กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว
 
การสร้างพระบรมรูปพระเจ้าแผ่นดินไทย


พระบรมรูปอดีตพระมหากษัตริย์ราชวงศ์จักรี



.........................................................................................................................................................



เรื่อง การสร้างพระบรมรูปพระเจ้าแผ่นดินไทย


เหตุ ที่จะถามปัญหาเรื่องนี้ เนื่องมาจากไปถวายบังคมพระบรมรูปในปราสาทพระเทพบิดร มีความคิดขึ้นว่า พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าฯ นั้น ทรงมีพระลักษณะเหมือนกับพระบรมนั้นหรือไม่

ปัญหา ประเพณีการสร้างพระบรมรูปพระเจ้าแผ่นดินไทยนั้น ได้แบบอย่างมาแต่ไหน ทำกันแต่ครั้งไร พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกย์นั้นได้แบบอย่างมาจากไหน ทำกันอย่างไรจึงว่าเหมือนพระองค์จริง

ตอบ ประเพณีทำโมนูเมนท์พระเจ้าแผ่นดินที่ล่วงลับไปแล้วมีมาเก่าแก่ ดึกดำบรรพ์ จะเห็นได้จากเขมรทำเป็นเทวรูป ถ้าถือพระพุทธศาสนาฝ่ายมหายานมักทำเป็นพระโพธิ์สัตว์ สันนิษฐานว่าไทยได้ประเพณีนี้มาแต่เขมร ไทยกรุงศรีอยุธยามีพระเทพบิดร และรูปสมเด็จพระนเรศวรอยู่ที่โรงพระแสง พระบรมรูปทั้งสองนี้คงใช่รูปตัวแต่เป็นเทวรูป ที่ว่าเช่นนี้เพราะปรู๊พได้ เมื่อเสียกรุงนั้นปรากฏว่าพระรูปพระเทพบิดร (ว่าสร้างแทนพระองค์พระเจ้าอู่ทองรามาธิบดี) อยู่ที่วัดพระศรีสรรเพ็ชญ์ ไฟไหม้เชิญเอาไปไว้ที่ซุ้มจรนำวัดพุทไธศวรรย์ ชาวบ้านชาวเมืองว่าดุร้ายนัก กรมหลวงเทพหริรักษ์ขึ้นไปทำเพนียด นำความกราบบังคมทูลพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าฯ จึงเอาลงมาหล่อเป็นพระพุทธรูปทรงเครื่อง เอาไว้ในหอพระเทพบิดรวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ต่อมาเมื่อรื้อหอเลยเก็บไว้ในปราสาทพระเทพบิดรมุขหลัง เข้าใจว่าเดี๋ยวนี้ก็ยังคงอยู่ในนั้น (ได้คงวามว่าได้ย้ายมาไว้ในวิหารยอดในวัดพระศรีรัตนศาสดาราม แต่ไม่ทราบว่าเป็นองค์ไหน เพราะมีอยู่หลายองค์ด้วยกัน) ส่วนที่วัดพุทไธศวรรย์เดิม ได้ปั้นเป็นพระพุทธรูปไว้แทนจนทุกวันนี้


ปราสาทพระเทพบิดร


แม้ในรัชกาลที่ ๑ และรัชกาลต่อๆมา ก็มีการหล่อพระพุทธรูปไว้แทนพระองค์ ในรัชกาลที่ ๑ หล่อพระพุทธจักรพรรดิ รัชกาลที่ ๒ หล่อพระพุทธนฤมิตร เป็นทองคำทั้งพระองค์ เดี๋ยวนี้ยังอยู่ในหอพระสุราลัยพิมานทั้งสองพระองค์ แต่พระพุทธนฤมิตรนั้นโปรดฯ ให้จำลองไปไว้ที่วัดอรุณราชวรารามพระองค์หนึ่ง

ในรัชกาลที่ ๓ ได้ทรงหล่อพระพุทธรูปสูง ๖ ศอกสองพระองค์หุ้มด้วยทองคำเนื้อ ๘ องค์หนึ่งหนัก ๖๓ ชั่ง ๑๔ ตำลึง ทรงเครื่องต้นอย่างบรมกษัตริย์ ลงยาราชาวดีประดับด้วยนวรัตน์มีราคาเป็นอันมาก พระพุทธรูปสองพระองค์นี้ให้ตั้งไว้ในพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม องค์ข้างเหนือถวายพระนามว่า พระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกย์ องค์ข้างใต้ถวายว่า พระพุทธเลิศหล้าสุราลัย มาเปลี่ยนเป็นพระพุทธเลิศหล้านภาลัยเมื่อรัชกาลที่ ๔ (เดิมเรียกรัชกาลที่ ๑ และที่ ๒ ว่า แผ่นดินต้น แผ่นดินกลาง มีพระบรมราชโองการดำรัสสั่งให้ใช้บัตรหมายในราชการทั้งปวงอ้างนามแผ่นดินตามพระพุทธรูปทั้งสองพระองค์ ไม่ให้ใช้ว่าแผ่นดินต้น แผ่นดินกลาง เพราะทรงเห็นเป็นอวมงคล)

เหตุที่ทำเป็นพระบรมรูปหล่อเป็นคนมีดังนี้ ในรัชกาลที่ ๔ พระเจ้านะโปเลียนที่ ๓ กับเอมเปรสด์ส่งรูปหล่อครึ่งตัวเป็นบัสทองแดงมาถวาย พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดมาก และจะต้องให้ของตอบแทน เมื่อทูตฝรั่งเศสกลับไปให้ช่างปั้นรูปมาถวายเป็นรูปเต็มพระองค์แต่ก็ไม่ตกลงกัน เป็นปัญญาว่าจะตอบแทนอย่างไรกัน อีกคราวหนึ่งเอมเปอเรอส่งตราเลยองออนเนอร์มาถวาย ดวงตรามีหัวนะโปเลียนโบนาปารต พระเจอมเกล้าฯ ให้ทำส่งออกไปบ้างเป็นรูปที่ทำได้เหมือนมาก เดี๋ยวนี้พระบรมรูปติดตรานั้นยังอยู่ที่วังฟองเตนโบล

ในเรื่องรูปปั้นนั้น ต่อมาว่าให้พระยาจินดารังสรรค์ปั้นใหม่ด้วยปูนปลาสเตอร์ ปั้นเท่าพระองค์ทรงพระมาลาสก๊อท ทรงผ้าเยียระบับ เดิมอยู่ที่หอศาสตราคม รื้อหอแล้วเอามาไว้ที่กระทรวงมหาดไทยพักหนึ่ง แล้วส่งไปประดิษฐานไว้ที่พระที่นั่งเพ็ชภูมิไพโรจน์ จังหวัดเพชรบุรี (ที่เขาวัง) กับได้จำลองไว้อีกองค์หนึ่งในปราสาททางด้านตะวันตกในวัดราชประดิษฐฯ แต่หาได้ส่งไปถวายพระเจ้านะโปเลียนที่ ๓ ไม่ ที่ไม่ได้ส่งไปนั้นเพราะเป็นรูปปั้นด้วยปูนน้ำมัน ยังไม่ได้หล่อ ครั้นจะหล่อต้องเข้าไฟ การเอารูปปั้นเข้าไฟนั้นถ้ายังมีพระชนม์อยู่ถือว่าเป็นอัปมงคล เลยไม่ได้หล่อจนแล้ว

มาในรัชกาลที่ ๕ เลยจับหล่อหมดทั้ง ๔ องค์ เกิดปัญหาขึ้นบ้างตอนปั้นพระพุทธยอดฟ้าฯ เพราะพระพุทธยอดฟ้าฯ หาคนรู้จักยาก นัยว่าเรียกคนที่เคยเห็นมาให้การ แล้วก็ปั้นตามคำให้การนั้น คนที่เคยเห็นพระพุทธยอดฟ้าฯ ครั้งนั้นยังเหลืออยู่สี่คนคือ สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (โต) เจ้าพระยาสุธรรมมนตรี (บุญศรี บุรณสิริ) พระองค์เจ้าปุก (พระราชธิดาในรัชกาลที่ ๒) และเจ้าพระยาธรรมา (มั่ง) คนที่เคยเห็นพระพุทธเลิศหล้าฯ นั้นมีมาก

พระบรมรูปหล่อมาหล่อเอาทั้งที่พระเจ้าแผ่นดินยังมีพระชนม์อยู่ ก็พระบรมรูปรัชกาลที่ ๕ ดูไม่เป็นการรังเกียจกัน รูปแรกที่หล่อคือเหรียญเงินบาท แต่ก่อนหล่อกันแต่รูปพระเกี้ยว หากล้าหล่อพระบรมรูปไม่ เพิ่งมาหล่อในรัชกาลที่ ๕ นี้เอง ถัดจากนั้นพระบรมรูปทรงม้าก็หล่อทั้งที่ทรงยังมีพระชนม์อยู่ ได้เสด็จเปิดพระบรมรูปด้วยพระองค์เองซ้ำไป.


.........................................................................................................................................................



คัดจากบันทึกรับสั่งสมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ
ประทาน หม่อมราชวงศ์ สุมนชาติ สวัสดิกุล


Create Date : 09 พฤษภาคม 2550
Last Update : 16 พฤษภาคม 2550 14:41:18 น. 0 comments
Counter : 4122 Pageviews.  
 
Name
* blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Opinion
*ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet

กัมม์
 
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 41 คน [?]




วิชา ความรู้จะมีค่าเมื่อถูกถ่ายทอด
[Add กัมม์'s blog to your web]

MY VIP Friend

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com