ชื่อร้าน : Wild Grassรายการอาหาร : Organic Beef Specialtiesที่ตั้งร้าน : 1/F, 4-8 Arbuthnot Road, Central, Hong Kongพิกัด GPS : 22° 16' 48.74" N 114° 9' 16.64" E ความเดิมจากตอนที่แล้ว อิชั้นยังคงวนเวียนป้วนเปี้ยนกับการไปงานปาร์ตี้ซึ่งจัดขึ้นโดยนิตยสาร Foodie นะคะ และเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา Foodie เค้าจัดงานปาร์ตี้ประจำเดือนถึง 2 งาน งานแรกที่อิชั้นรีวิวไปในสัปดาห์ก่อน เป็นปาร์ตี้ซานเกรียกับทาปาสที่ Zafran Bar & Restaurant ส่วนสัปดาห์นี้อิชั้นจะไปที่ Wild Grass ค่ะปรกติเลยเนี่ย อิชั้นมักจะไปงานปาร์ตี้เหล่านี้กับคุณพ่อบ้าน เพราะเธอไม่เรื่องมาก (เอ๊ะ ยังไง ?? 555) และว่างเกือบจะทุกเย็นอยู่แล้ว แต่ในวันที่เค้าจัดงานที่ Wild Grass เนี่ย เธอติดงานค่ะ เพื่อนที่ทำงานก็ไม่มีใครว่างเลยสักคน ทำเอาอิชั้นสองจิตสองใจ จะไปดีหรือไม่ไปดี ที่อยากไปเพราะ Wild Grass เป็นร้านอาหารที่เน้นเนื้อวัว ซึ่งปล่อยเลี้ยงกันในทุ่งหญ้า กินหญ้ากินวัชพืชกันไป เลี้ยงแบบออร์แกนิกว่างั้น แล้วอิชั้นเนี่ยเป็นมนุษย์กินเนื้อค่ะ เป็นคนชอบเนื้อวัวเป็นชีวิตจิตใจ งานนี้นี่มันสนองตัณหาในการเป็นมนุษย์กินเนื้อได้อย่างครบถ้วน ในที่สุด ก็ตัดสินใจไปคนเดียว เพราะมั่นใจว่าอิชั้นสามารถเอนเตอร์เทนตัวเองได้ในระดับหนึ่งละ มีกล้องไปด้วยจะกลัวอะไร และเหตุผลสำคัญอีกประการหนึ่งคือ เนื้อ เนื้อ และเนื้อภายในร้านกว้างขวางและสว่างกว่าร้าน Zafran ที่ไปมาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ยายกล้องยิ้มเลยค่ะ ถ่ายรูปไม่ลำบากน่ะสิ ทางร้านจัดโต๊ะให้นั่งกันสบาย ๆ ไม่ต้องเบียดกันเหมือนกับร้านอาหารฮิป ๆ ร้านอื่นในเซ็นทรัล ที่วางโต๊ะไว้ชิดกันจนลูกค้าแทบจะนั่งตักกันได้โรลอัพของ Foodie ใครมาเห็นก็แน่ใจว่า มาถูกงานกันแล้วล่ะค่ะมีเครื่องดื่มให้เลือก 2 อย่างคือ ไวน์แดงกับซานเกรีย ดื่มกันได้ไม่อั้นค่ะ อิชั้นกำลังอินกับซานเกรียอยู่ในช่วงนี้ ฟาดไป 3 แก้วเลย กรึ่มกำลังดีหลังจากนั้นพนักงานเริ่มนำอาหารว่างมาเสิร์ฟ เริ่มด้วยพัฟไส้เนื้อบดปรุงรสอิชั้นชอบจานนี้มาก กรอกนอกนุ่มใน ตอนแรกก็ไม่รู้หรอกว่าอะไร จนตอนหลังมาเห็นจากในหน้า facebook ของ Foodie ว่ามันคือลิ้นวัวค่ะ อร่อยติดใจมาก ซัดไปหลายชิ้นอยู่ค่ะภาพผู้มาร่วมงานส่วนหนึ่ง ส่วนใหญ่เป็นหนุ่มสาวออฟฟิศที่มาแฮงก์เอาท์หลังเลิกงานเหมือนอิชั้นนั่นเอง ของอิชั้นเดินมาจากออฟฟิศประมาณ 15 นาทีเท่านั้น เซ็ตนี้น่ารักสุด ๆ ไปเลย เป็นเนื้อตุ๋นซึ่งเค้าว่าใช้เวลาตุ๋นกันหลายชั่วโมงเลยทีเดียวถ่ายรูปรวม ๆ เสร็จ ก็จกมาชื่นชมและกินที่โต๊ะของตัวเองซะหนึ่งถ้วยSteak Tartare ไม่เคยลองมาก่อนเลยนะ เอาเสียหน่อย รสชาติเนื้อดิบนี่มันหวานอมขมกลืนชะมัด ได้ลองแล้วก็เลยเพิ่งจะรู้ว่า ไม่ชอบเอาเสียเลยค่ะและนี่เป็นไฮไลต์ของงานค่ะ สเต็กเนื้อก้อนเบ้อเริ่ม เห็นแล้วอยากจะอมไว้เองทั้งก้อน ไม่อยากแบ่งเธอไปให้ใคร มาชมใกล้ ๆ กันอีกสักภาพ เนื้อก้อนยักษ์ เกรวี่หนึ่งถ้วยใหญ่ และขนมปังโดต์ (รสชาติคล้าย ๆ ปาท่องโก๋ของเราอยู่นะ แต่เป็นขนมปังอบ) ระหว่างที่เชฟกำลังหั่นเนื้อแจกผู้มาร่วมงาน สปอนเซอร์เจ้าของเนื้อก้อนนี้ คือบริษัท OBE อะไรซักอย่าง ซึ่งเป็นบริษัทนำเข้าเนื้อวัวออร์แกนิกจากออสเตรเลีย ก็มาเล่าถึงการเลี้ยงวัวดังกล่าวให้พวกเราฟังไปพลาง ๆ บรรดา Foodies ทั้งหลาย (รวมถึงอิชั้น) ต่างก็ตั้งอกตั้งใจฟังเค้าบรรยาย พร้อมกับแอบกลืนน้ำลายไปด้วย ช่างภาพของงานเห็นอิชั้นมีกล้องไปเอง เลยไม่กล้าถ่ายรูปอิชั้นเลย ป๊าดโถ่ !!! มีรูปนี้รูปเดียวที่ถ่ายติดอิชั้นแบบจะจริงจังเกินไปไหมเจ๊ ?? ขอบคุณภาพจาก Foodie ไว้ ณ ที่นี้ด้วยค่ะ ก่อนที่อิชั้นจะลั่นชัตเตอร์ มือไวก็มาฉกไปเสียก่อนหนึ่งจาน เร็วกันจริง ๆถ่ายเสร็จ อิชั้นก็หยิบมาหนึ่งจานเอามาจกต่อที่โต๊ะ เนื้อหวานนุ่มชุ่มลิ้น มนุษย์กินเนื้อแทบจะขึ้นสวรรค์เลยทีเดียว งานนี้ก็เป็นปาร์ตี้สำหรับคนรักเนื้อ (ออร์แกนิก) ที่อิชั้นปลื้มมาก ถ้าไม่ได้ไปเสียดายแย่ค่ะ และถึงแม้ว่าจะไปเพียงคนเดียวโด่เด่ แต่อิชั้นก็เอนเตอร์เทนตัวเองได้อย่างสนุกสนาน ไม่เหงาเลยล่ะค่ะ นอกจากนี้อิชั้นยังไปคอมเมนต์ไว้บนหน้าเพจ facebook ของทาง Foodie เค้า พร้อมบอกเค้าด้วยว่า งานหน้าเจอกันอีก จะไปเจอกันที่ไหนนั้น พบกันใหม่สัปดาห์หน้านะคะ สำหรับวันนี้ สวัสดีค่ะ