|
| 1 |
2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 |
9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 |
16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 |
23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 |
30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
การสอบสายยูโด 3คิวที่โคโดกัง
ความเดิมตอนที่แล้ว ต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ผมได้มีโอกาสเจอกับนักกีฬายูโดทีมชาติไทย และได้มีโอกาสเปิดหูเปิดตาลองซ้อมด้วยกันประมาณ5นาที เวลาประมาณ5นาทีวันนั้นมีค่ามากจริงๆ เค้าได้บอกกับผมไว้ประโยคนึงว่า เวลาที่จะล้มคู่ต่อสู้ควรจะใส่เข้าไปเป็นท่าจะดีกว่า เช่นท่า ฮาไรโกชิ ฮาเนโกชิ อุจิมาตะ เซโอนาเกะ อิปปงเซโอนาเกะ ไทโอโตชิ หรือว่าอื่นๆ แล้วแต่ความถนัด ดีกว่ารอฟลุ๊คเอาขาปัดไปปัดมาเพราะว่าเวลาแข่งจริง จังหวะฟลุ๊คไม่ค่อยเกิดและการปัดไปปัดมา อาจจะทำให้หมดแรงเองก็ได้ คำสอนประโยคนี้จึงเป็นที่มาของการฝึกท่า เซโอนาเกะของผมนั้นเอง
แรกเริ่มของการเล่นยูโด ผมไม่ค่อยชอบท่าเซโอนาเกะ กับ ท่าอิปปงเซโอนาเกะ เท่าไรนัก เพราะว่าผมเห็นก่อนการแข่งขันหลายๆครั้งนักกีฬาจะฝึกเข้าท่าด้วย2ท่านี้ แต่พอตอนแข่งจริง2ท่านี้กลับใช้กันไม่ค่อยออก อาจเป็นเพราะว่าการแข่งขันที่ผมได้ดูผ่านๆมา ไม่ถึงกับมืออาชีพมันเป็นแค่เด็กนักเรียนกับเด็กมหาลัยเล่นกัน เลยไม่ค่อยเห็นอิปปงจากท่าเซโอนาเกะกับท่าอิปปงเซโอนาเกะ หรือเห็นก็ท่าออกมาไม่ค่อยสวย
ด้วยความที่ไม่ชอบท่าเซโอนาเกะซักเท่าไรนัก เลยทำให้ใช้ออกมาเก้งๆกังๆ บ่อยๆเข้า ก็บอกกับตัวเองว่า ไหนๆก็ลองฝึกท่าที่ไม่ขอบนี้ให้เป็นท่าที่ถนัดดูละกัน เพราะว่ามั่นใจว่าท่านี้คนคิดค้นเค้าได้คิดมาอย่างดีแล้วในการอาศัยแรงต่างๆทั้งของเราเองและของคู่ต่อสู้มารวมกันจนเป็นท่านี้ขึ้นมา ยังไงฝึกดูก็ไม่เสียหาย มีเวลาเกือบ1เดือนเต็มในการฝึกท่านี้เพื่อที่จะเอามาใช้ในการสอบที่จะต้องมีการแข่งจริง
ท่าเซโอนาเกะของผม จะเป็นลักษณะการก้มตัวลงไปต่ำมากๆเพื่อเพิ่มแรงดึงคู่ต่อสู้ให้ง่ายในการทุ่ม ฝึกไปเรื่อยๆความเร็วในการหมุนตัวมันก็เริ่มมา พอเอามาใช้ในการซ้อมรันโดริมันก็เริ่มมีการทุ่มได้บ้างจากท่านี้ ติดปัญหาอยู่เรื่องเดียวคือเรื่องขาที่ตอนกำลังจะทุ่มคู่ต่อสู้ในจังหวะสุดท้าย ขาผมจะไม่มีแรงดันให้ลุกขึ้นยืนได้จึงต้องอยู่ในการทิ้งเข่าลงไป
2อาทิตย์ก่อนการแข่งจริง ผมได้ถามอาจารย์ที่โคโดกังถึงวิธีการที่จะทำให้ยื่นขึ้นมาได้ในจังหวะสุดท้าย แล้วผมก็เข้าใจว่าท่าที่ผมฝึกมา2อาทิตย์มันผิด ไม่จำเป็นต้องถึงกับเขย่งเท้ามาก เพียงแค่ยกหน่อยนึงคล้ายๆกับว่ามีกระดาษแผ่นนึงรองอยู่ที่เท้าอีกทีเป็นใช้ได้ จะทำให้มีแรงมากขึ้นในการดันขาและเข่าขึ้นมาให้อยู่ในท่ายืนได้ ตอนนั้นผมก็ต้องแก้ไขกันใหม่กับท่านี้ แต่ผลที่ได้กลับกลายเป็นจังหวะหมุนตัวทุ่มของผมช้าลงไป ทำให้ช่วงนั้นผมทุ่มคู่ต่อสู้ไม่ค่อยได้เท่าไรจากท่านี้ เวลาแข่งจริงใกล้เข้ามาเรื่อยๆผมก็ยังแก้ไขไม่ได้ ก็เลยทำให้ผมขอกลับไปใช้เป็นแบบเดิมก่อนคือการย่อเข่าก้มตัวให้มากที่สุด ถึงยืนไม่ขึ้นก็ยังเอาเข่าทิ้งลงพื้นได้พร้อมกับการดึงและทุ่มคู่ต่อสู้ลงมา
1อาทิตย์ก่อนการแข่งขัน ปัญหาถัดมา คือมีคู่ต่อสู้หลายคนโดยเฉพาะคนตัวเล็กๆมักจะหลบท่าเซโอนาเกะของผมไปได้บ่อยๆ โดยการบิดตัวออกข้าง ผมได้เจอกับอาจารย์อีกคนนึงและได้ถามหาวิธีแก้ อาจารย์ได้สอนผมเพิ่มเติมจากท่าเซโอนาเกะเป็นท่า เซโอ-โอโตชิ คือการเอาขาข้างหนึงไปบล๊อคทางหนีของคู่ต่อสู้ส่วนมือก็ใช้ท่าทุ่มเซโอนาเกะทุ่มแบบบิดออกข้างๆเล็กน้อย
ก่อนวันแข่งจริง1วัน ท่าเซโอนาเกะของผมก็ถือว่าได้เติมเต็มแล้ว เพียงแต่ยังไม่สามารถยืนขึ้นมาได้เท่านั้น (ที่จริงชื่อเรียกที่ถูกต้องน่าจะเป็น เซโอ-โอโตชิ เพราะจริงๆแล้วเซโอนาเกะคือการทุ่มคู่ต่อสู้โดยการดันขึ้น ส่วนเซโอ-โอโตชิคือการทุ่มคู่ต่อสู้โดยการดึงลง) ไม่เป็นไรเรื่องยืนหรือคุกเข่าเอาไว้ค่อยไปแก้กันเดือนหน้าอีกทีละกัน
และแล้ววันแข่งจริงก็มาถึง ผมภาวนาให้เจอคู่ต่อสู้อ่อนๆหน่อยจะได้ผ่านไปได้แบบสบายๆ กติกามีอยู่ว่าแข่งได้คนละ2ครั้ง เวลาการแข่ง2นาที ใครคู่กับใครอาจารย์จะเป็นคนจัดให้ ชนะได้1แต้ม เสมอได้0.5แต้ม ส่วนแพ้ไม่มีแต้ม ถ้าจะผ่านระดับ3ต้องเก็บให้ได้2แต้ม(หรือว่าชนะ2ครั้งนั้นเอง) + กับชั่วโมงเรียนต้องเก็บให้ได้30ครั้ง เรื่องชั่วโมงเรียนไม่มีปัญหาครับ พยายามไม่ขาดเรียนเท่าไร ตอนนี้เก็บไปได้44ครั้ง เหลือแต่ต้องชนะวันนี้ให้ได้ทั้ง2นัดถึงจะผ่าน ถ้าชนะ1เสมอ1 หรือว่าเสมอทั้ง2นัด หรือที่แย่ที่สุดคือแพ้ทั้ง2ครั้ง จะต้องไปแข่งใหม่เดือนหน้า เรียกว่าเสียเวลาไปอีก1เดือน ดังนั้นต้องชนะเท่านั้น
เริ่มต้นด้วยการทำอุเกมิ หรือว่าการตบเบาะนั้นเอง เรียงตามชื่อที่อาจารย์จัดไว้ให้แล้วไม่ว่าจะสอบระดับไหนก็ต้องเริ่มจากการทำอุเกมิก่อน ถัดจากนั้นก็จะเป็นการสอบระดับ4 (วันนี้ไม่มีนักเรียนมาสอบระดับ5) ระดับ4อาจารย์จะเรียกท่าแล้วก็ให้คนทุ่มทุ่ม ส่วนคนรับก็ต้องล้มให้ถูกหลัก มีคะแนนทั้งคนทุ่มและคนรับ ถัดจากนั้นก็เป็นการรันโดริโดยไม่เอาผมแพ้ชนะ พอการสอบระดับ4ผ่านไปแล้ว ก็ถึงคิวของผมละนั้นคือการสอบระดับ3นั้นเอง
อาจารย์เรียกชื่อ เพื่อแบ่งทีมระหว่างแดงกับขาว ผมอยู่สีขาวและแข่งเป็นคู่ที่2(คู่แข่งคือคนชนะจากคู่แรก)กับคู่ที่3(ทีมสีแดงคนใหม่) นัดแรกของการแข่ง สบายๆครับ เพราะว่าคู่ต่อสู้คือเพื่อนผมเองที่เรียนมาด้วยกันตั้งแต่ต้นเลยครับ คนนี้แรงไม่เยอะเท่าไร เข้าท่าก็ไม่เร็วมาก เพียงแต่การจับดึงและการล๊อคในท่านอนอันตรายทีเดียว นัดที่ผ่านมาเพื่อนคนนี้ก็ชนะด้วย การหลอกด้วยท่าosoto gari แล้วใช้เป็น sasae tsurikomi goshi ถัดมาตามด้วยท่านอนkesa gatame
นัดแรกของผมไม่อยากที่จะเสียเวลายึดเยื้อเท่าไร เพราะว่ามีอีกนัดที่ต้องแข่งหลังจากนี้ พอเริ่มต้นไปได้ประมาณ6วินาที ผมก็เห็นจังหวะแล้วก็ไม่พลาดครับทุ่มด้วยท่า เซโอนาเกะ เป็นอิปปงทันที พร้อมกับเสียงอือฮา แล้วก็ตามมาด้วยเสียงปรบมือ ถือว่าพระเจ้าช่วยกล้วยทอดจริงๆครับ เพราะว่าอย่างน้อยเพื่อนคนนี้ก็ชนะนัดที่แล้วมา ยังไงวันนี้ก็ยังมี1แต้มกลับบ้านไป เพราะถ้าแข่ง2นัดแล้วไม่มีแต้มเลยน่าจะเซ็งพอสมควร อย่างน้อยตอนนี้ผมก็ได้มา1แต้มแล้วเหมือนกัน เหลืออีกแต้มนึงที่น่าจะหนักอยู่
นัดที่สอง คู่ต่อสู้ผมเป็นชาวอังกฤษสูงมาเชียว ประมาณ187-189เซนได้มั้ง น้ำหนักก็น่าจะอยู่ที่80โล (ผมสูง175น้ำหนัก73) คู่ต่อสู้คนนี้เมื่อเดือนที่แล้วตอนสอบระดับ4คิวก็ได้คู่กับผมในการสอบรันโดริ ครั้งนั้นไม่เอาผลแพ้ชนะ ผมถูกเค้าทุ่มไปประมาณ2ครั้ง เลยทำให้ผมหนักใจหน่อยๆกับการแข่งวันนี้ เริ่มต้นการแข่งผมยังไม่ขอใช้ท่าเซโอนาเกะ เพราะว่าเพิ่งใช้ไปเมื่อกี้อาจจะทำให้คู่ต่อสู้ระวังอยู่ก็เป็นได้ งั้นก็เปลี่ยนเป็นเริ่มต้นใช้ท่า o uchi gari แล้วต่อมาเป็น uchimata แต่ว่าไม่รู้ใช้อีท่าไหนเหมือนกัน น่าจะเป็นเพราะคู่ต่อสู้ขายาวเลยทำให้ผมกลับกลายเป็นคนถูกทุ่มล้ม จังหวะล้มคิดว่าแย่แล้วคงเป็นอิปปงแน่ๆเลย พยายามพลิกตัวกลับให้เร็วที่สุด แต่คู่ต่อสู้ก็น่าจะตื่นสนามเหมือนผมแหละครับ ทำให้ไม่ตามมาซ้ำในท่านอน มีเวลาให้ผมหวาดเสียวเล็กน้อย อาจารย์ตัดสินให้เป็น วาซะอาริ คราวนี้ผมเริ่มแย่แล้ว เพราะเวลาการแข่งก็ไม่รู้เหลืออีกเท่าไรเหมือนกัน ถ้าไม่รีบทำคะแนนให้ได้คงต้องแพ้แน่เลย ถัดจากนี้ไม่รู้ว่าคู่ต่อสู้จะคิดกันจนหมดเวลารึเปล่า แต่ที่แน่ๆ ท่าที่ผมพอจะพึ่งได้ก็มีแต่ท่า เซโอนาเกะนี้แหละ ต้องหาจังหวะเข้าทำให้ได้ คราวนี้หลอกโดยการสะบัดขากับสะบัดตูดอย่างละครั้ง แล้วค่อยใช้จริง ถึงว่าโชคช่วยจังหวะพอดี ความแรงกับความเร็วก็เข้าขั้น ทุ่มลงไปได้เป็นอิปป้งแล้วเสียงปรบมือก็ดังอีกครั้ง รอดตัวไปวันนี้ผมได้2แต้มกลับบ้านแล้วครับ
การแข่งดำเนินไปเรื่อยๆ จากระดับ3เป็น2และ1 คนที่สอบทุกคนก็ต้องอยู่ดูการแข่งจนจบทุกคู่ ในแต่ละคู่ผมก็คิดถึงคำสอนของนักกีฬาทีมชาติไทยขึ้นมาได้ว่า เวลาจะทุ่ม ให้ใส่เข้าไปเป็นท่าจะดีกว่าการปัดขาไปมา จริงๆด้วยครับ คู่อื่นที่ผมดูส่วนใหญ่จะปัดขาไปมา อาจเป็นเพราะว่าจังหวะไม่ให้ หรือว่าไม่รู้ว่าจะเข้าท่าไหนดี ส่วนใหญ่การแข่งถ้าไม่จบลงที่เสมอ ก็จะเป็นการชนะแบบวาซะอาริ หรือไม่ก็เป็นการล็อคในท่านอน
โชคดีที่ผมได้เจอนักกีฬาทีมชาติไทย จากคำพูดที่ว่า เวลาจะทุ่ม ให้ใส่เข้าไปเป็นท่าจะดีกว่าการปัดขาไปมา เลยทำให้ผมมีท่าเซโอนาเกะขึ้นมา วันนี้ผมก็เลยเป็นคนเดียวที่ทุ่มได้2อิปปง หลังจากยืนเคารพตามกฏระเบียบของโคโดกังแล้ว ก่อนที่จะเลิกอาจารย์มีสรุปผลการสอบในวันนี้ แล้วผมก็ถูกด่าอย่างที่คิดจริงๆ เพราะว่าท่าที่ผมใช้มันอันตรายไปหน่อยนึง อาจารย์บอกว่าวันนี้ผมทุ่มออกมาได้perfectแล้วก็จริงสำหรับการแข่งขันแต่ว่าระยะมันต่ำไปหน่อยอาจจะอันตรายสำหรับคู่ต่อสู้ ถ้าใช้ท่านี้ในการแข่งระหว่างสายดำจะไม่มีปัญหา แต่ตอนนี้อยากให้ใช้เป็นท่าเซโอนาเกะแบบยืนขึ้นมาจะสมบูรณ์แบบมากกว่านี้ กลายเป็นว่าผมโดนด่าอย่างสุภาพอยู่คนเดียว เพราะว่าการแข่งในวันนี้ อิปปงจากการทุ่มแทบจะไม่มีเลย ผมจะพยายามแก้ไขให้ทันใช้ในการแข่งเดือนหน้าครับ
ก่อนกลับบ้าน ไม่ลืมที่จะไปขอโทษคนที่ถูกทุ่มไปทั้ง2คน เพราะในจังหวะนั้นผมก็ไม่แน่ใจว่าจังหวะมีพลาดบ้างรึเปล่า มีส่วนไหนเจ็บจากการทุ่มบางมั้ย อย่างน้อยก็ขอโทษไว้ก่อนเป็นดีที่สุด
Create Date : 29 ตุลาคม 2554 |
|
20 comments |
Last Update : 29 ตุลาคม 2554 21:15:27 น. |
Counter : 1338 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: Jจุ้ย (Jจุ้ย ) 30 ตุลาคม 2554 10:32:03 น. |
|
|
|
| |
โดย: whoim4u 30 ตุลาคม 2554 11:31:04 น. |
|
|
|
| |
โดย: ทราย (sindesign ) 1 พฤศจิกายน 2554 14:57:03 น. |
|
|
|
| |
โดย: โสมรัศมี 1 พฤศจิกายน 2554 18:26:31 น. |
|
|
|
| |
โดย: Water_1 2 พฤศจิกายน 2554 21:31:22 น. |
|
|
|
| |
โดย: โสมรัศมี 5 พฤศจิกายน 2554 18:27:15 น. |
|
|
|
| |
โดย: ป้าโซ 7 พฤศจิกายน 2554 14:30:45 น. |
|
|
|
| |
โดย: โสมรัศมี 8 พฤศจิกายน 2554 13:48:23 น. |
|
|
|
| |
โดย: lee (zmake27 ) 11 พฤศจิกายน 2554 11:22:13 น. |
|
|
|
| |
โดย: ป้าณู 12 พฤศจิกายน 2554 5:09:33 น. |
|
|
|
| |
โดย: pantawan 12 พฤศจิกายน 2554 21:47:53 น. |
|
|
|
| |
โดย: Hi-speak 15 พฤศจิกายน 2554 18:39:23 น. |
|
|
|
| |
โดย: hongna 18 พฤศจิกายน 2554 12:42:42 น. |
|
|
|
| |
|
|