สาแหรกตระกูล
"เมื่อลืมรากเหง้า...ก็เผาแผ่นดิน" ผมได้อ่านหรือได้ยินข้อความนี้นานแล้ว... แต่จำไม่ได้หรอกครับว่าได้อ่านหรือว่าได้ยินจากที่ใด เพียงแต่ให้นึกว่า บรรพบุรุษของเราได้สร้างได้สร้างบ้านแปลงเมืองมาแต่ครั้งโบราณ เราได้เรียนรู้จากประวัติศาสตร์ที่มีทั้งความภาคภูมิ ความภูมิใจ รวมถึงความเจ็บปวด ที่บรรพบุรุษเราได้เผชิญมา เด็กรุ่นหลังหากไม่ได้รู้ถึงความเสียสละเหล่านั้น ก็คงจะทำลายแผ่นดินที่ท่านสู้อุตส่าห์สร้างขึ้นมาด้วยเลือดเนื้อ ด้วยชีวิต ด้วยกำลังความสามารถจนสิ้น แม้ครอบครัวผมจะได้ไม่ได้เป็นครอบครัวที่มีความสลักสำคัญในประวัติศาสตร์เลยแม้น้อย แต่ผมก็อยากจะรู้จักครอบครัว และญาติพี่น้องที่เป็นคนในตระกูลเดียวกัน มีบรรพบุรุษร่วมกัน แม้ว่าปัจจุบันจะแยกย้ายกันไปประกอบอาชีพอยู่ในที่อื่นๆ และไม่ค่อยจะได้พบกันนัก แต่ก็ยังนับได้ว่าเป็นญาติกันอยู่ดี ตั้งแต่สมัยโบราณมา การนับสืบว่าคนคนหนึ่งเป็นลูกใครหลานใคร ก็ต้องตามว่าพ่อชื่ออะไร ปู่ชื่ออะไร ซึ่งปัจจุบันก็ยังมีให้ได้ยินอยู่ เช่น นี่ไอ้แดง ลูกลุงดำ หลานปู่เขียว คนไทยมามีนามสกุลใช้ครั้งแรกตั้งแต่สมัยรัชกาลพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๖ แห่งพระบรมราชจักรีวงศ์ เพื่อให้คนไทยได้รู้ว่า ตนเองเป็นลูกหลานใคร สืบเชื้อสายมาจากผู้ใด เพื่อจะได้ไม่หลงลืมกันในอนาคต ในต่างจังหวัด เมื่อมีการจดทะเบียนนามสกุล ก็จะมีผู้ที่เป็นนายทะเบียนแต่ละท้องถิ่นตั้งให้ ซึ่งก็จะเป็นเอกลักษณ์ของแต่ละท้องถิ่นไป ถ้าเจ้าของนามสกุลพอจะมีความรู้บ้าง ก็คิดนามสกุลขึ้นเอง โดยอาจจะเอาจากชื่อปู่ย่าตายายมาผสมกัน แล้วตั้งเป็นนามสกุล นามสกุล "ศิริ" เป็นนามสกุลที่สืบต้นตระกูลได้สกุลหนึ่ง โดยต้นสกุลเป็นคนลาวมีชื่อว่า "ท้าวชัยราช วงศ์ศิริเนตร" (สงสัยจังว่าคนลาวมีนามสกุลใช้ก่อนคนไทยหรือเปล่า) ท้าวชัยราช แต่งงาน (กับคนไทยหรือคนลาว?) และมีบุตรธิดาหลายคน กระจายอยู่ในอำเภอเขื่องใน จังหวัดอุบลราชธานี บางส่วนอาศัยอยู่ในจังหวัดนครพนม และกระจายอยู่ตามริมโขง ลูกหลานของท่านสายที่ว่านี้ มักจะใช้นามสกุล "วงศ์ศิริ" สืบต่อกันมา ลูกของท่านคนหนึ่ง แต่งงานมีครอบครัว และตั้งครอบครัวอยู่ที่บ้านบ้านหม้อแดง และบ้านแดงหม้อ อันเป็นที่ตั้งปัจจุบันของหมู่บ้าน อยู่ในตำบลแดงหม้อ อำเภอเขื่องใน จังหวัดอุบลราชธานี ลูกชายของท้าวชัยราชคนนี้ชื่อ "มา" นายมา ได้สมรสกับนางดา สายเสมา มีบุตรธิดาด้วยกัน ๘ คน โดยทั้ง ๘ คนใช้นามสกุลศิริในเบื้องต้น ลูกสาวเมื่อแต่งงานมีครอบครัวก็ได้เปลี่ยนไปใช้นามสกุลสามี ส่วนลูกชายก็ได้ใช้นามสกุลศิริสืบมา ยกเว้น นายบุญมา ได้เปลี่ยนกลับไปใช้นามสกุล "วงศ์ศิริ" ดังเช่นญาติพี่น้องที่อาศัยอยู่ที่อื่น บุตรธิดาทั้ง ๘ คนของนายมา และนางดา แต่งงานมีครอบครัวและมีบุตรหลานสืบต่อกันมามากมาย ในหลายสกุล ซึ่งลำดับได้ดังนี้ +++++โปรดติดตามตอนต่อไป+++++
Create Date : 02 กุมภาพันธ์ 2553 |
Last Update : 30 มีนาคม 2553 13:52:42 น. |
|
2 comments
|
Counter : 1573 Pageviews. |
|
|