"I hope we're all ready to leave the phenomenal world, and enter into the sublime?" - The Secret History
Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2552
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
 
4 กุมภาพันธ์ 2552
 
All Blogs
 
The voyage of the short serpent: ปลายทางสู่ขุมนรก (โหดร้ายทั้งในและนอกเล่ม TwT)





The voyage of the short serpent (2004) by Bernard Du Boucheron / Translation (2008) by Hester Velmans


อปอช.เพิ่งกลับมาจากไปส่องนกที่แก่งกระจานค่ะ ง่า...ที่จริงคนอื่นในกลุ่มไปถ่ายรูปนกส่วนเราเอาหนังสือไปนั่งอ่านเป็นเพื่อน สปิริตแรงกล้าจริงๆ

ออกเดินทางตอนเช้าตรู่วันจันทร์ ฤกษ์งามยามดีตอนตีสี่ คนยังครึ่งหลับครึ่งตื่น ไม่รู้นกจะตื่นรึเปล่า ระหว่างทางอปอช.ก็ตระหนักได้ว่า... มืดอย่างนี้มันจะอ่านหนังสือได้ไงเฟ้ยยย!!! ก็เลยต้องทำหน้าที่ใช้เนตรที่สามช่วยสอดส่องหาสัตว์ป่าตามทาง





และแล้วก็มีน้องอีเห็น (ชื่อไฟลั่มภาษาอังกฤษว่า iSee เป็นสัตว์เลี้ยงตัวโปรดของ Steve Jobs) โผล่ออกมาระเริงเล่นไฟหน้ารถ มือปืนทุกคนรีบชักกล้องSLRพร้อมเลนส์ซูมออกจากซองหนังข้างเอว... กองฟางปลิวผ่านถนนลูกรัง และน้องอีเห็นก็นวยนาดจากไป อปอช.ไม่น้อยหน้าใช้กล้องฟูจิสีชมพูเก็บภาพมาได้ โฮะๆๆ ขับรถต่อไปอีกไม่กี่ร้อยเมตรก็เจอน้องเม่นหน้าตาน่ารักน่าชังสองตัวกำลังเดินกระหนุงกระหนิงกันอยู่ ท่าทางกำลังอินเลิฟเพราะพอไฟรถส่องก็พากันจูงมือวิ่งเข้ารกเข้าพงไปทันที อดได้รูปเลย

ถึงเวลาหกโมงกว่า พระอาทิตย์เริ่มโผล่พ้นขอบฟ้า ช่างภาพพากันเก็บรูปบรรยากาศอันงดงามไว้ในแผ่นเมมโมรี่การ์ด ส่วนหนอนก็หามุมสงบและสว่างอ่านหนังสือต่อไป









เป็นหนังสืออีกหนึ่งเล่มที่หยิบมาเพราะหน้าปกแท้ๆไม่ปิดบัง (เลื่อนขึ้นไปดูอีกครั้ง ใครเล่าจะอดใจไหว...)


เรื่องย่อหลังปก

เรื่องราวเกิดขึ้นในยุคมืด ณ ประเทศกรีนแลนด์ Montanus นักบวชหนุ่มได้รับมอบหมายภารกิจให้ไปกอบกู้อาณานิคม New Thule ให้กลับมายังคริสตจักร เนื่องจากอาณานิคมนั้นอยู่ไกลสุดของซีกโลกและตั้งอยู่ท่ามกลางผืนหิมะหนาวเหน็บกันดารทำให้ผู้คนห่างเหินจากพระเจ้า จึงมีข่าวลือมากมายถึงเรื่องการทำผิดศีล ผิดประเวณี... และ cannibalism




อ่านคำโปรยแล้วดูเหมือนจะเป็นหนังสือย้อนยุคสุดเครียดแนว Name of the Rose ที่อปอช.อ่านไม่จบ แต่ที่ไหนได้อ่านไปสองสามประโยคก็หัวเราะกร๊าก นี่มันหนังสือตลกนี่หว่า! และช่างตลกเสียดสีจริงๆ

เริ่มเรื่องมาท่านคาร์ดินัลก็สั่งเสียพระเอกเรื่องการต่อเรือที่จะใช้ในการเดินทางว่าหัวเด็ดตีนขาดก็ต้องให้ช่างชาวสแกนดิเนเวียเป็นคนทำงานห้ามใช้ช่างชาวเยอรมันเด็ดขาดเพราะนอกจากจะเป็นการรักษาประเพณีดั้งเดิมแล้วที่สำคัญถ้าเกิดเรือล่มขึ้นมาก็ไปจับช่างเยอรมันมาแขวนคอไม่ได้ด้วยกฏหมายระหว่างประเทศไม่รองรับ...อืม...ตรรกะนี้ปัจจุบันน่าจะยังทันสมัยอยู่ จากนั้นเมื่อต่อเรือเสร็จพระเอกของเราก็ตั้งชื่อเรือตามนักบุญที่เกิดในวันนั้นไม่ได้เพราะนักบุญประจำวันดันเป็นผู้หญิง -_-“ เลยตั้งชื่อว่า The short serpent

และแล้วเจ้างูจิ๋วก็ออกเดินทาง... กว่าจะไปถึงอาณานิคมก็สะบักสะบอมเพราะติดน้ำแข็งและขาดเสบียงอาหาร ลูกเรือประสบภัยพิบัติมากมาย เช่นโดนน้ำแข็งกัดต้องตัดขาทิ้ง (บรรยายได้เห็นภาพ NC17 ทุกตอน ไม่ใช้สลิง ไม่ใช้ตัวแสดงแทน)

ชีวิตจริง... ตอนที่เรืองูจิ๋วติดน้ำแข็ง คณะของอปอช.ก็รถเสียอยู่บนดอย เสบียงเริ่มร่อยหรอ มองหน้าคนข้างๆ ชั้นจะกินใครก่อนดี... เดินไปดูทะเลหมอกให้สงบจิตสงบใจ คิดซะว่าเป็นทะเลน้ำแข็งขั้วโลก





ในที่สุดเมื่อ Montanus ไปถึงอาณานิคมและเริ่มประกาศอำนาจในกลุ่มชาวพื้นเมือง ผู้เขียนก็ค่อยๆแสดงสัจธรรมผ่านเรื่องตลกว่า ไอ้คนที่เรียกตัวเองว่าอารยชนนั้นมันก็ไม่ได้เลวน้อยไปกว่าชาวป่าชาวเขาเลย

สรุปโดยรวม... เป็นหนังสือที่สั้น อ่านตอนแรกอาจจะงงบ้างเพราะใช้สำนวนแบบโบราณ แต่พอเริ่มชินจะเกิดอาการขำและกำเริบไปเป็นฮาแตก เนื้อหาโหดร้ายหยาบช้าสามาลย์ .... ไหน ใครบอกว่าโลกนี้ดีงามและยุติธรรมยะ บอกเจ๊มาซิ! ... เข้าถึงแก่นอันชั่วร้ายของจิตใจมนุษย์

นักวิจารณ์เปรียบเทียบการผจญภัยของเจ้างูจิ๋วกับผลงานของ Cormac McCarthy และเรื่อง Lord of the flies … อปอช.ไม่รู้จะเปรียบกับอะไรแต่ขอเสนอว่าถ้าจะสร้างหนังควรให้ Jack Black เล่นบทพระเอกและขนดาราตลกมาเยอะๆ

เมื่อเกิดภัยมาถึงตัว มนุษย์ทุกคนย่อมต้องรักษาชีวิตของตัวเองไว้ ไม่สนใจผู้อื่น ... ดังนั้นอปอช.จึงทิ้งเพื่อนไว้กับรถคันที่เสียและนั่งรถอีกคันกลับบ้านโดยสวัสดิภาพ


Create Date : 04 กุมภาพันธ์ 2552
Last Update : 4 กุมภาพันธ์ 2552 15:29:09 น. 27 comments
Counter : 1164 Pageviews.

 
55555555 หักมุมจบนะ


โดย: หมีผู้รอดตาย IP: 125.25.90.71 วันที่: 4 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:15:38:00 น.  

 
เอ่อ... ช่างจบได้เหมือนเหล่าตัวประกอบในหนังหายนะมากๆ

นี่แปลว่าหลังจากกลับจาก HK ก็ไปส่องนกต่อเลยเรอะ แม่เจ้า... อะไรชีวิตจะน่าอิจฉาขนาดนี้


โดย: แฟนผมฯ IP: 202.134.119.218 วันที่: 4 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:17:32:32 น.  

 
+ กร๊ากกก ตกลงนี่มันเป็นหนังสือซ้อนหนังสือชิมิครับเนี่ย? มีหักมุมจบตอนท้ายด้วยอ่า เอิ๊กๆ

+ พะเนินทุ่ง พี่เคยไปครั้งนึงจ้ะ เป็นป่าดิบๆ ที่อยู่ใกล้กรุงเทพฯ ดีเนาะ ... ตอนนั้นเดินลงน้ำตกทอทาก ... เอ๊ย! ทอทิพย์ด้วย ใบไม้ตามข้างทาง 1 ใบ จะต้องมีน้องทากชูคอไต่อยู่ ~ 3-4 ตัวเป็นอย่างน้อย เลือดโชกกันตลอดทาง กว่าจะกลับขึ้นมาข้างบนได้อีกครั้ง เหอๆ

+ อืม ... พล็อตหนังสือเล่มนี้ ดูโหดร้ายดีเนาะครับ ท่าทางจะสะใจน้อง อปอช. เอาการอยู่นะนั่น หุๆ


โดย: บลูยอชท์ วันที่: 4 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:17:33:00 น.  

 


เอิ่ม...ง่า...ครือว่ามันเป็นกรณีฉุกเฉินจริงๆนะคะ เลยต้องรีบสละเพื่อนแล้วแจ้นลงมาก่อน ปกติอปอช.เป็นคนดีนะคะ คราวหน้าใครไปเที่ยวด้วยรับรองไม่ทิ้งกันแน่ นะ นะ ตะเอง...


โดย: อปอช (apple_cinnamon ) วันที่: 4 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:18:00:20 น.  

 
อยากไปเที่ยวแก่งกระจานมั่งจัง ยังไม่เคยไปเลยค่ะ ชีวิตนี้แม่ไม่ค่อยปล่อยให้ไปเที่ยวแนวๆ นี้เท่าไหร่ แบบว่าหวงลูกสาว 555

พล็อตหนังสือน่าสนใจค่ะ แต่ภาษาอังกฤษใช่ป่ะ วันก่อนไปช่วยเขาแปลซับอังกฤษมายังเกือบตาย ขนาดแค่ 400-600 ประโยค/ตอนเอง

เรื่องที่แบบว่ายิ่งใหญ่อลังการ แนะนำ Fire boys ค่ะ ไม่รู้คุณแอ๊ปเปิ้ลดูหรือยัง เพิ่งดูจบไป 2 วันก่อน เป็นเรื่องของนักดับเพลิงที่ต้องทำมากกว่าแค่ดับไฟ ฉากไฟไหม้นี่อลังการมากๆ ลองไปดูนะคะ

ส่วน Umizaru Movie ภาค 1 จะเป็นตอนก่อนที่จะมาเป็น series ค่ะ คุณแอ๊ปเปิ้ลจะเห็นว่าตอนเป็นซีรีส์จะมีการกล่าวถึงเพื่อนๆ แล้วพระเอกก็จะพูดถึงบัดดี้ที่ตายไป มีรายละเอียดอยู่ใน Movie ค่ะ จากนั้นก็จะเป็นซีรีส์ แล้วก็ Movie 2 Limit of love งานนี้พระเอกมีภารกิจสุดโหดติดอยู่ในซากเรือที่ห้องด้านข้างๆ ขนาบไปด้วยไฟ มีเพียงดำไปโผล่อีกจุดเท่านั้น แต่ต้องดำนานทีเดียว ตอนนี้กำลังดูเวอร์ชั่นซีรีส์อยู่ค่ะ เดี๋ยวดูเสร็จแล้วไปเขียนรีวิวพร้อม Fire boys เลย


โดย: bookofpear วันที่: 4 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:18:32:12 น.  

 
ถ้าคุณแอ๊ปเปิ้ลอยากได้แค่ Movie 2 แพรเบิร์นให้ก็ได้ค่ะ แค่ 1 แผ่นเองไม่มีปัญหา ถ้าสนใจ ขอที่อยู่ทางหลังไมค์เลยค่ะ เพราะแพรกำลังทำเรื่องนี้ให้เพื่อนคนนึงอยู่พอดี


โดย: bookofpear วันที่: 4 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:19:44:43 น.  

 
คห.1 หมีผู้รอดตาย << ขำอันนี้ค่ะ

หนังสือโหดร้ายอีกแล้ว


โดย: PinGz (Kai-Au ) วันที่: 5 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:7:49:48 น.  

 
ตกลงว่าเป็นหนังสือเสียดสีน่ะเอง หลังปกทำเอาตกใจไปชั่วขณะ เฮ้ออ

การพกหนังสือไปด้วยทุกที่ เป็นนิสัยที่ดีของหนอน แม้จะเพิ่มน้ำหนักสักเล็กน้อย อ่านบนจุดชมวิวด้วย บรรยากาศอย่าบอกใครเชียว

วันจันทร์ไม่หยุด
เอาวันหยุดของฉันมาาาาา



โดย: อั๊งอังอา วันที่: 5 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:9:18:26 น.  

 
เข้ามาแปะก่อนน (อ้าว เป็นคนที่ 9 ซะล่ะ -*-) เดี๋ยวจะมาอ่านนะครับบ ^^

อ้อ! ยินดีต้อนรับกลับมาสู่อ้อมอก (บล็อคแก็งส์) ด้วยน้าา ^^


โดย: BdMd IP: 58.137.81.98 วันที่: 5 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:10:10:47 น.  

 
เป็น blog 2 in 1 ที่รวมรีวิวท่องเที่ยวและรีวิวหนังสือไว้เป็นหนึ่งเดียว

อยากเห็นรูปคู่ของน้องเม่นน้อยจัง เสียดาย


โดย: ThE BooK@HoLiC วันที่: 5 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:11:23:43 น.  

 
เก็บเอาไว้ก่อน ไม่ต้องส่งมา หนัก เปลืองค่าส่ง


เรื่องระหว่างเอ็ดเวิร์ดกับฉันมันจบไปนานแล้ว


ฮ่าๆๆๆๆ นานๆ จะได้เขียนประโยคอย่างนี้



โดย: อออ IP: 202.176.89.115 วันที่: 5 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:16:55:54 น.  

 
2 เรื่องใน 1 blog เลยนะคะ...
ขำ..ขำทั้งเรื่องในหนังสือและบทหักมุมของการเดินทางค่ะ


หนอนๆ แบบเราไปในก็ต้องมีหนังสือติดกระเป๋าไปด้วย...ทั้งที่ทริปนั้นตั้งใจไปเที่ยวอ่ะนะ
แต่ขอติดไปหน่อยเหอะน่า ซักเล่มก็ยังดี "เผื่อ" จะได้อ่าน...
เราเป็นคนประเภทเดียวกันจริงๆ เล้ยยยยยยยยย


โดย: นัทธ์ วันที่: 5 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:22:20:25 น.  

 
โห นอกจากไปเพิ่มน้ำหนักที่ HK แล้ว มีทริปพิเศษไปแก่งกระจานซะด้วย ^^

"iSee เป็นสัตว์เลี้ยงตัวโปรดของ Steve Jobs" 555+ อยากรู้จังว่า บิล เก็ทส์ จะมีสัตว์เลี้ยงตัวโปรดกะเค้าบ้างไหม (ตอนนี้ยังคิดไม่ออก..)

อ้าว หนังสือตลก (ร้าย) เหรอเนี่ย -_- แถมไม่ยาวซะด้วยย (ชอบๆๆ) แต่จะบอกว่าเล่มนั้นของคุณอบเชยยังค้างเติ่งอยู่ที่หน้าประมาณ 70 เลย (กว่าจะอ่านจบก็คงถึงวันอวสานโลกปี 2012 ตามปฏิทินชาว mayan พอดี 55+)

happy go lucky ยังไม่ได้ไปดูเลยครับบ -,.-' สงกะสัยว่าคงต้องรอแผ่นแล้วสิเนี่ย ส่วนสาว มาริยง ก็น่าจะเห็นหน้าเธอในหนังฮอลลิวู้ดมากขึ้นแล้วนะครับ เห็นว่ามีทั้งเรื่อง Public Enemy ของ ไมเคิล มานน์ ที่เล่นกับพี่ชายจอห์นนี่ เด็ปป์, คริสเตียน เบลล์ และน้องชายแชนนิ่ง เททั่ม 55+ และอีกเรื่องก็คือ Nine หนังรวมดาวอีกเรื่องของ ร๊อบ มาร์แชลนั้นเอง...

Jacob's ladder อยากดูจริงๆรึเปล่าครับ หุหุ ^^ ส่วน Underworld 3 ได้ความยังไงมาเล่าสู่กันฟังด้วยน่ะ (เราคงขอผ่านน)

ปอลอ. ตอนนี้ประจำการอยู่ที่ใดแล้วครับ ยังอยู่กรุงเทพเมืองอมรไหมม


โดย: BloodyMonday วันที่: 6 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:10:22:18 น.  

 

อยากเที่ยวทริปย้อนรอยนักเขียนมากๆ

ยังไม่ได้อ่าน E. Tullan ขอบิ้วอารมณ์ก่อนสักสองสามเล่ม


โดย: อั๊งอังอา วันที่: 6 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:13:12:00 น.  

 
เห็นไปกลิ้งๆ แบบเขินๆ
เอ๊ย เขินๆ แบบกลิ้งๆ ใน blog ของคนข้างบน เลยแวะมาเยี่ยม


โดย: ThE BooK@HoLiC วันที่: 6 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:16:16:11 น.  

 
เห็นคุณอบเชยพูดถึง Appaloosa ก็รู้สึกอยากดูขึ้นมาทันที (ลืมหนังเรื่องนี้ไปเรยย) ตอนนี้กำลังโหลดอยู่ คาดว่าตอนเช้าคงได้รับชม หุหุ ^^

ไม่รู้ว่าทำไม เวลาพูดถึงนายออแลนโด้ทีไร จะนึกถึงนายเฮเด้นแห่งสตาร์วอร์ทุกที สงสัยจะไฟลั่มเดียวกัน นั้นก็คือ(ท่อน)ไม้ยืนต้น 55+ ส่วนนายแพททินสันนั้น คงต้องรอการพิสูจน์ตัวเองไปสักพัก (กลัวว่าจะกลายเป็นหินเลยซิ หุหุ)

ปอลอ. โอ้ว หยุดสามวัน ดีใจจริงๆๆ hav a great weekend na ^^


โดย: BdMd IP: 124.122.81.153 วันที่: 6 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:21:53:00 น.  

 
5555 เสียดสีอย่างแรงค่ะ แต่อ่านแล้วก็สะใจดี ..
พี่ไม่ค่อยได้อ่านงานแนวนี้แต่ว่าก็ชอบมาอ่านรีวิวนะ
เพราะว่าอารมณ์จิกๆ กัดๆ ก็ยังพอกรุ่นๆ เหมือนกันคะ ..

..............

ตั้งแต่ที่อปอช.กับเพื่อนๆ แวะมา พี่ก็ยังไม่ได้ไป
จัดการร้านข้าวซอยเดิมอีกเลยนะ .. 55+


โดย: JewNid วันที่: 7 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:11:03:05 น.  

 
แอปเปิ้ลเลือดสาดอีกแร้ว


โดย: ทินา IP: 129.11.120.41 วันที่: 8 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:3:03:44 น.  

 
โห อยากเปลี่ยนที่อ่านหนังสืออย่างงี้มั่งจัง


โดย: grappa วันที่: 9 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:8:12:53 น.  

 
อ่านหนังสือได้ไม่เหมาะกับหน้าตามากๆ จริงๆ (ย้ำๆ)

คงได้แต่มาอ่านรีวิว แหะๆ


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:14:54:48 น.  

 
^
จริง หน้าหวานอ่านอย่างโหด
หน้าโพ่ดๆ (แบบเรา) อ่านหวานๆ


โดย: อออ IP: 202.176.89.115 วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:15:31:08 น.  

 
กินก็มารีวิวมั่งนะ จะรอชม อิอิ


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:16:03:21 น.  

 
ป๊าเด็ปป์กับเบอร์ตันนี้คงต้องรอไปก่อนครับ เพราะปีที่ผ่านมาไม่มีผลงานร่วมกันเลย อ๊ะๆๆ แต่ถ้า อลิซ อิน วันเดอร์แลนด์ เข้าเมื่อไร สงกะสัย Vanity Fair คงจับทั้งคู่มาชักภาพร่วมกันแน่นอน ^^

สู้ได้สบายๆอยู่แล้วครับ สำหรับ "โคโยตี้แข้งปืนกล Rose McGowan อดีตขวัญใจของ BdMd" (ชื่อยาวไหม 55+) ที่เป็นอดีตไปแล้วนั้น เพราะเธอทำพลาดพลั้งด้วยการไป nip/tuck ใบหน้าอย่างไม่น่าให้อภัย (คุณอบเชยลองไปดูความงามได้จากลิงค์ข้างล่างนี้ เศร้า......T-T)
v
v
//us.imdb.com/media/rm490509312/nm0000535

โห ซื้อ Vanity Fair ด้วยเหรอครับ เมื่อก่อนก็ชอบถอยมาบ้างเหมือนกันนะ (ชอบตรงที่เอาดารามารวมๆๆกันขึ้นปกนี้แหละ) แต่ณ.เวลาปัจจุบันที่ตัวเองค่อนข้าง...เค็ม 55+ ก็เลยหาอ่านเอาในเว็ปดีกว่า

ปอลอ. โห่ แอ่วเหนือซะแล้ว แย่จังง ><


โดย: BloodyMonday วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:18:05:23 น.  

 
By the way, u gonna LOVE this project ^^



Jane Austen's Bennet girls go zombie slaying


โดย: BloodyMonday วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:18:15:52 น.  

 
....เทศกาลแห่งความรักแบบนี้
รีวิวหนังสือแบบ .....ฆ่าเพราะรัก อย่างไรอย่างเงี้ย ก็น่าจะได้นะ
เชื่อว่า อปอช ต้องมีแนวนี้ให้รีวิวแหงๆ


โดย: นัทธ์ วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:21:04:50 น.  

 
กี๊ซซซซซซซซซ

รีวิวโดยด่วนเลยย่ะ จะดูๆๆๆๆ


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:21:25:52 น.  

 
55555555

ชอบภาพของ บด.มด. สุดๆ


โดย: แพนด้ามหาภัย วันที่: 11 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:1:19:31 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

apple_cinnamon
Location :
เชียงใหม่ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




forbidden fruit...




สงวนลิขสิทธิ์ ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์
พ.ศ. 2539
ห้ามผู้ใดละเมิด ไม่ว่าการลอกเลียน หรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดของข้อความใน blog แห่งนี้ไปใช้ ทั้งโดยเผยแพร่และเพื่อการอ้างอิง โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร จะถูกดำเนินคดี ตามที่กฏหมายบัญญัติไว้สูงสุด


my love...
PhotobucketPhotobucketPhotobucketPhotobucketPhotobucket


LATEST BLOG
Quarter Share: กะลาสีอวกาศ






is reading:
Photobucket
Friends' blogs
[Add apple_cinnamon's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.