วันนี้ ( 15 ก.ย.) เมื่อเวลา 04.00 น. ร.ต.ต.ปรีชา พลซา พนักงานสอบสวน (สบ 1) สน.ทุ่งมหาเมฆ รับแจ้งอุบัติเหตุหญิงชาวต่างชาติถูกรถยนต์เฉี่ยวชนจนเสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ บริเวณหน้าปั๊มน้ำมันเชลล์ ปากซอยสาทร 3 หรือซอยสวนพลู ถนนสาทรใต้ แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมแพทย์นิติเวชจากโรงพยาบาลจุฬาฯ และเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง

ที่เกิดเหตุอยู่บนช่องทางที่สองจากซ้าย เจ้าหน้าที่พบศพหญิงชาวต่างชาติไม่ทราบชื่อ อายุประมาณ 25-30 ปี ผมสั้น ผิวขาวคล้ายชาวยุโรป สูงประมาณ 165 ซม. สภาพศพนอนคว่ำหน้าจมกองเลือด สวมเสื้อยืดคอกลมสีเทา นุ่งกางเกงขาสั้นสีดำ สวมรองเท้าแตะแบบรัดข้อเท้า ตรวจสอบตามร่างกายพบว่า ศีรษะแตก กระดูกซี่โครงหัก แขนหักทั้งสองข้าง ขาข้างซ้ายหักและมีบาดแผลฉีกขาดบริเวณต้นขาซ้าย มือข้างขวากำเงินสด จำนวน 1,100 บาท แต่ตรวจสอบภายในตัวไม่พบเอกสารหลักฐานว่ายืนยันว่าเป็นใคร หรือสัญชาติใด บริเวณข้างศพพบเศษชิ้นส่วนของโลโก้ยี่ห้อรถโตโยต้า กระจังหน้ารถแท็กซี่สีชมพู และชิ้นส่วนของกระจกมองข้างด้านขวา ตกอยู่เจ้าหน้าที่จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน นอกจากนี้ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 1 ราย เป็นหญิงชาวต่างชาติคาดว่าเป็นเพื่อนร่วมชาติกับผู้ตาย ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลจุฬาฯไปก่อนหน้านี้แล้ว

จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า หลังเกิดอุบัติเหตุดังกล่าวได้มีพลเมืองดีโทรศัพท์ไปแจ้งรายการวิทยุว่า หญิงชาวต่างชาติทั้งสองรายถูกรถแท็กซี่ยี่ห้อโตโยต้า หมายเลขทะเบียน ทศ-8829 กทม.พุ่งชนจนเสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บดังกล่าว จากนั้นรถแท็กซี่คันดังกล่าวก็ขับไปจอดข้างทางแล้วให้ผู้โดยสารที่นั่งมาในรถลงจากรถไป ก่อนจะรีบขับรถหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จะรอให้ผู้บาดเจ็บอีกรายอาการดีขึ้นเสียก่อน จากนั้นจะเข้าสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง พร้อมทั้งตรวจสอบกล้องวงจรปิดริมถนนที่เกิดเหตุว่ามีตัวใดจับภาพขณะเกิดเหตุเอาไว้ได้บ้างหรือไม่ พร้อมทั้งจะตรวจสอบว่า รถแท็กซี่หมายเลขทะเบียนดังกล่าวที่พยานแจ้งว่าเป็นคันที่ขับพุ่งชนผู้ตายนั้นมีใครเป็นผู้ขับขี่ เพื่อเรียกตัวมาสอบสวนว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับอุบัติเหตุดังกล่าวหรือไม่ ก่อนดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

//www.dailynews.co.th/crime/155246