETINGS.
เริ่มเรื่องมาได้ตื่นเต้นไซไฟสไตล์อป.มากๆ (เราก็เชียร์นักเขียนคนโปรด หุๆ) แถมช่วงที่อ่านก็มีข่าวเครื่องเร่งอนุภาคที่ CERN ของจริงด้วย ตอนนั้นทุกคนก็อินกับเรื่องหลุมดำจะล้างโลก...มิกกี้: พรุ่งนี้ CERN จะเดินเครื่องแล้วนะ พ่อ: สั่งโต๊ะจีน!
เรื่องนี้ได้กลิ่นอาย Crichton มากๆ ประมาณเรื่อง Sphere เลย
ซักพักก็เริ่มรู้สึกว่าน่าจะดำเนินเรื่องได้สนุกกว่านี้ถ้าไม่มีตอนการเมืองและศาสนามาแทรกมาก...ก็เข้าใจว่านักเขียนต้องมีจรรยาบรรณนำเสนอเรื่องราวตีแผ่ความเป็นไปของโลกให้ผู้อ่านได้คิดวิเคราะห์นะคะ... แต่ชั้นอยากอ่านแอ็คชั่น ชั้นอยากอ่านตอนพระเอกกู้โลก *ดิ้นๆ*
อ้อ...จากการที่เป็นแฟนพันธุ์แท้ของคุณนักเขียนเลยรู้ว่างานอดิเรกสุดโปรดของน้าแกคือขี่ม้า ได้ข่าวแว่วๆว่าเคยขี่ม้าข้ามอเมริกามาแล้ว...แต่ไม่ต้องให้พระเอกหนังสือทุกเรื่องมันขี่ม้าตามน้าได้มั๊ยคะ - - เรื่องหน้าอยากให้พระเอกได้มีโอกาสเอาก้นแนบเฟอร์รารี่บ้าง
Blasphemyก็หักมุมเอาคนอ่านหัวสั่นหัวคลอนไปเหมือนกัน จากตอนที่ยกมาให้ทายว่าสาสน์ลึกลับนั่นมาจากไหน หุๆ ส่วนตัวละครที่วางไว้อ่านไปอ่านมาก็รู้สึกว่าคุณอัจฉริยะ Hazelius มันเด่นกว่าพระเอกเยอะมาก พระเอกมันน่ารำคาญสิ้นดี วันๆเอาแต่ขี่ม้าหาร่องรอยคดี คุณ Hazelius เป็นอัจฉริยะเทพที่ฉีกแนวมาก คือนึกภาพบิลเกตส์..แล้วนึกคนที่ตรงข้ามกันทุกอย่างน่ะค่ะ คือหล่อ เป็นหนุ่มสังคมไฮโซ แต่งตัวเนี้ยบ นิสัยดีมีมนุษยสัมพันธ์ไม่นั่งในห้องมืดเอาผ้าคลุมหัวอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ พูดจาโน้มน้าวใจคน(ทั้งในเรื่องและคนอ่าน)ได้เก่งสุดๆ
อ้อ เรื่องนี้มีนางเอก(ที่ไม่เด่น โผล่มาให้รู้ว่าพระเอกกับคุณHazeliusไม่ได้อยู่ป่าเดียวกัน - -) เป็นสาวลูกครึ่งอเมริกันเอเชีย ดังนั้นอป.จะแคสต์ให้ดาราไทยได้โกอินเตอร์ซักที
อปอช.แคสติ้ง
นางเอกไทยไปฮอลลีวู้ด อป.ชอบฟลอเรนซ์ค่ะ เธอสวยแปลกดี เชียร์ฟลอเรนซ์ขาดใจ
พระเอก Wyman ดูเถื่อนๆ เหมาะกับการอยู่บนหลังม้า ต้อง Josh Lucas
ท่านเทพ Hazelius มีเสน่ห์มัดใจคน เป็นหัวหน้าทีม ติดใจบทนี้มาจากเรื่อง Thank you for smoking = Aaron Eckhart
Create Date : 27 พฤศจิกายน 2552 |
|
41 comments |
Last Update : 27 พฤศจิกายน 2552 12:49:54 น. |
Counter : 2354 Pageviews. |
|
|
|
"good and evil collide at the speed of light" เอริ่ม... คำโปรยหยั่งกับหนังเพลงร็อคแอนด์โรล... ส่วนพล็อตนี้ อืมม มาเป็นแนว evil computer เลยเน๊อะ อิซาเบลล่า นี้จะเป็นแบบ HAL 9000 รึเปล่าหนอ (หรือว่ามีอิลูมินาติควบคุมอยู่เบื้องหลัง ฮ่าๆ)
บดมด.แคสติ้ง
นางเอกเห็นด้วยกับอป.นะ ชอบความมีเสน่ห์ ฟลอเรนซ์ เหมือนกัน (ว่าแต่น้องตั้ก บงกซล่ะ ก็ได้อยู่นะ 55+) ส่วนตัวละครผู้ชาย เนื่องจากติดซีรี่ย์ True Blood งอมแงม พระเอกและคุณ Hazelius ขอแคสเป็นคู่แวมไพร์ บิล และ เอริค ก็แล้วกัน (หนังทำเงินร้อยล้านแน่นอน บดมด.โปรโมชั่นขอยืนนั่งนอนยัน)