...ส บ า ย ๆ ส ไ ต ล์ มื อ ไ ม่ PRO แ ถ ม ยั ง... LOWFESSIONAL ...
 
 

ยก(หาม)ทีวี 25 นิ้วไปซ่อม...


|123it.co.nr|เรื่องทั้งหมด|เรื่องที่แล้ว|เรื่องต่อไป|

อยู่ร่วมชายคากันมาก็ 9 - 10 ปีแล้วละครับ



สำหรับพานาโซนิค รุ่น... ขนาดจอ 25 นิ้ว ซึ่งอันที่จริงตอนที่ซื้อนั้นถูกหวยครับ (จริงๆนะ) ใจจะเอา 29 นิ้วเลยด้วยซ้ำ ติดที่ว่าช่องในชั้นวางที่บ้านมันรับไม่ได้ ครั้นจะซื้อตู้โชว์ใหม่เพื่อเอาใจทีวีรึก็กระไรอยู่ เลยตัดสินใจเล่นแค่ 25 นิ้วครับ สมัยนั้นก็หลายหมื่นอยู่เหมือนกัน

เมื่ออาทิตย์ที่แล้วนี่เอง นั่งดูข่าวอยู่เพลินๆ จอก็ดับวูบลงไปซะเฉยๆ เหลือเพียงแต่เสียงเท่านั้น

ลองปิดลองเปิดอยู่หลายครั้ง ก็ยังคงมีแต่เสียงอย่างเดิม รุ่งขึ้นก็ตัดสินใจส่งซ่อมครับ

โอ้โฮ...ท่านผู้ชม ทีวี 25 นิ้ว จอแก้วธรรมดาๆนี่ หนักมากๆครับ คนเดียวแทบไม่ไหว และกว่าจะยัดลงเบาะหลังรถเก๋ง(เก่าๆ)ได้ ต้องหามุมเหมาะๆอยู่เป็นนาน

โดยต้องวางหันหน้าจอเข้ากับพนักพิงของเบาะหลัง แล้วเอาพนักพิงของเบาะหน้า เอนลงไปเพื่อค้ำยันไว้ไม่ให้ทีวีมันหงายกลับออกมาได้ครับ

ประมาณ 3 วัน ช่างบอกว่าซ่อมเสร็จแล้ว ผมก้ไปรับเครื่อง ลองภาพลองโน่นลองนี่(ไม่ละเอียดนัก) ก็หามขึ้นรถกลับบ้าน โดยช่างได้เอาฟลายแบ็คตัวที่เสีย และอุปกรณ์รอบข้างอีกจำนวนนึง ใส่ถุงพลาสติคกลับมาเพื่อเป็นที่ระลึกด้วย งานนี้โดนเข้าไป 1,500 บาทครับ

ถึงบ้านก้ไหว้วานเด็กโตๆที่มาเล่นเกม ให้ช่วยกันหามเข้าบ้านที (แถมเวลาไป 15 นาที) จัดการเสียบสาย แล้วก็สั่งจูนหาช่องอัตโนมัต (ดูทางเคเบิ้ลครับ)

เสร็จแล้วก็นั่งกดรีโมทเช็คโน่นเช็คนี่ดู พบความผิดปรกติดังนี้ครับ

1. เวลาสั่ง Auto Tunning เสร็จแล้ว ผมต้องมานั่งกด Fine Tunning อีกครั้งทุกช่อง ภาพ/เสียงจึงจะคมชัดขึ้นมาอีกเล็กน้อย

2. เรื่องเสียง มีอาการแตกพร่า เหมือนไฟเลี้ยงไม่พอเลี้ยงพาวเวอร์แอมป์ ออกแตกๆบี้ๆครับ

เอาละสิงานนี้ ผมน่ะไม่เท่าไร แต่ภรรยาสิครับ รับไม่ได้เอาเลย...

ตัดสินใจ เช้านี้ยกขึ้นรถอีกครั้งครับ หลังแทบหัก

เอามาถึงช่างที่ร้าน เปิดเครื่องลองกันเลย ช่างบอกว่า ทำไมไม่โทรมาถามก่อน จะได้ไม่ต้องเหนื่อย


คุยกับช่างได้ความว่า ระบบเสียงชองเคเบิ้ลมันมีต่างๆมาตรฐานกัน แล้วแต่ว่าแถวบ้านใครจะใช้แบบใหน

การ Auto Tunning จะทำเฉพาะภาพ และได้ค่าเสียงที่ตั้งมาจากโรงงาน

ส่วนเสียงนั้น ถ้าไม่ฟลุ้คตรงกับสัญญานเคเบิ้ลที่บ้าน ก็ต้องนั่งเลือกกันเป็นช่องๆ ทุกช่องเลย

ที่ว่าเสียงบี้ๆแตกๆนั้น ค่าของเสียงจะอยู่ที่ 6.5 MHz ครับ

แต่เมื่อเลือกมาที่ 5.5 MHz เสียงจะชัดเจนแจ่มแจ๋วเป็นปกติทันที

เฮ้อ...แบกขึ้นแบกลงตั้งหนัก สรุปว่าต้องตั้งค่าเสียงใหม่นี่เองครับ...สวัสดี...




 

Create Date : 31 มีนาคม 2550   
Last Update : 1 เมษายน 2550 22:54:26 น.   
Counter : 2843 Pageviews.  


ขอบคุณครับ ที่ใส่ใจลูกค้าอย่างผมมากมาย(ซะเหลือเกิน)


|123it.co.nr|เรื่องทั้งหมด|เรื่องที่แล้ว|เรื่องต่อไป|

วันนี้ ขอแทรกประสบการณ์สนุกๆซักอย่างนึงนะครับ

เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ลูกสาวไปฟังผลสอบครับ ได้ 3 วิชาเดียว นอกนั้น 4 หมด อะฮ้า...(แหร่มเลย...) ก็เลยมาบอกว่า

"พ่อๆ หนูอยากกินไอติม Swenzen! "

"โห...เอางั้นเลยรึลูก พ่อขอเปลี่ยนเป็นไอติมตักถ้วยละ 5 บาทได้มั้ย? หรือจะใส่หนมปัง โรยถั่วลิสงก็ได้..."

"อะไรจะงกปานนั้นล่ะพ่อ...หนูสอบได้ดีๆทั้งที นะพ่อนะ หนูออกครึ่งนึงก็ได้..."

"เออๆ ไปก็ได้ วันนี้พ่อเลี้ยงเอง "


สรุปว่า เที่ยงวันนั้น 2 พ่อลูกก็พากันไปเดินเก้ๆกังๆ(ผมเองแหละที่เป็น) อยู่ในร้าน Swenzen โห...คนเยอะมากครับ ส่วนมากมากันเป็นครอบครัว นักเรียนโรงเรียนเดียวกับลูกก็มี หาที่นั่งได้แล้ว พนักงานก็เอาน้ำเปล่ามาเสริฟไว้ก่อน พร้อมกับเมนูเล่มใหญ่ ให้เราเลือกหากันอย่างสบายใจ

ลูกสาวผมสั่ง 1 ถ้วยเบ้อเริ่มเทิ่ม มาชี้ให้ผมดูราคา โอ้... 100 กว่าบาทเข้าไปนั่น เห็นชื่อว่า banana อะไรสักอย่าง เป็นกล้วยหอมผ่าเป็น 2 ซีก แล้วก็ไอติม แล้วก็เครื่องตกแต่ง มาในถ้วยยาวๆ...

ส่วนผมพลิกเมนูอยู่นาน เลือกได้กาแฟปั่น (ฮ่าๆ โทษทีครับ ผมจำชื่อไม่ได้จริงๆ) โปะหน้าด้วยครีมโกนหนวด (อันนี้ผมก็ไม่รู้ชื่ออีกเหมือนกัน) โรยหน้าอีกทีด้วยงาดำมั้ง(เวรกรรม...ลูกสาวบอกว่าเป็นเกล็ดช็อคโกแลต) แก้วละ 49 บาท

นั่งรออีกพักใหญ่ๆก็ได้กินสมใจครับ ลูกสาวท่าทางจะเอร็ดอร่อยมาก

ผมมานั่งคิดๆว่า เออ...ถ้าผมจะมาทำขายที่ร้านเกมส์ผม เอาไอติมตักธรรมดาๆสัก 3-4 ก้อน มา 1 ถ้วย (เอาถ้วยยาวๆแบบเนี้ยะ) แล้วผ่ากล้วยหอมมาวาง 2 ซีกอย่างเขา ขายถ้วยละ 10 บาทก็น่าจะได้กำไรแล้ว อันนี้ Swenzen เขาจะฟ้องเรื่องลิขสิทธิ์กับผมหรือเปล่าเนี่ย...วานผู้รู้มาตอบทีนะครับ

พอดีว่างานนี้เพื่อนที่ทำงานถามว่า 2 พ่อลุกจะไปใหนกัน ผมก็บอกว่าจะพาลูกสาวไปกินไอติมที่ Swenzen เขาก็เลยฝากซื้อด้วยสัก 1 ถ้วย ผมก็ให้เขาจดมาให้เลย เพราะถ้าให้ผมจำอาจจะเพี้ยนเป็นอย่างอื่นได้ (แหะๆ จำได้แค่ ...อะไร 'หอคอยๆ' นี่แหละ )

ก่อนจะเช็คบิลก็เลยให้ลูกสาวไปสั่งเอาไว้ ว่าจะเอากลับไปทานที่บ้าน

พนักงานชาย(ในคราบของสาวประเภทสอง)ก็ค้านออกมาว่า...

"วันนี้อากาศข้องนอกร้อนมากๆนะคะ ยิ่งเที่ยงๆแบบนี้ละก็ กว่าจะถึงบ้านหนูว่าละลายหมดแน่ๆ ไม่แนะนำให้เอาไปทานที่บ้านนะคะ..."

"อ๋อ...ไม่น่าเป็นไรหรอกครับ ไม่เกิน 10 นาทีก็ทานแล้ว เขาฝากมาซื้อจากที่ทำงานครับ"

"10 นาทีก็คงไม่ไหวค่ะ เกรงว่าจะไม่ได้อย่างที่ต้องการ อ้อ...เดี๋ยวหนูมานะคะ ไปเช็คบิลโต๊ะโน้นก่อน..."


เอาไงดีหว่า... พ่อลูกปรึกษากันแล้วก็เลยโทรกลับหาคนฝากซื้อ ทางนั้นก็บอกว่าเอามาเหอะ แทะๆเล็มๆให้สบายปากก็พอแล้ว ละลายไปบ้างก็ช่างมัน

รอพอคุณพนักงานกลับมา ผมก็ให้ลูกสาวไปย้ำอีกทีว่าเอาอันที่สั่งด้วยนะ แล้วเช็คบิลรวมไปเลย

"มันละลายแน่ๆนะคะ ตกลงคุณพี่จะเอาจริงๆเหรอ?"

"ครับๆ เอาครับ ละลายบ้างไม่เป็นไร"
(ระหว่างนี้ ผมสังเกตว่า โต๊ะข้างๆ 3-4 โต๊ะ เริ่มมองผมแปลกๆกันแล้ว!)

"ค่ะๆ งั้นก็ได้ค่ะ แต่หนูบอกก่อน ว่าหนูไม่รับประกันนะคะ ว่าจะคงรูปอยู่ถึงที่ทำงานพี่หรือเปล่า หนูบอกพี่แล้วนะคะ ตกลงยืนยันว่าจะเอา?"

"ครับๆ เอาครับ..."



โอ๊ยยยยยย...ทำอย่างกะผมจะกลับมาฟ้องบริษัทเขาอย่างนั้นแหละถ้าไอติมมันละลาย รับของเช็คบิลแล้ว ก็เลยรีบๆออกมาโดยไว ฮ่าๆ เหมือนทำผิดอะไรร้ายแรงสักอย่าง...

ขับรถมากับลูกสาวก็นั่งขำๆกันมา เออนะ...ประสบการณ์ดีๆที่สะเวนเซ่น...

ขอบคุณครับ ที่ใส่ใจลูกค้าอย่างผมมากมาย(ซะเหลือเกิน)




 

Create Date : 16 มีนาคม 2550   
Last Update : 1 เมษายน 2550 22:54:50 น.   
Counter : 1069 Pageviews.  


PaperCut Print Logger : ยามเฝ้าเครื่องพิมพ์...!?


|"ลุงไม้..."|123it.co.nr|เรื่องทั้งหมด|เรื่องที่แล้ว|เรื่องต่อไป|
ห้องคอมโดนยกเค้าหรือใครย้ายเครื่องไปติดตั้งที่อื่น เหล่านี้เฝ้าไม่ได้นะครับ
แต่ถ้าเป็นเครื่องพิมพ์หลักในระบบแลน ที่ใครต่อใครต้องสั่งพิมพ์ลงมาที่เดียวกัน โปรแกรมนี้จะรวบรวมข้อมูลมาให้เราตรวจสอบได้ ว่าสั่งพิมพ์มาจากเครื่องใหน วันเวลาใด จำนวนกี่แผ่น ไฟล์ชื่ออะไร ฯลฯ ตรงนี้มีประโยชน์ครับ เพราะสำนักงานต่างๆจะต้องตรวจสอบปริมาณการใช้กระดาษ กับปริมาณงานจริงๆที่ได้ และยังรวมไปถึงร้านอินเตอร์เน็ต ที่มีบริการรับพิมพ์งานจากเครื่องลูกค้าด้วย จะได้ตามคิดเงินได้ถูกเครื่องครับ

ในที่ทำงานผมนั้น สมัยก่อน คอม 1 เครื่อง ก็ต่อปริ๊นเตอร์ได้ 1 ตัว เครื่องใหนไม่มีปริ๊นเตอร์ ก็ต้องเซฟใส่แผ่นมาปริ๊นท์ที่เครื่องอื่น พัฒนาการต่อมา ก็เกิดอุปกรณ์ที่ช่วยให้ ปริ๊นเตอร์ 1 ตัว สามารถรับสายเสียบจากคอมได้ 2 เครื่องก็มี 3 หรือ 4 เครื่องก็มี แต่ก็ยังระโยงระยางอยู่ดีครับ

ต่อมาได้พัฒนาระบบทั้งหมดเป็นระบบ LAN ก็จึงมีการ Share เครื่องพิมพ์ผ่านระบบแลน ทำให้ลดสายระเกะระกะไปได้มากโขทีเดียว จนปัจจุบัน ทางผู้จัดการได้สั่งซื้อเครื่องพิมพ์ตัวใหญ่เป็นแบบเลเซอร์ ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่กลางสำนักงาน คอมเกือบทุกเครื่อง ต้องสั่งพิมพ์ลงมาที่นี่ทั้งหมดเพียงจุดเดียว

เมื่อสั่งพิมพ์กันได้ง่ายๆ ปัญหาก็ตามมามากมายครับ เช่นการสั่งผิด ซึ่งหาตัวจับยากมาก ด้วยความเร็วของเครื่องพิมพ์ น้อยครั้งที่จะยั้งทันครับ บางทีสั่งพิมพ์กระดาษเปล่าออกมาเป็น 10 แผ่น ขึ้นไปถามว่าของใคร ก็พากันนั่งยิ้มหน้าสวยกันทุกรอบไป...

ผู้จัดการก็เลยเรียกเข้าไปนั่งปรึกษาว่า ขืนปล่อยไว้แบบนี้เห็นท่าจะบานปลาย เพราะวันๆไม่รู้ใครสั่งพิมพ์อะไรบ้าง บางคนนั่งดูดวง ก็สั่งพิมพ์ออกมาด้วย บางคนเจอรูปสวยๆ ก็สั่งพิมพ์ออกมา บ้างก็พิมพ์เนื้อเพลง บ้างก็พิมพ์คำกลอน บ้างก็พิมพ์ผิด ฯลฯ จะมานั่งนับกระดาษที่ใช้ไป แล้วไปเปรียบเทียบกับงานจริงๆที่ได้มา ก็ทำได้ยากมาก

ผมรับโปรเจ็คนี้มา แล้วก็มานั่งก๊อกๆแก๊กๆหน้าคอมส่วนตัว จำได้ว่าเคยผ่านๆตากับโปรแกรมประเภทที่เกี่ยวข้องกับปริ๊นเตอร์อยู่บ้าง เลยทดลองดาวน์โหลดลงมา 2-3 ตัว ลองไปลองมาก็ได้ตัวนี้ครับ ฟรีเป็นสำคัญ ใช้งานไม่ยาก ฟังก์ชั่นไม่มากมายเกินเหตุ ตามผมมาเลยครับ

1. ไปที่ //www.papercut.biz/products/free_software/print_logger/ ครับ คุณสมบัติตรงตามที่ผมต้องการเป๊ะเลย ฟรี 100% อีกต่างหาก ลองๆอ่านดูนะครับ ศัพท์ง่ายๆ แปลได้บ้างไม่ได้บ้าง เอาแค่จับใจความได้ก็พอแล้ว เลื่อนลงมากลางๆหน้าแล้ว Download ลงมาทันทีครับ

2. ไฟล์ที่ได้จะชื่อว่า papercut-print-logger.exe ก็สามารถดับเบิ้ลคลิก แล้วจัดการติดตั้งตามวิธีปรกติทั่วไปครับ

3. ในการสั่งพิมพ์งานในวินโดวส์นั้น ปรกติระบบจะเก็บประวัติเอาไว้ให้อยู่แล้ว เรียกว่าไฟล์ Log แต่ไฟล์ที่ว่านี้ อยู่ลึกลับเกินกว่าที่ผมจะเข้าไปตรวจสอบได้ ถึงจะผ่านตามาบ้าง แต่ก็ยังยากต่อการนำไปเสนอให้ผู้จัดการดูอยู่ดี โปรแกรม PaperCut? Print Logger ตัวนี้ จะเข้าไปอ่านไฟล์ Log ของระบบ แล้วนำมาแสดงผลให้สวยงามบน IE ที่เราใช้เข้าเว็บกันนี่แหละ

เมื่อต้องการดูประวัติการพิมพ์งาน ว่ามาจากเครื่องใหน ชื่อไฟล์อะไร พิมพ์ไปกี่แผ่น ก็เข้าไปที่เมนู Start / PaperCut Print Logger / View Print Logs ก็จะพบกับหน้าตาดังรูปนี้ครับ



จากรูป ผมใช้งานมา 2 วันแล้วครับ ซึ่งถ้าหากเปิดโปรแกรมไว้ก่อน แต่สั่งพิมพ์ทีหลัง ก็ให้คลิกที่ Refresh เพื่ออัพเดทการรายงานผลด้วยนะครับ

4. เมื่อต้องการดูประวัติการสั่งพิมพ์ ก็คลิกที่ View หรือคลิกที่วันที่ก็ได้ครับ จะได้หน้าจอประมาณนี้



5. ถ้าต้องการจะนับจำนวนแผ่น เพื่อเก็บเงินค่าพิมพ์ หรือเพื่อตรวจสอบปริมาณก็แล้วแต่ ให้คลิกที่ลิ้งก์ CSV/Excel ซึ่งแบ่งเป็นการรายงานเฉพาะวันที่เลือก หรือรายงานเป็นรายเดือนก็ได้ เมื่อคลิกแล้วจะได้หน้าจอนี้ครับ



ถ้าต้องการจะบันทึกเก็บไว้ ก็เลือก Save แต่ผมจะดูอย่างเดียว ก็เลือก Open ครับ

6. โปรแกรม Excel จะเสนอหน้าขึ้นมาครับ



คลิกที่ อ่านอย่างเดียว ครับผม

7. หน้าจอของโปรแกรม Excel จะเด้งวูบเข้ามาอยู่ใน IE อย่างแนบเนียนทันทีครับ



ทีนี้ก็เหมือนการทำงานบน Excel แล้วละครับ จะเลือก Sum หรือรวมว่าเครื่องใหนสั่งพิมพ์มากี่แผ่น ก็สามารถทำได้แล้ว จะเอาไปบวกลบคูณหารส่วนลดหรือโปรโมชั่นต่างๆ ก็พลิกแพลงกันไปได้ตามถนัดครับ ข้อเสียที่เห็นตรงนี้ก็คือ อ่านชื่อไฟล์ที่สั่งพิมพ์มาเป็นภาษาไทยไม่ได้เท่านั้นเอง สำหรับผมแล้วไม่เป็นปัญหาครับ เพราะรู้เครื่องที่สั่งมา รู้เวลาที่สั่งมา ก็สามารถย้อนรอยไปหาคนสั่งพิมพ์ได้แล้วละครับ

นับว่าโปรแกรมนี้ ถือเป็น Utility ตัวนึงที่เป็นประโยชน์สำหรับผมมากๆเลย เพราะสามารถสรุปรายงานไปโชว์ให้ผู้จัดการดูได้เลย ว่าเดือนๆนึงหมดกระดาษไปเท่าไร ได้เนื้องานเท่าไร

อ้อ...ตะกี้เห็นแว้บๆว่ามี User คนนึง เข้าเว็บดูดวงแล้วสั่งพิมพ์ลงมาอีกแล้ว ชื่อเว็บแสดงอยู่ในช่อง Document Name จะๆเลย เห็นทีจะต้องขึ้นไปกระซิบๆซะหน่อยละครับ ว่าที่ท่านสั่งพิมพ์ลงมานั้น ตอนสิ้นเดือน มันจะไปโชว์อยู่บนโต๊ะผู้จัดการด้วย อาจมีผลต่อโบนัสได้นะครับ...สวัสดีครับผม

หมายเหตุ...
ถ้าดาวน์โหลดจากเว็บของเจ้าของโปรแกรมไม่ได้ ผมเอามาฝากไว้ที่นี่ให้ดาวน์โหลดกันอีกที่ครับ //www.123it.co.nr มีลิ้งก์อยู่ท้ายๆเรื่องนะครับ




 

Create Date : 15 มีนาคม 2550   
Last Update : 6 กรกฎาคม 2550 18:12:00 น.   
Counter : 7403 Pageviews.  


เมื่อคลิกแล้วฟังเพลงไม่ได้ ลองวิธีนี้ดู

ต่อเนื่องกันมาจากเรื่อง //www.bloggang.com/viewdiary.php?id=loongmit&month=01-2007&date=28&group=7&blog=1 นะครับ
ผมลองนึกๆเล่นๆดูตามประสาคนคอมฯแบบผมดูแล้ว ไม่น่าเชื่อว่างานนี้ จะถูกผมนำมาเกี่ยวโยงกับคอมฯได้หลายๆเรื่อง นอกจากนั้นยังเลยเถิดไปอีกหลายๆเว็บด้วย เพราะต้องเข้าเน็ต ค้นหาโปรแกรม ค้นหาเพลง ฯลฯ สาระพัดครับ

นอกเรื่อง(แต่เกี่ยวกัน)สักนิด คือจากงานที่ผ่านมา เรื่องนึงที่วุ่นวายมากก็คือการบันทึกค่าใช้จ่ายต่างๆ พี่น้อง 4 คน คนนั้นซื้อบ้าง คนนี้ซื้อบ้าง บางทีคนโน้นซื้อแล้ว คนนั้นก็สั่งซ้ำอีก บางทีลืมจด โอ๊ยยย...เสร็จงานเอามานั่งล้อมวงคุยกัน แทบจะทะเลาะกันตาย

ผมเลยคิดว่า ถ้ามีงานอะไรก็แล้วแต่ในคราวหน้า ถ้าผมจะหิ้วโน้ตบุ๊คไว้คอยบันทึกซะเลย ง่ายๆก็อาจจะเอาเข้า Excel จะจ่ายจะรับเท่าไรเห็นยอดได้ในทันที ฮ่าๆ...คนเขาจะหาว่าผมบ้ามั้ยเนี่ย!!!

ขนาดว่างานที่ผ่านมา ผมยังโดนค่อนแคะจากผู้หวังดีบางคน ว่าเจ้าลูกเขยบ้านนี้ไม่เห็นมันทำอะไรเลย นอกจากถ่ายรูปอย่างเดียว...

อ้าว...แล้วกัน...ก็ถ่ายรูปนี่ครับ จะให้ไปวิ่งช่วยทำอะไรได้อีกล่ะ???

ไม่เป็นไรครับ ขอภูมิใจอยู่เบื้องหลังก็ได้ ก็คงมีแต่เราๆท่านๆเท่านั้นละครับ ที่รู้ว่า ตั้งแต่ขั้นตอนแรกคือเดินเก็บบรรยากาศภายในงาน จนกระทั่งเอาไปส่งร้านอัดรูป หรือทำเป็น VCD ไปเปิดดูกันได้นั้น โอ้...มันลำบากยากเย็นขนาดใหน

มีทั้งการเรียงลำดับภาพ ตัดต่อแต่งเติม ปรับแสง ใส่เพลง หาโปรแกรม (รวมไปถึงการเสี่ยงต่อไวรัสเพื่อหาซีเรียล) ฯลฯ

แต่ถึงอย่างไรก็เต็มใจทำอยู่ดีละครับ ได้ค้นคว้าศึกษาอะไรใหม่ๆอีกเยอะเลย และนี่ก็เป็นอีกสิ่งนึงที่ผมต้องใช้ คือมีบางช่วงบางตอนของ VCD ผมต้องการเพลงไทยเดิมเพราะๆสักเพลงสองเพลง โดยคิดไว้ในใจว่าต้องไม่เศร้าโหยหวนมากไปนัก เลยเข้าเน็ตเสิร์จหาและลองฟังไปเรื่อยๆ ก็ได้มาตามจุดประสงค์ครับ

เครื่องคอมฯตัวที่ผมใช้ ติดตั้ง Windows 2003 ด้วยความเป็น Server มันจึงค่อนข้างเน้นเรื่องความปลอดภัย ดังนั้นโปรแกรม IE ที่ติดมา จึงมักจะบล็อกนั่นบล็อกนี่อยู่เป็นประจำ ครั้นว่าจะเปิดล็อคออกซะ ก็เกรงว่าเวลาทำงานจะเป็นปัญหาได้ง่ายๆอีก เลยเลี่ยงมาใช้โปรแกรม Opera

แต่ Opera 9.10 เมื่อติดตั้งเข้ากับ Windows 2003 ก็ยังไม่สามารถทำงานได้ดั่งใจปราถนา เพราะการเปิดไฟล์เพลง บางครั้งต้องไปอิงกับ Windows Media Player ซึ่งก็ปรับแต่งกันยากเย็นเข้าไปอีก

คลิกไปคลิกมาจนได้วิธีลัด ถึงไม่ง่ายนักแต่ก็ฟังเพลงจนได้ ตามนี้ครับ

1. เข้าเว็บ //www.banphluang.com/ บ้านพลวง ศูนย์รวมเพลงไทยเดิมครับ อันนี้ต้องขอชมเชยผู้จัดทำด้วยว่า เป็นเว็บที่มีประโยชน์จริงๆครับ



2. จากหน้าแรก ผมต้องการเพลง "โหมโรงจีนดอกไม้" ก็คลิกเม้าส์ลงไปที่รายการเพลงครับ Opera จะเปิดหน้าใหม่ขึ้นมา



3. คลิกเม้าส์ขวาลงไปที่กลางๆหน้าที่เปิดขึ้นใหม่นี้ แล้วเลือกเมนู Source



4. ตอนนี้ Opera จะเปิดหน้า Source Code ซึ่งเป็นภาษาโปรแกรมที่สร้างหน้าฟังเพลงนั่นเองครับ



5. มองลงไปแถวๆกลางๆหน้านะครับ มองหาลิ้งก์ของไฟล์ที่มีนามสกุลเป็น .asx จากรูปจะเห็นอักษร jdm.asx ตัว jdm ก็น่าจะเป็น "จ ด ม" ซึ่งก็คือ "จีนดอกไม้" นั่นเองครับ หลักการก็ไม่มีอะไรมาก คือการเดา(แบบมีหลักเกณฑ์เท่านั้นเอง) เมื่อเจอแล้วก็คัดลอกลิ้งก์นี้มาครับ โดยเอาเฉพาะในเครื่องหมายคำพูดเท่านั้น



6. เปิดโปรแกรม Windows Media Player ขึ้นมาครับ คลิกที่เมนู File เลือก Open URL แล้ววางลิ้งก์ที่เราคัดลอกมาเมื่อตะกี้ลงไป



7. คลิก OK ครับ โปรแกรมจะเริ่มดาวน์โหลดข้อมูลลงมาสักครู่ จากนั้นก็สามารถฟังเพลงได้ทันทีครับ

8. ถ้าอยากจะบันทึกเอาไว้ เพื่อจะไว้ฟังทีหลัง หรือเพื่อจะเอาไปใช้ในโปรแกรมทำ VCD แบบผม ก็สามารถคลิกที่เมนู File เลือก Save AS จากโปรแกรม Windows Media Player นี้ได้เลยครับ

เรียบร้อยแล้วครับ เป็นอันว่าผมสามารถทดลองฟังและเลือกเพลงต่างๆได้โดยสะดวก ซึ่งวิธีการนี้ สามารถนำไปใช้แก้ปัญหาได้ในอีกหลายๆเว็บครับ เช่น บางเว็บอาจจะให้ฟังเพลงที่มีนามสกุลเป็น .mp3 หรือ .wma ก็สามารถใช้วิธีเดียวกันนี้แหละครับ วันนี้หมดเรื่องแค่นี้ละ...สวัสดีครับผม




 

Create Date : 17 กุมภาพันธ์ 2550   
Last Update : 17 กุมภาพันธ์ 2550 21:14:49 น.   
Counter : 1845 Pageviews.  


ตรุษจีน(กับเขาเหมือนกัน)17 ก.พ. 2550

ลาโน่นลานี่เสร็จแล้ว เลยมานั่งเปิดบล็อกแก้เหงาครับ

อันที่จริงก็ไม่ได้มีเชื้อจีนอะไรกับเขาหรอก ไม่ว่าจะตัวผมหรือภรรยาผม (ออกจะแนวๆภาคอิสานซะด้วยซ้ำ) แต่บังเอิญว่าอีตอนแต่งงานกับภรรยา(คนนี้คนเดียว) พ่อตาได้ยกห้องในตลาดให้ 2 ห้อง ซึ่งแต่เดิมท่านให้คนเช่า เป็นอาม่าแก่ๆกับลูกๆ เช่ามา 35 ปีแล้ว

พอผมกับภรรยาย้ายเข้ามาอยู่ หลายๆคนก็แนะนำว่า ประเพณีแบบจีนๆที่อาม่าแกเคยปฏิบัติเอาไว้ ผมกับภรรยาก็น่าจะสืบสานต่อไป เพราะบรรดาเจ้าที่เจ้าทางต่างๆที่เคยแวะเวียนเข้ามาปกปักรักษาบ้านนี้ เขาก็คงยังจะวนเวียนมาเป็นประจำทุกปี อาจจะไม่ได้มีใครไปแจ้งว่าบ้านนี้เปลี่ยนเจ้าของแล้ว ดังนั้น เพื่อความเป็นศิริมงคล ก็ควรจะปฏิบัติตามๆกันไป

(ไอ้)กระผมมันคนยุคไอทีครับ ชอบแต่จะนอนดึกๆ (เพราะเน็ตมันเร็วและเสถียรมากตอนดึกๆ) แต่ถึงอย่างไร วันนี้ก็ต้องถูกลากลงจากเตียงเมื่อตอนตี 5 ส่วนภรรยาสุดที่รักนั้น ลงมาตระเตรียมข้าวของตั้งแต่ตี 3 แล้ว

บ้านผมจะมีพิธีอยู่ 3 จุดครับ คือ

1. ในบ้าน จะมีศาลเล็กๆ(ไม่รู้ว่าเรียกว่าอะไรเหมือนกัน) ตรงนี้ก็จัดวางของไหว้ไวพอประมาณ อันนี้ไหว้บรรดาท่านๆที่ปกปักรักษาอยู่ภายในบ้าน

2. นอกบ้าน ก็ตั้งโต๊ะ วางของไหว้ไว้พอประมาณอีกเช่นกัน เห็นเขาบอกกันว่า ตรงนี้ไหว้บรรดาวิญญาณพเนจรทั้งหลาย ซึ่งว่ากันว่า หากท่านๆเหล่านั้นได้กินของเรา ก็จะช่วยเป็นหูเป็นตาให้เราได้อีกแรงนึง

3. อันนี้พิเศษครับ คือลากเก้าอี้เล็กๆไปวางผลไม้ กับข้าว และข้าวสำหรับตักบาตรให้กับพระสงฆ์ ซึ่งจุดหน้าบ้านผมนี้พระจะผ่านมา 2 วัด วัดละ 2 รูป

พอเทียนบนโต๊ะมอดลงหมด ก็เผากระดาษเงินกระดาษทองต่างๆ แล้วก็ลาข้าวของเข้าบ้าน ซึ่งลูกศิษย์(คือผม)รออยู่ก่อนแล้ว


คว้ากล้องไปจับภาพมาได้ 3-4 ภาพ เลยเอามาอวดกันเล่นๆครับ









ขออนุญาตไปทำหน้าที่ลูกศิษย์ที่ดีก่อนนะครับ สวัสดีครับผม




 

Create Date : 17 กุมภาพันธ์ 2550   
Last Update : 17 กุมภาพันธ์ 2550 9:12:59 น.   
Counter : 761 Pageviews.  


1  2  3  

mitrapap
 
Location :
สระบุรี Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 18 คน [?]




Free Domain Names @ .co.nr!
[Add mitrapap's blog to your web]

MY VIP Friend

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com