Group Blog
 
<<
มกราคม 2555
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
3 มกราคม 2555
 
All Blogs
 
99ความทรงจำเกี่ยวกับการซ้อมยูโดที่ญี่ปุ่นในเวลาที่ผ่านมา

99ความทรงจำเกี่ยวกับการซ้อมยูโดที่โคโดกังญี่ปุ่นในเวลาที่ผ่านมา

1. จำได้ว่าเริ่มรู้จักยูโดจากการชักชวนของเพื่อน

2. จำได้ว่าไม่เคยมีความสนใจยูโดจนกระทั่ง วันแรกที่เข้าไปดูการซ้อมแล้วเห็นคนถูกทุ่มลงพื้นพร้อมกับเสียงที่กระทบพื้นที่ดังมากๆจากท่าฮาไรโกชิ

3. จำได้ว่ารุ่นพี่ชมรมพูดจาดีมากๆ (เหมือนกับจะหลอกล่อให้เข้าชมรม)

4. จำได้ว่ารุ่นพี่ที่เป็นประธานชมรมบอกว่า ชมรมซ้อมอาทิตย์ละ3ครั้ง คือ อังคาร พฤหัส และศุกร์ แต่เอาเข้าจริง เป็นการซ้อม2อาทิตย์1ครั้ง

5. จำได้ว่าเริ่มต้นฝึกซ้อมกับชมรมมหาลัย ซ้อมยังไงก็ทำมายมารุอุเกมิ(ม้วนตัวตบเบาะ)ไม่เป็น

6. จำได้ว่าเริ่มต้นเป็นคนที่มีพื้นฐานอ่อนที่สุดในชมรม เพื่อนคนที่ชวนให้เข้ามีพื้นอยู่บ้างเล็กน้อย ส่วนเพื่อนชั้นเดียวกันที่ซ้อมอยู่ก่อนหน้านั้นตอนซ้อมก็ดูทะมัดทะแมงดี ทำให้ช่วงนั้นรู้สึกว่ากูแย่แน่

7. จำได้ว่าอาจารย์คนแรกคือ อาจารย์โคยาม่า

8. จำได้ว่าอาจารย์โคยาม่า รู้สึกตื่นเต้นที่มีนักเรียนเข้าใหม่เป็นต่างชาติถึง2คน

9. จำได้ว่าอาจารย์โคยาม่า จริงจังกับการฝึกซ้อมอยู่เพียงแค่3ครั้ง ส่วนที่เหลือต่อจากนั้น คนในชมรมหยุดๆหายๆกับอาจารย์ติดธุระ เลยต้องปล่อยเด็กใหม่ต่างชาติ2คนไปตามยถากรรม

10. จำได้ว่าครั้งที่3กับการสอนของอาจารย์โคยาม่า อาจารย์ได้ก๊อปปี้หนังสือยูโดกับพื้นฐานในท่าต่างๆมาให้ ช่วงนั้นเลยกะไว้ว่า ถ้ามีการเรียนการสอนแบบนี้ไม่ถึงปีก็คงจะก้าวหน้าเป็นแน่

11. จำได้ว่าท่าแรกที่อาจารย์สอนให้คือท่า โอโซโตการิ

12. จำได้ว่าท่าเนวาซะท่าแรกที่ได้เรียนจากอาจารย์คือท่า เคซะกาตาเมะ

13. จำได้ว่ามีเพียงอาจารย์คนเดียวที่ดิ้น(แทบแย่)แล้วหลุดจากการล๊อคของท่าเคซะกาตาเมะไปได้ ส่วนเพื่อนคนอื่นจอดสนิท

14. จำได้ว่าจากวีรกรรมในท่าเคซะกาตาเมะ ทำให้อาจารย์และเพื่อนคนอื่นๆในชมรม รู้ว่าไอ้นี่แรงควาย

15. จำได้ว่าท่าแรกที่รุ่นพี่สอนให้คือท่า โอโกชิ

16. จำได้ว่ากว่าท่ายืนกับคุกเข่าทำความเคารพ สอนเป็นลำดับหลังถัดมาจากท่าโอโกชิ

17. จำได้ว่าอาจารย์และรุ่นพี่ที่ชมรม ไม่เคยอนุญาติให้ลงซ้อมรันโดริกับเพื่อนคนอื่นๆที่ชมรม

18. จำได้ว่าซ้อมรันโดริไม่ได้ ให้เป็นซ้อมจับคอเสื้อกับแขนเสื้อคู่ซ้อม หากใครจับได้ก่อนก็จะได้ทุ่มฝั่งตรงข้าม1ครั้งในท่าอะไรก็ได้

19. จำได้ว่าพยายามตั้งใจจับคอเสื้อกับแขนเสื้อมากไปหน่อย จนขาขัดกันเองล้มกลิ้งไป3ตลบ

20. จำได้ว่าเล่นซ้อมจับคอเสื้อกันอยู่3ครั้ง คู่ซ้อมไม่เคยได้ทุ่มเลย

21. จำได้ว่าจากการจับคอเสื้อแล้วได้ทุ่ม ท่าแรกที่ใช้ทุ่มเพื่อนที่ชมรมคือ คานิบาซามิ

22. จำได้ว่าถูกอาจารย์และรุ่นพี่ด่าจากการใช้ท่าคานิบาซามิ

23. จำได้ว่าการทุ่มครั้งถัดมาหลังจากถูกด่าจากท่าคานิบาซามิ ก็เลยใช้เป็นท่าโอโซโตการิ

24. จำได้ว่าปัญหาใหญ่สุดของการซ้อมคือการจำชื่อท่า ทั้งท่ายืนและท่านอน โดยเฉพาะพวกท่าขาวงนอกขาวงใน

25. จำได้ว่าการซ้อมเนวะซะ หรือท่านอน ในครั้งแรก นั้นได้พลาดชกไปเต็มที่เข้าที่หน้าของรุ่นพี่ตัวอ้วน เท่าที่นับได้เลือดจากมุมปากหยดลงบนพื้นตาตามิประมาณ5-6หยด

26. จำได้ว่าหลังจากนั้นก็ไม่เคยซ้อมกับรุ่นพี่ตัวอ้วนคนนั้นอีกเลย

27. จำได้ว่าต้องกินเวลาอยู่เกือบ3เดือน (เนื่องจากซ้อม2อาทิตย์ครั้ง) กว่าจะสามารถลงซ้อมรันโดริได้

28. จำได้ว่าท่าแรกที่ทุ่มคู่ต่อสู้ได้จากการรันโดริครั้งแรกคือ ท่า โอโซโตการิ

29. จำได้ว่าการทุ่มครั้งที่2จากการรันโดริกับรุ่นพี่(สายขาวเหมือนกันแต่น้ำหนักประมาณ90โล) คือการทุ่มในท่าอุจิมาตะ มากิโกมิ

30. จำได้ว่าหลังจากการซ้อมรันโดริครั้งแรกแล้ว ชมรมยูโดก็ไม่ได้มีการซ้อมกันอีกเป็นเวลาเกือบ5เดือน

31. จำได้ว่าช่วงที่ไม่มีการซ้อมยูโด ใจมันเกิดอยากจะเก่งให้ได้ เลยไปหาที่ซ้อมใหม่ และที่ซ้อมนั้นก็คือสถาบันโคโดกัง

32. จำได้ว่ามีเวลาประมาณครึ่งเดือนก่อนจะกลับเมืองไทย อาจารย์ที่โคโดกังเลยไม่ให้เริ่มต้นเรียนยูโด แต่ให้ไปซ้อมที่สนามรันโดริแทน

33. จำได้ว่าวันแรกในสนามรันโดริ แทบจะถอดใจกลับบ้านแล้วไม่ไปอีกเลย

34. จำได้ว่าเป็นสายขาวคนเดียวในสนามรันโดริ ส่วนที่เหลือเป็นสายดำ บางคนก็เป็นสายสีเทาๆ เก่าๆจะขาดไม่ขาดแหละซะด้วย แสดงให้เห็นว่ามือโปรชัวร์ๆ

35. จำได้ว่าการรันโดริครั้งแรกที่โคโดกัง เลือกคู่ต่อสู้ที่ใจดีและแก่ๆดูไม่เก่งเท่าไร หารู้มั้ยคุณปู่คนนั้นอายุ 78แล้ว ที่สำคัญสายดำ8ดั้ง (เพิ่งมารู้ที่หลังว่าแปดดั้ง)

36. จำได้ว่าการรันโดริกับคุณปู่นั้น ใช้แต่แรงเข้าสู้จริงๆเพราะมั่นใจว่าแรงชนะคนแก่อยู่แล้ว แต่ว่ากลับไปฝ่ายถูกทุ่มไปหลายครั้งจากสเต็ปของ ไทซาบากิ

37. จำได้ว่ารันโดริครั้งที่2 ก็ยังเลือกคนที่คิดว่าน่าจะไม่หนักมาก แต่ดันไปเลือกคุณปู่นักกีฬาโอลิมปิคเหรียญทองแดงปี1984 แถมยังเป็นแชมป์ยูโดอีกหลายสนามในการแข่งทัวร์นาเม้นต์ทั้งที่จัดในญี่ปุ่นและในต่างประเทศ

38. จำได้ว่าวันถัดมา คุณปู่นักกีฬาโอลิมปิค คงถูกชะตาอะไรซักอย่าง เลยมอบเหรียญโอลิมปิคให้มาเป็นกำลังใจในการฝึกซ้อมยูโดต่อไป

39. จำได้ว่า วันถัดมาอีกเช่นกันจากการรันโดริกับคุณปู่8ดั้ง คุณปู่คนนี้ท่าจะเส้นใหญ่จริง ไปเรียกอาจารย์คนนึงของโคโดกัง ให้มาสอนอุเกมิให้ เพราะว่าจากการรันโดริด้วยกันแล้ว รู้สึกว่าอุเกมิยังไม่แข็งและกลัวจะเป็นอันตรายที่คอและศรีษะได้ อาจารย์มาสอนให้แต่โดยดี

40. จำได้ว่าหลังจากการเรียนอุเกมิไปได้ซักพัก อาจารย์คนเดิมก็สอนพื้นฐานไทซาบากิให้ด้วย คงจะสมเพชเต็มที่ว่าหลงมาอยู่สนามรันโดริได้ไง แบบไม่มีพื้นฐานอะไรเลย

41. จำได้ว่าหลังจากสอนพื้นฐานไทซาบากิให้แล้ว ท่าทุ่มแรกที่ได้เรียนจากโคโดกัง คือท่า ซูริโกมิโกชิ

42. จำได้ว่าท่าซูริโกมิโกชินั้นเรียนการขยับขา ขยับมืออยู่เกือบชั่วโมงครึ่ง กว่าจะใส่ตระกร้าล้างน้ำออกมาหลอกชาวบ้านได้ว่าเรียนยูโดมานานแล้ว

43. จำได้ว่าอาจารย์คนที่สอนอุเกมิ ไทซาบากิ กับ ท่าซูริโกมิโกชิ นี้ชื่อ อาจารย์ชิโมยาม่า

44. จำได้ว่า2-3วันแรกจากการมารันโดริที่ โคโดกัง แขนซ้ายและขวา ปวดเมื่อยแบบแทบจะยกไม่ขึ้นทั้งสองข้างเป็นเวลาเกือบอาทิตย์ ขาก็เป็นด้วยแต่ว่าเป็นน้อยกว่าแขน

45. จำได้ว่าเพื่อนคนแรกที่ซ้อมคู่กันที่โคโดกังเป็น ต่างชาติมาจากอัฟริกาใต้ เพื่อนคนนี้ฝึกเข้าท่าด้วยกันแค่วันเดียวแล้วก็หายไป ไม่มาคู่กันอีกเลย แต่ว่าเพื่อนคนนี้ก็ได้สอนท่าไทโอโตชิให้

46. จำได้ว่าวนเวียนอยู่กับสนามรันโดริ แอบขโมยดูท่าชาวบ้านคนอื่น แล้วก็หาคนฝึกอุจิโกมิด้วย จนเริ่มพอจะรู้ท่ามากขึ้น เช่น อุจิมาตะ เซโอนาเกะ แต่ว่าแค่การขยับตัวใช้ท่า คนอื่นมองดูก็รู้ว่ามือใหม่

47. จำได้ว่าในสนามรันโดริ แต่ละคนใจดีมากๆ พยายามเข้ามาทัก เข้ามาช่วยสอนในสิ่งที่อยากจะรู้ ว่าแต่อยากจะรู้อะไรตอนนั้นมันยังไม่รู้เลย

48. จำได้ว่าได้ท่า โคอุจิการิ กับ ท่า โออุจิการิ มาโดยบังเอิญ จากการที่คนในสนามคนนึง เป็นคนมองโกลอายุประมาณ20ได้มั้ง ขอให้คนในสนามอีกคนนึงซึ่งน่าจะเป็นอาจารย์ยูโดจากที่อื่นแต่มาซ้อมที่โคโดกัง อาจารย์คนนั้นต้องการหุ่นเพื่อที่จะมาอธิบายท่า ทำให้ได้2ท่านี้มาแลกกับการที่เป็นหุ่นให้ซ้อม

49. จำได้ว่าซ้อมอยู่ที่สนามรันโดริอยู่2อาทิตย์ครึ่งแล้วก็กลับเมืองไทย

50. จำได้ว่าซ้อมวันสุดท้ายก่อนกลับเมืองไทย ได้เจอคนญี่ปุ่นคนนึง (ถัดมาอีกครึ่งปีถึงได้มาเจอ และซ้อมคู่กันในคอส์ตยูโดที่โคโดกัง) คนๆนี้สายขาวอยู่ แต่ท่าทางจะเรียนมาพอสมควรพื้นฐานใช้ได้

51. จำได้ว่ารันโดริกับคนญี่ปุ่นคนนี้ แพ้ไม่เป็นท่าเลยทั้งๆที่แรงเยอะกว่ามันเยอะแต่ว่าตัวเองเคลื่อนไหวขัดๆไม่นิ่งเอง ถูกเกี่ยวล้มไป3-4ครั้ง

52. จำได้ว่ากลับมาเมืองไทยและไปเที่ยวอเมริกา ช่วงที่อยู่อเมริกา ญี่ปุ่นเกิดแผ่นดินไหวหนักและก็มีปัญหาโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ตามมา

53. จำได้ว่ากลับมาญี่ปุ่นก่อนเปิดภาคเรียน2วัน แล้ววันที่เปิดภาคเรียนใหม่นี้ก็เป็นวันแรกที่ชมรมยูโดกลับมาซ้อม แต่สมาชิกเหลือแค่3คน

54. จำได้ว่าเป็นวันที่ 28 เมษายน ก่อนช่วงหยุดยาวของญี่ปุ่น และวันนี้ก็ได้รันโดริเป็นครั้งที่2 หลังจากหยุดไปประมาณเกือบ5เดือน

55. จำได้ว่าวันเดียวกันนี้ รุ่นพี่สายดำ(ปัจจุบันเป็นประธานชมรมยูโดแล้ว) งงไปเลยกับการเคลื่อนไหวที่เปลี่ยนไปกับท่าใหม่ที่ไม่รู้ว่าไอ้นี่เรียนมาจากไหนใช้เป็นได้ยังไง คือท่าอุจิมาตะ และครั้งนั้นก็เป็นครั้งแรกที่สามารถทุ่มรุ่นพี่สายดำลงไปเป็นอิปป้งได้ จากท่าอุจิมาตะ

56. จำได้ว่าวันเดียวกันนี้ รุ่นพี่คนนี้ยังงงต่อ จากการรันโดริกันในท่านอนหรือเนวาซะ ว่าการจับล๊อคการใส่ท่าต่างๆรู้ได้ยังไง ทั้งๆที่ไม่เคยมีใครสอน (ใครจะรู้ว่าครึ่งเดือนที่โคโดกังได้ให้อะไรมาเยอะมาก แต่ไม่เคยบอกใครที่มหาลัยว่าเคยไปซ้อมที่โคโดกัง)

57. จำได้ว่าวันเดียวกันนี้ เป็นวันที่โชคชะตาพลิกผัน แขนขวา บริเวณข้อศอกเกือบหัก(แต่ไม่หัก) เพียงแต่ฉีกกระฉากเละเทะ จนเกือบจะเข็ดกับยูโดไปเลย

58. จำได้ว่าวันนั้นตอนที่เกิดเรื่องเป็นช่วงเย็นแล้วประมาณ6โมงเย็น แล้วก็เป็นวันสุดท้ายของการทำงานก่อนที่จะหยุดยาว โรงพยาบาลเวลานั้นก็หยุดกันหมดแล้ว อาจารย์ในมหาลัยใช้เส้นสายส่วนตัวติดต่อคลีนิคเพื่อนให้ช่วยดูแลปฐมพยาบาลให้ก่อนในเบื้องต้น ถึงคลีนิคเอ็กซเรย์ดูแล้วกระดูกยังไม่หัก แต่ว่าบริเวณโดยรอบเสียหายเท่าไร ไม่มีเครื่องมือที่จะตรวจสอบได้ คลีนิคได้แนะนำโรงพยาบาลพร้อมทั้งจดหมายให้ไปติดต่อกับโรงพยาบาลในวันพรุ่งนี้

59. จำได้ว่าคืนนั้นนอนไม่ได้เลย เพราะว่าแขนไม่คุ้นกับเฝือกอ่อนที่พันมา ขยับหน่อยนึงก็เจ็บมากๆ วันถัดมาไปโรงพยาบาลหมอตรวจอีกรอบ ก่อนที่จะไม่ทำอะไรเลย ให้มาตรวจโดยเครื่อง เอ็มอาร์ไอ ในอีก3วันถัดไป ไม่มีทั้งยาและไม่มีทั้งการรักษาใดๆทั้งสิ้น เฝือกอ่อนก็ห่อกลับเข้าไปเหมือนเดิม

60. จำได้ว่าลุ้นอยู่ว่าชีวิตยูโดคงจบแล้ว คงต้องผ่าตัดพักฟื้นเป็นปี

61. จำได้ว่าหลังจากการตรวจเอ็มอาร์ไอ หมอบอกว่าโชคดีที่ออกกำลังกายสม่ำเสมอทำให้กล้ามเนื้อรับแรงกระแทกไปแทน แต่ว่ากล้ามเนื้อกับเอ็นบริเวณนี้ก็ต้องใช้เวลาพักฟื้นอย่างน้อย3เดือน

62. จำได้ว่าตั้งแต่นั้นมา ไม่ได้เหยียบเข้าไปในสนามซ้อมยูโดของมหาลัยเป็นเวลา3เดือนเต็มๆ

63. จำได้ว่าพอผ่านไปได้เดือนเดียว ความบ้ากำเริบ ไปเริ่มต้นเรียนที่โคโดกังตั้งแต่เดือน6(โดยไม่ได้บอกให้ใครรู้ว่าแขนเป็นอะไรมาก่อน) ตอนไปมหาลัยก็ใส่เฝือกไป ตอนจะไปซ้อมที่โคโดกังก็ถอดเฝือกออก ยังดีที่ต้องเริ่มต้นเป็นการฝึกแค่พื้นฐานมันถึงไม่เหนื่อยมาก

64. จำได้ว่ากลับมาลงซ้อมกับชมรมที่มหาลัย อีกครั้งตอนเดือนสิงหาคม ช่วงก่อนหน้านั้นตั้งแต่เดือน4ผ่านมาก็ไม่มีการซ้อมเกิดขึ้น เนื่องจากสมาชิกมีเหลือเพียงแค่5คน คนนึงเจ็บ อีกคนนึงเพื่อนคนเจ็บ พอคนเจ็บไม่ซ้อมเพื่อนคนเจ็บก็ไม่ซ้อมด้วย อีกคนนึงเด็กใหม่ปี1 กว่าจะเจอหน้ากันก็ปาไปครึ่งปีแล้ว อีกคนนึงติดเรียนขับรถสอบใบขับขี่ สรุปแล้วเหลือคนเดียวที่ซ้อมได้คือรุ่นพี่ประธานชมรม ว่าแต่ซ้อมคนเดียวจะซ้อมยังไงก็เลยเสมือนกับชมรมถูกยุบไปโดยปริยาย

65. จำได้ว่ากลับมาเดือนสิงหาคม พร้อมๆกับความพร้อมของเพื่อนคนอื่นๆในชมรม ว่าแต่สิงหาคมมันก็เริ่มปิดเทอมหน้าร้อนของญี่ปุ่นแล้ว
66. จำได้ว่าการซ้อมในเดือนสิงหาคมกับกันยายนประมาณ 5 ครั้ง เป็นการซ้อมร่วมกับนักเรียนม.ปลาย พูดตามตรงเทคนิคกับความอึดเด็กม.ปลายกินขาด เพราะม.ปลายซ้อมทุกวันจันทร์ถึงเสาร์ตั้งแต่ 16.00-19.00 แต่ข้อเสียของเด็กม.ปลายคือร่างกายยังโตไม่เต็มที่ แรงยังสู้กับเด็กมหาลัยไม่ได้ แต่โดยรวมก็พอฟัดพอเหวี่ยงกัน

67. จำได้ว่าช่วงเวลาที่ซ้อมกับเด็กม.ปลายนั้น การซ้อมที่โคโดกังก็จบขั้นพื้นฐานพอดี ขึ้นสเต็ปที่2จะเป็นการซ้อมแบบมีการรันโดริทุกวันที่ซ้อม ช่วงนั้นถือเป็นช่วงปรับตัวที่เหนื่อยมาก

68. จำได้ว่าหลังจากการซ้อมกับเด็กม.ปลายแล้ว ก็ไม่เคยที่จะได้ซ้อมร่วมกันอีกเลย

69. จำได้ว่าการเรียนในขั้นที่2ของโคโดกังเป็นการเรียนที่มีการสอบเลื่อนสายเข้ามาเกี่ยวข้อง

70. จำได้ว่าเดือนสิงหาคมได้เลื่อนเป็นระดับ5

71. จำได้ว่าเดือนกันยายนได้เลื่อนเป็นระดับ4

72. จำได้ว่าเดือนตุลาคมได้เลื่อนเป็นระดับ3

73. จำได้ว่าจากระดับ4มาเป็นระดับ3นั้นต้องชนะการแข่งขันเก็บคะแนนให้ได้2แต้ม ชนะได้1แต้ม เสมอได้0.5แต้ม ส่วนแพ้ไม่มีแต้ม

74. จำได้ว่าการการสอบเลื่อนเป็นระดับ3นั้น เป็นการแข่งขันยูโดครั้งแรกสุด

75. จำได้ว่าท่าที่ใช้ทุ่มในครั้งแรกนั้นคือท่า เซโอนาเกะ ใช้เวลาในการแข่งขันประมาณ8วินาที

76. จำได้ว่าท่าที่ใช้ทุ่มในการแข่งขันครั้งที่2นั้นก็คือท่าเซโอนาเกะ (อีกแล้ว)

77. จำได้ว่าเดือนพฤษจิกายนได้เลื่อนเป็นระดับ2

78. จำได้ว่าการแข่งอย่างเป็นทางการครั้งที่3ท่าที่ใช้ทุ่มเก็บอิปป้งนั้นก็เป็นท่าเซโอนาเกะ

79. จำได้ว่าอาจารย์บอกว่าเป็นท่าเซโอนาเกะที่สวยงามมากๆ และขอให้ใช้บ่อยๆเพื่อนคนอื่นจะได้ใช้ศึกษาด้วย

80. จำได้ว่า จนถึงบัดนี้แข่งมาทั้งหมด6ครั้งใช้ท่าเซโอนาเกะเก็บอิปป้งไปได้4ครั้ง ส่วนอีก2ครั้งเป็นท่าไทโอโตชิ กับ ท่าโอโซโตไคเอชิ

81. จำได้ว่าเป็นคนเดียวที่สามารถเลื่อนสายระดับละเดือน กุญแจสำคัญไม่ได้อยู่ที่ความเก่ง แต่อยู่ที่ความขยันกับการวางแผนจัดการเวลาให้ลงล๊อค

82. จำได้ว่าเพื่อนคนญี่ปุ่นที่เคยรันโดริด้วยกันเมื่อครั้งสุดท้ายตอนเดือนกุมภาพันธ์ ก็อยู่ในการเรียนขั้นที่2นี้ด้วย และได้ซ้อมด้วยกันหลายครั้งแล้ว ผลก็คือสามารถทุ่มเพื่อนคนนี้ได้สบายๆแล้ว คาดว่าคงได้เจอกันแบบเป็นทางการ ตอนแข่งเลื่อนสายจากระดับ1เป็นสายดำ ในเดือนกุมภาพันธ์

83. จำได้ว่าได้รันโดริครั้งแรกกับอาจารย์ประจำชั้น คือวันที่ได้เลื่อนสายเป็นระดับ2

84. จำได้ว่าอาจารย์ใช้แรงเพียงแค่3จาก10ส่วนก็สร้างความกดดันได้มหาศาลแล้ว

85. จำได้ว่าสามารถทุ่มอาจารย์ลงได้3ครั้งจากการรันโดริครั้งนั้น เนื่องจากท่าทุ่มชั้นเดียวไม่สามารถเข้าถึงตัวอาจารย์ได้เลย ทำให้ต้องปรับแผนเป็นใช้ท่าทุ่ม2ชั้นโดยหลอกในการทุ่มครั้งแรก

86. จำได้ว่าท่าที่จัดการอาจารย์ได้เป็นท่าขาทั้งหมด คือท่าหลอกเซโอนาเกะแล้วใช้โออุจิการิ ครั้งที่สองคือใช้โอโซโตการิหลอกแล้วใช้โออุจิการิตาม ส่วนครั้งสุดท้ายคือการใช้อิปป้งเซโอนาเกะหลอกแล้วใช้โคอุจิการิปัดล้ม

87. จำได้ว่า หลังจากดูวิดีโอที่เพื่อนถ่ายไว้ให้ตอนแข่ง มีจุดที่ต้องแก้ไขอยู่มากมาย จุดแรกสุดคือท่าเซโอนาเกะ ต้องพัฒนาจังหวะต่อไปให้เป็นเซโอโอโตชิ จุดที่2คือการเข้าไปของโออุจิการิต้องเข้าให้ประชิดตัวกว่านี้ไม่อย่างนั้นอานุภาพมันจะลดลง จุดที่3คือท่าไทโอโตชิที่ต่อจากโออุจิการิต้องทำสเต็ปขาให้คล่องกว่านี้ถึงจะเห็นผล

88. จำได้ว่าเพื่อนผมาว่าผมเป็นยูโดแนวก้าวร้าวaggressive จริงๆแล้วไม่ใช่นะครับผมเป็นคนรักสงบ แต่ว่าตอนอยู่ในสนามก็ต้องเต็มที่ละครับ

89. จำได้ว่าก่อนปีใหม่ มีซ้อมกับเด็กม.ปลายอีก3ครั้ง 1ใน3ครั้งนั้นรู้สึกแย่ที่ทำมือเด็กคนนึงเจ็บจากท่าโอโซโตไคเอชิ พอดีใช้เร็วไปหน่อยเด็กคนนั้นคิดไม่ถึงว่าจะโดนสวนกลับ แล้วทำอุเกมิไม่ทัน แต่ดันเอามือยันลงพื้น

90. จำได้ว่าซ้อมกับเด็กม.ปลายครั้ง ตอนฝึกเข้าท่าอาจารย์หัวเราะว่าเข้าท่าแปลกๆคือฝึกเข้าท่าโดยใช้สเต็ปของโอโซโตการิแต่จังหวะสุดท้ายใช้เป็นท่าโออุจิการิ แต่ตอนรันโดริท่านี้ก็เห็นผลพอสมควร

91. จำได้ว่าตอนซ้อมเนวาซะกับเด็กม.ปลาย ผมมักจะถูกเล่นงาน2จุดใหญ่ๆคือ คอ กับ แขน ถ้าไม่โดนล๊อคคอก็จะโดนท่าจูจิกาตาเมะ คงเป็นเพราะว่าแรงกับน้ำหนักมันต่างกันไปหน่อยทำให้ท่าอื่นผมพอจะแก้คืนได้ เด็กพวกนี้เลยเล่นงานไปที่จุดที่ไม่สามารถใช้แรงต้านได้โดยเฉพาะคอ

92. จำได้ว่าการซ้อมกับเด็กม.ปลาย มีผู้หญิงที่เพิ่มเริ่มเล่นมาเข้าคู่รันโดริด้วย เห็นน้องเค้าแล้วไม่กล้าออกท่าที่ใช้ประจำเลย กลัวแรงปะทะจะทำน้องคนนั้นเจ็บ

93. จำได้ว่าการซ้อมครั้งหลังสุด รุ่นพี่ไม่แบ่งแยกแล้วว่า สายดำใช้ท่านี้ได้สายขาวใช้ท่านี้ไม่ได้ อาจเป็นเพราะตัวผมไม่มั่วเหมือนแต่ก่อน หรือไม่ก็รุ่นพี่ก็เบื่อที่จะเตือนแล้ว

94. จำได้ว่าหลังปีใหม่จะมีซ้อมฤดูหนาวในตอนเช้าด้วย เริ่มตี5ครึ่งถึง7.30 ปัญหาคือจะไปยังไงให้ทันตี5ครึ่ง คงต้องตื่นตี3ครึ่ง ใครจะรู้ว่ามีคนต่างชาติบ้า1คนที่จะตื่นตี3ครึ่งเพื่อเดินทางไปซ้อมยูโด

95. จำได้ว่าท่าที่ต้องซ้อมให้ชำนาญก่อนได้สายดำนั้นมีอยู่อีก4ท่าคือ ท่าต่อเนื่องจากเซโอนาเกะเป็นเซโอโอโตชิ การใช้มือดึงในจังหวะแรกของท่าอุจิมาตะ ท่าอิปป้งเซโอนาเกะฝั่งขวาไว้ใช้กับคู่ต่อสู้ที่จับซ้าย ท่าดับเบิ้ลโออุจิการิ

96. จำได้ว่าเหลือการแข่งอีก4ครั้งก่อนที่จะเป็นสายดำ และความกดดันมันเพิ่มมากขึ้นจากการตั้งเป้าเอาไว้ว่า ต้องชนะทั้ง4นัดด้วยการทุ่มครั้งเดียวเป็นอิปป้ง

97. จำได้ว่า จนบัดนี้ท่านาเกะกาตะที่ใช้สอบทุ่มสายดำ คู่ซ้อมผมยังไม่สามารถยกผมขึ้นมาในท่าคาตะกุรุม่าได้ หลังปีใหม่นี้ต้องฝึกกันให้ชำนาญซะแล้วก่อนที่มันจะเป็นปัญหาสำหรับการสอบทุ่มเพื่อเป็นสายดำ

98. จำได้ว่า เพื่อนและอาจารย์เคยบอกว่า นักยูโดเล่นไปนานๆใบหูจะเปลี่ยนรูปร่างเป็นหนาๆด้านๆ ผมคิดอยู่เสมอว่าผมเล่นไม่นาน ไม่ได้ซ้อมหนักถึงขนาดที่ใบหูจะเปลี่ยนไปได้ แต่ว่าตอนนี้เริ่มกลัวแล้วครับเพราะว่ามันบวมๆเจ็บๆออกอาการมาเล็กน้อยแล้ว ขอให้มันเจ็บเพราะเกิดจากอากาศหนาวละกัน ไม่อยากมีใบหูที่เปลี่ยนไป

99. จำได้ว่า การได้สายดำคือจุดเริ่มต้นของยูโด ไม่ใช่จุดที่แสดงว่าเรียนสำเร็จแล้วหรือว่าเก่งแล้ว แต่การได้สายดำมาแล้วนั้นเป็นการขยายพื้นฐานจากที่มีอยู่และจากที่เรียนมาให้กว้างและลึกลงไปกว่าที่เป็นอยู่ สมกับคำว่าโชดั้ง (ระดับเริ่มต้น)จริงๆ จากจุดเริ่มต้นมาถึงวันนี้ก็ผ่านมาแล้ว7เดือน โดโดกังได้ให้อะไรไว้เยอะกว่าที่ผมคาดคิดในวันแรก ทั้งในเรื่องยูโด มารยาท การวางตัว ทัศนคติและเรื่องอื่นๆ


Create Date : 03 มกราคม 2555
Last Update : 3 มกราคม 2555 21:24:44 น. 18 comments
Counter : 1118 Pageviews.

 
เก่งๆมากๆเลยค่ะ เป็นคนที่ทำอะไรแล้ว จริงจังจนประสบความสำเร็จนี่ทึ่งจริงเลย เป็นกำลังใจให้จ้า


โดย: เก่ง (keng_toshi ) วันที่: 4 มกราคม 2555 เวลา:15:24:15 น.  

 
ทุกวันนี้ยังคิดอยู่เลยครับว่าทำไปแล้วได้อะไร แต่วันมันยังสนุกอยู่เลยไม่คิดที่จะเลิกครับ


โดย: ablaze357 วันที่: 4 มกราคม 2555 เวลา:16:36:04 น.  

 
มีความสุขกับสิ่งที่ทำเนอะ


โดย: normalization วันที่: 4 มกราคม 2555 เวลา:20:42:37 น.  

 
แวะมาทักทายค่ะ สบายดีหรือป่าวค่ะ


โดย: nampalo76 วันที่: 6 มกราคม 2555 เวลา:8:25:27 น.  

 
เราก็ชอบนะยูโด สมัยเรียน มอปลาย ที่โรงเรียนเคยเอามาสอน แต่มันก็แค่พื้นฐาน แต่รู้สึกได้เลยว่าตอนที่ได้เรียนมันมีความรู้สึกดีนะ ชอบเหมือนกันเวลาเห็นการทุ่มกัน มันเป็นศิลปะที่งดงามมากๆ อีกอย่างหนึ่ง


โดย: SK_KS วันที่: 6 มกราคม 2555 เวลา:10:40:05 น.  

 
เมื่อวานพึ่งไปแข่งยูโดมา สนุกมากเล่นแล้วติดจริงๆ


โดย: ครับ IP: 58.182.132.142, 202.156.9.12 วันที่: 9 มกราคม 2555 เวลา:7:25:19 น.  

 
แข่งที่ไหนครับ ผลเป็นไงบ้าง


โดย: ablaze357 วันที่: 9 มกราคม 2555 เวลา:8:31:09 น.  

 
ที่นี้ก็หนาวจนไม่อยากออกไปไหนเลยค่ะ แถมตอนนี้ปิดเทอมด้วย เลยได้ประหยัดไปในตัว


โดย: nampalo76 วันที่: 9 มกราคม 2555 เวลา:8:48:25 น.  

 
ได้เหรีญเงินครับ มีวีดีโอรอเพื่อนลง แล้วจะเอามาให้ดูครับ


โดย: ครับ IP: 58.182.132.142, 202.156.9.12 วันที่: 9 มกราคม 2555 เวลา:16:48:58 น.  

 
//www.facebook.com/photo.php?v=2824705931242 อันอื่นมันยังไม่เอาลงอันนี้รอบแรกครับ รอบชิงแข่ง5วิ ผมโดนทุ่มแล้วครับ อนาถมาก555


โดย: ครับ IP: 58.182.132.144, 202.156.9.10 วันที่: 10 มกราคม 2555 เวลา:6:14:15 น.  

 
อยากดูแต่ เปิดไม่ขึ้นอะครับ


โดย: ablaze357 วันที่: 10 มกราคม 2555 เวลา:8:43:47 น.  

 
ช่วยแอ็ดผมหน่อยครับ จะได้แอบเข้าไปดูได้ครับ
ตรงช่องค้นหาใส่อีเมล์ผมน่าจะขึ้นชื่อครับ

ablaze357@yahoo.com



โดย: ablaze357 วันที่: 10 มกราคม 2555 เวลา:8:50:16 น.  

 
มันต้อง รอมันรับtagผมถึงจะได้เข้าไปดูครับ ลำบากจริงtagเองคอนเฟิร์มเองไม่ได้ 555


โดย: ครับ IP: 58.182.132.144, 202.156.9.10 วันที่: 10 มกราคม 2555 เวลา:9:23:29 น.  

 
เอาลงwall ผมแล้วนะครับ คนที่พึ่งแอดไปน่ะครับ


โดย: ครับ IP: 58.182.132.144, 202.156.9.10 วันที่: 10 มกราคม 2555 เวลา:10:10:35 น.  

 
ยังไม่เห็นเลยครับ


โดย: ablaze357 วันที่: 10 มกราคม 2555 เวลา:17:28:06 น.  

 
ที่มันเขียนว่า boy's judo first fight น่ะครับ wall ของ nattapong


โดย: ครับ IP: 58.182.132.168, 202.156.9.10 วันที่: 12 มกราคม 2555 เวลา:11:33:11 น.  

 
จนใจครับ หามิเจอจริงๆ (~_~;)


โดย: ablaze357 วันที่: 12 มกราคม 2555 เวลา:13:09:23 น.  

 
นับถือๆๆๆ


โดย: ชอบหว่ะ IP: 58.8.94.191 วันที่: 26 มกราคม 2555 เวลา:11:37:43 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ablaze357
Location :
Chiba Japan

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 15 คน [?]




「精力善用」「自他共栄」
Maximum efficient use of energy and mutual prosperity for self and others
New Comments
Friends' blogs
[Add ablaze357's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.