just can't {imagine} our ends
Group Blog
 
All blogs
 
วันศุกร์ที่ 17 มี.ค. 2549 วันยุ่งและเครียดมหาประลัยเลย (ภาคหนึ่ง)

ตื่นเช้ามา ก็เห็นเจ้าข้าวปั้น(แมวที่บ้าน)ทำท่าประหลาดๆ และเหมือนมีอะไรออกมาจากตรงนั้น
ดูไปดูมา กลายเป็นขาและตัวน้องแมว แต่หัวออกมาไม่ได้
เราก็ลนมาก ทำอะไรไม่ถูกเลย

น้องแมวเค้าเบ่งไม่ออก กว่าจะคลอดลูกตัวแรกออกมาก็ไม่มีลมหายใจแล้ว
เราก็เลยนั่งรอช่วยทำคลอดตัวอื่นอยู่ตั้งนาน เพราะโทรปรึกษาคุณหมอแล้วเค้าบอกว่าได้ถึง 4 ชม.ค่ะ
เลยกลายเป็นต้องลางานทั้งวันศุกร์ที่ผ่านมาน่ะค่ะ

พอเที่ยงชักทนไม่ไหวต้องพาไปผ่าแล้ว
ก็เสียวๆอยู่เหมือนกัน เพราะเคยมีพี่ที่รู้จักกันพาแมวไปผ่าคลอด แล้วน้องแมวไม่รอดทั้งแม่ลูก
แต่ปล่อยไว้แบบนี้คงไม่ดีแน่

ลูกเอ๋ย ดีนะที่ได้ลัดคิวเข้าไปตรวจก่อนเพราะด่วนจริงๆ
ต้องขออภัยคนที่พาน้องหมาน้องแมวมาตรวจกันด้วยค่ะ

คุณหมอเอาเจลบีบใส่มือ(ที่สวมถุงมือเรียบร้อย)ค่ะ แล้วก็คลำเข้าไปในช่องคลอดน้องแมวค่ะ
บอกกับเราว่า ถุงน้ำคร่ำน่าจะแตกแล้ว หมอคลำเจอลิ้นน้องแมวค่ะ
(ในใจเราคิดแล้วล่ะว่าน้องแมวตัวนั้นไม่น่าจะรอด เพราะเราตัดสินใจพามาหาคุณหมอช้าไป)
แล้วก็พาน้องแมวไป X-ray และกลับเข้ามา ultra sound ต่อ
นี่เป็นครั้งแรกที่เราได้เห็นเด็กๆแมว ในท้องแม่ และเห็นหัวใจเล็กๆเต้น แม้จะไม่มีเสียงออกมา แต่ไม่รู้ทำไมเรากลับได้ยินและรู้สึกยินดีเล็กๆ และแอบคาดหวังว่าจะมีเด็กแมวรอดสักสองสามตัว
เพราะอีกสี่ตัวที่ยังอยู่ในท้องข้าวปั้น มีสามหัวใจที่ยังเต้นอยู่


จากนั้น ก็มีผู้ช่วยเข้ามากล้อนขนตรงส่วนท้องและขาหน้าข้างหนึ่ง (เพื่อเสียบสาย...) ก่อนจะพาเข้าไปผ่าตัด เราก็เลยนั่งรออยู่ข้างนอก ขณะนั้นเวลาประมาณบ่ายสอง (ยังไม่ได้กินข้าวเช้าเลยสักคำ ดีที่ตอนเช้ารองท้องขนมปังไปสองแผ่น) ก็เลยออกไปหาอะไรกิน ซึ่งจริงๆก็กินอะไรไม่ลง เลยได้แต่ซื้อน้ำมากิน และแวะซื้อมติชนรายสัปดาห์มาอ่านขณะรอคุณหมอผ่าตัด




ตัดไปถึงตอนที่หมอเรียกให้เข้าไปดูข้าวปั้นและลูก ก็เป็นไปตามคาดว่า น้องแมวตายไป 1 ตัว และยังรอดอยู่อีก 3 ทว่า มีตัวหนึ่งในสามที่ต้องให้ยากระตุ้นหัวใจ และท้ายสุดก็ไม่ไหวในที่สุด ทั้งๆที่จริงๆก็ทำใจไว้แล้ว ขอแค่ข้าวปั้นรอดก่อนก็พอ ถ้าเด็กๆรอดด้วยก็ถือเป็นโชคล่ะ หมอก็บอกว่า ในสองตัวนี้ มีเจ้าตัวดำที่แข็งแรงมาก ไม่ต้องช่วยอะไรเลย แต่อีกตัวคงต้องดูแลมากหน่อย หลังจากรับเด็กและแม่และกล่องเด็กที่ไม่รอด (ก่อนนั้นก็จ่ายค่าผ่าตัดเสียจนกระเป๋าฟีบ ซึ่งก่อนที่จะฟีบก็ไปกดตังมาเตรียมไว้จำนวนหนึ่งแล้ว แต่ก็ยังขาดอีก 20 บาท-----------------ราคาเต็มสามพันเก้าร้อยบาทถ้วน) และกำลังจะรีบกลับไปให้เด็กๆได้ดูดนม คนที่พาหมาแมวมาหาหมอก็ถามกันใหญ่เลยว่า มาทำอะไร ถามนู่นดูนี่ จนเราที่ค่อนข้างเหนื่อยและอยากรีบกลับออกจะเคืองอยู่ไม่น้อย แต่ก็พยายามตอบที่เค้าถาม (รู้สึกว่าเขาไม่ค่อยจะรู้กาลเทศะกันซักเท่าไหร่ ไม่ค่อยจะนึกถึงแม่แมวและลูกแมวรวมถึงอะไรอีกหลายๆอย่าง ที่บางทีเรารู้สึกว่า คนเขารีบๆ ก็ยังจะมารุมถามกันอีก ไม่เห็นใจกันบ้างเลย ก็ไม่อยากจะเป็นคนมนุษยสัมพันธ์แย่ แต่บางทีมันน่าจะมีขอบเขตกันบ้าง)


จากนั้นออกจากรพ. และแวะไปซื้อนมผงสำหรับแมวเล็ก เพราะได้ยินหมอบอกว่า แม่แมวส่วนใหญ่กลับบ้านไปก็จะไม่ค่อยให้นมลูก เนื่องจากยังเจ็บแผลที่เพิ่งผ่านการผ่าตัดไปหยกๆ นอกจากนี้ ขาหลังของข้าวปั้นก็ยังไม่ค่อยมีความรู้สึก ฉะนั้นเลยต้องดูเด็กๆแมวให้ดีและบ่อยเป็นพิเศษ ไม่งั้นข้าวปั้นเหยียบลูกไปก็ไม่รู้สึกน่ะ



จริงๆแล้วเรื่องยังไม่จบ แต่คนพิมพ์หมดแรงแล้วค่ะ
ไว้มาต่อกันวันหน้าเน้อ


ขี้มูกยืดวันนี้ทั้งวัน น่ารำคาญจัง ตาก็กำลังจะปิด



Create Date : 23 มีนาคม 2549
Last Update : 23 มีนาคม 2549 23:26:29 น. 3 comments
Counter : 407 Pageviews.

 
เปนกำลังใจให้สำหรับคนรักแมวเช่นกันค่ะ เราเคยทำคลอดลูกแมวเองครั้งนึง เพราะตอนนั้น บ้านเราอยู่ไกลจากร้านหมอมากๆ ถ้าพาไปคงไม่รอด เราเลยทำเอง แต่โชคดีที่รอดหมดทุกตัวเลย พักผ่อนเยอะๆนะคะ เพราะต้องสู้รบปรบมือกับนอ้งเหมียวกะลูกๆอีกเยอะ อิอิ ขอให้ปลอดภัยทั้งแม่แมวและลูกแมวจ้ะ


โดย: คนรักแมว IP: 202.143.144.52 วันที่: 24 มีนาคม 2549 เวลา:9:47:01 น.  

 
เคยเจอเหตุการณ์ลุ้นระทึกอย่างนี้เหมือนกันค่ะ โชคดีนะคะที่ข้าวปั้นปลอดภัยดี ขอให้น้องๆ ที่เหลือรอดปลอดภัยทั้งหมดนะคะ สาธุ


โดย: ลูกสาวโมโจโจโจ้ (the grinning cheshire cat ) วันที่: 26 มีนาคม 2549 เวลา:14:26:58 น.  

 
โอ๊ยยย เซ็งงงงง เน็ตหลุดง่ะ อุตส่าห์พิมพ์ตั้งเยอะ



อ่านแล้วระทึกใจมากๆ อ่านไปลุ้นไป

ยังไงขอให้ข้าวปั้นหายและแข็งแรงไวๆ น้องแมวสองตัวก็ขอให้เติบโตอย่างแข็งแรงเช่นกันนะคะ




งานหนังสือปีนี้ก็เตรียมตังค์ไว้ส่วนหนึ่งค่ะ คงได้ช้อปพอสมควร


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 29 มีนาคม 2549 เวลา:8:59:37 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

quin toki
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




everything has a begining , has an end.

link to my thought
~~*http://pompom67.bloggang.com*~~




บล็อกน้อยอิเหละเขะขะ
เก็บ+กระจุกของไว้สารพัด
สารบัญก็ไม่มีให้กดง่ายๆ ขออภัยด้วยเน้อ




เคยมีคนบอกกับเราว่า
ถ้าเราไม่ได้ดูหนัง
คงหายใจไม่ออกสินะ

...
ขาดหนัง
ก็ขาดใจ
(ไอ้บ้าเอ๊ย!)

เข้าใจพูดนะเนี่ย
>_<








นิตยสารดีโอ DE.O. Magazine E-Book

issue 6

L.O.V.E.







คุณป้าสุวคนธ์ ไม้แดง

และหมาแมวจรนับร้อย

ที่กำแพงเพชร



เล่นกับแกรี่ได้นะจ๊ะ (แต่แกรี่ตัวนี้ไม่มีเขี้ยวเท่านั้นแหละ)
Friends' blogs
[Add quin toki's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.