Group Blog
 
All blogs
 
lovE-lovE ตอนที่ 28

ลิลลี่มีอาการเหงาซึมบ้าง เพราะวันๆ นอกจากงานบ้านเล็กๆ น้อยๆ แล้วเธอก็ไม่มีอะไรทำอีก จะออกไปข้างนอกลำพังก็กลัวกลับไม่ถูก ขณะที่โรสและเวรุตต่างออกไปทำงานกันตั้งแต่เช้า และกลับเข้าบ้านจวนมืด ช่วงหัวค่ำจึงเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดของวัน เพราะทุกคนอยู่กันพร้อมหน้า หลังมื้ออาหารก็เป็นละครหลังข่าว ซึ่งเธอกลับมาติดงอมแงมได้อีกในเวลาอันรวดเร็ว ทำให้รู้สึกเพลินไปได้มากทีเดียว

วินระวีเก็บตัวอยู่ในห้องแทบทั้งวันมาเป็นอาทิตย์ นับตั้งแต่ได้รับอนุญาติให้กลับบ้านได้ เขาไม่ยอมพบหน้าใคร และแทบจะไม่ทานอาหาร จนคุณรัศมีต้องตามเวรุตมาดู เพราะพูดจนไม่รู้จะพูดยังไง ลูกชายก็ยังดื้อเก็บตัวตัดขาดจากโลกภายนอกอยู่อย่างนั้น

"มาแล้วเหรอเว ขึ้นไปดูน้องที แม่พูดเท่าไหร่ก็ไม่ฟัง" คุณรัศมีว่าด้วยอาการร้อนใจ

"ผมจะพาวินไปอยู่ที่บ้านผม แม่ไม่ต้องห่วงนะครับ"

"จะดีเหรอลูก? แล้วใครจะช่วยดูแลวินล่ะ"

"ก็ลี่ไงครับ สองคนนั้นเคยอยู่ด้วยกันมาพักใหญ่ อาจจะช่วยกระตุ้นความทรงจำลี่ได้ด้วย"

"ลองดูก็ได้ แม่ก็จนปัญญาแล้ว นี่พ่อเขาไปเยี่ยมคุณปู่ที่เชียงใหม่ แม่ยังไม่กล้าตามไปเลย"

"ไปเถอะครับ ถือว่าไปพักผ่อนด้วย ทางนี้ผมจะดูแลให้เองนะครับ"




"แกอยู่ในนี้ได้ยังไงทั้งวัน ทั้งมืดทั้งอับ" เวรุตเห็นสภาพทรุดโทรม หนวดเคราขึ้นเต็มแล้วไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง วินระวีอาจไม่ใช่คนสำอาง หากแต่เขาก็ไม่เคยเห็นน้องชายในสภาพซกมกขนาดนี้

"ถึงพี่จะเปิดไฟ เปิดหน้าต่าง ผมก็ไม่รู้สึกดีขึ้นหรอก" ชายหนุ่มยังคงนั่งนิ่งอยู่บนที่นอน

"แกยังมีโอกาสมองเห็นนะวิน คนที่เขาเป็นมากกว่านี้เขาก็ยังอยู่มาได้" เวรุตว่าปลอบ พลางเปิดกระเป๋าเสื้อผ้าวางไว้บนเตียง แล้วขนเสื้อผ้าน้องชายยัดใส่เข้าไปแบบลวกๆ โดยที่เจ้าตัวไม่รู้ว่าพี่ชายกำลังทำอะไร

"ลี่ สบายดีใช่ไหม?"

"แกคิดถึงเขา ทำไมไม่ไปหา" เวรุตว่าอย่างรู้ทัน หากแต่อีกฝ่ายยังคงปากแข็ง

"ผมก็แค่ถาม ในฐานะคนที่ต้องประสบชะตากรรมเดียวกัน"

"สภาพลี่ก็ไม่ต่างจากแกหรอก วันๆ ขังตัวเองอยู่บ้านคนเดียวทั้งวัน ฉันกับโรสต้องออกไปทำงาน กว่าจะกลับก็มืดค่ำ" เวรุตว่าไป เดินเก็บข้าวของไปเรื่อยๆ

"ทำไมพี่ไม่หาคนไปอยู่เป็นเพื่อน"

"แกถามตัวเองดีกว่า ถ้าแกอยากมีเพื่อน ทำไมแกไม่ออกไปข้างนอก" เวรุตย้อนให้

"มันต่างกันนี่ ลี่มองเห็นแต่ผมมองไม่เห็น"

"ใช่ แต่แกจำได้ทุกคน ส่วนลี่ไม่รู้จักใครซักคน และคงรู้สึกอึดอัดที่ต้องอยู่กับคนแปลกหน้า"

"มันเป็นหน้าที่พี่นี่ ที่ต้องดูแลลี่ให้ดี"

"แล้วก็เป็นหน้าที่ฉันอีกเหมือนกันที่ต้องดูแลแกให้ดี เพราะแกเป็นน้องฉัน ไปแต่งตัวได้แล้ว ฉันจะพาไปหาหมอ" เวรุตว่าแล้วโยนเสื้อกับกางเกงให้

"หมอนัดวันนี้เหรอ? ผมไม่อยากไป"

"ฉันจะลงไปรอข้างล่าง ถ้าไม่รีบตามไป ฉันจะขึ้นมาเต๊ะก้นแก ฉันไม่ว่างมานั่งเอาใจแกทั้งวันเหมือนแม่นะจะบอกให้" ว่าแล้วก็เดินออกจากห้องไปพร้อมกระเป๋าเสื้อผ้า



"เป็นไงบ้างลูก?" คุณรัศมีถามเมื่อเห็นเวรุตลงมาจากชั้นบน

"เรียบร้อยครับ อีกเดี๋ยวคงตามลงมา" เวรุตยิ้มกว้างแล้วให้คนเอากระเป๋าไปใส่ไว้ในรถ

"โชคดีนะที่มีเว วินไม่ยอมฟังใครเลย" คุณรัศมีถอนใจโล่งอก

"แล้วแม่จะไปเชียงใหม่เมื่อไหร่ครับ ผมจะให้เลขาจัดการเรื่องตั๋วให้"

"ถ้าทุกอย่างเรียบร้อย แม่คิดว่าจะไปพรุ่งนี้เลย"



"งั้นผมพาวินไปเลยนะครับแม่" เวรุตโน้มลงหอมแก้มคุณรัศมี ก่อนจะเดินเข้าไปหาน้องชายที่ค่อยๆ คลำทางลงมาถึงเชิงบันได

"ฝากน้องด้วยนะลูก" คุณรัศมีเดินตามมา เพื่อไปส่งทั้งสองที่หน้าประตูบ้าน แล้วหันไปจับมือวินระวี

"ดูแลตัวเองให้ดีนะลูก"

"ผมแค่ไปหาหมอนะครับแม่ ไม่ได้ไปออกรบ" วินระวีว่าขันๆ

"ก็แม่เป็นห่วงนี่นะ" คุณรัศมียิ้มออกมาได้ เมื่อเห็นรอยยิ้มของลูกชาย





ลิลลี่กำลังเตรียมอาหารกลางวัน เมื่อรถเวรุตแล่นเข้ามาจอดภายในบริเวณบ้าน หญิงสาวประหลาดใจเล็กน้อย คิดว่าเขาคงลืมอะไรไว้ จึงละมือจากงานที่ทำอยู่

"ลืมอะไรหรือเปล่าคะเว" ลิลลี่เอ่ยทักก่อนเห็นว่าเขาไม่ได้มาคนเดียว ส่วนวินระวีชะงักเท้าไปทันทีที่ได้ยินเสียงอ่อนหวานคุ้นหูนั้น และเพิ่งรู้ว่าถูกหลอกเสียแล้ว ใจเขาเริ่มเต้นรัวราวมีชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง

"ขอโทษค่ะ ลี่ไม่รู้ว่าคุณพาแขกมาด้วย"

"ไม่ใช่แขกหรอกลี่ ถึงตอนนี้หน้ามันจะเหมือน" เวรุตว่าขำๆ จนอีกฝ่ายยกมือขึ้นลูบหนวดเคราตัวเองโดยไม่รู้ตัว

"นี่วินระวี น้องชายผมเอง"

"สวัสดีค่ะ" ลิลลี่ยกมือไหว้ยิ้มทักทาย

"สวัสดีครับ" วินระวีทักกลับ ลิลลี่หันมองเวรุต เมื่อสงสัยว่าทำไมวินระวีไม่มองหน้าเธอ เวรุตจึงต้องสงสัญญาณบอกให้รู้เขามองไม่เห็น

"เข้าไปคุยกันข้างในดีกว่า" เวรุตกระตุกแขนน้องชายให้เดินต่อไปที่โซฟาข้างสระน้ำ

"ลี่ไปหาเครื่องดื่มให้นะคะ" หญิงสาวว่าแล้วผละไป



"พี่พาผมมาที่นี่ทำไม" วินระวีถามทันที ที่รู้สึกว่าลิลลี่ไม่ได้อยู่ในบริเวณนั้นแล้ว

"แม่จะไปเชียงใหม่พรุ่งนี้ ไม่มีใครดูแลแก ฉันก็ต้องพามานี่น่ะสิ"

"ผมอยู่คนเดียวได้ ผมจะกลับบ้าน" วินระวีว่าเสียงแข็ง

"งั้นแกรออยู่นี่ก่อน ฉันจะไปเข้าห้องน้ำ ออกมาแล้วจะพาไปส่ง" เวรุตว่าแล้วเดินเข้าครัวไปทันที รู้ดีว่าหากเขาขอให้อยู่วินระวีคงไม่ฟังเสียง



"ลี่กำลังจะยกน้ำออกไปให้ค่ะ" ลิลลี่ว่าเมื่อเห็นเวรุตโผล่เข้ามา

"เอาไว้ก่อนเถอะ ผมมีเรื่องจะขอร้อง" เวรุตว่าแล้วดึงมือหญิงสาวมานั่งตรงโต๊ะเตรียมอาหาร

"มีอะไรคะเว" ลิลลี่เห็นท่าทางเขาดูจริงจังจนผิดสังเกต

"น้องชายผมเพิ่งถูกผู้หญิงทิ้ง แถมมาประสบอุบัติเหตุตาบอดอีก ตอนนี้สภาพจิตใจเขาแย่มาก พ่อแม่ผมไปเชียงใหม่เลยไม่มีใครดูแล ถ้าผมจะให้วินมาอยู่กับเราซักระยะ ลี่จะว่ายังไง"

"โธ่เว! เรื่องแค่นี้เอง คุณยังยอมให้ลี่พาพี่โรสมาอยู่ที่นี่ ลี่จะว่าคุณได้ยังไงคะ ไม่ต้องห่วงนะคะ ลี่จะช่วยดูแลเขาเอง"

"ลี่น่ารักที่สุดเลย อ้อ อย่าบอกวินนะว่าผมเล่าเรื่องเขาให้ลี่ฟัง"

"ค่ะ"

"ผมกลับไปทำงานต่อละนะ" เวรุตว่าก่อนจะย่องออกจากบ้านไป



"เสร็จแล้วใช่ไหมเว" วินระวีถามหัวเสียเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าเข้ามาใกล้ พร้อมๆ กับเสียงสตาร์ทเครื่องยนต์

"เวกลับไปทำงานแล้วล่ะค่ะ" ลิลลี่ว่าพลางวางน้ำเย็นไว้ตรงหน้าชายหนุ่ม

"ว่าไงนะ จะมาทิ้งผมไว้ที่นี่ได้ยังไง" วินระวีลุกขึ้นหันรีหันขวาง ก้าวเท้าเร็วๆ จะตามออกไป หากแต่เขาเองก็ไม่คุ้นกับบ้านหลังนี้ ไม่เคยเห็นมาก่อนด้วยซ้ำ

"อย่าไปทางนั้นค่ะ!" ลิลลี่ร้องเตือน แต่ไม่ทันเสียแล้ว ชายหนุ่มก้าวหล่นตูมลงใปในสระน้ำ ลิลลี่ยกมือขึ้นปิดปากกลั้นหัวเราะด้วยความสงสาร

"ไม่เป็นอะไรใช่ไหมคะวิน" ลิลลี่ถามปนเสียงหัวเราะ ขณะช่วยคว้าจับตัวชายหนุ่มไว้ เสียงใสๆ นั้นทำให้เขานึกอยากแกล้งเธอขึ้นมาบ้าง

"ถ้าอยากรู้ก็ต้องลองดูเองนะ" วินระวีดึงมือหญิงสาวจนร่วงลงมาในสระ ลิลลี่แกล้งเอาคืนโดยการแอบดำน้ำหนีไปยืนเงียบๆ อีกฝั่ง ขณะที่วินระวีเริ่มรู้สึกไม่ดี ที่หญิงสาวหายไปเลย

"ลี่!" ชายหนุ่มร้องเรียก แต่ไร้เสียงตอบรับ

"ลี่!" เขาดำน้ำลงไปควานหาในความมืดมิด ดำผุดดำว่ายอยู่หลายครั้ง ด้วยท่าทางร้อนรนจนอีกฝ่ายเริ่มยืนเฉยไม่ไหว รู้สึกผิดอย่างแรงที่แกล้งเขาแบบนั้น

"ฉันอยู่นี่" ลิลลี่ว่ายเข้าไปหาแล้วร้องบอก

"ไม่เป็นไรใช่ไหม!" วินระวีดึงหญิงสาวเข้ามากอดแนบแน่น รู้ว่าหากเกิดอะไรขึ้นกับเธออีก เขาคงทนไม่ได้ ลิลลี่ตกใจไม่น้อยกับการแสดงออกของชายหนุ่ม และเหมือนเขาจะรู้ตัว

"ถ้าคุณเป็นอะไรไป เวต้องไม่ยกโทษให้ผมแน่" วินระวีว่าพร้อมกับคลายอ้อมแขนออก แล้วตะเกียดตะกายขึ้นจากขอบสระ ปล่อยให้ลิลลี่ยืนงงอยู่อย่างนั้น



"ฉันขอโทษนะคะที่แกล้งคุณแบบนั้น คุณคงตกใจแย่" ลิลลี่ขึ้นจากน้ำแล้วมายืนต่อหน้าชายหนุ่ม ที่ยังนั่งไร้เรี่ยวแรงอยู่ตรงขอบสระ

"ผมผิดเองแหละที่แกล้งคุณก่อน"

"เป็นเพราะฉันต่างหากที่กลั้นหัวเราะไม่อยู่"

"ถ้าจะสาวความกันจริงๆ คงเป็นความผิดของเวที่เอาผมมาปล่อยไว้ที่นี่" วินระวีว่าด้วยรอยยิ้ม

"ผมอยากเปลี่ยนเสื้อผ้า"

"ก็ลุกสิคะ เดี๋ยวฉันหิ้วกระเป๋าให้" ลิลลี่เดินไปคว้ากระเป๋าที่โซฟา ขณะที่ชายหนุ่มเดินเงอะๆ งะๆ ไม่รู้จะไปทางไหน

"ทางนี้ค่ะ" ลิลลี่เดินกลับไปจูงมือเขา สัมผัสจากฝ่ามือให้ความรู้สึกอบอุ่นได้อย่างประหลาด วินระวีรู้ดีว่าเพราะเหตุใด ส่วนหญิงสาวได้แต่เก็บงำไว้ในใจ

"ห้องคุณอยู่ทางขวาสุดนะคะ" ลิลลี่ปล่อยมือชายหนุ่มแล้วรีบเดินไปเปิดประตู เมื่อทั้งสองขึ้นมาถึงชั้นบน

"ลี่อยู่ไหน" วินระวีคลำผนังด้วยมือข้างหนึ่ง เดินเลาะไปเรื่อยๆ

"อยู่นี่ค่ะ เดินตรงมาเลย" ลิลลี่ส่งเสียงนำทางอยู่หน้าประตู จนอีกฝ่ายเดินมาถึง

"ห้องคุณน่าอยู่เหมือนกันนะ หน้าต่างรอบเลย" ลิลลี่ว่าพลางรื้อหาเสื้อผ้าในกระเป๋าออกมา

"มันก็มืดอยู่ดี"

"่ใช่ใจมองสิคะวิน นี่ค่ะเสื้อผ้า เปลี่ยนเสร็จแล้วฉันจะหาอะไรให้คุณทาน" ลิลลี่ว่าแล้วออกจากห้องไป

วินระวีทิ้งตัวลงบนที่นอนพลางคิดว่าหญิงสาวก็ยังน่ารักไม่เปลี่ยน แต่ยังไงเขาและเธอก็คงไม่มีวันกลับมาเป็นเหมือนเดิม





เวรุตกลับมาถึงออฟฟิสจวนเที่ยง คิดว่าจะชวนโรสออกไปทานกลางวันด้วยกัน แต่พอเปิดประตูห้องทำงานเข้าไป ปรากฏว่าเทวินทร์นั่งคุยกับหญิงสาวอยู่ก่อนแล้ว

"ฉันไม่ยักรู้ว่าแกมีธุระที่นี่ด้วย" เวรุตว่าเหน็บ

"ก็แค่จะมาชวนโรสออกไปทานข้าว" เทวินทร์หันมองแล้วบอกเสียงเรียบเฉย

"แกจะไม่ล้ำเส้นไปหน่อยเหรอ?" เวรุตเริ่มแสดงความไม่พอใจออกทางน้ำเสียง

"แม่ของฉันกับโรสไฟเขียวให้เราสองคนเดทกันแล้วนี่ แกมีปัญหาอะไรหรือเปล่า" เทวินทร์ถามกลับด้วยท่าทางยั่วโมโห

"ไปกันเถอะค่ะ ฉันหิวแล้ว" หญิงสาวลุกขึ้นยืนเพื่อยุติการสนทนาของทั้งสองฝ่าย ทั้งที่เธอเพิ่งปฏิเสธเทวินทร์ไปยกๆ ก่อนที่เวรุตจะมาถึง

"ขอบใจนะ" เทวินทร์ตบไหล่เพื่อน แล้วเดินยิ้มตามโรสออกไป

เวรุตมองตามทั้งสองด้วยอารมณ์ขุ่น ไม่คิดว่าโรสจะเล่นไม้นี้กับเขา



"ไหนคุณบอกว่าจะจัดการเรื่องนี้ให้เร็วที่สุด แล้วทำไมกลายเป็นอย่างนี้ไปได้" เทวินทร์ทวงถามสิ่งที่เคยพูดคุยกับโรส ขณะทั้งสองนั่งอยู่ด้วยกันในร้านอาหาร

"ลี่กลับมาแล้ว แล้วเวก็เลือกลี่" โรสบอกกล่าวด้วยน้ำเสียงเศร้า

"ผมนึกว่าคุณกับเวรักกันเสียอีก"

"คนรักกันคงไม่ทำกันแบบนี้หรอก จริงไหม"

"แล้วคุณจะทำยังไงต่อไป"

"ฉันมีงานต้องสะสาง ช่วงนี้เราก็แกล้งเดทกันไปก่อน งานเสร็จเมื่อไหร่ ฉันจะเป็นฝ่ายบอกเลิกคุณเอง ฉันจะไปจากที่นี่"

"คุณไม่ต้องทำถึงขนาดนั้นก็ได้มั้ง"

"ฉันไม่ได้ทำเพื่อใคร ฉันทำเพื่อตัวเอง"

"จะให้ผมช่วยอะไรก็บอกได้นะ ผมยินดี"

"อย่าเอาเรื่องนี้ไปบอกใครนะคะ ฉันอยากให้มันจบ เหมือนว่าไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น"

"ผมรับปาก"

"ขอบคุณค่ะ"

เทวินทร์มองว่าเรื่องนี้คงไม่จบง่ายอย่างที่หญิงสาวคาดการณ์ เพราะดูจากปฏิกิริยาเวรุตแล้ว คงไม่มีวันปล่อยเธอไปง่ายๆ เขารู้นิสัยเพื่อนคนนี้ดี และเมื่อย้อนดูปัญหาตัวเขาเองกับพัดชา ก็ทำให้ชายหนุ่มถึงกับถอนหายใจ ไม่คิดว่าอะไรๆ ที่กำลังจะไปได้สวย กลับต้องมีเหตุให้สะดุดอีกจนได้
























Create Date : 11 ธันวาคม 2554
Last Update : 13 ธันวาคม 2554 21:53:22 น. 9 comments
Counter : 282 Pageviews.

 
ไฟแรง เครื่องร้อน อัตราเฉลี่ยสองวันตอน


เฮ้อคนหนึ่งตาบอด อีกคนความจำเสื่อม หารครึ่ง ยังดีกว่าแฝดของพ่อสองตันนิ..เหมาหมด


โดย: Pa_Stang วันที่: 11 ธันวาคม 2554 เวลา:19:58:35 น.  

 
ถ้าให้เหมาหมดเดี๋ยวท่านผู้ชมงง นึกว่าอ่านเรื่องเดียวกันค่ะ

เครื่องร้อนตอนใกล้จบค่ะ

เรื่องหน้าสัญญาว่าจะไม่มีบอด ไม่มีเสื่อม และไม่มีแฝด ค่ะ


โดย: Kim-Ha วันที่: 11 ธันวาคม 2554 เวลา:20:04:57 น.  

 
คนอ่านความจำในอดีต OK ความจำประเดี๋ยวนี้ไม่ OK รับรองไม่งงคะ


โดย: Pa_Stang วันที่: 11 ธันวาคม 2554 เวลา:20:11:44 น.  

 
แสดงว่าวัยนี้เล่นมุขเดิมได้เรื่อยๆ

ยังไม่ได้ไปส่อง twilight ภาคใหม่เลยค่ะ phantom ก็อยากดู มัวแต่ยุ่งอยู่กับสอง ว มาสองวันแล้วค่ะ


โดย: Kim-Ha วันที่: 11 ธันวาคม 2554 เวลา:20:19:49 น.  

 
อีกหนึ่งเวอร์ชั่นค่ะ



โดย: Kim-Ha วันที่: 11 ธันวาคม 2554 เวลา:20:33:44 น.  

 
วันนี้เหนือหนาวแล้วคะ ยามเที่ยงยังเย็นยะเยือกอยู่เลย กทม.เย็นละยังคะ หนูเปรมอยู่เกาะสบาย...เจอแต่ลมทะเลไม่เจอะลมหนาว..ไหม๊


อาทิตย์ต้องย้ายห้องเรียนไปเชียงใหม่ ซ้อมหนาวไว้ก่อน ฮุฮุ


โดย: Pa_Stang IP: 115.67.89.20 วันที่: 12 ธันวาคม 2554 เวลา:12:24:18 น.  

 
พี่หญิง + พี่ตังค์ ((((((( คิดถึง ))))))

หลังเอาโน๊ตบุ๊คไป รพ. กลับมา 1 อาทิตย์ก็ไม่ได้เปิดใช้เลย...เคลียร์งานพอกหางอึ่ง แบบหน้ามืดกันเลยทีเดียว...เฮ้อ

เมื่อวานเข้าบ้านตัวเองได้ กำลังจะเข้ามาเยี่ยมพี่ๆ ดันเข้าไม่ได้ซะงั้น
น้องเบื่อกะเน็ตหอยทากมั่กๆ ค่ะ...เมื่อไหร่จะพัฒนาเป็น 10 Mb ซะทีนิ! (ฝันไปก่อน )

อ่านถึงตอนไหนก็จำไม่ได้แล้วอะพี่หญิง...ช่วงนี้สมองคิดหลายเรื่องเกิ๊น!!!
เด๋วค่อยกระดึ๊บไปย้อนศรอ่านต่อล่ะกัน...เค้าตาบอด สมองเสื่อมกันตอนไหน ไม่ได้มาเป็นพยานให้เลย

ที่เหนือหนาวมากไหมคะพี่ตังค์....ที่ทะเลไม่ต้องพูดถึง...อากาศหนาวไม่เท่าไหร่
แต่ลมแรงพัดโบก แทบตัวปลิวเนี๊ยะซิคะ...ที่น้องเซ็งมากๆ แสบตาเลยค่ะ นั่งโดนลมเต็มๆ


โดย: Wonderfulmoon วันที่: 12 ธันวาคม 2554 เวลา:13:02:29 น.  

 


น้องเอารูปเมื่อวาน ก่อนที่น้องจันทร์แจ่ม ถูกพี่ราหูกลืนกินไปทั้งดวงมาให้ยลค่ะ...สวยไหมเอ่ย?

แต่ช่วงเป็นน้องจันทร์แรม อย่าดูเลยค่ะ...แทบมองไม่เห็นอ่ะค่ะ

ปล. พี่หญิง พี่ตังค์...ส่ง sms เบอร์โทรมาให้น้องใหม่ได้ไหมคะ
พอดีเอาเครื่องโทรฯไปลงโปรแกรมใหม่...ข้อมูลหายเกลี้ยงไปหมดแล้ว...โทรหาใครไม่ล่ายยยย



โดย: Wonderfulmoon วันที่: 12 ธันวาคม 2554 เวลา:13:21:44 น.  

 
เย็นงั้นค่ะพี่ตังค์ น้องเปรม กำลังสบายเลยค่ะ

พี่ออกไปส่องกบรับประทานเดือนเหมือนกัน แว้บๆ ที่หน้าต่างห้องนอน

อิจฉาคนได้เที่ยวค่ะพี่ตังค์ ปีนี้สงสัยจะได้อยู่เฝ้าเรือนยังไงไม่รู้ อิอิ

เบอร์โทรพี่หญิงคือ 089-158xxxx

เดี๋ยวส่งหลังไมค์ไปให้นะจ๊ะ


โดย: Kim-Ha วันที่: 12 ธันวาคม 2554 เวลา:13:49:37 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Kim-Ha
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




จิ้นกระจาย ^^


Smileymissmynovel@gmail.com






Friends' blogs
[Add Kim-Ha's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend


 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.