Group Blog
 
All blogs
 
loVe-loVe ตอนที่ 27

วินระวีและลิลลี่ถูกส่งตัวไปรักษาต่อที่กรุงเทพ ท่ามกลางความตื่นตระหนกของครอบครัวทั้งสองฝ่าย ชายหนุ่มขอร้องให้เวรุตและพ่อแม่ปิดเรื่องที่ตนลักพาหญิงสาวไปเป็นความลับ เพราะนี่เป็นโอกาสแล้วที่จะทำให้ทุกอย่างย้อนกลับไปยังจุดเริ่มต้น โดยหารู้ไม่ว่าความสัมพันธ์ระหว่างเวรุตและโรสนั้นก้าวมาไกลเกินกว่าจะหันหลังกลับเสียแล้ว

หากแต่สถานการณ์กดดันในตอนนี้ ทำให้เวรุตไม่สามารถปฏิเสธความรับผิดชอบที่มีต่อลิลลี่ได้ ทั้งเขายังเคยรับปากไว้กับพ่อแม่ของหญิงสาวว่าจะรอเธอกลับมา เขาจึงอยู่ในสภาวะน้ำท่วมปาก กลืนไม่เข้าคายไม่ออก ได้แต่หวังว่าซักวันลิลลี่จะฟื้นความทรงจำ และวินระวีจะมีโอกาสมองเห็นอีกครั้ง เขาเชื่อว่าทั้งสองมีใจให้กัน ห่วงแต่ปัญหาเฉพาะหน้านี้ โรสคงไม่มีวันเข้าใจสภาพของเขาในขณะนี้


"ลี่เป็นไงบ้างคะแม่" โรสรีบรุดจากหัวหินกลับกรุงเทพทันทีที่รู้ข่าวว่าลิลลี่ประสบอุบัติเหตุและกำลังรักษาอยู่ในโรงพยาบาล

"เพิ่งหลับไปน่ะ น้องจำใครไม่ได้เลยแม้แต่พ่อกับแม่" คุณวันเพ็ญมองลูกสาวน้ำตาซึม

"เกิดอะไรขึ้นคะ ทำไมยัยลี่เป็นแบบนี้" โรสยังคงซักต่อ

"ได้ข่าวว่าเป็นอุบัติเหตุรถยนต์ แม่ก็ไม่รู้อะไรมาก โชคดีที่น้องโทรติดต่อเวก่อนเกิดเหตุ เขาเป็นคนไปรับตัวยัยลี่กลับมา"

"แล้วเวล่ะคะ"

"กลับไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าจ่ะ เมื่อคืนก็อยู่เฝ้าทั้งคืน เดี๋ยวคงมา"

"เหรอคะ"

"ช่างเป็นคนดีจริงๆ พ่อคุณ แสดงว่าเขายังรักยัยลี่อยู่ ต่อไปโรสก็ไม่ต้องลำบากแล้วนะลูก น้องกลับมาแล้ว โรสจะได้กลับมาอยู่บ้านเราเสียที"

"ค่ะแม่" หญิงสาวรับคำเสียงเบา เป็นจังหวะเดียวกับที่เวรุตก้าวเข้ามาในห้องพอดี

"อ้าว มาแล้วเหรอลูก" คุณวันเพ็ญหันไปเอ่ยทัก

"ครับ" เวรุตวางกระเช้าผลไม้ลง เหลือบมองหญิงสาวที่นั่งอยู่ข้างเตียงอีกฝั่ง โรสสบตาเขาแล้วเมินไปมองหน้าน้องสาวที่กำลังหลับสนิท

"เออ คุณแม่กลับไปพักผ่อนก่อนดีไหมครับ เดี๋ยวทางนี้ผมกับโรสจะดูแลต่อเอง"

"ดีเหมือนกัน เห็นพ่อเขาบ่นว่าไม่สบาย แม่จะกลับไปดูเสียหน่อย"

"พ่อเป็นอะไรมากไหมคะแม่" โรสถามด้วยความเป็นห่วง

"ก็โรคคนแก่นั่นแหละลูก ไม่เป็นอะไรมากหรอก"

"โรสจะไปส่งนะคะ"

"ไม่ต้องหรอกลูก นั่งคุยเป็นเพื่อนเวดีกว่า อีกหน่อยก็ไม่ได้เจอกันแล้ว" คุณวันเพ็ญว่าพลางเดินไปที่ประตู โดยมีเวรุตเดินไปส่ง

ชายหนุ่มย้อนกลับมานั่งลงอีกฝั่งซึ่งมีเตียงคนไข้กั้นกลาง ทั้งสองสบตากันนิ่งนานปราศจากคำพูดใดๆ และนั่นทำให้โรสเริ่มรู้คำตอบ ว่าเธอคงเป็นได้เพียงส่วนเกินในเกมนี้ จะโทษใครได้ในเมื่อเธอถล้ำตัวทำเกินหน้าที่เอง

"นี่ใช่ไหมบิ้กเซอร์ไพรส์ เยี่ยมจริงๆ ฉันพูดไม่ออกเลยทีเดียว" โรสเอ่ยเสียงราบเรียบ

"โรส..ผม" เป็นครั้งแรกที่ชายหนุ่มจนคำพูด ถูกพันธนาการด้วยเงื่อนไขจนไม่สามารถขยับเอ่ยอะไรออกไปได้ เขาคงดูทุเรศสิ้นดีหากจะบอกว่าใจเขามีเพียงเธอเท่านั้น โรสคงไม่มีวันเชื่อเพราะการกระทำที่เห็นมันสวนทางกันโดยสิ้นเชิง

"ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว คุณก็รู้ว่าฉันไม่มีวันตีโพยตีพายเรื่องระหว่างเรา ดูแลลี่ให้ดีก็พอ ฉันจะถือซะว่าคุณไม่เคยก้าวเข้ามาในชีวิต"

"ผมขอโทษ..."

คำขอโทษนั้นแม้จะฟังดูจริงใจ แต่กลับทำให้หญิงสาวเจ็บเป็นเท่าทวี มันคงเป็นความรู้สึกผิดชอบครั้งสุดท้ายก่อนจะกำจัดเธอออกไปจากชีวิตเขา เพราะสำหรับเขา เธอคงมีค่าแค่คำพูดเพียงคำเดียว

"ฉันจะออกไปรอข้างนอก ถ้าลี่ตื่นแล้วช่วยโทรเรียกด้วยนะคะ" โรสลุกขึ้นเดินอ้อมปลายเตียง คิดว่าหากอยู่ต่อไปคงกลั้นน้ำตาโง่เง่าไว้ไม่ไหว

"โรส ขอเวลาผมบ้างได้ไหม" เวรุตคว้าข้อมือหญิงสาว มองด้วยสายตาวิงวอน

"ฉันไม่เหลืออะไรจะให้แล้วค่ะเว คุณได้ไปหมดแล้ว"

"ผมไม่มีทางเลือก...ซักวันโรสจะเข้าใจ"

"คุณเลือกถูกแล้วค่ะ คุณเคยพูดไม่ใช่เหรอว่าเมื่อลี่กลับมาฉันก็ต้องไป ทุกอย่างเป็นไปตามแผนที่คุณวางไว้แล้วนี่"

"ผมไม่มีวันปล่อยโรสไป" เวรุตดึงหญิงสาวเข้ามากอด พูดด้วยน้ำเสียงมั่นคง

"ปล่อยนะ! เดี๋ยวยัยลี่ตื่นมาเห็นเข้า" โรสดุเสียงต่ำ หันมองคนที่กำลังหลับ

"งั้นเย็นนี้เรากลับไปคุยกันที่บ้าน" เวรุตกอดหญิงสาวหนักหน่วงอีกครั้ง ราวกับต้องการกำลังใจต่อสู้กับปัญหาวุ่นๆ นี้

โรสผลักชายหนุ่มออกอย่างแรง แล้วผลุนผลันออกจากห้องไปทันที ไม่อยากเชื่อว่าเขาคิดจะมีทั้งเธอและลี่ในเวลาเดียวกัน สำหรับเขาคงเป็นเรื่องน่าภาคภูมิใจ แต่เธอไม่มีวันยอมให้เป็นเช่นนั้นเด็ดขาด




โรสเก็บของออกจากบ้าน ตั้งใจหลบหน้าเวรุตนับจากวันนั้น ส่วนชายหนุ่มก็ต้องวิ่งวุ่นสองโรงพยาบาลเพื่อดูอาการวินระวีและลิลลี่ ทำให้แทบจะไม่ได้เข้าออฟฟิสและต้องเปลี่ยนมาสั่งงานทางโทรศัพท์แทน


อาการลิลลี่ดีขึ้นเป็นลำดับและหมออนุญาติให้กลับบ้านได้ในวันพรุ่งนี้ หากแต่หญิงสาวยังไม่รู้สึกคุ้นกับใครเลยนอกจากพี่สาวที่หน้าตาเหมือนเธอราวกับแกะ และดูเหมือนโรสจะรู้ใจเธอไปเสียหมด ลิลลี่จึงบ่ายเบี่ยงไม่ยอมไปอยู่กับเวรุตหากว่าโรสไม่ตามไปด้วย และนั่นทำให้ชายหนุ่มยิ่งกว่ายินดีจะให้เป็นเช่นนั้น เพียงแต่เขาจะออกตัวแรงไม่ได้

"ไปอยู่เป็นเพื่อนน้องซักพักนะลูก" คุณวันเพ็ญช่วยเกลี้ยกล่อม เพราะหากลิลลี่ย้ายกลับบ้านก็จะเป็นขึ้ปากชาวบ้านเสียเปล่าๆ

"ถ้าพี่โรสไม่ไป ลี่ก็ไม่ไป" ลิลลี่ยืนกราน

"ลี่โตแล้วนะ แต่งงานแล้วก็ต้องไปอยู่กับสามีสิ จะให้พี่ไปอยู่เป็นก้างทำไม" โรสดุน้องกระแทกใครบางคนที่ยืนอยู่ตรงนั้นด้วย

"ถ้าโรสไม่ไป ผมย้ายไปอยู่ที่บ้านคุณพ่อคุณแม่ดีไหมครับ" เวรุตออกความเห็นกดดันอีกฝ่ายไปในตัว

"ถ้าทำอย่างนั้นเวก็ลำบากแย่สิ บ้านเราห่างจากที่ทำงานตั้งเยอะ" คุณกิตติว่า

"ไม่เป็นไรหรอกครับคุณพ่อ ถ้าทุกคนสบายใจ ผมก็ยินดี" เวรุตปลายตามองโรสแล้วว่า ทำให้เธอกลายเป็นนางมารร้าย ส่วนตัวเขาก็ได้เป็นเทพบุตร

"เอาล่ะๆ สรุปว่าโรสไปอยู่กับน้องก็แล้วกัน" คุณกิตติตัดปัญหา จะได้ไม่ต้องลำบากกันหลายคน

"แต่พ่อคะ!" โรสตั้งท่าจะประท้วง

"นี่คือคำสั่ง" คุณกิตติว่าเสียงเข้ม ซึ่งนานทีจะใช้วิธีนี้ซักครั้ง ทำให้โรสต้องเงียบไป

เวรุตแอบยิ้มพอใจ เพราะหากมีโรสอยู่ใกล้ๆ เขาคงไม่ต้องรู้สึกแย่จนเกินไปนัก ส่วนอีกฝ่ายกลับต้องฝืนใจอย่างหนัก ไม่รู้ว่าจะทนอยู่ในบ้านเดียวกับชายหนุ่มและน้องสาวได้อย่างไร...




ลิลลี่มองบ้านซึ่งครั้งหนึ่งเกือบจะกลายเป็นเรือนหอของเธอและเวรุตด้วยความรู้สึกว่างเปล่า ไม่รู้สึกคุ้นตาเลยซักนิด ต่างกับความรู้สึกของโรส ที่คุ้นเคยจนไม่อยากจะกลับมาเหยียบที่นี่อีก เพราะรู้ว่ามันไม่ใช่ที่สำหรับเธออีกต่อไป

เวรุตพาลิลลี่ขึ้นไปบนห้องพัก ในขณะที่โรสขอตัวไปเดินเล่นในสวน รู้สึกตัวราวเป็นส่วนเกินมากขึ้นทุกที

"ห้องน่าอยู่ดีนะคะ" ลิลลี่เดินชมไปรอบๆ ห้องนอนกว้างขวาง จนไปหยุดยืนอยู่ที่ระเบียง เห็นโรสกำลังนั่งอยู่บนสนามหญ้า

"พี่โรส!" ลิลลี่โบกไม้โบกมือเรียก หญิงสาวหันไปตามเสียงตรงระเบียงห้องที่เธอเคยพักด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม หากแต่น้ำตากลับเอ่อขึ้นมาจนเต็ม จึงต้องรีบหันหน้ากลับเพื่อปิดซ่อนมันไว้

เวรุตเดินตามออกมาที่ระเบียง เห็นโรสกำลังเดินเลี่ยงไปทางอื่น

"เวคะ คือลี่..." ลิลลี่มองไปที่เตียงนอน แล้วเริ่มอ่ำอึ้ง

"ผมเข้าใจ ตอนนี้ลี่อาจจะรู้สึกว่าผมเป็นคนอื่น เอาเป็นว่าผมจะไปนอนห้องข้างๆ จนกว่าลี่จะสบายใจ ดีไหม" เวรุตรีบเสนอ

"ขอบคุณค่ะ คุณไม่โกรธลี่นะคะ" ลิลลี่คิดว่าเขาช่างเป็นสุภาพบุรุษจริงๆ ต่อไปเธอคงรักเขาได้ไม่ยาก แต่ยังไม่ใช่ตอนนี้

"ผมจะโกรธลี่ได้ยังไง พักผ่อนให้สบายนะ ผมยังมีงานค้างอยู่" เวรุตลูบศีรษะหญิงสาวราวเธอเป็นเด็ก ก่อนจะผละลงไปข้างล่าง




ชายหนุ่มเดินลงมาตามบันได เห็นโรสกำลังหิ้วกระเป๋าเดินสวนขึ้นมาพอดี

"ส่งกระเป๋ามา ผมช่วย" เวรุตยื่นมือรอรับกระเป๋า

"ไม่ ฉันไปเองได้" โรสเดินหลบคนตรงหน้าแล้วขึ้นบันไดไปต่อ

"ก็บอกแล้วไงว่าจะหิ้วให้" เวรุตหันหลังกลับแล้วแย่งกระเป๋าจากมือหญิงสาว โรสไม่ทันระวังจึงถลาลงมาพร้อมกระเป๋าที่ถืออยู่ในมือจนแทบตกบันได ดีที่อีกฝ่ายคว้าไว้ได้ทั้งคนและกระเป๋า

"ทำบ้าอะไรของคุณ จะฆ่าฉันหรือไง" โรสพยายามดันร่างตัวเองออกจากอ้อมแขน

"จะให้ผมอุ้มโรส หรือถือกระเป๋าดี คนก็ดิ้น กระเป๋าก็หนัก ผมชักจะไม่ไหวแล้วนะ" เวรุตว่าหน้าตาเฉย ไม่ใส่ใจอาการขุ่นเคืองของหญิงสาว

"ปล่อยฉันสิ!" โรสผลักอกเขาแรงๆ อีกครั้ง

"เชิญครับ" เวรุตปล่อยมือแล้วยิ้มกว้าง ให้โรสเดินนำขึ้นไปก่อน

โรสเดินขึ้นมาถึงบันไดขั้นสุดท้าย หันมองห้องที่เธอเคยนอนแว้บหนึ่ง แล้วเดินผ่านห้องติดกันไปอีกห้องที่อยู่ตรงมุมพอดี คิดว่าเธอควรจะอยู่ให้ห่างที่สุด

"เข้าใจเลือกนะ ผมก็ชอบห้องนี้ หน้าต่างเยอะดี" เวรุตหิ้วกระเป๋าตามเข้าไป

"คุณออกไปได้แล้ว ฉันอยากอยู่คนเดียว" โรสออกปากไล่ทันที

"ผมอยู่ห้องติดกันนะ ถ้ามีแมลงสาบเข้ามาล่ะก็ เรียกได้เลย" เวรุตโน้มลงหอมแก้มหญิงสาว แล้วรีบออกจากห้องไป เพราะรู้ว่าโรสต้องแว้ดใส่เขาแน่นอนที่ทำเช่นนั้นกับเธอ

โรสทิ้งตัวลงบนที่นอน นึกสงสัยว่าทำไมเขาไม่อยู่ห้องเดียวกับลิลลี่ แล้วก็ได้คำตอบว่า เขาคงรอเวลาให้เธอไปจากที่นี่เสียก่อน ใช่สิ เขารอลี่มานานนับปีก็รอได้ รออีกหน่อยจะเป็นไรไป คิดแล้วก็พลันน้ำตาร่วงออกมาจากหางตาทั้งสองข้าง ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะทำใจได้เสียที






























Create Date : 08 ธันวาคม 2554
Last Update : 11 ธันวาคม 2554 7:26:59 น. 20 comments
Counter : 382 Pageviews.

 
อ๊ากกกก จะเศร้าไปไหน

หนีดีก่า ประชุมอีกแล้นกลัวน้องน้ำท่วมห้อง


โดย: Pa_Stang วันที่: 9 ธันวาคม 2554 เวลา:13:04:00 น.  

 
พักเบรคก็มาจิ้นค่ะ อิอิ วันนี้วิ่งเข้าห้องนี้ออกห้องนั้น พูดจนลิ้นพันกัน

วันศุกร์แล้วสู้ๆ ค่ะ


โดย: Kim-Ha วันที่: 9 ธันวาคม 2554 เวลา:13:17:57 น.  

 
ดื่มน้ำเปล่า แก้อาการลิ้นพันกันกะลดความเครียดได้นะคะ ตกลงดื่มไปกี่แก้วคะวันนี้

ประชุมเรื่องอะไม่รู้คะ แต่มติได้สีเสื้อประจำปี(หน้า)สะงั้น


โดย: Pa_Stang วันที่: 9 ธันวาคม 2554 เวลา:20:57:23 น.  

 
ดื่มมากจนมีคนทักว่าให้ไปตรวจเบาหวาน วัยรุ่นเซ็งเลยค่ะ เครียดหนักกว่าเดิม

เปลี่ยนจากสีขาวเป็นข๊าวขาวป่ะคะ


โดย: Kim-Ha วันที่: 9 ธันวาคม 2554 เวลา:21:11:00 น.  

 
โพสใหม่นะคะ แก้ไปหลายรอบแล้ว ได้แค่นี้แหละค่ะ



โดย: Kim-Ha วันที่: 9 ธันวาคม 2554 เวลา:21:52:04 น.  

 
ไอ้สีขาวถ้าเป็นสีข๊าวขาวต้องตัดใหม่สถานเดียวคะ

เสื้อกีฬาอำเภอคะ ตกลงกันปลายเดือนก่อนสีเขียว วันนี้เปลี่ยนสีสะละ ไม่รู้ว่าพอจะสั่งจริงๆ ท่านๆทั้งหลายจะเปลี่ยนสี...อีกมั๊ย สงสารแต่น้องๆ คมเข้ม สีเขียวตองอ่อนตัดกะคมเข้ม เสื้อเด่นเป็นสง่าเลยละคะ


โดย: Pa_Stang วันที่: 9 ธันวาคม 2554 เวลา:21:58:26 น.  

 
แข่งถึงมืดก็ยังมองเห็นไงคะ

คืนนี้ยังไม่ง่วงเลยค่ะ จะอัพอีกเพลงนึง เพลงนี้ฝึกร้องมาตั้งแต่อายุแปดขวบ จู่ๆ ก็นึกชื่อเพลงกับคนร้องขึ้นมาได้เฉยเลยค่ะ


โดย: Kim-Ha วันที่: 9 ธันวาคม 2554 เวลา:22:18:33 น.  

 
อะไรเอ่ยอดีตจำ ปัจจุบัญขณะลืม


ท่าจะจริงคะ เขียวตองอ่อนลอยในสนาม


โดย: Pa_Stang วันที่: 9 ธันวาคม 2554 เวลา:22:26:21 น.  

 
ใกล้เข้าวัย ชะลาล้าลาล่า มั้งค่ะ



โดย: Kim-Ha วันที่: 9 ธันวาคม 2554 เวลา:22:35:17 น.  

 
ปัญหามีที่ไหน พูดแก้ตรงนั้นรอเวลา สถานที่เพื่อเพิ่มรอยร้าวรึเปล่านะ (เบี่ยงประเด็น ชะลาล้าลาล่า)



โดย: Pa_Stang วันที่: 9 ธันวาคม 2554 เวลา:23:00:29 น.  

 
ู^
^

ตามไม่ทันค่ะ


โดย: Kim-Ha วันที่: 10 ธันวาคม 2554 เวลา:0:19:23 น.  

 
ว่าด้วยเรื่อง สอง ว ละคะ มันใกล้สถานการณ์จริงของคนใกล้ตัวเลยนึกได้ จากไม่น่าจะเป็นเรื่อง กว่าจะลงตัว เสียทิชชูไปหลายกล่อง (เช็ดแล้วพวกหอบไปด้วย) เฮ้อ ดีนะฟังอย่างเดียว ถ้ามีอารมณ์ร่วมละก็ ชีวิตหาไม่ ซี้เลี้ยวอ่า 555


โดย: Pa_Stang IP: 103.1.165.199 วันที่: 10 ธันวาคม 2554 เวลา:0:35:56 น.  

 
อ้อ เข้าใจแล้วค่ะ

เพลงเสร็จแล้วนะคะ พิมพ์ผิดไปตัวนึง เลยต้องรออีกยาว ถ้าหลับก่อนจะย่องไปแปะที่เรือนให้นะคะ เพลงรุ่นๆ กะน้ำเซาะทรายแต่เอื่อยน้อยกว่าหน่อยค่ะ


โดย: Kim-Ha วันที่: 10 ธันวาคม 2554 เวลา:0:44:30 น.  

 
นี่แหละค่ะ เพลงสมัยวัยเยาว์



โดย: Kim-Ha วันที่: 10 ธันวาคม 2554 เวลา:9:26:36 น.  

 
^
^
เทค ตอนเป็นนักเรียนใส่เอี๋ยมไปเมื่อไหร่ต้องมีเปิดทุกรอบ เอ่อ เราอยู่มาเมินขนาด..นี้เชียว


โดย: Pa_Stang วันที่: 10 ธันวาคม 2554 เวลา:15:13:45 น.  

 
คนร้องคงร่วมๆ 50 คนฟังยัง 18 อยู่เลยค่ะ

เข้าเทคแล้ว ดูท่าทางพี่ตังค์จะเต้นกระจายแน่เลย

เย็นนี้จะแวะไปสวนหลวงซะหน่อยค่ะ คนคงซาแล้ว ไปดูเขาขายอะไรเดิมๆ แต่ก็ไปทุกปี


โดย: Kim-Ha วันที่: 10 ธันวาคม 2554 เวลา:15:45:21 น.  

 
เศร้าเนอะ เฮ้อ


โดย: Pa_Stang IP: 115.67.48.190 วันที่: 10 ธันวาคม 2554 เวลา:21:31:07 น.  

 
กำลังคิดจะเปลี่ยนโหมดเหมือนกันค่ะ เศร้ามากไม่ไหว


โดย: Kim-Ha วันที่: 10 ธันวาคม 2554 เวลา:21:44:36 น.  

 
หน้าต่างเยอะดี มีอะไรแอบแฝงรึเปล่า


งานร้อนๆ กำลัง print พอส่งก็ลวกมือคุณครูพอดี


โดย: Pa_Stang วันที่: 11 ธันวาคม 2554 เวลา:6:12:19 น.  

 
อย่าบอกนะคะว่าไม่ได้นอนทั้งคืน

พระเอกเรื่องไหนก็เข้าทางหน้าต่าง


โดย: Kim-Ha วันที่: 11 ธันวาคม 2554 เวลา:7:22:58 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Kim-Ha
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




จิ้นกระจาย ^^


Smileymissmynovel@gmail.com






Friends' blogs
[Add Kim-Ha's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend


 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.