Group Blog
 
All Blogs
 

Stop FTA / เอฟทีเอ คืออะไร มาดูกัน!

เกษตรกร ชาวไร่ชาวนาฯ จะพากันตายเพราะ FTA ♣:: ต้าน เอฟ ที เอ ::♣












Fighting FTA : The experience from Thailand
ประมวลภาพการต่อสู้ เรื่องเขตการค้าเสรีตั้งแต่ปี 2547 - 2549
__________________________________________









click ดู
เอฟทีเอ คืออะไร? : เมื่อทุนปล้นไท


Clip VDO ::Clip VDO::
การยื่นหนังสือต่อ ผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภาเพื่อร้องให้ตีความการทำเอฟทีเอ ไทย-ออสเตรเลีย ละเมิดรัฐธรรมนูญ
- เหตุผลในการเซ็นต์สัญญาเอฟทีเอไทย-ออสเตรเลีย ขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 224 ในประเด็นการเปลี่ยนแปลงอำนาจแห่งรัฐ
- ประวัติศาสตร์/คำวินิจฉัยเดิมจากศาลรัฐธรรมนูญในมาตรา 224 เมื่อ พ.ศ. 2543
- เหตุผลของความจำเป็นเร่งด่วนในการพิจารณาคำร้องที่ยื่นไป
__________________________________________

Clip VDO ::~ stop FTA ~::
__________________________________________

คลิกอ่าน ::ไขข้อกระจ่าง:: ที่นี่
FTAs ทำให้ดุลการค้าโดยรวมของไทยติดลบจริงหรือ ?
_________________________________________

จับตาเจรจาFTAไทย-สหรัฐ


30 กันยายน 2549 - การเจรจาทำความตกลงเขตการค้าเสรีแบบทวิภาคี (FTA) ที่ประเทศไทยดำเนินการเจรจากับประเทศต่างๆ กว่า 10 ประเทศ ที่น่าจับตาอย่างยิ่งคือ การเจรจาจัดตั้งเขตการค้าเสรี (FTA)

ไทย-สหรัฐอเมริกา ที่มีการเจรจารอบที่ 6 ไปเมื่อเดือนมกราคม 2549 ท่ามกลางเสียงคัดค้านจากหลายภาคส่วนของสังคมไทย โดยเฉพาะในประเด็นสิทธิบัตรที่รัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีท่าทีโอนอ่อนต่อข้อเรียกร้องของสหรัฐที่จะทำให้ประเทศไทยตกอยู่ในภาวะเสียเปรียบ ขณะนี้แม้รัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณจะสลายตัวไปจากการถูกยึดอำนาจ แต่ก็เป็นที่กังวลว่าสหรัฐจะพยายามบีบให้รัฐบาลชั่วคราวที่จะปฏิบัติหน้าที่ในห้วงการร่างรัฐธรรมฉบับใหม่ รวบรัดเซ็นสัญญา FTA ไทย-สหรัฐไม่เกินกลางปี 2550

การเจรจา FTA ไทย-สหรัฐ ดำเนินไปภายใต้กรอบกฎหมายการค้าของสหรัฐ (Trade Promotion Authority Act 2002) อันเป็นกฎหมายที่ให้อำนาจแก่รัฐบาลสหรัฐในการเจรจาการค้าระหว่างประเทศโดยช่องทางเร่งด่วน รัฐสภาสหรัฐมีอำนาจเพียงให้ความเห็นชอบหรือปฏิเสธข้อตกลงการเจรจาทั้งฉบับ โดยไม่มีสิทธิเปลี่ยนแปลงหรือแก้ไขเนื้อหาส่วนใดส่วนหนึ่งของข้อตกลงนั้น และกฎหมายนี้จะหมดอายุลงในสิ้นเดือนกรกฎาคม 2550 ซึ่งหากไม่มีกฎหมายฉบับนี้ การเจรจาต้องผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภาสหรัฐทุกขั้นตอน ซึ่งเป็นเรื่องยุ่งยากมาก ดังนั้น เพื่อที่จะบรรลุข้อตกลงตามกรอบของกฎหมายการค้าของสหรัฐ การเจรจาเขตการค้าเสรีระหว่างสหรัฐกับประเทศใดก็ตาม จะต้องได้ข้อยุติภายในสิ้นเดือนมีนาคม 2550 เพื่อจะมีเวลาให้รัฐสภาสหรัฐพิจารณาเป็นเวลา 90 วันก่อนที่กฎหมายการค้าจะสิ้นสุดลง

ที่ผ่านมา การเจรจา FTA ของประเทศไทยกับประเทศใดก็ตาม รัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณได้ใช้วิธีฉ้อฉลปิดบังข้อมูล ดำเนินการโดย ไม่ ผ่าน ความเห็นชอบจากรัฐสภา แม้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2540 มาตรา 224 วรรคสอง จะบัญญัติว่า หนังสือสัญญาใดมีบทเปลี่ยนแปลงอาณาเขตไทยหรือเขตอำนาจแห่งรัฐ หรือจะต้องออกพระราชบัญญัติเพื่อให้การเป็นไปตามสัญญา จะต้องได้รับความเห็นชอบของรัฐสภา แต่ปรากฏว่า รัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณอ้างว่าการทำสัญญาดังกล่าวไม่ได้แก้ไขกฎหมาย หรืออำนาจอธิปไตย หรือขอบเขตของรัฐ จึงไม่ต้องผ่านรัฐสภา แต่แท้ที่จริงมีการแก้ไขกฎหมายไปก่อนแล้ว เช่น กรณีเรื่องสิทธิบัตร ยิ่งขณะนี้เราจะมีเพียงรัฐบาลชั่วคราว มีการยกเลิกรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2540 โดยใช้รัฐธรรมนูญชั่วคราวเพียง 39 มาตรา และยังมีอำนาจพิเศษของคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขบังคับใช้อยู่ด้วย รัฐบาลชั่วคราวจึงมีอำนาจเบ็ดเสร็จที่จะดำเนินการเรื่องนี้ได้โดยง่าย

เมื่อพิจารณาถึงกระบวนการพิจารณา กติกา ในการเจรจาจัดตั้งเขตการค้าเสรีไทย-สหรัฐ จะเห็นว่าสหรัฐได้นำเอาเนื้อหาที่กำหนดไว้ในกฎหมายการค้าของสหรัฐ มาเป็นข้อเรียกร้องในการเจรจาทุกหัวข้อ และปฏิเสธที่จะปรับปรุงเปลี่ยนแปลงเนื้อหาของข้อเรียกร้องดังกล่าว จึงถือว่าไม่มีความเป็นธรรมต่อคู่สัญญา ตัวแทนเจรจาของไทยจึงไม่มีสิทธิในฐานะประเทศภาคีเท่าเทียมกันในการเจรจา ซึ่งการเจรจาระหว่างสหรัฐกับประเทศอื่นๆ ที่ผ่านมา เช่น สิงคโปร์ ชิลี โมร็อกโก เวียดนาม ประเทศเหล่านี้ต้องยอมรับข้อเรียกร้องของสหรัฐเป็นมาตรฐานเดียวกัน ทั้งในเรื่องทรัพย์สินทางปัญญา การเปิดเสรีการลงทุน สิ่งแวดล้อม ซึ่งมีผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนและอธิปไตยของชาติ

รัฐบาลชั่วคราวที่จะตั้งขึ้นในเร็ววันนี้ จำต้องพิจารณาทบทวนกระบวนการเจรจาเขตการค้าเสรีไทย-สหรัฐอย่างรอบคอบ คำนึงถึงประโยชน์ประเทศสูงสุด ซึ่งประโยชน์ดังกล่าวต้องมิใช่ตกอยู่แก่กลุ่มทุนเพียงไม่กี่กลุ่ม แต่จะต้องเป็นประโยชน์แก่สังคมโดยรวม โดยเฉพาะเกษตรกรและประชาชนระดับล่าง ทั้งนี้ ขอให้พิจารณาถึงข้อเรียกร้องของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ที่ให้ชะลอหรือยุติการเจรจา FTA ไทย-สหรัฐไว้ก่อน จนกว่าจะมีการศึกษาผลกระทบรอบด้าน ที่สำคัญต้องปรับเปลี่ยนกติกาการเจรจาให้เกิดความเป็นธรรม เสมอภาค เปิดเผยข้อเรียกร้องทั้งหมดของสหรัฐต่อสาธารณชน และประเทศไทยควรยกเลิกข้อสัญญารักษาความลับในการเจรจา ที่ทางสหรัฐเรียกร้องให้ไทยถือปฏิบัติตั้งแต่การเจรจารอบที่ 1

ให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการเจรจา มีส่วนร่วมในกระบวนการตัดสินใจลงนามความตกลง FTA โดยการออกเสียงประชามติ มีการเปิดเผยข้อมูล สร้างความเข้าใจเกี่ยวกับเนื้อหาข้อเจรจา และผลกระทบทุกด้านอย่างถูกต้องและเพียงพอก่อนการทำประชามติ

โดย : ไทยโพสต์ ThaiPost.net
วันที่ 2/10/2006

__________________________________________

คลิก
::ฟังข่าวดาวเทียม:: ที่นี่
ฟังสรุปข่าวสดประจำวัน นาทีต่อนาที
__________________________________________
42'421/071006/38'111/748 * 42'503/081006/38'181/749 * 42'608/081006/38'273/749 * 43'575/131006/39'195/763




 

Create Date : 15 ตุลาคม 2549    
Last Update : 12 มิถุนายน 2552 0:09:56 น.
Counter : 950 Pageviews.  

-●- สนามบิน สุวรรณภูมิ -●- 5 ทศวรรษที่รอคอย / สวาปามกันอย่างต่อเนื่อง

คลิกดู Clip VDO
::สารพัดทุจริต สุวรรณภูมิ::
ใช้เวลาในการก่อสร้างยาวนานถึง 46 ปี สวาปามกันอย่างต่อเนื่องหลายรัฐบาล โดยเฉพาะในรัฐบาลของนายทักษิณ ชินวัตร อื้อฉาวที่สุดเป็นหมื่นๆล้าน




ทำได้แค่นี้แหละ / ค่าก่อสร้างทั้งหมด หนึ่งแสนสี่หมื่นล้านบาท
__________________________________________

:: click อ่าน บรรยากาศวันแรกที่สนามบินสุวรรณภูมิ ที่นี่ ::

:: click ฟัง สนามบินนะ ไม่ใช่โรงจอดรถ! โดย สนธิ ลิ้มทองกุล ::
เมืองไทยรายสัปดาห์ ครั้งที่ 18 / ตอนที่ 2 / 29.09.06
__________________________________________









5 ทศวรรษที่รอคอย / 07:28 นาที
__________________________________________









วันแรก ที่สุวรรณภูมิ / รายงาน 09:09 นาที

__________________________________________









ปิดฉากสนามบินดอนเมือง ประวัติ / 04:20 นาที
nation channel

__________________________________________









เตรียมพร้อม เปิด สุวรรณภูมิ / 02:23 นาที

__________________________________________









ลา ดอนเมือง สู่สุวรรณภูมิ / 05:40 นาที
__________________________________________


เปลวสีเงิน 30 กันยายน 2549
::thaipost.net::
จากราหูถึงหลังคาสุวรรณภูมิ
__________________________________________
เปลวสีเงิน
:: เขี้ยวไม่แข็ง จะถูกแทงกลับ ::
29 กันยายน 2549 กองบรรณาธิการ

พวกระดับปฏิบัติของ "การท่าอากาศยานไทย" เขาบอกว่า ในการเปลี่ยนถ่ายจาก "สนามบินดอนเมือง" มาสู่ "สนามบินสุวรรณภูมิ" ที่ด่ากันขรมครั้งนี้

ถ้า ผอ.การท่าฯ ไม่ใช่ "คุณโชติศักดิ์ อาสภวิริยะ" คนที่มาใหม่ปัจจุบันนี้แล้วละก็ คงไม่เพียงแค่ "ด่าขรม" เท่านั้น ด้วยร้อยล้านปัญหา คงด่ากันถึงขั้น "สนามบินถล่ม" ปานนั้นเชียว!

ครับ..มาถึงขั้นนี้แล้ว ผมอยากทำความเข้าใจกับพวกเรา-คนไทยทุกคนว่า ต้องเอาใจช่วยกันให้ "สนามบินสุวรรณภูมิ" โชติช่วง! เอาใจช่วยก็ยังไม่พอ ต้องเอาใจลุ้น มีคุณพระ-คุณเจ้าที่ไหน ต้องอาราธนาท่านในใจให้มาปัดเป่าปัญหา-อุปสรรคพ้นไปให้ได้

ถ้ามีอันผิดพลาดล้มเหลวลงไป ไม่ใช่การท่าฯ ไม่ใช่รัฐบาล ไม่ใช่ใครคนใด-คนหนึ่ง และไม่ใช่อิตัลไทยผู้รับเหมาเบ็ดเสร็จเป็นผู้เสียหาย เสียหน้า-เสียตาแต่ฝ่ายเดียว

แต่ในนาม ประเทศไทย ของเราทุกคน และ คนไทยทุกคน นั่นแหละครับคือ ผู้เสียหาย ผู้เสียหน้าตา และผู้เสียเงินถมหนองนับแสนๆ ล้านเป็นลานสนามบิน!

ความสะใจด้วยริษยา หรือด้วยความกลัวใครจะได้ดีเกินหน้า

"ไม่คุ้มหรอกครับ"

กับแค่ได้เห็นการหกคะเมนเกนเก้ในการเปิดใช้สนามบินแห่งใหม่ เพื่อใครที่เราไม่ชอบจะต้องมีอันวิบัติเป็นตามไปด้วย

ก็อยากปลอบใจและเอาใจช่วยทุกคน ทั้งการท่าฯ และทั้งสนามบินสุวรรณภูมิ อย่าไปเครียดจนต้องกดดันกันเอง ไม่มีการเปิดความบริสุทธิ์ที่ไหน และอะไรหรอกครับที่จะราบรื่น

และไร้ความเจ็บปวด!

ให้ผู้โดยสารเขาด่าเถอะครับ เพราะความบกพร่องด้วยไม่พร้อมหลายๆ อย่างของเรา มันก็คู่ควรกับการให้เขาด่าน้อยอยู่หรือ?

ที่สำคัญคือ ทุกฝ่ายต้องช่วยกันสุดกำลัง ทำให้การเปิดสนามบินสุวรรณภูมิเข้าสู่ภาวะปกติให้ได้ในเร็ววัน

ขลุกขลัก-ขัดข้อง...ไม่ว่า

ขอเพียง "อย่าให้ล้ม" เหมือนที่เดนเวอร์เป็นใช้ได้!

อย่าโทษกัน การบินไทย หรือท่าอากาศยานไทยก็ "ไทยด้วยกัน"

เฉพาะหน้าต้องช่วยกัน

เสร็จจากนี้แล้วค่อยเช็กบิลกัน!

อีกอย่างหนึ่ง เท่าที่ผมสดับตรับฟังจากข่าว ปัญหาที่ประดังทับถมเข้าไปโดยไม่ควรเลยก็มาจาก "ไทยมุง" ทั้งหลายนั่นแหละ

คงนึกว่า "เปิดสนามบินสุวรรณภูมิ" เหมือนเปิดสวนสนุก หรือเปิดท้องสนามหลวงให้เล่นว่าวอะไรประมาณนั้น

ก็เลยเกิดขบวนทัศนาจร แห่กันไปเต๊ะท่าชักรูปจนเข้าตำรา "ขี้ใหม่หมาหอม" เป็นเวทนากรรมของสัตว์เมืองว่าด้วยเรื่อง ไปแย่งที่เดิน แย่งที่กิน แย่งที่ถ่าย แย่งกันสร้างปัญหาวุ่นวายขึ้นภายในสนามบิน

ฟังแล้วก็จะบ้าตาย!

กลับมาดูเรื่องของเราบ้างดีกว่า ใครจะมาเป็น "นายคนใหม่" ของคนไทย?

กลิ้งไป-กลิ้งมาจนใกล้ครบตามกำหนด ๒ สัปดาห์ที่สัญญาว่า "หวยนายกฯ" ต้องออก!

เดี๋ยวพลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์

เดี๋ยวศุภชัย พานิชภักดิ์

วนกันไป-วนกันมาอยู่ตรง ๒ ชื่อนี่แหละ เรื่องง่ายๆ คปค.ทำเป็นเรื่องให้ (ยุ่ง) ยากโดยเปล่าประโยชน์

นายกฯ "รัฐบาลเฉพาะกาล" นะครับ

ไม่ใช่ "นายกฯ" รัฐบาลตลอดกาล

เอาใครก็เอาเถอะ เพราะไม่ว่าใคร ด้วยเงื่อนไขของรัฐบาลที่มาจากการปฏิวัติรัฐประหารนั่นน่ะ

เป็นแล้วก็ไม่มี "ท่า" ให้พลิกแพลงได้มากนักหรอก!

ที่ผมอยากให้รีบๆ ตั้งให้เสร็จไป ก็ด้วยรักและห่วงใยต่อ "พลเอกสนธิ บุญยรัตกลิน" ในฐานะหัวหน้าคณะปฏิรูปฯ

เพราะเห็นชัดเจนแล้วว่า ท่านเป็นทหารอาชีพ ท่านไม่ใช่นักแสวงหาอำนาจและลาภยศจากการปฏิวัติ

ที่ต้องทำครั้งนี้ ท่านจำเป็นต้องทำในสิ่งที่ "สมควรต้องทำ" เท่านั้น!

ด้วยเหตุนี้ นับแต่ปฏิรูปฯ วันที่ ๑๙ กันยา.มาถึงวันนี้ ท่านหัวหน้าคณะปฏิรูปฯ "กั้นเส้นแบ่ง" ระหว่างผู้นำกับประชาชนจนคล้ายเหินห่าง เกิดช่องว่างระหว่าง

ผู้ใช้อำนาจ กับ ผู้อยู่ใต้อำนาจ

อาจเป็นเรื่องดีที่พลเอกสนธิไม่พยายามแผ่รังสี-สร้างบารมีให้เป็นศูนย์รวม "ศรัทธาประชาชน" แห่งใหม่

ไม่กระหายยืดอกเปล่งคำว่า...ข้าพเจ้าขอรับผิดชอบแต่ผู้เดียว!

แต่จะดีกับตัวท่านอยู่พักเดียว เพราะด้วยเงื่อนไขแห่งการได้มาซึ่งอำนาจบริหารเบ็ดเสร็จขณะนี้ จะทำให้ประชาชนรู้สึกว่านี่คือ "อำนาจหน่อมแน้ม" จะไม่เป็นผลดีกับสถานการณ์รวม

นั่นคือ "ผู้ครองอำนาจ" ต้องแผ่รังสีแห่งสัญลักษณ์อำนาจปฏิวัติ "จัดการปัญหา-คน" อันเป็นเหตุให้ปฏิวัติให้เบ็ดเสร็จ-เด็ดขาด

ขนาดประชาชนต้องครางด้วยเกษม..เกษม..ว่า

เหมือนท่านเข้ามานั่งอยู่ในหัวใจประชาชน!

รีบทำแล้วรีบสลายอำนาจ ส่งไม้ต่อให้ "รัฐบาลเฉพาะกาล" ตามธรรมนูญปกครองให้เขาว่าต่อไปตามสายแห่งเส้นทางอำนาจนั้น

แต่ขณะนี้ ยังไม่ครบ ๒ สัปดาห์ด้วยซ้ำ ผมสังเกตว่า "ฮันนีมูนมันชักสั้น" เพราะนอกจากท่านหัวหน้าคณะปฏิรูปฯ จะเก็บงำประกายฝีมือนักปฏิวัติแล้ว ท่านก็ยังเอ้อเร้อเอ้อเต่อที่จะตั้ง "นายกรัฐมนตรี" ซึ่งควรจะมีเตรียมไว้แต่แรกด้วยซ้ำ!

จากคำสั่งคณะปฏิรูปฯ หลายๆ ฉบับก็ดี จากการแบ่งอำนาจกันไปคุมหน่วยงานทหาร-ตำรวจก็ดี และลีลาในคำสั่งล้างระบอบทักษิณว่าด้วยกังฉินในวงราชการก็ดี

ระวังนะครับ...ประชาชนเริ่มขยับตัว เหมือนตั้งใจดูหนังในโรงด้วยนึกแต่แรกว่า "เรื่องนี้บู๊ล้างผลาญ" แต่ฉายไป..ฉายไป..หลายเป็นหนังซูเอี๋ย

คนดูเขาจะปาจอ!

นึกว่าจะมาล้างระบอบทักษิณ..ที่ไหนได้..!

พฤติกรรมแต่งตั้ง-โยกย้ายนายตำรวจ คล้ายฟักไข่รอให้แม่ไก่ "ระบอบทักษิณ" กลับมากกต่อ

กระทั่งการขุดคุ้ยคดีทุจริตคอรัปชั่นตามโครงการต่างๆ สังเกตให้ดี "คำสั่งจะมีเงื่อนไข" อย่างที่สำนวนไทยพูดกัน

นี่มัน "หมกเม็ด" (นี่หว่า)!

ไม่งั้น "คุณหญิงจารุวรรณ" ไม่หัวสั่นหัวคลอนกับกรอบเงื่อนไขที่ "คุณสวัสดิ์" แจกแจงชัดๆ ทีละประเด็นตามตัวคำสั่งคณะปฏิรูปฯ หรอก

มีคนช่างสังเกตพูดเล่นๆ กับผมว่า เชื่อมั้ย..สมมุติว่า พ.ต.ท.ทักษิณกลับมาปฏิวัติซ้อนปฏิวัติได้สำเร็จ

พระอันดับ "ทั้งแผง" ก็คณะเดิม-คณะเดียวที่เห็นนี่แหละ!

ผมเชื่อครึ่ง-ไม่เชื่อครึ่งครับ!

เพราะอย่างนี้แหละ ผมจึงอยากกราบเรียนกับท่านหัวหน้าคณะปฏิรูปฯ ว่าอำนาจอันได้มาด้วยภาวะจำใจนี้ รีบๆ หาตัวนายกรัฐมนตรี แล้วมอบให้เขารับหน้าที่แสดงแทนเร็วๆ เถอะ

ไม่งั้นปฏิบัตการ ๑๙ กันยา. ลงท้ายจะกลายเป็น "บ้องกัญชา" ในสายตาประชาชน!

ผมชั่งน้ำหนัก "ระบอบทักษิณ" ที่ครอบงำ "คน" ในสังคมไทย ทั้งในระบบราชการ ทหาร ตำรวจ องค์กรอิสระ องค์กรท้องถิ่น สื่อ รากหญ้า อาจารย์มหาวิทยาลัย นักวิชาการ นักเคลื่อนไหว กระทั่งพระ-เถร-เณร-ชี

ถึงวันนี้..ยังไม่สิ้น "เชื้องอก" หรอกครับ!

กระทั่งตัว พ.ต.ท.ทักษิณเอง เขาเป็นคน "ยิ่งตี-ยิ่งสู้" และไม่ได้สู้เพราะเลือดบ้า แต่สู้อย่างมีตำราและ "เงินมหาศาล" เมืองไทยนั้นไม่กี่หมื่นล้านเขาก็ซื้อกันได้ สมมุติตัวท่านเป็นทักษิณ เมื่อเลือดเข้าตาและจนตรอก จะหลุบหาง-หลบหัว หรือจะตีตั๋วกลับมาราวี..ช่วยตอบทีเถอะน่า?


__________________________________________


เศษกระดาษ 4 แผ่นนี้ แถม

+

ตามนั้นเลย ใช่เลย! hereจริงๆ





__________________________________________


::: click //www.bloggang.com/viewdiary.php?id=redwine&group=13&month=09-2006&date=28&blog=1
ปฏิวัติ บล็อค 4

::: click //www.bloggang.com/viewdiary.php?id=redwine&month=09-2006&group=13&date=23&blog=1
ปฏิวัติ บล็อค 3

::: click //www.bloggang.com/viewdiary.php?id=redwine&group=13&month=09-2006&date=21&blog=1
ปฏิวัติ บล็อค 2


::: click //www.bloggang.com/viewdiary.php?id=redwine&group=13&month=09-2006&date=20&blog=1
ปฏิวัติ บล็อค 1

__________________________________________

35'783/709///39'640/28.09.06 * 35'930/712///39'813/29.09.06 * 36'428/725///40'438/01.10.06 * 39'295/763///43'688/14.10.06 *




 

Create Date : 15 ตุลาคม 2549    
Last Update : 12 มิถุนายน 2552 0:12:01 น.
Counter : 502 Pageviews.  

คตส เชือด 3โครงการทุจริต วันจันทร์นี้ ♣ศาลปกครอง รับฟ้อง ยึด สัมปทานชินคอร์ป♣โฉมหน้า ฝูงหมาขี้เรื้อน










วันจันทร์ 09 ตุลาคม นี้ คตส.ฟัน! สามโครงการทุจริต มูลค่านับพันล้าน ชี้มูลความผิด


สามเรื่องนี้สรุปผลและสามารถตั้งข้อกล่าวหาผู้กระทำผิดได้แล้ว/การจัดซื้อเครื่องตรวจวัตถุระเบิด ซีทีเอ็กซ์/โครงการท่อร้อยสายสนามบินสุวรรณภูมิ/รถไฟฟ้าความเร็วสูงจากมักกะสัน-สุวรรณภูมิ(แอร์พอร์ตลิงค์)

click ::ฟัง ข่าววันนี้::
__________________________________________

คลิปวีดีโอ ::หลายคดีที่ต้องตรวจสอบ / ตั้ง อนุกรรมการ คตส. 9 ต.ค.::
คตส คือ คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแห่งรัฐ
__________________________________________

คลิกดู คลิปวีดีโอ ชำแหละ ::หุ้นชิน เทมาเส็ก สาวลึกนอมินี-คนต่างด้าว:: กุหลาบแก้ว
หนามกุหลาบตำมือทักษิณ เจ็ดหมื่นล้าน! ไม่รอดแน่
__________________________________________


พจมาน(มาร) ชินวัตร

::พจมาร ร้อนตัว ยินดีจ่ายภาษีคืนย้อนหลัง::
ไม่ว่าจะทำผมทรง กระบังลม สูงยังไงก็เถอะ
รับรองว่าต้านพายุแห่งความถูกต้องไม่อยู่แน่แล้ว คุณน๊าย พด จะ มาร ชิ้วๆ
__________________________________________

:://www.manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9490000123931::
เร่งยึดสมบัติของชาติกลับคืน
โดย หมายเหตุผู้จัดการ 4 ตุลาคม 2549

ทรัพย์สินอันเป็นของชาติที่ถูกฉ้อราษฎร์บังหลวงอันเป็นการโกงชาตินั้นเป็นส่วนหนึ่ง ทรัพย์สมบัติของชาติอันเกี่ยวด้วยความมั่นคงและเอกราชอธิปไตยก็เป็นอีกส่วนหนึ่ง

ทั้งสองส่วนนี้ล้วนต้องยึดกลับคืนทั้งสิ้น และต้องไม่ปล่อยให้ถูกใช้เป็นเครื่องมือในการกลับเข้ามาฟื้นคืนชีพระบอบทรราชอีกครั้งหนึ่ง

ทรัพย์สินที่ถูกฉ้อราษฎร์บังหลวงโกงเอาไปนั้น ขณะนี้คณะกรรมการตรวจสอบตลอดจน ป.ป.ช. กำลังดำเนินการอยู่อย่างเร่งรีบ ซึ่งคงจะไม่ทำให้ประชาชนผิดหวังแน่

แต่ทรัพย์สมบัติของชาติอันเกี่ยวด้วยความมั่นคงและเอกราชอธิปไตยซึ่งเป็นเรื่องยิ่งใหญ่และสำคัญมากยังทำเป็นมึนตาใสกันอยู่

เราจึงต้องเตือนอย่างหนักแน่นต่อผู้ที่รับผิดชอบในเรื่องนี้ให้เร่งยึดสมบัติของชาติส่วนนี้กลับคืน

ขณะนี้กรมทะเบียนการค้าซึ่งเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบโดยตรงในการพิจารณาว่าบริษัทใดเป็นกิจการของคนต่างด้าวหรือไม่ ได้มีคำวินิจฉัยเป็นที่ยุติแล้วว่ามีบริษัทสองแห่งที่เป็นตัวแทนนายหน้าให้กับคนต่างด้าวในการเข้าซื้อหุ้นกลุ่มชิน ซึ่งได้มีการส่งเรื่องไปดำเนินคดีอาญาตามกฎหมายแล้ว

โชคดีที่ผู้คนในกระทรวงพาณิชย์กลับตัวได้ทัน และยกเลิกการทำงานของคณะกรรมการชุดนายยรรยง พวงราช เสียทันท่วงที

ซึ่งต้องถือว่านั่นเป็นอานิสงส์ของการได้อ่านหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ หาไม่แล้วทั้งรัฐมนตรีผู้สั่งการ ตลอดจนรองปลัดกระทรวงและคณะที่คิดอ่านช่วยเหลือคนต่างด้าวให้ยึดครองทรัพย์สมบัติของชาติคงต้องติดคุกติดตะรางแน่

เมื่อกรมทะเบียนการค้าซึ่งเป็นผู้มีอำนาจหน้าที่วินิจฉัยเรื่องนี้เสร็จเด็ดขาดไปแล้วจึงมีผลให้ผู้ถือหุ้นกลุ่มชินกลายเป็นคนต่างด้าว ที่ต้องห้ามมิให้ดำเนินกิจการหลายประการในประเทศไทย

รวมทั้งกิจการดาวเทียมไทยคม, กิจการโทรศัพท์มือถือเอไอเอส, กิจการสายการบินแอร์เอเชีย, กิจการโทรทัศน์ไอทีวี และอื่น ๆ ที่ห้ามมิให้คนต่างด้าวดำเนินการในประเทศไทย

การที่ทางราชการหรือหน่วยงานของรัฐได้อนุญาตหรือให้สัมปทานในการดำเนินกิจการดาวเทียมไทยคม กิจการโทรศัพท์มือถือ กิจการสายการบินและกิจการโทรทัศน์มาแต่เดิมนั้นก็เพราะคู่สัญญาเป็นผู้มีสัญชาติไทย เป็นคนไทย จึงมีสิทธิ์ใช้สิทธิ์ในอวกาศในคลื่นวิทยุโทรศัพท์ในสายการบิน น่านฟ้า และสื่อมวลชนได้

ในบัดนี้เมื่อผู้ดำเนินกิจการกลายเป็นคนต่างด้าวเท้าต่างแดน จึงทำให้ความมั่นคงของชาติ เอกราชอธิปไตยของชาติตกอยู่ในภยันตรายอย่างใหญ่หลวง

ที่สำคัญที่สุดเป็นการผิดเงื่อนไขในการได้รับอนุญาตหรือได้รับสัมปทาน และผู้มีอำนาจหน้าที่ในการควบคุมดูแลจะต้องยกเลิกเพิกถอนการอนุญาตหรือการให้สัมปทานและทำให้ทรัพย์สมบัติของชาติเหล่านี้กลับคืนมาเป็นทรัพย์สมบัติของชาติต่อไป

ถามว่าวันนี้ส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐที่มีหน้าที่ดูแลรับผิดชอบในเรื่องนี้ได้ทำอะไรไปแล้วบ้าง

ยังทำนิ่งเฉยเป็นสากกะเบืออยู่ได้ นี่คือการทำผิดต่อกฎหมายและเป็นการทำให้ชาติบ้านเมืองเสียหายอย่างใหญ่หลวง อันเป็นการปกป้องอำนาจเก่าโดยทุจริตอีกสถานหนึ่ง

เราเชื่อว่าคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติก็ดี รัฐบาลที่กำลังจะจัดตั้งอยู่นี้ก็ดี ย่อมต้องให้ความสนใจและติดตามความเคลื่อนไหวและการกระทำของส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐที่รับผิดชอบเรื่องนี้อยู่อย่างใกล้ชิด

พวกท่านจะทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ทำเป็นเพิกเฉยไม่ได้อีกต่อไป

เราจึงประกาศเตือนให้หัวหน้าส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจที่รับผิดชอบควบคุมดูแลกิจการดาวเทียมไทยคม โทรศัพท์มือถือเอไอเอส สายการบินแอร์เอเชีย และโทรทัศน์ไอทีวี ได้สำเหนียกในเรื่องนี้ให้จงหนัก

แล้วรีบปฏิบัติหน้าที่ด้วยความสำนึกรับผิดชอบต่อชาติบ้านเมืองตามบทกฎหมายและระเบียบแบบแผน นั่นคือรีบพิจารณายกเลิกการให้อนุญาต หรือยกเลิกสัญญา หรือยกเลิกสัมปทานเป็นการด่วน

เราขอเสนอให้คณะกรรมการตรวจสอบขึ้นบัญชีการดำเนินการเรื่องนี้ไว้พลาง ๆ ก่อน เพราะการยกเลิกสัญญาหรือสัมปทานเพื่อยึดทรัพย์สมบัติของชาติกลับคืนในเรื่องดังกล่าวนี้ย่อมต้องใช้เวลาบ้าง

แต่ไม่ใช่ทำเป็นมึนตาใส แล้วเพิกเฉยโดยคิดว่าผู้คนจะลืมเลือนไม่สนใจ

เราเห็นว่าภายในระยะเวลา 15 วันจากนี้ไป หากหัวหน้าส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจที่รับผิดชอบในเรื่องนี้ยังทำเป็นมึนตาใสไม่รู้ไม่ชี้ ก็ต้องเป็นหน้าที่ของประชาชนผู้รักชาติและคณะกรรมการตรวจสอบที่จะต้องเข้าจัดการเรื่องนี้

รวมทั้งจัดการกับพวกช่วยเหลือปกป้องคนต่างด้าวเท้าต่างแดนให้ยึดครองเอกราชอธิปไตยของชาติไปพร้อม ๆ กันด้วย

ประชาชนชาวไทยทั้งประเทศจึงต้องช่วยกันจับตาและตั้งตารอคอยว่าอีกไม่นานเท่าใดนักสิทธิในอวกาศและดาวเทียมไทยคม สิทธิในสัมปทานกิจการโทรศัพท์มือถือ สิทธิในสัมปทานกิจการสายการบินแอร์เอเชีย และสิทธิในสัมปทานกิจการโทรทัศน์ไอทีวี จะได้กลับคืนมาเป็นของชาติอีกครั้งหนึ่ง

วันที่ 20 ตุลาคม 2549 เราจะติดตามความคืบหน้าและรายงานผลความคืบหน้าเรื่องนี้ต่อรัฐบาลใหม่ ต่อคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ ต่อคณะกรรมการตรวจสอบ และต่อพี่น้องร่วมชาติอีกครั้งหนึ่ง.

__________________________________________




ศาลปกครองสูงสุดรับฟ้องยกเลิกสัมปทานชินคอร์ปทวงคืนสมบัติแผ่นดิน
:: //www.manager.co.th/Home/ViewNews.aspx?NewsID=9490000121310&#Opinion ::
ดัดหลังหน่วยงานรัฐละเว้นปฏิบัติหน้าที่ปกป้องชินคอร์ปสุดชีวิต

นายศาสตรา โตอ่อน อาจารย์คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต เปิดเผยว่า
ศาลปกครองสูงสุด ได้กลับคำพิพากษาศาลปกครองชั้นต้น โดยรับคำฟ้องคดีขอให้เพิกถอนสัมปทานชินคอร์ป ภายหลังยื่นคำอุทธรณ์ต่อคำตัดสินของศาลปกครองชั้นต้นที่ไม่รับพิจารณาคดีเมื่อปลายเดือนมี.ค. ที่ผ่านมา

นายศาสตรา กล่าวว่า เมื่อเดือนมี.ค. 49 ระหว่างที่มีรณรงค์ต่อต้านเครือชินคอร์ปของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ตนเองได้ตัดสินใจยื่นฟ้องหน่วยงานของรัฐที่ให้สัมปทานแก่กลุ่มบริษัทชินคอร์ปในข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ต่อศาลปกครองชั้นต้น และขอให้ศาลมีคำสั่งให้หน่วยงานของรัฐฯ ผู้ให้สัมปทานแก่ชินคอร์ป ปฏิบัติตามอำนาจหน้าที่ตามกฏหมายโดยการเพิกถอนสัญญาสัมปทาน เพราะบริษัทเหล่านั้นขาดคุณสมบัติในการรับสัมปทาน เนื่องจากผู้ถือหุ้นกลายเป็นบุคคลต่างด้าวหลังจากชินคอร์ป ถูกขายให้แก่กลุ่มเทมาเส็กแห่งสิงคโปร์

อย่างไรก็ตาม ศาลปกครองชั้นต้น ได้ตัดสินไม่รับคำฟ้องโดยให้เหตุผลว่าผู้ฟ้องไม่ใช่คู่สัญญา นายศาสตรา จึงยื่นอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุด โดยชี้ว่า ศาลปกครองชั้นต้นตัดสินผิดประเด็น เนื่องจากไม่ได้ฟ้องในฐานะคู่สัญญาแต่ฟ้องในฐานที่ว่าหน่วยงานรัฐละเว้นการปฏิบัติหน้าที่

นายศาสตรา กล่าวต่อว่า เมื่อศาลปกครองสูงสุด รับคำฟ้องแล้วจะพิจารณาว่าสัญญาสัมปทานต่างๆ ขัดต่อกฎหมายหรือไม่ เป็นอันดับแรก หากศาลฯ พิจารณาตัดสินว่าขัดต่อกฎหมายแล้วหน่วยงานต่างๆ มีหน้าที่ต้องยกเลิกสัญญาสัมปทาน

ที่ผ่านมา
-สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ผู้ให้สัมปทานไอทีวี ก็ไม่ทำหน้าที่
-คณะกรรมการโทรคมนาคมแห่งชาติ ผู้ให้สัมปทานดาวเทียมแก่บริษัทชินแซทเทิลไลน์ฯ ก็เพิกเฉย
-กระทรวงคมนคมที่ดูแลสัมปทานแอร์เอเชีย ก็ช่วยเหลือให้พ้นผิด
-กระทรวงไอซีทีที่ดูแลเอไอเอสคู่สัญญาทศท.ก็ไม่ทำอะไรกันสักอย่าง

ผมจึงฟ้องให้หน่วยงานต่างๆ ของรัฐทำหน้าที่เพราะเป็นที่ชัดเจนอยู่แล้วว่าหลังขายหุ้นชินคอร์ปบริษัทเหล่านั้นก็กลายเป็นต่างด้าว” นายศาสตรา กล่าว

อนึ่ง กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ในฐานะนายทะเบียนบริษัท ได้สรุปผลสอบการถือหุ้นแทน (นอมินี) ของบริษัทกุหลาบแก้ว ผู้ถือหุ้นใหญ่ในบริษัทชินคอร์ป ออกมาชัดเจนแล้วว่า
บริษัทกุหลาบแก้ว ได้กระทำการที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายถือหุ้นแทนคนต่างด้าวและกระทำการขัดต่อกฎหมายการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว
ซึ่งวันที่ 26 ก.ย. ที่ผ่านมา นางอรจิต สิงคลาวณิช อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า สั่งการให้นำผลสอบที่สรุปไว้แล้วส่งต่อไปให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการตามกฎหมาย

__________________________________________

:: คลิกฟัง ดีล ชินคอร์ป เจ็ดหมื่นสามพันล้านบาท ที่นี่ ::
ฟัง
- ความยอกย้อนของAmpelRich
- ความ ตอแหล ของนางพจมาร ชินวัตร
- ความ ขี้โกงของตระกูล ชินวัตร
- ความ หื่นเงิน ของทาสทักษิณ


__________________________________________


สรรพากรพลิก บี้ ภาษี "โอ๊ค-เอม" รีดหมื่นล้าน ขายหุ้นชินคอร์ป 3ครั้งไม่จ่าย
:: click อ่าน //www.matichon.co.th/matichon/matichon_detail.php?s_tag=01p0113021049&day=2006/10/02 ที่นี่ ::
มติชน วันที่ 02 ตุลาคม พ.ศ. 2549

.....ทางด้านความคืบหน้าการตรวจสอบการปฏิบัติงานของผู้บริหารและเจ้าหน้าที่สรรพากร 5 ราย เกี่ยวกับการจัดเก็บภาษีนายพานทองแท้ ชินวัตร และ น.ส.พิณทองทา ชินวัตร บุตรชายและบุตรสาวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จากการซื้อหุ้นบริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) จากบริษัท แอมเพิลริช อินเวสท์เม้นท์ นอกตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 20 มกราคม 2549 ในราคา 1 บาท ขณะที่ราคาตลาด 49 บาท (เมื่อวันที่ 20 มกราคม 2549) ......

......แหล่งข่าวจาก สตง.กล่าวว่า ในสัปดาห์นี้จะสามารถสรุปผลการตรวจสอบกรณีการเสียภาษีหุ้นชินฯได้ โดยแนวทางของสำนวน สตง.ในกรณีดังกล่าวจะชี้ให้เห็นว่า สตง.มีความเห็นขัดแย้งกับกรมสรรพากรว่า การซื้อขายหุ้นดังกล่าวมีภาระภาษีที่ต้องเสีย โดยการซื้อหุ้นชินคอร์ปมาจากบริษัทแอมเพิลริชฯของนายพานทองแท้ และ น.ส.พิณทองทา ในราคา 1 บาท เป็นราคาที่ต่ำกว่าราคาตลาดถึง 48 บาทนั้น ก่อให้เกิดประโยชน์เพิ่ม และถือเป็นเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 39 แห่งประมวลรัษฎากร และเข้าลักษณะเป็นเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40 (2) เงินได้เนื่องจากหน้าที่หรือตำแหน่งงานที่ทำหรือจากการรับทำงานให้ ไม่ว่าจะเป็นเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์ใดๆ บรรดาที่ได้เนื่องจากหน้าที่หรือตำแหน่งงานที่ทำ หรือจากการรับทำงานให้นั้นไม่ว่าหน้าที่ หรือตำแหน่งงาน หรืองานที่รับทำให้นั้นจะเป็นการประจำหรือชั่วคราว เนื่องจากทั้ง 2 คน เป็นกรรมการของบริษัทแอมเพิลริชฯ ดังนั้น กรมสรรพากรในฐานะหน่วยงานจัดเก็บภาษีสมควรดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมาย

แหล่งข่าวกล่าวว่า เมื่อคำนวณภาษีและเบี้ยปรับเงินเพิ่มออกมาจากธุรกรรมดังกล่าว จากกรณี นายพานทองแท้ และ น.ส.พิณทองทา ชินวัตร และครอบครัว "ชินวัตร" ที่ซื้อหุ้นชินคอร์ปรวมทั้งสิ้น 3 ครั้ง คือ
วันที่ 7 พฤศจิกายน 2540
ครั้งที่สองวันที่ 1กันยายน 2543 และ
วันที่ 20 มกราคม 2549
ครอบครัว "ชินวัตร" ต้องเสียภาษีเป็นเงิน 11,411.6 ล้านบาท โดยยังไม่รวมเบี้ยปรับเงินเพิ่ม.....

**สอบ"5บิ๊ก"กรมสรรพากร"ขัด"กม.

อย่างไรก็ตาม ในผลสรุปของ สตง.สำหรับเจ้าหน้าที่ทั้ง 5 คนนั้น ขึ้นกับคุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา ว่าจะเห็นควรว่ามีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 154 มาตรา 155 และมาตรา 157 หรือไม่ โดยหากเห็นว่ามีเจตนาทุจริตจะส่งเรื่องให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ และพนักงานสอบสวนเพื่อส่งฟ้องคดีอาญา ทั้งนี้ มาตรา 154 มีสาระสำคัญว่า เป็นพนักงานหรือเจ้าหน้าที่เก็บภาษีหรือค่าธรรมเนียม มีการทุจริต หรือเก็บภาษีไม่ครบ หรือไม่เก็บ ถือว่ามีความผิดมีโทษจำคุกตั้งแต่ 5 ปี ถึง 20 ปี หรือตลอดชีวิต และต้องโทษปรับอีก 2 พันบาท ถึง 4 หมื่นบาท ส่วนมาตรา 155 เป็นพนักงานหรือเจ้าหน้าที่ประเมินราคาเพื่อเรียกเก็บภาษี แต่มีการทุจริต หรือประเมินราคาต่ำทำให้การเก็บภาษีไม่ครบ หรือไม่เก็บ มีโทษเหมือนมาตรา 154 ส่วนมาตรา 157 พนักงานหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐละเว้นการปฏิบัติหน้าที่อันไม่สุจริต มีโทษจำคุก 1 ปี ถึง 10 ปี หรือปรับ 1 พันบาท ถึง 2 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่กรมสรรพากรทั้ง 5 คน ประกอบด้วย
- นายศิโรตม์ สวัสดิพาณิชย์
อธิบดีกรมสรรพากร

- นางเบญจา หลุยเจริญ
ผู้ตรวจราชการกระทรวงการคลัง

- นางไพฑูรย์ พงษ์เกสร
รองอธิบดีกรมสรรพากร ผู้ดูแลสายงานด้านกฎหมาย

- น.ส.โมรีรัตน์ บุญญาศิริ
ผู้อำนวยการสำนักกฎหมาย และ

- นายกฤษณ์ วิปุลานุสาสน์
นิติกร 9


ซ๊าธุ! ขอให้ติดคุก โดนขังลืมกันทุกๆคน
พวกนี้ไม่ใช่มนุษย์ มันเป็น เดน นรก ทั้งเพ
ช่วยกัน ขาย โกง กิน สมบัติของประเทศชาติ

เพราะฉะนั้น "คนล้ม อย่าข้าม"
ใช้ไม่ได้ ในกรณีเดรัจฉานพวกนี้แล
_________________________________________

สุชาติ ตันเจริญ / สรอรรถ กลิ่นประทุม

::สุรเกียรติ์ เสถียรไทย:: / สนธยา คุณปลื้ม

สมศักดิ์ เทพสุทิน / สุรนันท์ เวชชาชีวะ

:: คลิก อ่าน //www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9490000122885 ที่นี่ ::
พวก เดรัจฉาน วิ่งหางจุกตรูด ชักธง ลาออก ตามกันเป็นพรวน


มันไปลงเลือกตั้งที่ไหน ก็อย่าเลือกให้เสียบัตร
ความชั่วมีอยู่ในทุกอณูเลือดของพวกมัน

::น.ต.ศิธา ทิวารี::
__________________________________________


::ดำรงค์ พิเดช - ยงยุทธ ติยะไพรัช::
สองตัว หัวจะหาย! โครต เลว!

คลิก อ่าน ::ประวัติ ยงยุทธ ติยะไพรัช:: ฉายา ไอ้ยุทธตู้เย็น
__________________________________________


นายภูมิธรรม เวชยชัย
-ดูหน้าตามันสิ ทู่เรด จริงๆ hereๆ ยังไงไม่รู้-
ไอ่นี่แหละ หนึ่งในตัวการ
ตัวดีในการจัดทำเว็บ มนุษยดอทคอม หมิ่นสถาบันพระมหากษัตริย์

ตอนนี้ลาออก โกยแน่บ หางจุกตรูด หนีตาย
:: //www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9490000123108 ::
ตัวใหญ่ ใจเท่าปลาซิว ทุ้ย ไอ่ทรราชภูมิธรรม

ทรท.แตกยับ แกนนำและสมาชิกกลุ่มวังน้ำยม-วังน้ำเย็น-จันทร์ส่องหล้า-กลุ่มชลบุรี ตัดสินใจสละเรือแล้วเกือบ 70 ชีวิต หนี “แม้ว” หวั่นศาล รธน.ชี้ขาดยุบพรรค ไม่เว้น “ภูมิธรรม” รองเลขาธิการพรรค ขอตายดาบหน้า

วันนี้ (2 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับแกนนำและอดีต ส.ส.ของพรรคไทยรักไทย ที่ได้ลาออกจากการเป็นกรรมการบริหารและสมาชิกแล้ว
เบื้องต้นมีทั้งกลุ่มวังน้ำยม
บ้านริมน้ำ ชลบุรี วังน้ำเย็น และบ้านจันทร์ส่องหล้า

โดยกลุ่มวังน้ำยม ได้แก่
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองหัวหน้าพรรค / นายโสภณ เพชรสว่าง อดีต ส.ส.บุรีรัมย์ / นายจาตุรงค์ เพ็งนรพัฒน์ อดีต ส.ส.ศรีสะเกษ / นายทองหล่อ พลโคตร อดีต ส.ส.มหาสารคาม / นายชูชัย มุ่งเจริญพร อดีต ส.ส.สุรินทร์ / นายวิวัฒน นิติกาญจา อดีต ส.ส.ราชบุรี / นายเกื้อกูล ด่านชัยวิจิต อดีต ส.ส.อยุธยา / นายประสิทธิ์ จันทาทอง / นายเอกธนัธ อินทร์รอด / นายเทวฤทธิ์ นิกรเทศ อดีต ส.ส.หนองคาย / นายสุชาติ โชคชัยวัฒนากร อดีต ส.ส.มหาสารคาม / นายสุชาติ ลายน้ำเงิน อดีต ส.ส.ลพบุรี / นายชัยวัฒน์ ทรัพย์รวงทอง อดีต ส.ส.ชัยนาท / นายมานพ จรัสดำรงฤทธิ์ อดีต ส.ส.ศรีสะเกษ / นายประดุจ มั่นหมาย อดีต ส.ส.สุรินทร์ / นายไพศาล จันทรภักดี อดีต ส.ส.เพชรบูรณ์ / นายวิทยา ภูมิเหล่าแจ้ง อดีต ส.ส.กาฬสินธุ์ / นายธีระยุทธ วานิชชัง อดีต ส.ส.อุดรธานี / นายอนุชา นาคาศัย อดีตส.ส.ชัยนาท / พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ อดีต ส.ส.นครสวรรค์ / นายประชา ประสพดี อดีต ส.ส.สมุทรปราการ / นายพินิจ จันทรสุริทร์ อดีต ส.ส.ลำปาง และ นายอิทธิรัตน์ จันทรสุรินทร์ อดีตส.ส.ลำปาง / นายวัลลภ สุปรียศิลป์ อดีต ส.ส.น่าน / นายวัลลภ ยังตรง อดีต ส.ส.สมุทรปราการ / นายบุญพันธ์ แขวัฒนะ อดีต ส.ส.อยุธยา / นายประทวน เขียวฤทธิ์ อดีต ส.ส.สุโขทัย / นายพิษณุ พลไวย์ อดีต ส.ส.พิษณุโลก / นายศรัณย์ ศรัณย์เกตุ อดีต ส.ส.อุตรดิตถ์

กลุ่มวังน้ำเย็น ได้แก่
นายพายัพ ปั้นเกตุ อดีต ส.ส.สิงห์บุรี

กลุ่มบ้านริมน้ำ ได้แก่
นายสุชาติ ตันเจริญ อดีต ส.ส.ฉะเชิงเทรา / นายสรอรรถ กลิ่นประทุม รองหัวหน้าพรรค / นายธานี ยี่สาร อดีต ส.ส.เพชรบุรี / นายฉัตรชัย เอียสกุล อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ / นายเกษม รุ่งธนเกียรติ อดีตส.ส.สุรินทร์ / นายวิฑูรย์ วงษ์ไกร อดีต ส.ส.ยโสธร / น.ท.นพ.เดชา สุขารมณ์ อดีต ส.ส.กาญจนบุรี

กลุ่มวังจันทร์ส่องหล้า ได้แก่
นายสุรเกียรติ์ เสถียรไทย รองหัวหน้าพรรค / นายรุ่งเรือง พิทยศิริ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ / นายระวี หิรัญโชติ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ / นายชัยยุตย์ ภุมมกาญจนะ อดีต ส.ส.ปราจีนบุรี / นายวัฒนา เมืองสุข อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ / และนายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ

กลุ่มชลบุรี ได้แก่
นายสนธยา คุณปลื้ม รองหัวหน้าพรรค / นายวิทยา คุณปลื้ม / นายอิทธิพล คุณปลื้ม / นายสง่า ธนสงวนวงศ์ / นายอัมรินทร์ ตั้งประกอบ / นายสุรสิทธิ์ นิติวุฒิวรรักษ์ / นายชาญยุทธ เฮงตระกูล / นายปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ / และนายอุทัย มณีรัตนโรจน์ อดีต ส.ส.ชลบุรี / นายวุฒิชัย กิตติธเนศวร อดีต ส.ส.นครนายก / นายสิทธิชัย กิตติธเนศวร อดีต ส.ส.นครนายก / นายนิโรจน์ สุนทรเลขา อดีต ส.ส.นครสวรรค์ / นายเสริมศักดิ์ การุณ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ / ร.ต.กฤษฎา การุณ อดีต ส.ส.ระยอง / นายนภดล ทรัพย์ทวี อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ / นายธารา ปิตุเตชะ อดีต ส.ส.ระยอง / นายปิยะ ปิตุเตชะ อดีต ส.ส.ระยอง / นางสาวอรดี สุทธศรี อดีต ส.ส.กาฬสินธุ์

นอกจากนี้ ยังมีผู้ที่ลาออกจากตำแหน่งกรรมการบริหารพรรค แต่ยังไม่ลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรค ได้แก่ นายปองพล อดิเรกสาร อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ / นายยงยศ อดิเรกสาร อดีต ส.ส.สระบุรี ขณะที่ นายภูมิธรรม เวชยชัย ลาออกจากตำแหน่งรองเลขาธิการพรรค

“วังพญานาค”ยังแทงกั๊ก

ด้านนายปรีชา เลาหะพงษ์ชนะ อดีตรมช.พาณิชย์และแกนนำกลุ่มวังพญานาค พรรคไทยรักไทย กล่าวว่า
ล่าสุดกลุ่มพญานาคยังไม่ได้หารือกันถึงอนาคตของกลุ่มว่าจะอยู่กับพรรคไทยรักไทยหรือจะย้ายออกไป เพราะเวลานี้อดีต ส.ส.ในกลุ่มทั้งหมดต่างไม่อยากพูดคุยเรื่องนี้กันเลย แม้แต่นายพินิจ จารุสมบัติ อดีต รมว.สาธารณสุข หัวหน้ากลุ่มพญานาคก็ยังมไม่ได้คุยกันว่าจะทำอย่างไร เวลานี้ยืนยันว่าตนเองยังเป็นสมาชิกพรรคไทยรักไทย แต่จะเป็นต่อไปหรือไม่ ไม่ขอพูดเป็นเรื่องของอนาคต
__________________________________________


วีระ มุสิกพงศ์
อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย

นายนี่ ก็ คือหนึ่งของเศษเดนนรก
(ว่ากันว่า เป็น ใต้ถุน แปลว่า ไม่ใช่คนใต้โดยสายเลือด)
:: วีระ สติแตก ::
...ตะแบงขอตรวจทรัพย์สินคณะกรรมการตรวจสอบ
__________________________________________


มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ
ฝากผลงานทิ้งทวน :: เท ขาย หุ้น บิ๊ก ล็อต :: ก่อนลา อสมท
ฉายา "เจ๊มิ่ง Eกะเทยขายชาติ"
__________________________________________


นายจาตุรนต์ ฉายแสง
The last chance!
:: //www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9490000123899 ::
__________________________________________

:: ::
อิอิ ขำๆ
กรุณา click อ่านเนื้อหา เนื้อเรื่อง ที่รูป

__________________________________________


36'650/729/031006/40'774 * 37'260/735/041006/41'450 * 37'340/737/051006/41'540 * 37'642/740/061006/41'868 *




 

Create Date : 06 ตุลาคม 2549    
Last Update : 12 มิถุนายน 2552 0:13:51 น.
Counter : 896 Pageviews.  

★ บ้าน เปี่ยม ทรัพย์ 12 นักษัตร ★

เรื่อง “บ้านเปี่ยมทรัพย์ 12 นักษัตร” เป็นเรื่องราวของการตกแต่งบ้านเพื่อสร้าง “ความมั่งมีศรีสุข” ให้กับเจ้าของบ้านในราศีต่างๆ

ใครไม่เชื่อก็ไม่เป็นไร ใครจะนําไปปฏิบัติดู ก็ไม่เสียหายอะไร บางอย่างก็ทําได้ง่ายๆ ทําแล้วเจ้าของบ้านและคนในบ้านน่าจะมีความสุข บางอย่างก็ทํายาก ถ้ายากเกินไป คิดว่าอย่าไปทําดีกว่า ลําบากเปล่าๆ ลองอ่านดูค่ะ

บ้านคนปีชวด
ควรมีเครื่องดนตรีอย่างน้อย 1 ชิ้น อยู่ในบ้าน เช่น ขลุ่ย เมาท์ออร์แกน เปียโน กีตาร์ เป็นต้น แม้จะเล่นไม่เป็น ขอเพียงมีไว้ ประดับบ้าน ก็ถือว่าถูกโฉลกนําโชคดีเข้ามาสู่บ้าน แต่ถ้ามีคนในบ้านเล่นเป็น ก็จะเป็นเสียงสวรรค์ที่เรียกทรัพย์เข้าสู่บ้านได้เลยทีเดียว

บ้านคนปีฉลู
ไม่ควรมีอะไรที่เป็นทรงกลม ยกเว้นโต๊ะอาหารที่เป็นโต๊ะกลม สิ่งของเครื่องใช้ในบ้านควรเป็นเหลี่ยมมุมทั้งหมด เช่น 4 เหลี่ยม 5 เหลี่ยม 8 เหลี่ยม

บ้านคนปีขาล
โต๊ะ เก้าอี้ ตู้ เตียง ในบ้าน ควรจะมีขนาดใหญ่กว่าปกติ หน้าบ้านควรมีต้นไม้ใหญ่ มีโอ่งนํ้าขนาดใหญ่ หรือมีบ่อนํ้าขนาดใหญ่ ห้องรับแขกควรมีรูปภาพพระอาทิตย์กําลังขึ้นประดับไว้ จะช่วยเพิ่มพลังอํานาจและบารมี

บ้านคนปีเถาะ
บ้านควรมีความรื่นรมย์ร่มเย็น มีสนามหญ้า ต้นไม้ ดอกไม้ อ่างบัว ตัวบ้านโปร่งโล่งสบาย ในห้องนอนหรือห้องรับแขกควรมีตุ๊กตาเซรามิกรูปกระต่าย ไก่ หมู ทารก ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ความรํ่ารวย จะช่วยให้เงินทองไม่รั่วไหลไปไหน

บ้านคนปีมะโรง
ควรจะมีชื่อบ้าน จะเอาชื่อตัวหรือนามสกุลมาเป็นชื่อบ้านก็ได้ แต่ต้องให้เหมาะสมคล้องจองกับลักษณะของบ้านและผู้อยู่อาศัย ห้ามขัดแย้ง หรือตรงกันข้ามกับความเป็นจริง เช่น บ้านอยู่ติดเขาดันตั้งชื่อว่าบ้านริมทะเล

บ้านคนปีมะเส็ง
ต้องให้บ้านมีแสงสว่างอยู่เสมอไม่ว่ากลางวันหรือกลางคืน โดยเฉพาะกลางคืนควรจะมีไฟนอกบ้านอย่างน้อยหนึ่งดวง เปิดสว่างตลอดคืน

บ้านคนปีมะเมีย
ต้องมีความเคลื่อนไหว เช่น มีธงโบกสะบัด มีนํ้าพุ มี กังหัน มีสุนัขหรือแมววิ่งเล่น และสัญลักษณ์ความเร็ว เช่น รถยนต์ เรือใบ เครื่องบิน เป็นต้น เพื่อเพิ่มความมั่งคั่ง ถ้าบ้านสงบนิ่งเกินไปจะอึดอัดและอับโชค

บ้านคนปีมะแม
ควรเป็นบ้านที่มีการสะสมงานศิลปะ เช่น ภาพวาด ภาพถ่าย ภาพวิวทิวทัศน์ งานหล่อ งานปั้น งานแกะสลัก หนังสือ ซีดีเพลงและภาพยนตร์ ล้วนถูกโฉลกและนําโชคให้กับเจ้าของบ้าน

บ้านคนปีวอก
ควรมีการขยายต่อเติมปรับปรุงเปลี่ยนแปลง ให้ สอดคล้องกับผู้อยู่อาศัย ให้มีการเจริญเติบโตตลอดเวลา เช่น เปลี่ยนผ้าม่านทุกสองปี ทาสีบ้านใหม่

บ้านคนปีระกา
ต้องสวย สะอาด สดใส และดูใหม่เสมอ สิ่งของเครื่องใช้ในบ้านควรจัดให้เป็นระเบียบเรียบร้อย ภายในบริเวณบ้านห้ามมีสิ่งของแตกหักชํารุดเสียหายรอยร้าวผนัง แม้แต่ต้นไม้หรือกิ่งไม้ที่เหี่ยวเฉาโรยรา ถ้าพบต้องรีบแก้ไขทันที หลอดไฟ กุญแจ ประตู หน้าต่าง ต้องพร้อมใช้อยู่เสมอ

บ้านคนปีจอ
บ้านควรมีสัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะสุนัข ถือเป็นสัตว์เลี้ยงนําโชค ความซื่อสัตย์และแสนรู้ของสุนัข จะทําให้คนปีจอมีอารมณ์ดี สมองปลอดโปร่งไม่เครียด คิดหรือทําอะไรก็โชคดีมีแต่ความสําเร็จ

บ้านคนปีกุน
ต้องมีห้องครัวที่กว้างขวาง สะอาด สะดวกสบาย มี อุปกรณ์การทําครัวครบครัน การเข้าครัวทําอาหารของคนปีกุน ถือเป็นเรื่องมงคล นํามาซึ่งโชคลาภความสําเร็จ ความรํ่ารวย ถ้ามีตุ๊กตาเซรามิกรูปหมูสีขาวหรือสีชมพู ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความอุดมสมบูรณ์ วางไว้ในห้องรับแขกหรือห้องรับประทานอาหาร ก็จะยิ่งถูกโฉลกโชคดียิ่งขึ้น


__________________________________________



011006/36'376/723///40'360 * 021006/36'506/727///40'550 *




 

Create Date : 02 ตุลาคม 2549    
Last Update : 12 มิถุนายน 2552 0:16:14 น.
Counter : 803 Pageviews.  

ปฏิวัติ บล็อค 4 ● ย้อนหลัง ย้อนรอย ปฏิวัติ ● พลเอก สนธิ เปิดใจ ● เมืองไทยรายสัปดาห์ครั้งที่ 18


คลิกที่รูป เพื่ออ่าน และฟัง รายงานพิเศษ
::::
__________________________________________









พลเอก สนธิ เปิดใจ
______________


:: ฟัง เมืองไทยรายสัปดาห์ครั้งที่ 18 ที่นี่ ::

:::: อ่าน และ ดู เมืองไทยรายสัปดาห์ครั้งที่ 18 ::::
______________

: nation channel :
__________________________________________

:: click ดู คลิปวีดีโอ พลเอก สนธิ บุณยรัตกลิน แถลงหลังปฏิวัติครบหนึ่งอาทิตย์ ที่นี่ ::

:: click ดู คลิปวีดีโอ ร่าง รัฐธรรมนูญเลือกตั้ง ที่นี่ ::

:: click ดู คลิปวีดีโอ ได้ตัวนายกแล้วแต่ยังไม่เปิดเผย ที่นี่ ::

_________________________________________

::: click //www.bloggang.com/viewdiary.php?id=redwine&month=09-2006&group=13&date=23&blog=1
ปฏิวัติ บล็อค 3

::: click //www.bloggang.com/viewdiary.php?id=redwine&group=13&month=09-2006&date=21&blog=1
ปฏิวัติ บล็อค 2


::: click //www.bloggang.com/viewdiary.php?id=redwine&group=13&month=09-2006&date=20&blog=1
ปฏิวัติ บล็อค 1

__________________________________________

:: click ประวัติศาสตร์การเมืองไทย ::
บนเส้นทางสายปฏิวัติ
__________________________________________


_________________________________________


เวลาประมาณ 1 ทุ่มของวันที่ 19 กันยายน 2549 ขณะที่ประชาชนทั่วไปยังไม่รู้เนื้อไม่รู้ตัวว่าจะเกิดการรัฐประหารยึดอำนาจการปกครองจากรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กำลังทหารชุดปฏิบัติการพิเศษจากหลายหน่วย ได้คืบคลานเข้าไปตามซอกหลืบของมุมเมือง ซึ่งเป็นที่พำนักของเหล่าเสนาบดีและขุนพลคู่ใจระบอบทักษิณ ตามคำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (คปค.) เพื่อควบคุมตัวบุคคลสำคัญในระบอบทักษิณ

นายยงยุทธ ติยะไพรัช
อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ซึ่งกำกับดูแลกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช มีลูกจ้างป่าไม้อยู่ในมือนับพันคน มีปืนเอชเคที่ได้รับการอนุเคราะห์มาจากกองทัพบกอยู่ในความครอบครองนับพันกระบอก เป็นเป้าหมายแรกที่ คปค.ต้องการตัว

กองพันจู่โจมจากหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ จ.ลพบุรี ได้บุกเข้าไปรื้อค้นบ้านพักของนายยงยุทธ ย่านสามเสน แต่ไม่พบตัว เพราะนายยงยุทธไหวตัวทันและได้หลบหนีไปก่อนหน้าที่กองพันจู่โจมจะมาถึงเพียงไม่กี่นาที มีเรื่องเล่าว่า เหตุที่กองพันจู่โจมไปถึงที่หมายล่าช้า เพราะไม่ชำนาญเส้นทาง หรือที่ภาษาชาวบ้านเรียกว่า “หลงกรุง” กว่าจะไปถึง นายยงยุทธก็เตลิดไปไกลแล้ว

หน่วยข่าวของทางการ รายงานว่า นายยงยุทธได้หลบหนีออกจากกรุงเทพฯ ไปซ่อนตัวอยู่ที่บ้านของผู้อำนวยการฝ่ายป้องกันและปราบปรามการทำลายทรัพยากรธรรมชาติ ภาคเหนือ ในสังกัด ทส.คนหนึ่ง ย่านพุทธมณฑลสาย 2 ฝั่งธนบุรี ก่อนกองพันจู่โจมจะไปถึงไม่นาน

ในวันรุ่งขึ้นจึงได้เดินทางโดยรถยนต์ต่อไปยังบ้านเกิดที่ อ.แม่จัน จ.เชียงราย จากนั้นได้ข้ามไปซ่อนตัวอยู่ในบ่อนกาสิโนของ “เฮียกวง” อดีตรัฐมนตรีหลายสมัย บริเวณสามเหลี่ยมทองคำในฝั่งพม่า ตรงข้าม อ.เชียงแสน จ.เชียงราย ห่างจากบ้านเกิดของนายยงยุทธประมาณ 40 กิโลเมตร และพักอาศัยอยู่ที่นั่น ก่อนที่สายข่าวของกองทัพภาคที่ 3 จะสืบทราบ

เมื่อ พล.ท.สพรั่ง กัลยาณมิตร แม่ทัพภาค 3 ทราบข่าว จึงได้ประสานไปยังเจ้าของบ่อนกาสิโน และกดดันไม่ให้เจ้าของบ่อนให้ที่หลบซ่อนแก่นายยงยุทธ จนเจ้าของบ่อนต้องขอร้องให้นายยงยุทธออกจากบ่อน โดยมีทหารของ พล.ท.สพรั่ง เดินทางไปควบคุมตัวและนำขึ้นเครื่องบินมารายงานตัวต่อ คปค.ที่กองบัญชาการทหารบกและถูกควบคุมตัวไว้ที่นั่น

เสนาบดีในระบอบทักษิณที่ คปค.ต้องการตัวมากที่สุดอีกคนหนึ่งคือ
นายเนวิน ชิดชอบ อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ขุนพล คู่บารมี พ.ต.ท.ทักษิณ
ชุดปฏิบัติการพิเศษจากกองพันจู่โจม หน่วยบัญชาการพิเศษ จ.ลพบุรี อีกชุดหนึ่งได้ถูกส่งไปค้นรังของนายเนวินในกรุงเทพฯ แต่ไม่พบตัว ปล่อยให้ลูกน้องเอาหน้ารับไปแทน

สายข่าว รายงานว่า นายเนวินได้ซ่อนตัวอยู่ที่เซฟเฮาส์แห่งหนึ่งย่านถนนเกษตรนวมินทร์กับคนรู้ใจตั้งแต่วันแรก โดยได้พยายามติดต่อ ที่จะหลบหนีออกนอกประเทศตามชายแดนไทยกัมพูชา โดยตั้งใจจะ เดินทางโดยเรือจากประเทศกัมพูชา ไปขึ้นฝั่งที่ประเทศสิงคโปร์ ก่อนจะต่อเครื่องบินไปพบกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ประเทศอังกฤษ แต่เนื่องจากทุกด่านถูกสั่งปิดเอาไว้ทั้งหมด รวมทั้งการประสานงานเพื่อขอเอกสารการเดินทางระหว่างประเทศมีปัญหา จึงต้องล้มแผนการทั้งหมด

อย่างไรก็ตาม ภายหลังถูก คปค.กดดันอย่างหนัก นายเนวินจึงได้ประสานผ่านทาง พล.อ.พรชัย กรานเลิศ ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก เพื่อขอเข้ารายงานตัวกับ คปค.ที่กองบัญชาการกองทัพบก ตามกำหนดเวลาที่ คปค.ขีดเว้นเอาไว้

อดีตรัฐมนตรีอีกท่านหนึ่งที่ คปค.ส่งกำลังทหารไปเยี่ยมๆ มองๆ บ้าน แต่ไม่ได้มีการดำเนินการใดๆ คือ นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีอีกคนหนึ่ง ซึ่งถึงแม้จะไม่มีอะไรเกิดขึ้นที่นั่น แต่ก็เล่นเอาเจ้าของบ้านหลังงามถึงกลับต้องเผ่นแน่บ...! ออกจากบ้านทันที เข้าทำนอง “ปลอดภัยไว้ก่อน”

นอกจากอดีตรัฐมนตรีข้างต้นแล้ว คปค.ก็ยังได้ส่ง ชุดปฏิบัติการพิเศษจากกองพันที่ 1 กรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ หรือ ร.1 พัน 1 (รอ.) ภายใต้การบัญชาการของ พล.ท.อนุพงษ์ เผ่าจินดา แม่ทัพภาคที่ 1 ไปควบคุมสถานการณ์ที่ บ้านจันทร์ส่องหล้า ภายในซอยจรัลสนิทวงศ์ 69 ของ พ.ต.ท.ทักษิณ โดยไม่มีการบุกเข้าไปตรวจค้นหรือควบคุมตัวคนภายในบ้านแต่อย่างใด มีเพียงการตั้งด่าน ปิดกั้นทางเข้าออกเพื่อตรวจค้นรถทุกคัน ไม่เว้นแม้แต่รถของ “อุ๊งอิ๊ง” น.ส.แพรทองธาร ชินวัตร บุตรสาว พ.ต.ท.ทักษิณ

ห้วงเวลาเดียวกัน กำลังทหารอีกหนึ่งกองร้อยจาก กองพันที่ 3 กรมทหารราบที่ 2 มหาดเล็กรักษาพระองค์ หรือ ร.2 พัน 3 (รอ.) ภายใต้การบัญชาการของ พล.ท.อนุพงษ์ เช่นกัน ได้บุกเข้าไปควบคุมตัว พล.ท.พฤณฑ์ สุวรรณทัต ผู้บัญชาการกองพลที่ 1 รักษาพระองค์ (ผบ.พล.1 รอ.) เพื่อนเตรียมทหารรุ่น 10 ของ พ.ต.ท.ทักษิณ และ กักบริเวณไว้ที่กองบัญชาการกองพลที่ 1 รอ. ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากบ้านพัก สี่เสาเทเวศร์ของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ไม่ถึงอึดใจ เพื่อไม่ให้นำกำลังทหารฝ่าย พ.ต.ท.ทักษิณ ออกมาต่อต้านการรัฐประหารในครั้งนี้

ของแบบนี้ไม่เจอด้วยตัวเองไม่รู้! ในประวัติศาสตร์การเมืองของไทยได้มีการทำปฏิวัติรัฐประหารเกิดขึ้นหลายครั้ง ซึ่งทุกครั้งก็จะมีปรากฏการณ์ไล่ล่าและหลบหนีในลักษณะเช่นนี้ แต่ดูจะดุเดือดเข้มข้นกว่าในยุคนี้หลายร้อยหลายพันเท่า

อ.สุธาชัย ยิ้มประเสริฐ ประจำคณะอักษรศาสตร์ ภาควิชาประวัติศาสตร์ เล่าให้ฟังว่า
สำหรับชะตากรรมของฝ่ายที่ถูกรัฐประหาร หรือฝ่ายที่ยึดอำนาจไม่สำเร็จ และต้องตกเป็นกบฏของแผ่นดินในอดีต โดยทั่วไปในประวัติศาสตร์การเมืองไทยระยะแรกๆ นักการเมืองที่พ่ายแพ้จากการทำรัฐประหาร ส่วนมากจะจบชีวิตด้วยการลี้ภัยไปอยู่ต่างประเทศ และมีหลายๆ คนที่ไม่ได้กลับมาเมืองไทยอีกเลย เช่น

@ พระยาทรงสุรเดช ที่ลี้ภัยไปอยู่อินโดฯ-จีน-ฝรั่งเศส และกัมพูชา ก่อนจะจบชีวิตที่นั่น

@ ในสมัยที่นายปรีดี พนมยงค์ ถูกยึดอำนาจเมื่อปี 2490 ก็ได้ลี้ภัยไปจีน ก่อนจะเดินทางต่อไปยังฝรั่งเศสและถึงแก่อสัญกรรมที่นั่น

นายสุพจน์ ด่านตระกูล ได้บันทึกเหตุการณ์ในครั้งนั้นไว้ในหนังสือชื่อ “ปรีดีหนี” ว่า
การรัฐประหารเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2490 โดยจอมพล ป. พิบูลสงคราม นายปรีดีซึ่งมีบ้านพักอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาย่านท่าช้าง ไ
ด้ลงเรือจ้างแจวเลียบแม่น้ำฝั่งธนบุรีไปขึ้นฝั่งที่บางกรวย จ.นนทบุรี พักค้างแรมอยู่ที่นั่นจนฟ้าสาง
จึงได้ต่อเรือยนต์ไปตามคลองบางหลวง ก่อนจะขึ้นฝั่งเดินเท้าไปยังจุดนัดพบ ที่กองทัพเรือจัดเตรียมเรือไว้ให้หลบหนี
โดยต้องล่องเรือวกกลับมายังกองบังคับการกองเรือรบ ท่าราชวรดิษฐ์ เพื่อเตรียมเดินทางต่อไปยังกองทัพเรือสัตหีบ

นายปรีดีอยู่ที่นั่นได้ไม่นาน จอมพล ป. ก็สั่งให้ผู้บัญชาการทหารเรือส่งตัวนายปรีดีมาให้คณะรัฐประหาร
ด้วยความที่เกรงว่า ผู้บัญชาการทหารเรือจะเดือดร้อน นายปรีดีจึงตัดสินใจ เดินทางโดยรถยนต์ของหน่วยนาวิกโยธินกลับมาที่กรุงเทพฯ เพื่อพบกับผู้ช่วยทูตทหารเรืออังกฤษในซอยนานาเหนือ เพื่อขอความช่วยเหลือ ซึ่งนายปรีดีก็ได้รับความช่วยเหลือจากทั้งสถานทูตอังกฤษและสหรัฐเป็นอย่างดี
โดยทูตทั้งสองได้ประสานให้เรือบรรทุกสินค้ามารับนายปรีดีที่ท่าเรือคลองเตย ก่อนจะพาไปส่งขึ้นเรือบรรทุกน้ำมัน ที่เกาะไผ่ จ.ตราด เพื่อเดินทางต่อไปยังสิงคโปร์ จีนและฝรั่งเศส ตามลำดับ

เหมือนเป็นวิบากกรรม ในปี 2500 จอมพล ป. พิบูลสงคราม ถูกทำรัฐประหาร
อ.สุธาชัย เล่าว่า
จอมพล ป. ได้หนีออกไปทาง ชายแดน จ.สระแก้ว และลี้ภัยไปที่กัมพูชา จากนั้นเดินทางไปญี่ปุ่น และก็ไม่ได้กลับมาเลย มีเพียงอัฐิเท่านั้น
ส่วน จอมพลผิน ชุณหะวัณ พล.ต.อ.เผ่า ศรียานนท์ ถูกจับตัวได้ในวันที่ทำรัฐประหาร
และคณะรัฐประหารได้เนรเทศทั้งสองคนไปอยู่ที่สวิตเซอร์แลนด์ และไปตายที่นั่นเหมือนกัน

“เพราะฉะนั้นคนที่ถูกรัฐประหารในสมัยแรกๆ ส่วนมากก็จะถูกลี้ภัยไปที่ต่างประเทศและไปตายที่นั่น มีไม่กี่คนเท่านั้นที่ได้กลับมาตายใน บ้านเกิด เช่น
-พระองค์เจ้าบวรเดช หลวงธำรงนาวาสวัสดิ์ ที่เคยเป็นนายกฯ ก็หมดบทบาททางการเมืองไป
-ส่วนหลวงอดุลเดชจรัส ที่ถูกจอมพลผิน ทำรัฐประหาร ต่อมาได้รับการแต่งตั้งให้เป็นองคมนตรีและเสียชีวิตในตำแหน่งดังกล่าว” อ.สุธาชัย กล่าว

อ.สุธาชัย กล่าวด้วยว่า
ตั้งแต่ 14 ตุลาคม 2516 เป็นต้นมา ชะตากรรมของผู้ที่ถูกทำรัฐประหารเริ่มเปลี่ยนไป
โดยเฉพาะตั้งแต่สมัยจอมพลถนอม กิตติขจร
จอมพลประภาส จารุเสถียร
พ.อ.ณรงค์ กิตติขจร
คนเหล่านี้ได้กลับมาที่เมืองไทยโดยไม่มีบทบาทการเมืองใดๆ ในที่สุดก็ตายที่เมืองไทยเช่นกัน
โดยก่อนหน้านี้ จอมพลถนอม เดินทางไปลี้ภัย ในสหรัฐ
จอมพลประภาส ลี้ภัยไปที่จีน
พ.อ.ณรงค์ ลี้ภัยไปเยอรมนี

ส่วนเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช ไม่ได้ถูกจับ แต่ก็ถูกทำให้หมดบทบาททางการเมืองไป

อาจารย์ภาควิชาประวัติศาสตร์ กล่าวว่า
ต่อมาในปี 2520 พล.อ.ฉลาด หิรัญศิริ และพลเรือนกลุ่มหนึ่ง ได้พยายามยึดอำนาจ นายธานินทร์ กรัยวิเชียร แต่แพ้
กรณีนี้น่าจะเป็นครั้งเดียวในประวัติศาสตร์ที่ถูกประหารชีวิต ซึ่งมาจากการหักหลัง เพราะได้มีความพยายามเจรจาในการขอลี้ภัยไปไต้หวันแล้วแต่ถูกจับบนเครื่องบิน

“ในปี 2524 เหตุการณ์กบฏเมษาฮาวาย
หัวหน้าคณะปฏิวัติ นำโดย พล.อ.สันต์ จิตปฏิมา มีความพยายามในการยึดอำนาจ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ แล้วแพ้ จึงได้ลี้ภัยไปพม่า และเพิ่งเสียชีวิตเมื่อเร็วๆ นี้

นอกจากนี้ ยังมี พ.อ.มนูญ รูปขจร
โดยหนีไปทาง จ.กาญจนบุรี ก่อนจะต่อไปที่ จ.ระนอง และลงเรือไปขึ้นฝั่งที่สิงคโปร์
ก่อนจะเดินทางต่อไปยังประเทศเยอรมนี โดยอยู่ที่นั่นนานถึง 2 ปี
ในระหว่างนั้นได้ไปเรียนปริญญาโทที่เยอรมนีด้วย พร้อมด้วย พ.อ.บูลศักดิ์ โพธิ์เจริญ และ พ.อ.ประจักษ์ สว่างจิต ที่หนีไปด้วยกัน” อ.สุธาชัย

นอกจากนั้น ยังมีกรณีกบฏ 9 กันยายน 2528
ที่คณะรัฐประหารถูกจับดำเนินคดีเข้าคุกหมด เช่น
พล.อ.เสริม ณ นคร
พล.อ. เกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์
นายอรุณ พร้อมเทศ ฯลฯ
และถูกดำเนินคดีอยู่หลายปีแต่ก็ยังมีคนที่หนีไปได้ อยู่ดี นั่นคือ พ.อ.มนูญและ น.ท.มนัส รูปขจร น้องชาย

อ.สุธาชัย กล่าวว่า
ครั้งต่อมาคือการทำรัฐประหาร
โดยคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ (รสช.) ที่ยึดอำนาจ พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ ซึ่งถูกควบคุมตัวอยู่ไม่นาน ต่อมาได้รับการปล่อยตัว

แต่คนที่หนีไปได้คือ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง
โดยปลอมตัวใส่ชุดแขกติดหนวดเป็นอาบัง แล้วขึ้นรถไฟลงไปที่นราธิวาสข้ามฝั่งไปมาเลเซีย
จากนั้นขึ้นเรือไปที่สิงคโปร์ แล้วลี้ภัยไปประเทศเดนมาร์ก เป็นการหนีที่ระหกระเหินมาก

อาจารย์ภาควิชาประวัติศาสตร์ กล่าวทิ้งท้ายอย่างน่าสนใจว่า จะเห็นได้ว่าชะตากรรมของผู้ที่ถูกยึดอำนาจ หรือผู้ที่ก่อการกบฏ แล้วแพ้ ในระยะๆ หลัง โทษไม่สูงเท่าแต่ก่อน สำหรับโทษของบรรดาพรรคไทยรักไทยแค่นำมาลงโทษตามกฎหมาย ก็น่าจะเพียงพอแล้ว

__________________________________________

ตรงนี้ ขำๆ ผู้จัดกวน พาขำ



กินเนสส์บุ๊กบันทึกประวัติศาสตร์ คณะปฏิวัติชื่อยาวที่สุดในโลก
โดย ผู้จัดกวน 25 กันยายน 2549

สำนักข่าวเคเอฟซี - กินเนสส์บุ๊ก เวิลด์ ออฟ เร็กคอร์ด บินด่วนจี๋มาเมืองไทยเตรียมบันทึกเหตุการณ์ปฏิวัติครั้งประวัติศาสตร์ที่มีชื่อยาวที่สุดในโลก ไม่มีการสูญเสียเลือดเนื้อ มวลชนไชโยโห่หิ้ว ต่างจากการทำรัฐประหารครั้งไหนๆ มหัศจรรย์พันลึกดอกไม้ปลายปืน ประชาชน-ลูกเด็กเล็กแดงแห่ชมรถถัง ถ่ายรูปครึกครื้นยิ่งกว่างานวันเด็ก

หลังคณะปฏิิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ทำการยึดอำนาจถีบหนังหน้าคณะรัฐบาลชุดทรราชลงจากเก้าอี้สำเร็จ ทางกินเนสส์บุ๊กก็ได้ส่งเจ้าหน้าที่พิเศษมาที่เมืองไทยเพื่อเตรียมบันทึกเรื่องราวในครั้งนี้ว่าเหตุไฉนการทำรัฐประหารหวานหยดจึงมีชื่อยาวเป็นหางว่าว ต่างจากชืื่่อของคณะปฏิิวัติครั้งใดในโลกหล้า

ไม่ว่าจะเป็นคณะกบฏเมษาฮาวาย กบฏแมนฮัตตัน คณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ หรือ รสช. ล้วนแล้วแต่เป็นชื่อที่สั้น ไม่ยาวเหยียดแบบนี้ ทั้งยังมีความรุนแรง เกิดการปะทะกันระหว่างทหารกับประชาชนจนถึงขั้นเลือดชโลมแผ่นดิน กลายเป็นแผลเป็นแห่งความทรงจำที่เจ็บปวด มีการสูญเสียชีวิตและทรัพย์สิน

ต่างจากการปฏิิวัติครั้งนี้ที่สร้างความอัศจรรย์ใจเป็นยิ่งนัก ไม่มีความรุนแรง ไม่เสียเลือดเนื้อแม้แต่หยดเดียว เป็นการปฏิิวัติหวานหยด ประชาชนไม่มีความหวาดกลัว หรือวิตกกังวลใจ แถมหอบข้าวปลาอาหาร และส้มสูกลูกไม้ไปมอบเพื่อเป็นกำลังใจให้ด้วย ส่วนลูกเล็กเด็กแดงก็ดีอกดีใจเหมือนลิงเหมือนค่าง สวมชุดทหาร ปีนขึ้นไปเก๊กหน้าถ่ายรูปบนรถถัง กันโขยงใหญ่ นักวิชาการด้านต่างๆ ทั้งด้านสิทธิมนุษยชนยืนเกาหัวกันแกรกๆ และยืนยันว่ารอยล้อประชาธิปไตยมิได้เคลื่อนถอยหลังแต่ประการใด

ทางกินเนสส์บุ๊กจึงต้องเตรียมบันทึกเพื่อเก็บจารึกเป็นประวัติศาสตร์ครั้งเดียวใของโลกที่ชื่อคณะปฏิิวัติยาวที่สุดในโลก และเป็นการยึดอำนาจที่อ่อนโยนที่สุด คงมีแต่สื่อบ่างต่างประเทศตาถั่วบางสื่อเท่านั้นที่ไปรายงานว่าการทำรัฐประหารครั้งนี้มีความรุนแรง

ครั้นเมื่อพนักงานกินเนสส์บุ๊กมาเห็นกับตาแล้วแทบจะไม่น่าเชื่อว่าบรรยากาศหลังการปฏิวัติ จะมีความชื่นมื่นเต็มไปด้วยประชาชนชาวไทยและต่างประเทศที่ตระเวนเที่ยวดูรถถัง ให้กำลังใจทหาร เหมือนงานวันเด็ก หรือนิทรรศการกองทัพไทยก็มิปาน

ส่วนเบื้องลึกในการปฏิิวัติทีี่เต็มไปด้วยดอกไม้ และไฟแฟลชนี้ แหล่งข่าววงในนั่งพับเพียบเปิดเผยกับเราด้วยน้ำเสียงทุ้มนุ่มเป็นฆ้องวงว่า ความจริงมีแม่แบบอยู่แล้ว แต่การยึดอำนาจทุกครั้งในอดีีตนั้นไม่เคยมีคณะไหนนำมาใช้ ครั้นเมื่อคณะปฏิิรูปการปกครองฯ ได้นำมาใช้แล้วก็นับว่าได้ผลเกินคาด แผนปฏิิบัติการดังว่านี้เป็นของบุคคล 2 ท่าน คือท่านละมุน กับคุณละม่อม การทำรัฐประหารครั้งนี้จึงออกมาแบบสมาร์ตคลาสสิกดังได้ประจักษ์แก่สายตาประชาชนนั่นแล

แม้นว่าบรรยากาศจะชื่นมื่นแต่ชาวบ้านก็ไม่ได้ชะล่าใจ เพราะเชื้อทรราชยังเต้นเร่าๆ ล่าสุดหน้าเหลี่ยมยังว้ากข้ามทวีป อย่างฉุนเฉียวเป็นนัยว่า"ให้เหล่าสมุนดูแลพรรคไว้เดี๋ยวจะมาเอาคืน" แค่นี้ประเทศชาติก็แตกแยกพอแล้ว ยังไม่มีสำนึก ดึงดันอยากจะลงอเวจีให้ได้ "

//www.manager.co.th/Pjkkuan/ViewNews.aspx?NewsID=9490000119984

__________________________________________




:: click แม้ว คิดผิด ริเทียบชั้น ป๋าเปรม
อ่าน ดู clip video


อดีตนายกชวนฯ เคยเตือน ทักษิณฯว่า...ระวังไม่มีแผ่นดินจะอยู่.....

และเตือนว่า...อย่าบังอาจเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับพลเอกเปรมฯ เพราะ จุดจบจะไม่เหมือนกัน

คำเตือนของนายกรุ่นพี่ แม่นกว่าหมอดู อีที

__________________________________________



อาเพศ กลายเป็นจริง

-ศาลท้าวมหาพรหม ถูกทุบทำลาย โหรทั้งหลายเตือนว่าเป็นลางร้าย ต่อรัฐบาลและผู้นำ

-เสากำแพงทำเนียบ และต้นไม้ใหญ่หน้าทำเนียบถูกพายุพัดหักโค่น

-ตัวเงินตัวทอง วิ่งพล่านที่ทำเนียบฯ

-อีกา จิกตีกันบนหลังคาทำเนีบบ

-ชิดชัย(หรือธรรมรักษ์ ไม่แน่ใจ) ไปยกช่อฟ้าทางวัดแถบอีสาน เชือกชักรอกขาด ช่อฟ้าหล่นลงดิน

ทักษิณฯ ก็ให้ตั้งศาลที่ ทรท.ใหม่ พร้อมให้หมอเขมรสะเดาะเคราะห์ รวมทั้งอยู่กรรมแบบพระรามเดินดง (ทัวร์นอก) ตามตำแนะนำของหมอดู อีที แต่กรรมหนัก สะเดาะไม่หลุด จึงเป็นแบบนี้
__________________________________________

คางคกตัวไหนขึ้นวอในวัดพระแก้ว........
คางคกตัวไหนบังอาจ...ให้ฟ้ากระซิบกับมัน.......
คางคกตัวไหนถ่มน้ำลายขึ้นฟ้าท้าชนผู้มีบารมี........
ปัดโธ่...ถ้าคางคกไม่จงรักฯ...แล้วผีที่ไหนจะ..วะ......คางคกนรกตัวไหน..?

ถามคางคกว่าผู้มีบารมีนอกรธน.คือใคร มันบอกว่า เอาไว้จะร้องเพลงให้ฟัง (เพลง...?.....)
ถามคางคกว่าผู้มีบารมีนอกรธน.คือใคร มันบอกว่า.....โอ๊ย!..เจ็บขา เพราะมันรู้ว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
พระองค์ทรงประชวรเจ็บพระบาท มันเหิมเกริมมาก ไอ้หัวขาดสารเลวตัวนี้ มันกล้ากระทบกระเทียบพระองค์
เป็นสันดานที่มันเคยใช้กระทบกระเทียบ ถากถางคนอื่นมาตลอด
ไอ้คางคกหัวขาดตัวนี้เลวแบบไม่มีสาระ....

__________________________________________





:: click ASTV1 ::

__________________________________________



:: click //www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9490000120722 ::
อ่าน ดู คลิปวีดีโอ
สนธิ ลิ้มทองกุล เตือน เชื้อชั่วระบอบทักษิณยังไม่ตาย


:: click //www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9490000120553 ::
อ่าน ดู คลิปวีดีโอ
พล.อ.ปานเทพ ภูวนารทนุรักษ์ เปิดใจ
เชื่อปัญหาภาคใต้จะคลี่คลายหลังสิ้นระบอบทักษิณ
__________________________________________

::หมดเวลาของทักษิณ::
โดย สำราญ รอดเพชร
__________________________________________

เปลวสีเงิน 27 กันยายน 2549
::www.thaipost.net::
คำสั่งที่'ประชาชน'รับไม่ได้
__________________________________________

เปลวสีเงิน 30 กันยายน 2549
::thaipost.net::
จากราหูถึงหลังคาสุวรรณภูมิ

"ราหู" นี่ร้ายนะ เข้าทับราหูเดิมของอดีตนายกฯ ทักษิณที่ราศีมีน แล้วเล็งลัคนาเกิดที่ราศีกันย์ แถม "เสาร์ทับจันทร์" ที่กรกฏเข้าไปอีก ก็เล่นเอาหงายท้องตกเก้าอี้แหงแก๋

กลายเป็น "นายกฯ สัมภเวสี" ร่อนเร่เป็นมหาเศรษฐีตกยากอยู่ลอนดอนโน่น

อย่าเข้าใจว่าผมมาในมาด "พ่อหมอจ๋า" นะครับ ที่พูดถึงราหู เพราะราหูยก-ย้ายจากราศีมีนมาอยู่ที่ราศีกุมภ์ "เกษตรในบ้านเดิมตัวเอง" ร่วมมฤตยูที่จรมาอยู่ล่วงหน้านานแล้วแต่วาน

ช่วงนี้ อยู่ในช่วง "ราหูขึ้นบ้านใหม่" จะพักยาวอยู่ที่บ้านนี้เป็นเวลา ๑๘ เดือน คนราศีสิงห์กับราศีกุมภ์ ซึ่งเป็น ๗ เล็งและกุมกัน พูดกว้างๆ ตามตำราก็ขอบอกว่า

จงละบาป

จงทำความดีให้ถึงพร้อม และ

จงใช้ชีวิตด้วยความไม่ประมาทในทุกเมื่อ!

ถ้าทำได้เช่นนี้สม่ำเสมอ ต่อให้ราหูขี่คอ เสาร์กระทืบยอดอก ก็ยังทำอะไรท่านไม่ได้

แต่ดูตามลักษณะการเคลื่อนตัวของดาวแล้ว ในภาพรวม เตรียมทำใจล่วงหน้ากันไว้บ้างก็ดี จากนี้ถึงช่วงต้นปีหน้า ควรทำความเข้าใจว่า อันมนุษย์ทุกผู้-ทุกนาม ไม่ว่า สูง-ต่ำ-ดำ-ขาว-ยาว-สั้น

ล้วนมีความตายเป็นแดนเกิด

และมีแดนเกิดเป็นความตาย

หมุนเวียนเปลี่ยนอยู่ด้วย "กรรมดี-กรรมชั่ว" เช่นนี้ ฉะนั้น เมื่อมีการพลัดพรากใด กระทบใจสุดคาด เกิดขึ้น ก็ควรทำความเข้าใจแทนการโศกเศร้าเสียใจให้มากเข้าไว้

เอ๊ะ..ชักยังไง?

นั่นน่ะซี..เดี๋ยวจะนึกว่าผมพาโศก ไม่ใช่อย่างนั้นหรอกครับ เห็นพูดถึงราหูกันมาก และหลายวัด-หลายสถานที่ก็ทำพิธีไหว้พระราหู สะเดาะเคราะห์ ต่อชะตาด้วยการบูชาพระราหูด้วยของดำ

ผมก็เกรงว่าบางท่านอดหวั่นไหวไปกับเขาไม่ได้ ต้องลำบากลำบนซื้อของดำไปเซ่นไหว้พระราหูกับเขาด้วย

แต่ถ้าไหว้แล้วสบายใจก็ไหว้เถอะครับ เพราะไม่เสียหายอะไร ของที่ไหว้เสร็จแล้วเราก็เอากลับมากิน เรียกว่า "พอได้ถอนทุนคืน"

แต่อยากกราบเรียนไปถึงท่านที่ร่วมบุญ-ร่วมกุศลในการทอดผ้าป่า ๓ จังหวัดใต้ เมื่อตอนต้นปี และในการทอดผ้าป่าการศึกษาพระ-เณร-เด็กนักเรียนที่วัดช้างให้ เมื่อไม่กี่วันมานี้

จงเป็นผู้มี "ศรัทธาไม่หวั่นไหว" เถอะครับ

ผมยกมือพนมต่อหน้าพระคุณเจ้าที่วัดช้างให้ ต่อหน้ารูปปั้นหลวงพ่อทวด และรูปปั้นครูบาอาจารย์หลายองค์ ผมระลึกถึงทุกท่าน และกรวดน้ำขณะพระคุณเจ้าอนุโมทนาบุญด้วยบท ยถา สัพพี...

นอกจากอุทิศถวายเป็นพระราชกุศลแล้ว ผมยังระลึกเป็นการอุทิศกุศลไปให้พระราหู ไปถึงสรรพสัตว์ที่ร่วมสุข ร่วมทุกข์ รวมทั้งเปตชนผู้ล่วงลับ เจ้ากรรม นายเวรทุกผู้-ทุกนาม

แทนท่านทุกคน!

ฉะนั้น กินอยู่-นอนหลับให้สบายเถอะครับ พระราหูจะไม่มาให้ร้ายอะไรท่าน นอกจากพิทักษ์รักษา และคอยให้คุณ "เสริมบุญ-เสริมกุศล" ส่งให้ท่านสุขศานติประการเดียว

เพราะอะไรทราบไหมครับ?

เพราะในโลกนี้ พระราหูไม่เคยเกรงกลัวใครเลย ใครก็สั่งซ้ายหัน-ขวาหัน กับพระราหูไม่ได้

มีแต่สมเด็จพระชินสีห์ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าของเราชาวพุทธพระองค์เดียวเท่านั้น

แค่ได้ยินพระสุรเสียงกระแอม-กระไอของพระพุทธองค์ พระราหูก็อ่อนระทวยม้วยมุดทรุดกราบแล้วครับ

พระพุทธองค์ตรัสไว้ว่า ผู้ใดเข้าถึงธรรม ผู้นั้นย่อมเข้าถึงเรา

ก็ในเมื่อเราทุกคนเข้าถึงธรรมอันพระองค์ตรัสไว้ดีแล้ว และน้อมนำมาปฏิบัติครบถ้วนแล้ว ทั้งหน้าที่อุบาสก-อุบาสิกา ในการทำนุบำรุงดูแลบวรพระพุทธศาสนาตามพระดำรัสฝากฝัง

เราก็ได้ทำสมบูรณ์แล้ว ทั้งอามิสบูชา และปฏิบัติบูชา

จงปีติในบุญเกิดครับว่า ณ เวลานี้..เราได้เข้าถึงพระพุทธองค์แล้ว

เมื่อเป็นเยี่ยงนี้...

"พระราหู" ที่ไหนจะกล้ามาแหยมกับพวกเราเล่าครับ?

คิดดี-ทำดี เอาไว้ หัด "อภัย" ให้มากกว่า "พยาบาท" นั่น..ก็เป็นอันแน่นอนว่า

"ปิดประตูอบาย" คือนรก-ไม่ใช่ทางไปของพวกเรา "ผู้เข้าถึงพระตถาคต" แน่นอน ชาตินี้ หรือ ชาติหน้า การันตีมีเงินแล้วจะต้องได้ใช้ ไม่เหมือนอย่างใครบางคนที่ชื่อ "ทักษิณ" ๗๓,๐๐๐ ล้าน จะได้อยู่-ได้กินซักบาทหรือเปล่าก็ยังไม่รู้เลย!?

ถ้ามีคนอิจฉาเราแล้วถามว่า "ทำบุญมาด้วยอะไร?" ผมเชื่อใจว่า ท่านตอบได้สบายๆ โดยไม่ต้องคิด

แต่มีอยู่คนที่อาจต้องคิดนาน นั่นคือ "จ่ายักษ์" เจ้าของพลอตเรื่อง "วันลอบสังหารนายกฯ" เมื่อวานนี้ศาลท่านสั่งปล่อยตัวเป็นอิสระแล้ว ตามคำร้องขอของตำรวจกองปราบฯ ผู้เป็นเจ้าของคดี

ก็อย่างที่ผมดักคอไว้แต่ปีมะโว้ว่า ลิเกฉากสุดท้าย ตำรวจก็จะกัน "จ่ายักษ์" ไว้เป็นพยาน

วันต่อมา ได้ยิน พล.ต.ท.มนตรี จำรูญ ผู้บังคับการตำรวจสอบสวนกลาง ออกมาบอกกับนักข่าวที่ไปถามในประเด็นนี้ ตำรวจยุค "ระบอบโกวิท วัฒนะ" ตอบว่าไง ท่านจำได้มั้ย?

ไม่มี้..ไม่มี..ไม่มีทาง และเป็นไปไม่ได้ที่ฝ่ายสอบสวนผู้ทำสำนวนคดีจะกันจ่ายักษ์จาก "ผู้ต้องหา" ไปอยู่ในฐานะพยาน

แล้วไงล่ะ ตอนนี้ มี้ หรือ ไม่มี้ จ่ายักษ์เดินเบ่งกล้ามออกจากตะราง เพราะตำรวจแถลงต่อศาลขอให้ปล่อย "พยานยักษ์" ซะแล้ว!!

โกวิท-วิโรจน์-อชิรวิทย์ ว่าไง นายตำรวจใหญ่ขวัญใจระบอบทักษิณ มีอะไรจะ "เบิกเนตร" ประชาชนต่ออีกล่ะ?

แต่ผมชอบมาด "จ่ายักษ์ ติงต๊อง" นะครับ ถ้าสนใจจะเอาดีทางการแสดงรีบติดต่อผมด่วน จะไปฝากเพื่อนผม "เสี่ยเจียง" ที่สหมงคลฟิล์ม ให้เขาเขียนบททำหนัง "วันลอบสังหารติงต๊อง"

ประกบกับ "สันต์ สะตอแมน" นักข่าวบันเทิงไทยโพสต์ผู้มีหุ่นเหมือนคู่แฝด รับประกันเรื่องนี้ฉายเมื่อไหร่ "ฮาโรงแตก"

รายได้รอบปฐมฤกษ์มอบให้ พล.ต.อ.โกวิท พล.ต.ท.วิโรจน์ พล.ต.ท.อชิรวิทย์ และ พล.ต.ท.มนตรี จำรูญ เอาไว้ซื้อปี๊บแจกตำรวจ!

มาคุยกันถึงเรื่องสนามบินสุวรรณภูมิราคานับแสนล้าน "หลังคารั่ว" กันบ้างดีกว่า เพราะ..มันจี้ดี!

ผู้อ่านข่าวช่องไหนจำไม่ได้ เธอเสียดสีสนามบินหลังคารั่วว่า นึกว่าจะทำสังฆทานกัน เพราะเขาเอากระป๋องสีเหลืองนับร้อยๆ ลูกตั้งไว้รองน้ำที่หยดลงมาจากหลังคา

นับหมื่นๆ รู!

กลายเป็นศิลปะร่วมสมัย หาดูที่ไหนไม่ได้ นอกจากที่สนามบินสุวรรณภูมิแห่งเดียว!

อย่าไปโทษใครเลยครับ ต้องโทษผู้รับเหมาก่อสร้างคือ "อิตัลไทย" และขณะนี้ยังไม่ได้ส่งมอบงาน ฉะนั้น ผลงานที่ชุ่ยระดับโลกนี้ อิตัลไทยต้องรับผิดชอบ และต้องซ่อมแซม-แก้ไข

สนามบินที่เรามองไกลๆ คล้ายซี่โครงไก่นั้น เป็นการออกแบบอาคารผู้โดยสาร และอาคารเทียบเครื่องบินที่ยกย่องกันว่า "ก้าวล้ำนำสมัย" ระดับเดียวกับสนามบินใหญ่ๆ ระดับโลกทุกวันนี้

โครงสร้างทั้งหมดมีแต่ กระจก เหล็ก และผ้าชนิดพิเศษที่เรียกกันว่า Fabric เท่านั้น

สรรพคุณของ Fabric ที่ใช้กับสนามบินสุวรรณภูมินี้ เขาคุยว่าพิเศษเหนือกว่าสนามบินอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นที่เกาหลีใต้ ที่มาเลเซีย ที่เอเธนส์ ที่เดนเวอร์

เพราะสนามบินเหล่านั้นเป็น Fabric ระบบเมนเฟรม คือเป็นผ้าชั้นเดียว แต่ที่สุวรรณภูมิของเรานี้ Fabric หนาถึง ๓ ชั้น!

ชั้นนอกที่เป็นหลังคาเรียกว่า Outer layer ทำจากสารใยแก้ว แล้วเคลือบด้วยเซพลอน ใช้กันฝุ่น กันน้ำ กันฝน กันเสียง และความร้อน ส่วนชั้นที่สองเรียกว่า Middle layer เป็นพลาสติกปูบนตาข่ายเคเบิล ทำจากสารโพลี คาร์บอเนต เจ้าสารตัวนี้ก็ที่เขานิยมนำมาใช้ทำโล่ของตำรวจนั่นแหละ เพราะกันการกระทุ้ง-กระแทกได้ดี

และที่สำคัญ ป้องกัน "เสียง" ได้อย่างชะงัดอีกด้วย!

ส่วนสุดท้ายที่เหมือนเพดานนั้นเรียกว่า Inner layer ส่วนนี้เขาผสมด้วยสารซิลเวอร์ไนเตรด เพื่อป้องกันรังสียูวี และป้องกันเสียง-แสงได้อีกต่างหาก

เห็นมั้ย..ไม่ใช่หลังคาผ้าใบเหมือนเต็นท์ขายก๋วยเตี๋ยวซะที่ไหนล่ะ มันเป็น "ภูษาวิเศษ" ถึงได้แพงยิ่งกว่าหลังคาทำด้วยทองคำ ไปดูแล้วก็..

ไหว้กันซะ!

แต่ผมให้ข้อสังเกตไว้อย่าง Fabric นี้เหมาะสำหรับเมืองที่มีอากาศเย็นถึงหนาว แต่บ้านเรา "ร้อนตับแตก" ทั้งปี ฉะนั้น ผมค่อนข้างเชื่อว่า "ภูษาวิเศษ" นี้จะกรอบ และรั่ว กันไม่ได้ทั้งน้ำ ทั้งฝน ทั้งเสียง ทั้งฝุ่น ทั้งความร้อน เป็นปัญหาแน่ๆ ในอนาคต เตรียมนิมนต์พระไว้ประจำสนามบินคอยรับ "ถังผ้าป่า" เวลาฝนตกเถอะ.

__________________________________________


::นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ::ลาออกแล้ว
ดี ออกซะได้ก็ดี คนเลวๆอย่างนี้
__________________________________________









nation channel
คลิปวีดีโอ 01:33:02 (ความยาวของคลิป)
ลุยสอบ ทุจริต ครม.ทักษิณ


● ทุจริต ซีทีเอ็กซ์ อันลือลั่น
● ทุจริตกล้ายาง
● ทุจริตโควต้าลำไย
● ผลประโยนช์ทับซ้อนทางการเมือง
● การหลบเลี่ยงภาษี ทางธุรกิจ
● การใช้เงินงบประมาณจากหวยบนดินกว่าแสนล้าน
ทั้งหมดนี้เป็นข้อสงสัยในรัฐบาล ทักษิณ ชินวัตร
หลัง คณะปฎิรูปฯ ในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ออกประกาศฉบับที่ 19
ให้ดาบ 9 ปปช. ล้างไพ่ เช็คบิล ย้อนเกร็ด ทักษิณ และ ครม.!!
_________________________________________


จำกันไว้ให้ดีๆ หน้าตาลิ่วล้อของนายทักษิณ เป็นเช่นนี้แล
พวกนี้ ไร้ศักดิ์ศรี ถูกอำนาจเงินเข้าครอบงำ ช่างน่าอับอายอย่างยิ่ง

คลิกที่รูป เพื่ออ่านประวัติ ไอ้โหน' ข้างกายทักษิณ

ยงยุทธ ติยะไพรัช

_________________________________________

คลิกที่รูป เพื่ออ่านประวัติ พล.ต.พฤณฑ์ สุวรรณทัต

ทหารค้ำบัลลังก์ 'ทักษิณ'
:://w3.manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9490000121359&#Vote::
สมน้ำหน้า โผทหาร บัญชีย้ายทหาร จับนายนี่ยัดเข้ากรุไปซะแล้ว
:: click ดู คลิปวีดีโอ โยกย้าย ทหาร ที่นี่ ::
_________________________________________

คลิกที่รูป เพื่ออ่านประวัติ พล.ต.ต.สุรสิทธิ์ สังขพงศ์

ผอ.กองสลาก กระเป๋าเงินของทักษิณ

_________________________________________

คลิกที่รูป เพื่ออ่านประวัติ ศิโรตม์ สวัสดิ์พาณิชย์

มือภาษีรับใช้ชินฯ

_________________________________________

คลิกที่รูป เพื่ออ่านประวัติ ยรรยง พวงราช

น้องใหม่ระบอบทักษิณ

35'645/705///39'480 * 35'740/707///39'585 * 35'775/709///39'623 * 35'984/715///39'889 * 36'208/718///40'137 *




 

Create Date : 30 กันยายน 2549    
Last Update : 12 มิถุนายน 2552 0:18:59 น.
Counter : 1544 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  

แตนต่อย
Location :
♥ เที่ยว ♥ Switzerland

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




♣ ท่านใดต้องการนำรูปภาพและหรือข้อมูลในบล็อคนี้ไปใช้ หรือไปทำประโยชน์อื่นใด เมล์มาคุยกันก่อนนะคะ ♣ สงวนลิขสิทธิ์ ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.2539 ♣ ข้อความและรูปภาพทั้งหมดที่ปรากฏบนBlogนี้้ ห้ามมิให้ทำซ้ำดัดแปลง หรือ เผยแพร่ต่อสาธารณชน โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร ผู้ละเมิดจะถูกดำเนินคดีตามที่กฎหมายบัญญัติไว้สูงสุด ♣ขอบคุณค่ะ ♣

(((ประกาศ)))::จัดทริปพาเที่ยวSwitzerland::ปี 2007
______________________
คลิกฟัง ::เพลงเทียนแห่งธรรม::


:::C l i p VDO ยามเฝ้าแผ่นดิน:::

ClipVDO ::เมืองไทยรายสัปดาห์ ครั้งที่ 34::
ครั้งสุดท้าย-ครั้งต่อๆไปเปลี่ยนชื่อรายการ
เป็นรายากร-ยามเฝ้าแผ่นดิน-



ลงนามถวายพระพร ที่นี่




~

● การ์ตูนจี้เส้น ● TooN ●

♀ เฟรนด์ลิงค์ยังไม่ครบ! ♂

● โค๊ดสี 1 ● โค๊ดสี 2 ●


☆ ในหลวงประกอบพระราชพิธี 090606 ☆
☆คลิ๊กดู คลิปวีดีโอ ได้ที่นี่☆

● คลิ๊กที่นี่ฟังพระราชดำรัส ๔ ธค ๔๘ ●

พระราชดำรัส 260406


▒ วีดีโอ เพลงไอ้หน้าเหลี่ยม ▒

● click ที่นี่ เนื้อเพลง "ไอ้หน้าเหลี่ยม" ●


Blog~ความโหดร้ายที่ตากใบ~กรือแซะ



::::click::Blogการเมือง เรื่องของทุกคนไทย::




● คลิปวีดีโอ ก้าวต่อไปของการต่อสู้ ●
9 พฤษภาคม 2549
โดย สมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์
โดย อ. สังสิต วิริยะรังสรรค์
โดย อ. ปราโมทย์ นาครทรรพ



● เช็คดูซิว่าโดนบล็อคMSNหรือเปล่า! ●
::click::





● since 15.05.06 ●
~20'195~
free hit counter


●จำนวนครั้งที่คลิ๊ก●
09.12.11=187'175
19.01.10=168'006
12.06.09=157'963
:::26.01.08=95'936:::
13.11.07=95'792/26.12.07=10'2016
16.09.07=87'669/02.07.07=76'178
29.03.07=62'492/17.06.07=68'695
16.02.07=59'255/24.02.07=59'956
09.02.07=57'546/12.02.07=58'198
30.01.07=55'830/06.02.07=57'306
09.01.07=53'686/20.01.07=54'730
13.12.06=51'403/20.12.06=51'991
05.12.06=50'533/08.12.06=50'903
30.11.06=49'982/02.12.06=50'193
24.11.06=49'148/26.11.06=49'428
14.11.06=48'034/18.11.06=48'528
03.11.06=47'013/11.11.06=47'690
28.10.06=46'104/02.11.06=46'836
23.10.06=45'180/25.10.06=45'740
18.10.06=44'458/20.10.06=44'763
10.10.06=43'143/13.10.06=43'500
06.10.06=42'124/09.10.06=42'824
03.10.06=41'021/05.10.06=41'802
30.09.06=40'149/01.10.06=40'550
26.09.06=39'441/27.09.06=39'642
20.09.06=37'939/23.09.06=38'839
12.09.06=36'120/18.09.06=36'915
06.09.06=35'225/10.09.06=35'725
02.09.06=34'534/03.09.06=34'702
28.08.06=33'720/30.08.06=34'100
24.08.06=32'852/26.08.06=33'395
20.08.06=32'050/21.08.06=32'265
17.08.06=31'523/19.08.06=31'763
12.08.06=30'650/14.08.06=31'100
07.08.06=29'778/09.08.06=30'100
25.07.06=27'962/28.07.06=28'816
19.07.06=27'039/22.07.06=27'561
16.07.06=26'436/18.07.06=26'946
12.07.06=25'632/14.07.06=26'095
08.07.06=25'012/10.07.06=25'302
05.07.06=24'452/07.07.06=24'788
01.07.06=23'870/04.07.06=24'304
24.06.06=22'335/28.06.06=23'219
10.06.06=21'607/20.06.06=22'105
08.05.06=19'957/09.05.06=20'004
04.05.06=19'663/07.05.06=19'822
09.04.06=18'782/28.04.06=19'505
01.04.06=18'159/05.04.06=18'520
23.03.06=17'346/28.03.06=17'757
16.03.06=16'747/17.03.06=16'807
14.03.06=16'537/15.03.06=16'595
11.03.06=16'046/11.03.06=16'046

●ยอดจำนวนผู้ชม B l o g g a n g●
●และ Profile●
26.01.08/36430/1801
26.12.07/30799/1764
13.11.07/22904/1724
16.09.07/14022/1619
- ยอดเก่าข้างล่าง - 17.06.07/19454/1'435
29.03.07/10'491/1'284
24.02.07/6'205/1'209
16.02.07/5'258/1'187
12.02.07/3'919/1'160
09.02.07/3'376/1'144
05.02.07/2'833/1'126
30.01.07/1'317/1'101
ยอดเป็นศูนย์-เปลี่ยนserver
ให้ BlogGang ใหม่ (24 ม.ค.)
20.01.07/54'169/1'054
090107/52'507/1'020
201206/50'058/959
131206/49'021/946
081206/48'078/930
051206/47'524/927
021206/47'071/921
301106/46'762/913
261106/46'014/903
241106/45'508/896
181106/44'537/885
141106/43'835/870
111106/43'162/858
031106/42'259/837
021106/42'042/834
281006/41'366/819
251006/41'047/808
231006/40'576/799
201006/40'191/786
181006/39'932/780
131006/39'143/761
101006/38'775/756
091006/38'508/751
061006/37'905/742
051006/37'589/740
031006/36'865/732
011006/36'506/727
300906/36'214/718
280906/35'785/709
260906/35'618/703
230906/35'179/691
200906/34'451/682
180906/33'698/668
120906/32'993/640
100906/32'696/632
060906/32'296/612
030906/31'909/596
020906/31'761/589
300806/31'412/577
280806/31'108/561
260806/30'869/552
240806/30'475/522
220806/30'052/503
200806/29'909/493
190806/29'711/485
170806/29'515/472
140806/29'224/461
120806/28'932/449
090806/28'536/428
070806/28'267/420
280706/27'405/388
250706/26'629/381
220706/26'292/371
200706/25'981/366
190706/25'896/363
180706/25'722/360
160706/25'265/358
140706/25'016/356
120706/24'620/348
100706/24'330/346
080706/24'133/336
070706/24'026/333
050706/23'839/325
040706/23'727/322
010706/23'413/318
300606/23'297/318


Friends' blogs
[Add แตนต่อย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.