|
สำนวนที่น่าสนใจในนวนิยาย (ตอนที่ 2 ) |
|
สำนวนที่น่าสนใจในนวนิยายคู่กรรม (ตอนที่ 2)
ภาพทั้งหมดที่ฉันนำมาประกอบการเขียนเรื่องของบล็อกนี้ ผู้อ่านเห็น แล้ว คงไม่มีใครปฏิเสธแน่นอนว่า ไม่สวย นะคะ ภาพเหล่านี้ เป็นภาพธรรมชาติสร้างสรรค์ให้มนุษย์ได้ชื่นชม ได้ชื่นชม ความเขียวขจีของมวลหมู่ต้นไม้ สายน้ำที่เย็นฉ่ำ ภูเขาที่ปกคลุมด้วยหิมะ ขาวสะอาด ท้องฟ้าที่เป็นสีคราม ทั้งหมด ดังกล่าว ล้วนแต่เป็นสิ่งที่ธรรมชาติสร้างสรรค์มาให้มนุษย์ ได้ชื่นชมความสวยงาม ทำให้มนุษย์ได้ชื่นชม มีความสุขอยู่ท่ามกลาง ธรรมชาติเหล่านี้ ค่ะ เฉกเช่นเดียวกับ ความงามของภาษา ที่นักประพันธ์ได้บรรจงแต่งไว้ในงานเขียนของเขา เพื่อให้ผู้อ่านได้ สัมผัส อรรถรส ความงามของภาษาที่ผู้เขียนได้รังสรรค์ ไว้ในผลงานของเขาเช่นกัน ค่ะ
ดังนั้น ฉันจึงได้นำสำนวนที่ชื่นชอบจาก นวนิยาย เรื่อง คู่กรรม ลง บล็อกไปครั้งหนึ่งแล้ว เป็นจำนวน 10 สำนวน บล็อกนี้ ยังมีสำนวนที่น่าสนใจอีก 43 สำนวน ฉันขอนำมาลงให้ครบ เพื่อมาชื่นชมสำนวนภาษาที่ไพเราะ ลึกซึ้ง และแทรกข้อคิด เตือนใจ ของ เนื้อหาในเรื่อง คู่กรรม อันเป็นผลงาน ที่ดีเด่นเรื่องหนึ่งของ คุณหญิงวิมล ศิริไพบูรณ์ ค่ะ มาอ่านกันค่ะ
11.สำหรับคนบางคน.... เวลาช่วยรักษาแผลหัวใจ... เวลาอาจช่วย ถนอมรักษาให้สิ้นระทมทุกข์จากการสูญเสียได้ หากับผู้หญิงคนนั้น เธอเอ่ยกับผู้เดินทางไปรอ ณ ดินแดนอันไกลโพ้นเสมอ ....คุณรู้ ความเจ็บปวดนั้นไม่ได้พร่องลงหรอกยอดรัก หากเวลาทำให้เราชินกับมันพอที่ “จะอยู่กับมันได้เท่านั้น
12. อันความรักนั้น ไม่มีคำว่า ได้หรือเสีย แต่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน รวมกัน ถ้ายังมีฉัน มีเธอ ไม่ใช่ความรัก ต้องมีแต่คำว่า “เรา” เท่านั้น และใน “เรา” .. “รัก” คือ การให้โดยไม่ ต้องการตอบแทน Lovr to give but not take . อันยากนักที่มนุษย์ผู้ปุถุชนจะทำได้ดั่งนั้น
13. ความรัก .....เมื่อรัก ก็ทั้งหมดด้วยหัวใจ ไม่เสียใจที่ได้รัก การได้ รู้จักรัก รู้จักความเจ็บปวดจากการสูญเสีย ดีกว่าไม่เคยรักใครเลย และเราได้พูดคำนั้นกับใครสักคน อย่าให้สายเกินไป
14. ท่ามกลางความทุกข์ มีความสุขแทรกอวล ในรอยกำสรวล ย่อม มีเสียงหัวเราะ และในเสียงหัวเราะ เคยมี ความเทวษมาแล้ว ไม่รู้ทุกข์ที่สุด จะรู้สุขที่สุดได้ไฉน ยอดรัก...... อย่ากลัวไปเลย จะยืนหยัดอยู่กับที่ แล้วโลกจะหมุนไปเอง
15. สาระสำคัญของมนุษย์ ไม่ได้อยู่ที่ “เป็นคน” อย่างเดียว “สำนึก” ต่างหากยิ่งใหญ่ มนุษย์ที่แท้ มิใช่แค่รูปลักษณะ ฤาร่ำรวยล้นฟ้า ตำแหน่งการงานสูงส่ง หากจิตสำนึกภายในเท่านั้น แยกมนุษย์ที่แท้แตกต่างกว่าคนอื่น
16. คุณควรรูจัก “รัก” และ “ถูกรัก” ชีวิตจะได้มิเงียบเหงา....เดียวดาย รู้จักรัก รู้จักความเจ็บปวดจากการสูญเสียดีกว่า ไม่เคยรักใครเลย
17.คำว่า “มนุษย์” เกิดขึ้นก่อนคำว่า “เชื้อชาติ” ฉะนั้น ความเป็น มนุษย์ย่อมเท่าเทียมกัน แต่สิ่งที่ทำให้มนุษย์แตกต่างกัน คือ ใครทำ “หน้าที่” ของตนได้สมบูรณ์ จงทำหน้าที่ด้วยความรัก เฉกเช่นในยามรักที่เราทำทุกอย่างให้กันด้วยหัวใจ
18.ได้เด็ดจนขาด (เด็ดขาด) ไม่เหลือเยื่อใยใด ๆ ทั้งสิ้น (เกมการเมือง)
19. ภัยภายนอก มันไม่เท่าไร ภัยกิเลสภายในมันร้ายกว่า ฉันรบกับ มันมาทุกวัน ยังผลัดกันแพ้กันชนะอยู่เลย
20. เวลามิได้ช่วย “รักษา” อย่างที่พูดกัน หากเวลาทำให้เธอชินต่อ การที่จะอยู่กับความทุกข์ต่างหาก
21. โชคชะตาก็เหมือนแผนที่เดินเรือละครับ ถ้าเรารู้ว่า เกาะแก่งอยู่ ตรงไหน ร่องน้ำลึกอยู่ตรงไหน เราก็หลีกเลี่ยงเสียได้
22. สงบนิ่งดุจผิวน้ำไม่พลิ้ว แม้คลื่นใต้น้ำจะโหมฮือ
23. มนุษย์มีสิทธิ์ที่จะเลือกทางเดินในชีวิตของตัวเอง จำไว้ จงเลือก ในทางที่มีหัวใจของตัวเอง (นาวาชีวิต)
25.ไม่มีหลวงพ่อองค์ไหนดีเท่าหลวงพ่อโกย วัดหน้าตั้ง ศิษย์อาจารย์หอบ
26. มนุษย์มันเป็นอย่างนั้นจริง ๆ กรรม คือ การกระทำทั้งอดีตทั้ง ปัจจุบัน มันประกอบกันเข้ากับ กำ มัน กำไว้แน่น ทั้งสองมืออะไร ๆ ก็ของกู ตัวกู มีแต่อัตตาทั้งนั้น กำเข้าไว้ ไม่ยอมแบ มันถึงทุกข์
27. การปลง ปล่อยวาง ได้เท่านั้น จะทำให้ พอ มีความสุขกับเวลา แห่งชีวิตที่เหลืออยู่ได้
28.สุข....เสมือนสายฟ้าแปลบปลายหาย ทุกข์.....เสมือนคลื่น ถาโถมโลมเล้า เหลือไว้แต่ความทรงจำ
29. เมื่อบวชเรียนแล้ว เรียนแล้วจะได้ช่วยสั่งสอนเขาบ้าง เขาถึงเรียก ว่า บวชเรียน ถ้าฉันเช้าแล้ว เอน ฉันเพลแล้วนอน ตอนบ่ายพักผ่อน กลางคืนจำวัดละก้อ นรกจะกินหัว ระวังให้ดี พระตกนรกง่ายกว่าชาวบ้าน
30.มีแต่บาตรเดียว กินได้ตลอดชีวิต (บาตร กับ บาท เล่นคำ)
31. พ่อไม่เคยตาย พ่ออยู่ในลมหายใจของแม่ พ่ออยู่ในดวงตาของ แม่ หัวใจรัก ความสดใสของโลกยุติเมื่อพ่อตาย มีชีวิตต่อมาเพื่อหน้าที่ อันพึงมีต่อเขา
32.มนุษย์มีความขัดแย้งในใจทุกคน หากเขาจะนำมาใช้ได้สองทางเสมอ ถ้าไม่มีทุกข์ จะไม่รู้จักสุข ถ้าไม่มีดี จะไม่รู้จักชั่ว แต่ ทุกข์-สุข ดี – ชั่ว จริงแท้มันเป็นครูเราได้ทั้งนั้น
33. รัก เป็นภาษาที่ใช้หัวใจพูด โดยไม่เกี่ยวกับอะไรเลย
34. สายน้ำ รินผ่าน แก่งหิน ยังถวิล อำลา อาวรณ์หวน สายฝนพรำ ยังอำลา เมฆาคราม แต่ในยาม เธอจากไกล ไร้....วาจา
35. การต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด คือ การต่อสู้กับตนเอง ชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ ที่สุด คือ ชัยชนะต่อตนเอง
36.ความรัก.....ถ้ามองด้วยสายตาของนักเศรษฐศาสตร์ ก็คือ การ ลงทุนด้วย “หุ้นลม” แล้วคอยเก็บผลกำไร
37. ถ้ารู้จักเก็บในสิ่งที่ควรเก็บ ทิ้งในสิ่งที่ควรทิ้ง ถือในสิ่งที่ควรถือ และวางในสิ่งที่ควรวาง รู้แค่นี้ ก็มีความสุข
38. บาดเจ็บทางใจอย่างรุนแรง ทุกอย่างประกอบกันอย่างมีผัสสะของ ความรัก
39. ธารรักที่ไม่มีวันเหือดหาย อดีตไม่มีใครลบได้ แต่เราสร้างอนาคต ได้จากปัจจุบัน
40. จงยืนหยัดอยู่กับที่ แล้วโลกจะหมุนไปเอง ไม่มีอะไรคงทน
41.สิ่งที่หงายรับอะไรได้เสมอ ถ้าคว่ำปิดเสีย จะไม่มีอะไรเติมลงได้ อีก ปิดใจตนเองเสีย แล้วจะไม่สะดุ้งสะเทือน อย่ามองภายนอก จงมองย้อนเข้าไปภายในตัวเราเอง หาคำตอบจาก ตัวเอง แล้วจะรู้วิธีการดำเนินชีวิตของตนเอง
42. ความจริงไม่เจ็บปวด แต่การยอมรับความจริงเจ็บปวด
43. จริงหรือที่กลบฝังอดีตได้หมด จริงหรือที่ตั้งต้นใหม่ได้ โดยไร้ รองทรงจำ
44. ความรัก ก็เหมือนเทียนไข สว่างไสว แต่ก็มีน้ำตา (กระปุกคอม)
45.”อำนาจ” ไม่ว่าในรูปแบบใด...เงิน อาวุธ พลังประชาชน.....ผู้ครอง อำนาจจะรู้สึกว่า “อัตตา” ตนยิ่งใหญ่เสมอ
46.อำนาจของคนจะสร้างจากความตายของคน
47. อันหนามแหลม แทงทิ่ม ทั่วกายา หาเท่าที่ ค้างคากลางอกไม่ อันขื่อคา พันธนา ตราตรึงไว้ ฤาเท่าใจ ผูกพัน กระสันรัด
48. ความเจ็บยิ่งของมนุษย์ มิใช่เพราะถูกลงโทษจากภายนอก หาก มโนธรรมแห่งตนต่างหาก ที่จะลงทัณฑ์ตนได้ยอดยิ่ง
49.ข้าวสวยเอาน้ำร้อนใส่ ไม่เละเท่าข้าวต้ม เขาเรียกข้าวจานน้ำ จาน แปลว่า ปน ไม่เหมือนเจือ แปลว่า แทรก แทรกนั่นนิดเดียว แต่เราใช้รวมเป็นเจือจาน กลายเป็นให้
50.ศราวณี จับแขนผู้เป็นป้าแน่น หนองฝีที่แตกทะลักจากครั้งแรก ถูกเค้นความเจ็บปวดเป็นครั้งสุดท้าย หัวใจคับแค้น โปร่ง เบา เจ้าตัวเงยหน้า ขี้มูกยืด
51.ทุกดวงหน้าอาบน้ำตา ทุกข์ทน หัวอกร้าวระบมไม่ต่างกัน ที่พบ แล้วต่างช้อนบุคคลอันเป็นที่รักแนบอก ลูบไล้ปลอบประโลม ตอนนี้ “เลือดไทย” เหมือนกันหมด ไม่มี “ผู้ก่อการจลาจล” ไม่มี “สุนัขรับใช้ทรราช” นิ้วมือระริกไม่รู้กี่สิบ ลากหารายชื่อผู้บาดเจ็บ ผู้เสียชีวิต
52.สงครามที่มีมโนธรรมและความรัก แตกต่างกับอาชญากรกระหาย เลือดอย่างไร
53.ในประวัติศาสตร์ ไม่ว่าฝ่ายแพ้ ฤามีชัย ในหยาดหมึกที่บันทึก ย่อมปนด้วยน้ำตา (จากสำนวนในคู่กรรมทั้งภาค 1และ 2)
ฉันหวังว่า สำนวนที่ฉันชื่นชอบและรวบรวมมาจากการอ่าน นวนิยาย เรื่อง คู่กรรม ทั้งภาคหนึ่งและภาคสอง ของ คุณหญิงวิมล ศิริไพบูลย์ คงจะให้ความเพลิดเพลิน ให้ข้อคิดและเห็น ความงามของภาษาไทยที่ท่านได้เขียนไว้ในนวนิยาย เรื่องคู่กรรม นะคะ สวัสดี ค่ะ
Create Date : 11 ตุลาคม 2564 |
Last Update : 11 ตุลาคม 2564 17:58:00 น. |
|
33 comments
|
Counter : 2193 Pageviews. |
|
|
|
ผู้โหวตบล็อกนี้... |
คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณกะว่าก๋า, คุณโอน่าจอมซ่าส์, คุณชีริว, คุณสองแผ่นดิน, คุณhaiku, คุณเริงฤดีนะ, คุณทนายอ้วน, คุณหอมกร, คุณจันทราน็อคเทิร์น, คุณtoor36, คุณนายแว่นขยันเที่ยว, คุณSweet_pills, คุณKavanich96, คุณkae+aoe, คุณ**mp5**, คุณnewyorknurse, คุณเจ้าหญิงไอดิน, คุณSertPhoto, คุณอุ้มสี, คุณtuk-tuk@korat |
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 11 ตุลาคม 2564 เวลา:19:57:32 น. |
|
|
|
โดย: ทนายอ้วน วันที่: 11 ตุลาคม 2564 เวลา:20:49:32 น. |
|
|
|
โดย: หอมกร วันที่: 11 ตุลาคม 2564 เวลา:21:31:44 น. |
|
|
|
โดย: ชีริว วันที่: 11 ตุลาคม 2564 เวลา:22:14:16 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 12 ตุลาคม 2564 เวลา:6:04:31 น. |
|
|
|
โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 12 ตุลาคม 2564 เวลา:10:09:41 น. |
|
|
|
โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 12 ตุลาคม 2564 เวลา:10:11:14 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 12 ตุลาคม 2564 เวลา:14:18:24 น. |
|
|
|
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 12 ตุลาคม 2564 เวลา:21:13:40 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 13 ตุลาคม 2564 เวลา:6:39:28 น. |
|
|
|
โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 13 ตุลาคม 2564 เวลา:10:52:05 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 13 ตุลาคม 2564 เวลา:13:39:52 น. |
|
|
|
โดย: Sweet_pills วันที่: 14 ตุลาคม 2564 เวลา:0:11:12 น. |
|
|
|
โดย: Sweet_pills วันที่: 14 ตุลาคม 2564 เวลา:0:12:55 น. |
|
|
|
โดย: Kavanich96 วันที่: 14 ตุลาคม 2564 เวลา:3:52:27 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 14 ตุลาคม 2564 เวลา:5:58:19 น. |
|
|
|
โดย: kae+aoe วันที่: 14 ตุลาคม 2564 เวลา:8:34:58 น. |
|
|
|
โดย: **mp5** วันที่: 14 ตุลาคม 2564 เวลา:11:04:26 น. |
|
|
|
โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 14 ตุลาคม 2564 เวลา:17:21:21 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 14 ตุลาคม 2564 เวลา:18:19:10 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 15 ตุลาคม 2564 เวลา:6:04:27 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 15 ตุลาคม 2564 เวลา:10:29:48 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 16 ตุลาคม 2564 เวลา:6:26:48 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 16 ตุลาคม 2564 เวลา:18:26:06 น. |
|
|
|
โดย: ชีริว วันที่: 16 ตุลาคม 2564 เวลา:21:12:55 น. |
|
|
|
โดย: อุ้มสี วันที่: 17 ตุลาคม 2564 เวลา:0:52:11 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 17 ตุลาคม 2564 เวลา:6:19:49 น. |
|
|
|
โดย: Sweet_pills วันที่: 18 ตุลาคม 2564 เวลา:14:38:34 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 19 ตุลาคม 2564 เวลา:6:13:48 น. |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
ฝากข้อความหลังไมค์ |
|
Rss Feed |
| Smember | | ผู้ติดตามบล็อก : 46 คน [?]
|
เป็นครูสอนภาษาไทยที่เกษียณอายุราชการแล้ว สนใจเรื่องการเขียนหนังสือให้ความรู้ ชอบการท่องเที่ยว หากท่านที่เข้ามาชมและอ่านแล้ว มีความสนใจและต้องการสอบถามเรื่องความรู้ด้านภาษาไทย ถ้ามีความสามารถจะให้ความรู้ได้ ก็ยินดีค่ะ
http://i697.photobucket.com/albums/vv337/dd6728/color_line17.gif |
|
|
|
ผมชอบประโยคนี้ครับ
เวลามิได้ช่วย รักษา อย่างที่พูดกัน
หากเวลาทำให้เธอชิน
ต่อการที่จะอยู่กับความทุกข์ต่างหาก
ส่วนอีกหลายประโยคที่อาจารย์ยกมา
ก็แฝงไปด้วยแง่คิดทีด่ี
นิยายเล่มนี้จึงได้รับความนิยมมากๆเลยนะครับ