กลับมาพบกันอีกแล้ว กับ "สวัสดี...แคมปัส" ในช่วงยามอากาศร้อนๆ แบบนี้ ใครใคร่จะกิน จะเที่ยว จะเล่นน้ำ จะเดินป่า ก็ขอให้ระมัดระวังพระอาทิตย์กันบ้างนะจ้ะ เพราะหากเผชิญความร้อนกันอยู่นาน อาจถึงขั้นปวดแสบปวดร้อนกันทีเดียว สัปดาห์นี้ เราจึงนำ "แคมปัส..รับเชิญ" มาดับร้อนกัน ส่วนจะสวย น่ารัก เก่ง ฉลาด ขนาดไหน พิจารณากันเอาเองละกัน...
สาวสวยจากเมืองจันทบุรี น่าจะทำให้แฟนๆ "สวัสดี...แคมปัส" ชุ่มฉ่ำหัวใจคลายร้อนกันบ้าง ซึ่งหลายท่านอาจจะคุ้นหน้าคุ้นตากันมาบ้างแล้ว ก็ตามโปสเตอร์ร้านสะดวกซื้อ อย่าง 7-11 นั่นเอง
สาวสวยคนเก่ง มีชื่อว่า "วิมลวรรณ เกตุหนองพ้อ" หรือน้องน้ำฝน อายุอานามก็ 21 ปี กำลังศึกษาอยู่ที่สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ คณะนิเทศศาสตร์ สาขาสื่อสารองค์กร ชั้นปีที่ 2 แถมมีดีกรีเป็นถึงดาวมหาลัยด้วย ไม่ต้องสงสัยว่าเพราะเหตุใด ตอบในใจแล้วกัน
ถามไถ่ว่า "น้ำฝน" ทำอะไรอยู่ในตอนนี้ คำตอบคือ เธอกำลังฝึกงานอยู่ที่ สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส โต๊ะข่าวบันเทิง ซึ่งเป็นเริ่มฝึกงานตั้งแต่ปีที่ 2 เนื่องจากทางสถาบันอยากให้นักศึกษามีประสบการณ์ไปพร้อมๆ กับทฤษฎี จึงเรียนไปฝึกงานไปนั่นเอง น้ำฝนเล่าว่า "ฝนได้ฝึกงานเยอะมาก ได้ประสบการณ์มากมายจริงๆ เป็นสิ่งที่น้ำฝนรู้สึกตื่นเต้นทุกครั้งที่ได้มาฝึกงานตามที่ต่างๆ ด้วยเหตุผลที่น้ำฝนอยากเป็นนักข่าวด้วย ซึ่งพอได้ฝึกแล้ว น้ำฝนก็ชอบมากๆ และถ้าเราทำในสิ่งที่เราชอบเราจะทำมันได้ดีที่สุดค่ะ "
เอาแล้ว "สวัสดี...แคมปัส" เริ่มตื่นเต้นที่ได้มาสัมภาษณ์ว่าที่นักข่าวแสนสวยคนนี้ แถมยังเป็นถึงดาวมหาลัยอีกด้วย เรามาพูดถึงผลงานที่ผ่านมาบ้างดีกว่า เบาๆ ก็แค่เคยถ่ายปกนิตยสารของสถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ (PIM) ประมาณ 7 เล่ม โปสเตอร์ติดร้าน 7-11 เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ของสถาบันฯ แล้วก็เคยได้รับเกียรติบัตร เป็นนักศึกษาที่มีผลงานดีเด่นประจำปีการศึกษา 2555
ทั้งสวย ทั้งเก่งขนาดนี้ ผลการเรียนก็ไม่ธรรมดาทีเดียว น้ำฝนตอบว่า "เรียนตอนนี้ เกรดก็อยู่ที่ 3 กว่าๆค่ะ เรียนค่อนข้างยากและเหนื่อย แต่สู้ๆ ค่ะ เพราะเราต้องทั้งเรียนแล้ว ก็ทำกิจกรรมไปด้วย เราจะเหนื่อยมากกว่าคนอื่นนิดหน่อย แต่ว่าประสบการณ์ที่เราได้ ผนว่ามันเยอะตามไปด้วย ซึ่งฝนก็ต้องแบ่งเวลาให้ถูกด้วยเพราะถ้ามันตรงกับเวลาเรียน น้ำฝนจะเลือกเรียนเป็นหลักค่ะ"
นี่สิน่าชื่นชมยิ่งนัก! น้ำฝน พูดถึงการใช้ชีวิตให้มีความสุขและประสบความสำเร็จ น้ำฝน บอกว่า "สำหรับน้ำฝน คือเราอย่ากลัว ในสิ่งที่ยังมาไม่ถึง เพราะถ้าเรากลัวไว้ก่อน เราจะไม่ได้ทำอะไรเลย มัวแต่นั่งกลัว สู้เราเดินหน้าลุยไป แล้วทำให้มันดีที่สุด ผลออกมาอย่างไร ค่อยว่ากันอีกที หรือถ้าบางครั้ง มันอาจไม่เป็นอย่างที่เราหวังไว้ ให้เราถอยมา 1 ก้าว แล้วหันกลับไปดูว่า เราผิดพลาดตรงไหนบ้าง แล้วเดินหน้าต่อไป โดยใช้ความผิดพลาดเป็นประสบการณ์สอนเรา ให้เราเดินไปสู่วันความสำเร็จค่ะ"
เอาละทิ้งท้ายไว้ขนาดนี้ ไม่ต้องบรรยายว่าน่าเอาอย่างขนาดไหน!!!