Group Blog
ไฟรัก...บท 3/1
greenteagreentea



สีหน้าแพรไหมทุกข์ร้อนเป็นอย่างมากเมื่อไม่สามารถติดต่อใยไหมได้ เนื่องจากปลายสายไม่มีสัญญาณตอบรับดังที่เมธีว่าจริงๆ หญิงสาวเพียรโทร.ถามเพื่อนฝูงที่เป็นนักข่าวสายตระเวน แต่ได้คำตอบไม่ต่างกันว่ายังไม่ได้เบาะแสการเกิดอุบัติเหตุใดๆ ที่จะบ่งชี้ไปในทางที่ว่าอาจเป็นใยไหม

๒๔ ชั่วโมงแห่งการรอคอยเพื่อแจ้งความ จึงยาวนานเท่าๆ กับ ๒๔ ปี...

“ใจเย็นๆ น้องแพร มันอาจจะไม่ร้ายแรงอย่างที่เราคิดก็ได้” ตุลาปลอบ

“นั่นสิแพร...ทำใจดีๆ ไว้ก่อน น้องไหมอาจจะไปค้างบ้านใครสักคนก็ได้” ม่านแก้วละมือจากการโทร.เช็กตามสน. หันมากุมมือเพื่อนอย่างปลอบประโลม เธอช่วยแพรไหมโทร.เช็กตามสน.ต่างๆ ทั่วกรุงเทพฯ ซึ่งต้องใช้เวลากว่าจะครบ เนื่องจากมีเกือบ ๙๐<1> แห่ง

“ถ้าค้างแล้วทำไมยังไม่กลับ มือถือก็ติดต่อไม่ได้ด้วย นี่มันก็เที่ยงกว่าแล้ว”

“น้องไหมอาจกำลังเดินทางกลับก็ได้ แล้วบังเอิญแบตมือถือหมด ก็เลยโทร.บอกคนที่บ้านไม่ได้”

“ไม่รู้สิม่านว่าจะเป็นอย่างที่แกพูดไหม เพราะปกติไหมไม่เคยทำตัวนอกลู่นอกทาง กลับบ้านตรงเวลาทุกครั้ง ถ้าวันไหนกลับบ้านไม่ได้ ก็ต้องโทร.พ่อบอกก่อนเสมอ แล้วนี่เราถึงที่ไหนกันแล้วคะ” ประโยคท้ายหันไปถามตุลาซึ่งนั่งประกบเธออีกด้าน

“ใจเย็นๆ น้องแพร กำลังเข้ากรุงเทพฯ แล้ว เดี๋ยวพี่จะโทร.เช็กลูกน้องให้อีกที เผื่อจะมีอะไรคืบหน้าบ้าง”

“ขอบคุณค่ะ แกด้วยม่าน” ประโยคท้ายหันมากล่าวกับเพื่อนสนิทที่นั่งติดกันอีกด้าน

“ไม่เป็นไรหรอก”

สารวัตรตุลา ทำท่าจะเอ่ยปากพูด แต่เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นก่อน เขากดรับแล้วพลันต้องหน้าเผือดสีเมื่อได้ยินคำบอกเล่าของปลายสาย

“คุณว่าอะไรนะผู้กองเอก ขออีกครั้งซิ”

ปลายสายทวนคำตอบซ้ำ “ผมได้รับแจ้งเหตุว่ามีการฆ่ากันตายเกิดขึ้นที่โรงแรม... ดูจากรูปพรรณสัณฐาน น่าจะเข้าเค้ากับเป็นเด็กสาวที่สารวัตรกำลังตามหา”

สารวัตรตุลาอึ้งไปพักใหญ่ๆ เขาซักถามรายละเอียดจนพอใจแล้ว จึงเอ่ยขอบคุณลูกน้องและตัดสายทิ้ง ก่อนจะหันมาทางแพรไหม

“น้องแพร...” สารวัตรตุลาเรียกแล้วจ้องหน้าหญิงสาวไม่คลาดสายตา แววตาทุกข์ร้อนชัดเจน

“ทำไมคะ มีอะไรเกิดขึ้นหรือคะสารวัตร” แพรไหมถามด้วยน้ำเสียงร้อนรนแกมรบเร้า เมื่อเห็นใบหน้าตึงเครียดของอีกฝ่าย

ตุลาประสานตาแพรไหม พลางกล่าวว่า “น้องแพรตั้งสติดีๆ แล้วฟังพี่นะครับ... ลูกน้องที่สน. โทร.มาบอกพี่ว่าได้รับแจ้งเหตุมีการฆาตกรรมเกิดขึ้นที่โรงแรม...” ตุลาเอ่ยชื่อโรงแรมดังแห่งหนึ่งที่อยู่ในเขตรับผิดชอบของสน.ตัวเอง จากนั้นกล่าวต่อว่า “ตำรวจไปถึงที่เกิดเหตุ พบศพเด็กสาวคนหนึ่งซึ่งมีรูปพรรณสัณฐานใกล้เคียงกับน้องใยไหม ลูกน้องพี่ก็เลยขอให้พี่พาญาติไปชี้ตัว คาดว่าเสียชีวิตไม่ต่ำกว่า ๖ ชั่วโมง<2> ที่ผ่านมา”



ความรู้สึกสูญเสียพุ่งเข้าจู่โจมหัวใจ จนยากจะบอกได้ว่ามากแค่ไหน เมื่อเห็นสภาพของน้องสาวที่นอนเสียชีวิตอยู่บนเตียงในห้องพักของโรงแรมแห่งนั้น

ศพของใยไหมอยู่ในสภาพนอนหงาย เปลือยกายท่อนล่าง ชุดเดรสสีชมพูที่สวมถูกถลกขึ้นมาเหนือหน้าอก มีกางเกงในจีสตริงสวมศีรษะศพเอาไว้ และถูกมัดมือไพล่หลังด้วยเสื้อคลุมแขนยาวสีดำ บริเวณลำคอมีรอยช้ำแดงเป็นปื้นๆ ลักษณะคล้ายรอยมือและรอยนิ้วมือ รวมถึงบริเวณหน้าท้องมีรอยแดงคล้ำ นอกจากนี้มีบราเซียแบบติดตะขอหน้าสีเดียวกับจีสตริงตกอยู่ข้างศพ พร้อมด้วยที่คาดผมสีดำ และรองเท้าหุ้มส้นข้างหนึ่ง ส่วนอีกข้างตกอยู่ข้างเตียง

แพรไหมกรีดร้องและทำท่าจะถลาเข้าไปกอดร่างไร้วิญญาณของน้องสาว แต่สารวัตรตุลาฉุดไว้พร้อมกับปลอบว่าขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เก็บพยานหลักฐานก่อน หญิงสาวกรีดร้องโหยหวนท่ามกลางสายตาเห็นใจของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก่อนจะเป็นลมหมดสติในอ้อมแขนของสารวัตรตุลา เขาอุ้มแพรไหมออกไปปฐมพยาบาลข้างนอก โดยมีม่านแก้วตามไปติดๆ เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังกั้นเทปสีเหลืองเพื่อกันผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องไม่ให้เข้ามายุ่มย่าม ซึ่งขณะนี้เริ่มมีลูกค้าของโรงแรมมามุงอออยู่ด้านหน้าประตูห้องพัก แม้จะยังไม่มีนักข่าวมาทำข่าวสักคน แต่เขาเชื่อว่าเร็วๆ นี้นักข่าวทุกสำนักจะแห่กันมา ด้วยนักข่าวจมูกไวเสมอ

พ.ต.ท.ตุลาขอให้พนักงานโรงแรมเปิดห้องพักข้างๆ เพื่อปฐมพยาบาลหญิงสาว พร้อมทั้งขออุปกรณ์ปฐมพยาบาล ไม่นานแพรไหมก็ฟื้นขึ้นมา หญิงสาวร้องไห้อย่างหนักปานคนที่หัวใจแตกสลาย เขาและม่านแก้วช่วยกันปลอบ ครู่ใหญ่ๆ หญิงสาวจึงสงบลงและซาเสียงร้องไห้

“คุณพระ...มันเกิดขึ้นได้ยังไง ทำไมถึงต้องเกิดกับไหมด้วย สวรรค์ช่วย...ไหมเคราะห์ร้ายเหลือเกิน” ขณะที่คร่ำครวญ มีเสียงสะอื้นแทรกเป็นระยะๆ กังวานเสียงของแพรไหมสั่นเครืออย่างคนที่ได้รับความกระทบกระเทือนจิตใจขนาดหนัก

ตลอดเวลาที่นั่งรถมา เธอภาวนาให้เป็นการเข้าใจผิด ศพที่เจอต้องไม่ใช่ใยไหม หากกระนั้นเสียงอธิษฐานของเธอก็ดูจะไปไม่ถึงแดนสวรรค์... แพรไหมนึกอย่างเศร้าสร้อยระคนเจ็บช้ำ

สารวัตรตุลาเฝ้ามองหญิงสาวอย่างห่วงใย ความจริงแล้วนับแต่แจ้งข่าวร้ายแก่เธอ เขาก็คอยจับตามองอย่างห่วงใยตลอดมา

“น้องแพรไหวไหม พี่ต้องกลับไปช่วยลูกน้องทำคดีแล้วล่ะ น้องแพรอยู่กับน้องม่านที่นี่ เดี๋ยวเสร็จธุระแล้วพี่จะมาแจ้งความคืบหน้าของคดี”

“ไม่ค่ะ แพรขอไปด้วย”

“แต่สภาพจิตใจแกยังแย่นะแพร แกยังไม่ควรเข้าไปตอนนี้หรอก ขืนยังทำใจไม่ได้จะเป็นการเกะกะตำรวจเสียเปล่าๆ ดีไม่ดีจะไปทำลายพยานหลักฐานเอาด้วย” เป็นคำค้านจากม่านแก้วผู้เป็นเพื่อนสนิท

“ไม่...” แพรไหมปฏิเสธเพื่อนแล้ว ก็หันไปทางสารวัตรตุลา “แพรสัญญาว่าคราวนี้แพรจะควบคุมตัวเองให้ดี ไม่ร้องไห้ฟูมฟายให้เสียสมาธิของตำรวจ หรือเกะกะการทำงานของตำรวจแน่นอนค่ะ” แพรไหมให้คำมั่น

“เอาอย่างนั้นเหรอ” พ.ต.ท.ตุลา มีท่าทีลังเลไม่มั่นใจ

“นะคะสารวัตร ขอแพรเข้าไปดูน้องเถอะนะคะ ขอให้แพรได้ดูแลน้องเป็นครั้งสุดท้ายด้วยเถอะ” น้ำเสียงสั่นเครือระคนวิงวอน จนคนถูกร้องขอไม่อาจใจแข็งได้อีกต่อไป

สารวัตรตุลาพยักหน้าอย่างใจอ่อนในที่สุด



พ.ต.ท.ตุลานึกดีใจที่แพรไหมเข้มแข็งขึ้นและสามารถสะกดจิตใจจนไม่ปล่อยเสียงโฮและโถมเข้าไปกอดศพอีก หากแต่คงปล่อยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งได้แก่พนักงานสอบสวน และนิติพยาธิแพทย์ หรือหมอนิติเวช ทำหน้าที่ชันสูตรพลิกศพเพื่อหาสาเหตุการตายอย่างสะดวก ตลอดจนเก็บพยานวัตถุและพยานเอกสารเพื่อใช้เป็นพยานหลักฐาน<3>ในการดำเนินคดีกับผู้กระทำผิด โดยที่เธอไม่เข้าไปเกะกะกีดขวาง สารวัตรตุลาดูจนมั่นใจแล้วว่าหญิงสาวไม่ช็อกหมดสติจากภาพสะเทือนใจอีกครั้ง จึงละสายตากลับไปทำงานตรงหน้า

ก่อนหน้านี้เขาพาแพรไหมและม่านแก้วแหวกวงล้อมของนักข่าวตลอดจนลูกค้าของโรงแรมที่เริ่มมาออกันเต็มหน้าห้องพัก คอยมุงดูเหตุการณ์อยู่หลังเทปสีเหลืองที่ตำรวจกั้นไว้หน้าประตู แล้วจึงแจกถุงมือให้หญิงสาวทั้งสองคนสวม พร้อมทั้งส่งถุงพลาสติกที่ทำด้วยวัสดุเฉพาะให้สวมทับรองเท้าเพื่อป้องกันการทำลายหลักฐาน

“ทางโรงแรมโทร.ไปแจ้งที่สน.ตอนกี่โมง” สารวัตรตุลาถามผู้กองเอก พลางจับตามองสภาพศพอย่างพินิจ ขณะที่พนักงานสอบสวนและหมอนิติเวช กำลังทำหน้าที่ของตัวเองอย่างเคร่งครัดและขะมักเขม้น มีทั้งฝ่ายที่เก็บลายนิ้วมือ ฝ่ายที่จดบันทึกพยานวัตถุและพยานเอกสาร และฝ่ายที่ถ่ายภาพ ซึ่งจะมีการวาดรูป วาดแผนผังของตำแหน่งศพและสถานที่เกิดเหตุร่วมด้วย เพื่อใช้เป็นพยานหลักฐานอ้างอิงสถานที่เกิดเหตุในชั้นศาล

สารวัตรตุลาละสายตาจากผ้าปูเตียงยับย่นและหมอนกระจายบนเตียง ไปมองรอบห้องอย่างสังเกตถี่ถ้วน ข้าวของของทางโรงแรมไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์ นิตยสารแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญๆ ในกรุงเทพฯ ตลอดจนแจกัน แก้วน้ำ ฯลฯ ตกลงมากระจัดกระจายทั่วห้อง ราวกับมีการต่อสู้เกิดขึ้น ทำให้มีเศษแก้วกระจายเกลื่อน หากทว่าไม่เห็นรอยเลือดใดๆ ปรากฏบนพรมซึ่งมีสีเข้มและบนผนังห้อง

พ.ต.ท.ตุลา ได้ยินเสียงผู้กองเอกตอบคำถามว่า “โรงแรมโทร.ไปแจ้งเหตุตอน ๑๓.๐๕ น. ครับ”

สารวัตรตุลาพยักหน้าพลางละกลับมาพินิจศพซึ่งหมอนิติเวชกำลังเก็บเศษชิ้นเนื้อจากซอกเล็บของผู้ตายเป็นหลักฐาน ตามลำคอมีรอยเล็บซึ่งอาจเกิดจากฆาตกรจิกเล็บลงไปที่คอผู้ตาย หรืออาจจะเป็นรอยเล็บของเหยื่อเองที่พยายามแกะมือฆาตกรออก ซึ่งเขาต้องส่งศพให้หมอนิติเวชผ่าศพเพื่อจะได้ตรวจสอบอย่างละเอียดต่อไป

เสียงของพ.ต.ต.มนตรี พนักงานสอบสวนคนหนึ่งดังขึ้นว่า

“ขณะนี้เวลา ๑๓.๕๐ น. ของวันที่... เดือน... ปี... เกิดเหตุฆาตกรรมบนชั้น ๑๐ ของโรงแรม... ซึ่งในที่เกิดเหตุไม่พบพยานเอกสารตกอยู่ แต่จากการชี้ตัวของญาติ ระบุว่าผู้ตายชื่อใยไหม สายโสภณ อายุ ๑๙ ปี เป็นนักศึกษาของมหาวิทยาลัย...” จากนั้นเป็นการบรรยายสภาพศพและหลักฐานที่พบในที่เกิดเหตุ ก่อนจะกล่าวต่อไปว่า “คาดว่าผู้ตายถูกคนร้ายใช้กำลังปลุกปล้ำเพื่อหวังข่มขืน แต่เหยื่อต่อสู้ คนร้ายจึงใช้เสื้อคลุมของผู้ตายมัดมือไพล่หลังแล้วข่มขืน ก่อนจะบีบคอเหยื่อจนเสียชีวิต”

พ.ต.ต.มนตรี ยังคงพูดลงในเครื่องบันทึกเสียงต่อไปว่า “สำหรับพยานวัตถุที่พบในที่เกิดเหตุ แพทย์ตรวจเจอเศษชิ้นเนื้อติดอยู่ในซอกเล็บและที่ซอกฟันของผู้ตาย ซึ่งน่าจะเกิดจากการดิ้นรนต่อสู้ เหยื่อน่าจะข่วนและกัดคนร้าย นอกจากนี้ยังพบคราบเลือดและคราบอสุจิที่แห้งกรังติดอยู่ที่อวัยวะเพศและหน้าท้อง ซึ่งน่าจะเกิดจากการข่มขืน โดยคาดว่าผู้ตายน่าจะเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า...”

พนักงานสอบสวนคนเดิมหยุดการพูดลงในเทปบันทึกเสียง เพื่อใช้นิ้วชี้ที่อยู่ภายใต้ถุงมือ กดลงไปที่ท้องแขนและแผ่นหลังที่มีรอยเขียวช้ำของผู้ตาย ซึ่งพบว่าไม่มีการซีดของผิวหนังบริเวณนั้น จากนั้นพ.ต.ต.มนตรี ก็พูดใส่เทปต่อว่า “คาดว่าผู้ตายเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า ๘ ชั่วโมง เพราะมีรอยเขียวช้ำที่บริเวณแผ่นหลังและท้องแขนที่อยู่ตัว(Fixed)แล้ว”

โดยปกติ การเริ่มอยู่ตัว(Fixed)ของรอยเขียวช้ำหลังตาย จะเกิดขึ้นในระยะเวลาประมาณ ๘-๑๒ ชั่วโมง ซึ่งเกิดจากการตกของเม็ดเลือดตามแรงโน้มถ่วงหลังตาย โดยเม็ดเลือดจะตกลงไปอยู่ที่ด้านล่างของเส้นเลือด และเกิดการสะสมที่เส้นเลือดฝอยที่บริเวณผิวหนังนั้น ทำให้ปรากฏเป็นสีแดงคล้ำ ซึ่งมักเริ่มปรากฏให้เห็นตั้งแต่ ๓๐ นาทีถึง ๒ ชั่วโมงหลังการตาย และจะเริ่มอยู่ตัว คือ แม้เมื่อมีการเคลื่อนย้ายศพหรือกลับท่าศพ เม็ดเลือดแดงที่ปรากฏบนผิวหนังก็จะไม่เคลื่อนหรือไหลไปอยู่ในที่ใหม่อีก ซึ่งการอยู่ตัวของรอยเขียวช้ำดังกล่าว จะเริ่มตั้งแต่เวลา ๘-๑๒ ชั่วโมงหลังการตาย

สำหรับการตรวจรอยเขียวช้ำหลังการตายนั้น สามารถตรวจได้โดยการใช้นิ้วมือกดลงไปที่ตำแหน่งของรอยเขียวช้ำ ถ้าผิวหนังบริเวณนั้นไม่มีการอยู่ตัวของรอยเขียวช้ำ ก็จะปรากฏการซีดขาวไปชั่วครู่ และเมื่อปล่อยมือ สีของรอยเขียวช้ำจึงจะกลับมาปรากฏ แต่ตรงกันข้ามถ้ารอยเขียวช้ำอยู่ตัวแล้ว ผิวหนังบริเวณนั้นจะไม่ปรากฏการซีดใดๆ

เสียงของพ.ต.ต.มนตรี ยังคงดังต่อไป ขณะที่พนักงานสอบสวนอีกคนคอยถ่ายภาพและอีกคนทำหน้าที่จดบันทึกพยานวัตถุลงในสมุดบันทึก ส่วนสารวัตรตุลาเริ่มบันทึกบัญชีรายชื่อของผู้ที่ต้องเรียกตัวมาให้ปากคำ

“น้องแพร” ตุลาเรียกพลางเหลียวไปมองแพรไหม ซึ่งกำลังจดอะไรบางอย่างลงในสมุดจดข่าว เมื่อได้ยินเธอเงยหน้ามองเขาทันที

“มีอะไรเหรอคะสารวัตร” แพรไหมถามด้วยกังวานเสียงอ่อนๆ น้ำตาเธอเหือดแห้งไปนานแล้ว ขณะนี้ถูกแทนที่ด้วยเลือดแห่งความเป็นนักข่าว เธอบันทึกทุกอย่างลงในสมุดจดข่าว พร้อมทั้งไหว้วานให้ม่านแก้วช่วยถ่ายภาพพวกพยานวัตถุต่างๆ เพื่อเก็บเป็นหลักฐาน ตลอดเวลาที่ลงมือทำงาน เธอพยายามไม่ไปเกะกะเจ้าหน้าที่ตำรวจและหมอนิติเวช

“จดอะไรอยู่ครับ” สารวัตรตุลาถามไปอีกทาง

แพรไหมยิ้มซีดเซียวให้คนถาม ก่อนตอบว่า “รายละเอียดทั่วๆ ไปน่ะค่ะ ไม่มีอะไรสำคัญหรอก ว่าแต่สารวัตรมีอะไรเหรอคะ”

“น้องใยไหมมีแฟนหรือไม่ก็หนุ่มที่กำลังคบหาดูใจกันอยู่บ้างไหมครับ”

แพรไหมย่นหัวคิ้วอย่างใช้ความคิด ก่อนตอบว่า “ไม่กล้าฟันธงค่ะ เพราะวันเสาร์ที่นัดเจอไหม แพรก็ถามเรื่องนี้กับน้องอยู่เหมือนกัน แต่ไหมปฏิเสธ บอกว่าตอนนี้ยังไม่มีแฟนและยังไม่ได้คบหาดูใจใครด้วย ส่วนว่าน้องจะแอบคบใครโดยไม่ให้แพรกับแม่รู้นี่ อันนี้แพรก็ไม่ทราบจริงๆ ค่ะ”

พ.ต.ท.ตุลาพยักหน้ารับรู้ เขากล่าวต่อว่า “ถ้าอย่างนั้น พรุ่งนี้เป็นต้นไปพี่จะเริ่มเรียกคนรอบข้างมาให้ปากคำ ไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่ของน้องแพร น้องแพร รวมถึงเพื่อนในกลุ่มของน้องใยไหม ส่วนวันนี้พี่จะเรียกแม่บ้านคนที่พบศพเป็นคนแรก และฟร้อนต์<4> มาให้ปากคำก่อน ได้ผลยังไงพี่จะโทร.บอกน้องแพรอีกที”

“ขอบคุณมากค่ะ ในส่วนของแพรยินดีมาให้ปากคำตลอดเวลานะคะ ส่วนของพ่อกับแม่ เดี๋ยวท่านก็คงมาถึงแล้วค่ะ เพราะแพรโทร.ไปแจ้งท่านแล้ว”

“ได้ครับ ว่าแต่เรื่องแถลงข่าวน้องแพรจะเอายังไง ตอนนี้นักข่าวมารอทำข่าวอยู่หน้าห้องเกือบครบทุกสำนักแล้ว”

“ได้ค่ะ สารวัตรแถลงข่าวตามแต่เห็นสมควรได้เลยค่ะ แพรขอแค่ว่าอย่าเปิดเผยชื่อน้องสาวของแพรเท่านั้น โอเค...มันจะอาจจะปกปิดได้ไม่นานนัก แต่อย่างน้อยก็ขออย่าได้หลุดจากปากของตำรวจหรือเจ้าหน้าที่โรงแรม ในส่วนของนักข่าว... เดี๋ยวแพรจะไปขอความร่วมมือจากพวกเขาเอง” ตอนที่เดินเข้าห้องมา เธอมองๆ นักข่าวที่มาทำข่าว พบว่าส่วนใหญ่เป็นเพื่อนฝูงที่เห็นๆ กันอยู่ในสายงานอาชญากรรม

“ตกลง ว่ากันตามนั้นครับ”

“ขอบคุณมากค่ะสารวัตร แพรจะไม่...” ทว่าแพรไหมพูดไม่ทันจบก็ต้องชะงัก เมื่อบัดนี้เสียงร้องไห้ฟูมฟายของนับไหมดังขึ้นก่อนที่ตัวจะมาถึงในทันทีที่ตำรวจเปิดประตูห้องให้เข้ามา โดยนับไหมมาพร้อมกับเมธี และทำท่าจะโถมเข้าไปกอดศพ แพรไหมจึงรีบปรี่เข้าไปรั้งผู้เป็นแม่ พลางพูดปลอบโยน

“อย่าค่ะแม่ ตำรวจกับหมอกำลังทำงานกันอยู่ เขากำลังเก็บพยานหลักฐาน ถ้าแม่เข้าไปตอนนี้ จะทำลายหลักฐานเสียหายหมด ปล่อยให้ตำรวจทำงานเถอะนะคะ อย่าเพิ่งเข้าไปกวนเลย เดี๋ยวพอเสร็จแล้วเราค่อยเข้าไป” แพรไหมปลอบทั้งที่รู้ถึงหัวอกของแม่ เพราะตอนที่เธอเห็นสภาพศพของใยไหมครั้งแรก ก็มีสภาพขวัญเสียไม่ต่างกัน

นับไหมปล่อยโฮอีกคำรบ พลางสวมกอดลูกสาวแนบแน่น ก่อนจะร้องไห้ฟูมฟายว่า “คุณพระ...ทำไมยายไหมโชคร้ายเหลือเกิน สัตว์นรกใจทรามตัวไหนมันทำนะ ใจมันทำด้วยอะไร ทำไมถึงได้โหดเหี้ยมต่ำทรามแบบนี้ ยายไหมทำผิดอะไรกัน ทำไมเรื่องร้ายๆ ถึงต้องเกิดกับลูกสาวแม่ด้วย”

แพรไหมกอดกระชับผู้เป็นแม่แนบแน่นเป็นทวีคูณ เธอลูบแผ่นหลังไปมาพลางปลอบประโลมด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ ภาพนั้นทำให้ทุกคนที่มองอยู่ พลอยรู้สึกสะเทือนใจไปด้วย

“คนชั่วมันมีอยู่ทุกหนทุกแห่ง เพียงแต่ไหมโชคร้ายที่เดินเข้าไปในเส้นทางมัน แต่แพรสัญญา... แพรจะลากคอมันมารับโทษให้ได้ จะไม่ปล่อยให้มันลอยนวลเด็ดขาด มันต้องได้รับผลกรรมอย่างสาสม” น้ำเสียงตอนท้ายมีรอยสัญญา ทว่าแฝงไปด้วยความเหี้ยมเกรียม

เมธีเดินเข้ามาโอบไหล่คนทั้งสอง น้ำตาไหลเป็นทางยาวอย่างสะกดกลั้นไม่อยู่ เขาพูดด้วยน้ำเสียงขาดเป็นห้วงๆ ว่า “พ่อผิดเองที่ดูแลยายไหมไม่ดี พ่อผิดเองลูก...ถ้าพ่อดูแลดีกว่านี้ น้องคงไม่ต้องมารับเคราะห์แสนสาหัสอย่างนี้”

เกิดเสียงโฮใหญ่จากนับไหมและคนทั้งสามต่างพากันกอดกันกลมอย่างคนที่กำลังเผชิญภาวะสูญเสียร่วมกัน แพรไหมพยายามกล้ำกลืนก้อนสะอื้น เธอเงยหน้าพลางกะพริบตาเพื่อไล่หยาดน้ำตา จังหวะนั้นสายตาจึงประสานเข้ากับสารวัตรตุลาที่เฝ้ามองมาเงียบๆ อย่างเห็นใจ หญิงสาวเมินหน้าหนี จึงเห็นภาพหมอกำลังใช้ถุงพลาสติกห่อมือทั้ง ๒ ข้างของใยไหมเพื่อรักษาพยานวัตถุที่อยู่ในมือ โดยเฉพาะเศษชิ้นเนื้อในซอกเล็บซึ่งจำเป็นต้องใช้เป็นพยานวัตถุในการยืนยันการกระทำความผิดของฆาตกร จากนั้นตำรวจก็ช่วยกันห่อศพด้วยผ้าขาวอย่างระมัดระวัง เพื่อไม่ให้สิ่งที่ติดอยู่กับศพสูญหายไป หรือปนเปื้อนกับสิ่งที่ไม่ได้ติดมากับศพ

ภาพนั้นทำให้แพรไหมสะกดกลั้นความสะเทือนใจไม่อยู่อีกต่อไป น้ำตาค่อยๆ ไหลรินเป็นทางยาว ก่อนจะตามมาด้วยเสียงโฮใหญ่ หญิงสาวสะอึกสะอื้นร่ำไห้ปานคนที่หัวใจกำลังแหลกสลาย...



…………………………

<1>สถานีตำรวจนครบาล(สน.) มีทั้งหมด ๘๘ แห่งทั่วกรุงเทพฯ (ข้อมูลในปี ๒๕๕๓)

<2>สภาพแข็งทื่อหลังการตาย มีสาเหตุมาจากสารในเซลล์ที่ชื่อว่าอะดีโนซีนไตรฟอสเฟต หรือ เอทีพี (Adenosine triphosphate) ที่มีอยู่ในมัดกล้ามเนื้อต่างๆ เกิดการสลายตัวไป ซึ่งโดยปกติการแข็งตัวของมัดกล้ามเนื้อ จะเริ่มเกิดขึ้นประมาณ ๒-๔ ชั่วโมงหลังการตาย และจะแข็งตัวเต็มที่ประมาณ ๖-๑๒ ชั่วโมงหลังการตาย แต่ก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยแวดล้อมอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น ถ้ามีไข้สูงหรือชัก ก็อาจมีโอกาสเสี่ยงสูงที่จะเสียชีวิตและเอทีพีภายในกล้ามเนื้อมัดหมดไป ซึ่งเกิดสภาพที่กล้ามเนื้อแข็งตัวทันทีหลังการตาย เรียกว่า คาดาเวอริคสปัสซั่ม (Cadaveric Spasm) เช่น เกิดในรายที่จมน้ำตายหรือเป็นตะคริวเพราะผู้ตายพยายามดิ้นรนตะเกียกตะกายที่จะเอาตัวรอดก่อนตาย

<3>พยานหลักฐาน : สิ่งที่แสดงข้อเท็จจริงให้ปรากฏแก่ศาล ไม่ว่าจะเป็นพยานบุคคล พยานเอกสาร พยานวัตถุ ตลอดจนคำเบิกความความเห็นของผู้เชี่ยวชาญและรายงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ

<4>Front Desk : พนักงานหลังเคาน์เตอร์ที่คอยยืนต้อนรับลูกค้าของโรงแรม โดยมีภารกิจในเรื่องการรับเช็กอินลูกค้าและป้อนข้อมูลของลูกค้าเข้าในระบบเป็นหลัก




greenteagreentea




Create Date : 16 ตุลาคม 2553
Last Update : 18 ตุลาคม 2553 15:47:40 น.
Counter : 656 Pageviews.

12 comments
  
เดี๋ยวมาอ่านพรุ่งนี้นะคะพี่อุ๋ยคืนนี้ขอตัวไปดูบอลก่อนแมนฯยูเตะค่ะ
โดย: mimny วันที่: 16 ตุลาคม 2553 เวลา:20:49:00 น.
  
เดาว่าคนที่ทำกับใยไหมน่าจาเปงภาคิไนยป่ะอ่ะ
ท่ีเปงพี่น้องกับภาติยะอ่ะ
โดย: icesoda IP: 115.87.242.241 วันที่: 17 ตุลาคม 2553 เวลา:11:45:18 น.
  
ต้องดูว่ามีหลักฐานอะไรที่จะสาวตัวไปถึงคนร้ายได้บ้างอย่างน้อยเศษเนื้อในซอกเล็บของใยไหมก็ขอให้เป็นของคนร้าย หวังว่าจะมีภาพคนร้ายกับใยไหมในกล้องวงจรปิดมีหลักฐานการเช็กอินเข้าพัก
โดย: mimny วันที่: 17 ตุลาคม 2553 เวลา:15:24:42 น.
  
สภาพศพของใยไหมน่าสงสารมากเลยค่ะ หนูแพรเลยแค้นพระเอกขนาดนี้ อยากรู้จริงๆ ว่าใครคือฆาตรกร จะทำเพื่อใส่ร้ายพระเอกโดยตรง หรือว่าเป็นพวกแอบอ้างชื่อเพื่อทำความเลว แต่คิดว่าต้องเป็นบุคคลที่เกี่ยวข้องกับพระเอกแน่ๆ
โดย: pantan IP: 58.9.21.99 วันที่: 17 ตุลาคม 2553 เวลา:15:41:59 น.
  
ตามมาอ่านต่อจ้า สนุก ชอบนิยายแนวนี้
เป็นกำลังใจให้จ้า
โดย: ต้นข้าว (tonkho-w ) วันที่: 18 ตุลาคม 2553 เวลา:2:28:19 น.
  
ช็อคค่ะ! ช็อค ไม่คิดว่าใยไหมจะตาย
โดย: alanta IP: 202.149.29.82 วันที่: 18 ตุลาคม 2553 เวลา:7:45:47 น.
  
อ่าทำไมไม่คิดว่าคนร้ายยังไม่เปิดตัวบ้างละคะ แหะๆๆ ยินดีต้อนรับคุณไอซ์โซดาค่ะ

ขอบคุณน้องมิ้ว คุณเอ๋ ต้นข้าว และคุณ alanta ค่ะ ^^
โดย: คณิตยา วันที่: 18 ตุลาคม 2553 เวลา:11:14:44 น.
  
ใจร้ายจังเลย ถึงกับต้องฆ่ากันเลยเหรอ พอจะเดาออกว่าเป็นใครนะ...เอาหล่ะนะเริ่มเข้มข้นขึ้นแล้วสินะ พระเอกกะนางเอกจะได้เจอหน้ากันแล้ว...

รักษาสุขภาพด้วยนะค่ะน้องอุ๋ย
โดย: เอิงเอย IP: 68.224.193.220 วันที่: 19 ตุลาคม 2553 เวลา:2:31:46 น.
  
ทุกทีผู้ร้ายจาเปิดตัวช้าอ่ะ
เรยเดาเอาว่าจาเปิดตัวก่อนบ้าง
อาจจาผิดคาดรึเปล่า
ติดตามอ่านมาหลายเล่มแร้วชอบค่า
จารอตอนต่อไปนะคร้า
โดย: icesoda IP: 58.8.89.81 วันที่: 19 ตุลาคม 2553 เวลา:22:38:13 น.
  
พี่เอิงเอย : ไม่อยากบอกเลยว่าเดี๋ยวจะมีตัวละครอีกเพียบให้มาเดากันว่าใครจะเป็นคนร้ายได้บ้าง เดี๋ยวตอนหน้า 4/2 อุ๋ยจะเอาภาพแฟมิลี่ ทรีขึ้นค่ะ เพื่อจะได้ดูกันง่ายๆ ^^ เพราะงั้นอย่ารีบด่วนตัดสินว่าใครเป็นตัวร้ายน้า ^^

คุณ icesoda : ขอบคุณคุณไอซ์โซดามากๆๆ ค่ะที่ติดตามผลงานมาหลายเล่ม //ฮ่าๆๆ ครั้งนี้นิยายอุ๋ยอาจจะไม่ได้สร้างความแปลกใหม่กว่าที่คุณไอซ์เคยอ่านก็ได้ค่า แหะๆ หวั่นจะทำให้ผิดหวังจริงๆ ขอบคุณอีกครั้งค่ะคุณไอซ์ฯ ที่ติดตามอ่านงานอุ๋ย จุ๊บๆๆค่า
โดย: คณิตยา วันที่: 20 ตุลาคม 2553 เวลา:0:58:12 น.
  
น้องใยไหมน่าสงสารจัง คนฆ่าโรคจิตแน่ๆ
โดย: จิรารัตน์ IP: 182.52.119.10 วันที่: 11 ธันวาคม 2553 เวลา:21:38:17 น.
  
น่าสงสารมากเลย ขอให้จับฆาตรกรเร็วๆ นะคะ
โดย: c IP: 58.137.140.114 วันที่: 13 ธันวาคม 2553 เวลา:10:22:03 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

คณิตยา
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 26 คน [?]









รู้จักคณิตยา/คีตฌาณ์

ก้าวสู่โลกแห่งการขีดเขียนในปี 2549 มีผลงานเป็นรูปเล่มกับสนพ.ในเครือสถาพรบุ๊คส์ทั้งหมด 11 เล่ม ไล่ตั้งแต่ รหัสทรชน ทางสายหมอก กุหลาบในเปลวไฟ ฝากรัก...ผ่านซีบ็อกซ์ อริ...ที่รัก บอดี้การ์ด รักเพียงฝัน ตามรักข้ามเวลา ไฟรัก บันทึกแห่งรัก(the Book of Love) มิราเบลล์...ตราบคีตาบรรเลง เป็น 1 ในนิยายชุดแด่เธอที่รัก สาปรัก และใต้ปีกรัก

รหัสทรชน เป็นละครทางช่อง 3 เมื่อปี 2554 แสดงโดย เคน และชมพู่ สร้างโดยค่ายยูม่า และ ไฟรัก ได้รับการซื้อลิขสิทธิ์ไปแปลเป็นภาษาเวียดนาม วางแผงเดือนสิงหาคม 2556



พูดคุย ทักทาย แลกเปลี่ยนความเห็น และติดตามความเคลื่อนไหวได้ทาง fb โดยกดไลค์เป็นแฟนเพจได้ทาง https://www.facebook.com/keetacha?ref=hl ขอบคุณค่ะ

---------------


ตอนนี้อุ๋ยทยอยนำนิยายที่หมดลิขสิทธิ์กับพิมพ์คำไปวางจำหน่ายในรูปแบบ E-book บนเว็บ ebooks และเว็บ Mebmarket ค่ะ

ใต้ปีกรัก...ราคาอีบุ๊ก 179 บาท

บันทึกแห่งรัก...ราคาอีบุ๊ก 255 บาท จากราคาปก 310

ไฟรัก...ราคาอีบุ๊ก 279 บาท จากราคาปก 350 บาท

กุหลาบในเปลวไฟ...ราคาอีบุ๊ก 230 บาท



รหัสทรชน ราคาอีบุ๊ก 200 บาท จากราคา 300 บาท 673 หน้า





ทางสายหมอก ราคาอีบุ๊ก 265 บาท จากราคา 280 บาท 690 หน้า



ฝากรัก...ผ่านซีบ็อกซ์ ราคาอีบุ๊ก 125 บาท จากราคา 180 บาท 360 หน้า



รวมเรื่องสั้น...ฉบับวัยหวาน ราคาอีบุ๊ก 45 บาท จากปก 55 บาท



อริ...ที่รัก ราคาอีุบุ๊ก 195 จากปก 240 บาท



หวานใจ...บอดีการ์ด...ราคาอีบุ๊ก 145 บาท จากปก 180 บาท



รักเพียงฝัน...ราคาอีบุ๊ก 225 จากปก 250 บาท



ตามรักข้ามเวลา...ราคาอีบุ๊ก 240 จากปก 270 บาท





















New Comments