ชื่อร้าน : Chan Keeรายการอาหาร : Hong Kong Style Fast Foodที่ตั้งร้าน : Kennedy Town, Hong Kongพิกัด GPS : 22° 16' 54.92" N 114° 7' 35.30" E อิชั้นเคยตั้งใจไว้ว่าจะอัปบล็อกใหม่ทุกวันเสาร์สัปดาห์ละครั้ง เพื่อระบายรูปภาพที่ถ่ายมาเกือบทุกวันออกไปบ้าง แต่บางเสาร์ก็ไม่สามารถทำได้ดั่งใจ เพราะเสาร์นั้นมันหายตัวไปจากปฏิทินชีวิตอย่างลึกลับ (เมาแล้วแฮงค์ หลับไปสองคืนกับหนึ่งวันเต็ม ๆ ตื่นมาอีกทีวันอาทิตย์ หลอนมาก) บล็อกร้านอาหารร้านนี้ก็จ่อคิวที่จะพับลิชมาตั้งแต่สองสัปดาห์ที่แล้ว หลังจากที่ไปกินกันมา 2 ครั้งเมื่อเดือนก่อน ร้านนี้เป็นร้านโปรดของคุณพ่อบ้าน ด้วยเหตุผลที่ว่าเค้ามีเบียร์สดจากถังและถูก เบียร์แก้วใหญ่ขนาด 1 ไพนต์ราคาประมาณ 20 กว่าเหรียญเท่านั้น เบียร์สดขนาดเดียวในร้านอาหารแนว ๆ ซึ่งอยู่ใกล้เคียงกันจะตกประมาณ 60 เหรียญขึ้นไป มาร้านนี้ทีไรเธอต้องดื่มไม่ต่ำกว่า 3 ไพนต์ทุกทีคืนวันศุกร์หลังเลิกงานคืนนึง อิชั้นกับคุณพ่อบ้านนัดมาเจอกันในตัวเมือง ตั้งใจจะไปกินข้าวเย็นกันสองคน (ซื้อเทคอะเวย์ไปฝากเจ้าลูกชายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว รายนี้ไม่ชอบกินข้าวนอกบ้าน) ก็เดินไปร้านแนว ๆ ที่เพิ่งเปิดใหม่ได้ไม่นานร้านหนึ่ง ปรากฏว่าโต๊ะเต็มไม่มีที่นั่ง สองเราเลยต้องเดินหาร้านอื่นแทน ระหว่างที่กำลังเดินหาก็ไปเจอร้านห้องแถวหน้าตาจืดชืดร้านนี้ แต่พอมองเข้าไปภายในร้านสิคะ ก็ต้องตื่นตากับการตกแต่งด้วยสีสันอันจัดจ้านพร้อมกลิ่นอายย้อนยุค ไม่รอช้าค่ะ ลองเสี่ยงเข้าไปลองของกันเลยทีเดียววอลเปเปอร์เค้ารวมภาพของเล่น ของกิน ของใช้ในยุคเก่าไว้อย่างน่าสนใจอยากจะเข้าไปถามเลยว่าสั่งซื้อหรือสั่งทำวอลเปเปอร์กันจากที่ไหน อยากได้ไปติดที่ผนังห้อง แต่ด้านเดียวพอนะ ติดมันทั้งห้องมองไปมองมาคงเวียนหัวน่าดูลูกค้าในยามทุ่มกว่า ๆ แบบนี้ค่อนข้างบางตาค่ะ ต่างก็นั่งดื่มกินกันเงียบ ๆ คุยกันเบา ๆ ไม่เอะอะโฉ่งฉ่างเหมือนร้านอาหารในฮ่องกงร้านอื่นหรือในยามอื่น โต๊ะเก้าอี้ภายในร้านก็ดูธรรมดาสามัญเหมือนร้านก๋วยเตี๋ยวบ้านเรา เครื่องปรุงบนโต๊ะที่เด่นสะดุดตาอิชั้นที่สุดก็คงเป็นน้ำปลาไทยของเรานี่เองเบียร์สดที่โม้ให้ฟังก่อนหน้ามื้อนี้ไปกินกันเมื่อเดือนก่อน อิชั้นยังคงดื่มน้ำดำอยู่ ณ บัดนาวเลิกดื่มเด็ดขาดแล้วค่ะ พร้อมน้ำหนักที่ลดลงไป 4 กิโลกรัม (เย้ !!!)อาหารเรียกน้ำย่อยของที่ร้านมีหลายอย่าง แต่อิชั้นเลือกสั่งลูกชิ้นปลาหมึกกับเกี๊ยวทอดไปมาสองรอบ สั่งเหมือนกันทั้งรอบ อร่อยและกินแล้วอ้วนเหมือนของทอดทั่วไปค่ะ สะเต๊ะของฮ่องกงแทบทุกร้าน (ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหารไทย จีน เวียดนาม ฯลฯ) เป็นสะเต๊ะทอดนะคะ ที่นี่เค้าไม่ย่างกัน เอาสะดวกรวดเร็วและสุกทั่วถึงกันเข้าว่า มันเลยไม่หอม ไม่นุ่มเหมือนสะเต๊ะแท้ ๆ อาหารตามสั่งของฮ่องกงแท้ ๆ จะหาผักยากมาก ใครอยากกินผักต้องสั่งเมนูผักมาเสริมต่างหาก หลายร้านขายจานผักง่าย ๆ แบบนี้ในราคา 30 กว่าเหรียญ เวลาเห็นคนไทยบ่นว่าข้าวปลาอาหารที่เมืองไทยแพง กระเหรี่ยงไทยในฮ่องกงก็อยากบ่นเหมือนกันนะตอนมาเที่ยวฮ่องกงครั้งแรก ๆ แล้วเจอผักลวกราดซอสหอยนางรมแบบนี้ กระเหรี่ยงงงไป 10 วิเลยนะ ซอสหอยนางรมมันกินดิบ ๆ ได้ด้วยหรือเนี่ย เรียกว่า Culture Shock กันเลยทีเดียวก๋วยเตี๋ยวที่คุณพ่อบ้านสั่ง เมนูว่าเป็นก๋วยเตี๋ยวยูนนานแบบแห้ง หน้าตาแปลก ๆ เนอะ เค้ามีซอส (ที่เค้าว่า) เผ็ดให้มาด้วย ซอสช้อนนี้ตั้งสั่งพิเศษนะคะ เพิ่มเงิน 3 เหรียญ พอได้ลองแล้ว ขนาดอิชั้นที่เป็นคนไม่กินเผ็ด ยังแอบบ่น เอ่อ..มันเผ็ดตรงไหนเหรอคะ ?? ซุปเสฉวนของอิชั้นเอง ซุปร้านนี้ใส่แป้งจนข้นเกิน ไม่อร่อยเหมือนร้านห้องแถวร้านอื่นที่อิชั้นเคยลองมาแช้จ๋ายหมี่น เป็นก๋วยเตี๋ยวห้องแถวอีกแบบหนึ่ง ซึ่งในฮ่องกงมีร้านก๋วยเตี๋ยวแช้จ๋ายหมี่นแบบนี้จำนวนมาก เวลาคุณจะสั่งก็แค่เลือกเส้น เลือกผัก เลือกเครื่อง เลือกซอส แล้วเค้าจะคิดราคาเพิ่มตามจำนวนสิ่งที่คุณเลือกแต่ร้านนี้มัดมือชกเลือกมาให้แล้ว ก็จะมีเส้นก๋วยเตี๋ยว หัวไชเท้า เลือดหมู ไส้หมู และลูกชิ้นค่ะ ไม่มีซอสให้ด้วย สู้ร้านแช้จ๋ายหมี่นที่อิชั้นอุดหนุนมาเป็นสิบปีซึ่งอยู่ที่ Fa Yuen Street ไม่ได้เลย ก๋วยเตี๋ยวน้ำยูนนาน ชามนี้เป็นเมนูของคุณพ่อบ้านในวันที่สองที่ไปกินร้านนี้อีกส่วนของอิชั้นหลังจากเข็ดจากแช้จ๋ายหมี่นเมื่อเที่ยวก่อน เลยลองสั่งหมูชุบแป้งทอดราดแกงกะหรี่สไตล์ฮ่องกงมาลองบ้าง ข้าวมาเต็มจานโปะหมูทอดชิ้นเบ้งมาอีกสองชิ้น อารมณ์เหมือนข้าวจับกังอย่างไรอย่างนั้น รสชาติเหมือนแกงกะหรี่สไตล์ฮ่องกงทั่วไป คือไม่เผ็ดและมีกลิ่นเครื่องแกงกะหรี่แรงมาก ๆ ก็เป็นร้านที่น่าสนใจ และหากใครที่ชอบรับประทานอาหารจานด่วนสไตล์ฮ่องกงอยู่แล้ว อาหารของร้านนี้เค้ารสชาติใช้ได้เลยนะคะ แต่สำหรับอิชั้นมีร้านโปรดสำหรับแต่ละเมนูที่ร้านนี้มีขายอยู่แล้ว เลยไม่ค่อยโดนเท่าไหร่พบกันใหม่บล็อกหน้า สวัสดีค่ะ