มท. ออกกฎเข้ม! ห้ามขึ้นกระบะสาดน้ำเล่นสงกรานต์
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
มท. ออกกฎเข้ม! สงกรานต์ 7 วันอันตราย สั่งห้ามขึ้นกระบะสาดน้ำ มอบหมายให้ผู้ว่าฯ จัดโซนนิ่งแทน หวังลดเจ็บ-ตาย
วานนี้ (28 มีนาคม) พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก รมช.มหาดไทย ได้กล่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน (ศปถ.) เกี่ยวกับการเตรียมความพร้อมในการป้องกันและลดอุบัติเหตุในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 2556 ว่า ช่วงเทศกาลนี้เป็นช่วงที่เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนสูงกว่าปกติ ซึ่งทาง นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มีความห่วงใยในการเดินทางของประชาชน จึงได้กำชับให้กระทรวงมหาดไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องปฏิบัติงานอย่างเข้มงวดในช่วงวันสงกรานต์ ภายใต้แนวคิด "สงกรานต์เป็นสุขทุกคนปลอดภัยร่วมใจรักษาวัฒนธรรม" ซึ่งมีเป้าหมายลดจำนวนครั้ง จำนวนผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บให้น้อยที่สุด ในระหว่างวันที่ 11-17 เมษายน 2556 เพื่อมุ่งหวังความปลอดภัยทางท้องถนนแก่ประชาชนในทุกพื้นที่
รมช.มหาดไทย กล่าวต่อว่า ในปีนี้จะมอบหมายให้ทางผู้ว่าราชการจังหวัดออกนโยบายวางมาตรการและแนวปฏิบัติเพื่อลดอุบัติเหตุในแต่ละท้องที่ และต้องมีการบังคับใช้กฎหมายในการขับรถเร็ว, เมาแล้วขับ, บรรทุกเกินกำหนด อย่างเด็ดขาด ที่สำคัญในแผนผู้ว่าจังหวัดต้องจัดโซนนิ่งในการเล่นน้ำสงกรานต์ และห้ามให้รถกระบะบรรทุกถังน้ำสาดตามท้องถนน เนื่องจากการกระทำเช่นนี้ เป็นสาเหตุสำคัญในการเกิดอุบัติเหตุ ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิต นอกจากนี้ จะมีความผิดตามกฎหมายอาญาด้วย ฐานสร้างความเดือดร้อนหรือประมาทจนทำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ และถึงแก่ความตาย
สำหรับการกำหนดโซนนิ่งนั้น พล.ต.ท.ชัจจ์ กล่าวว่า ให้ถือเป็นดุลยพินิจของผู้ว่าฯ เนื่องจากแต่ละพื้นในแต่ละจังหวัด จะมีสภาพพื้นที่และมีเมืองท่องเที่ยวที่แตกต่างกัน เพื่อรักษาและดำรงวัฒนธรรมในเทศกาลสงกรานต์ อย่างไรก็ตาม ตนขอย้ำว่า ผู้ขับขี่ที่ดื่มสุราจะมีความผิดแล้ว ผู้โดยสารที่ดื่มสุราขณะเดินทางก็มีความผิดด้วยเช่นกัน โดยมีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ขณะที่ นายนิคม ไวยรัชพานิช ประธานวุฒิสภา กล่าวเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า ปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนนั้น ประกอบไปด้วย 3 ปัจจัย คือ
1. ลักษณะทางกายภาพของถนนหนทาง มาตรฐานการก่อสร้าง ความชัดเจนของป้ายจราจร 2. พฤติกรรมของผู้ขับขี่ 3. การบังคับใช้กฎหมายจราจรที่เข้มงวด ส่วนทางด้าน นายประชา ประสพดี รมช.มหาดไทย กล่าวเสริมว่า การหยุดความตายนั้นไม่สามารถทำได้ แต่เราสามารถป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุก่อนเวลาอันควรได้ ซึ่งข้อมูลจากองค์กรอนามัยโลก รายงานสถิติการเสียชีวิต โดยระบุว่า อันดับ 8 ของการเสียชีวิตนั้น เกิดเพราะอุบัติเหตุบนท้องถนน ดังนั้น เราควรมีมาตรการให้ทุกหน่วยงานดำเนินการเพื่อลดอุบัติเหตุและความสูญเสีย คือ
1. หน่วยงานภาคีเครือข่าย รัฐ เอกชน ประชาสังคม เข้าร่วมในการให้ความรู้ และแนวทางในการลดอุบัติเหตุและการสูญเสีย 2. ขับเคลื่อนนโยบายลงสู่หน่วยงานที่รับผิดชอบ 3. เพิ่มการรณรงค์ให้มากขึ้น 4. มีการพัฒนายานพาหนะในประเทศให้ได้มาตรฐานสากล 5. พัฒนาระบบฐานข้อมูลให้มีมาตรฐานสากล ชัดเจน ถูกต้อง 6. มีการบังคับใช้กฎหมายที่เข้มงวด อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
Create Date : 29 มีนาคม 2556 |
Last Update : 29 มีนาคม 2556 17:01:08 น. |
|
10 comments
|
Counter : 2313 Pageviews. |
|
|
|
ปีที่แล้วยังขึ้นได้เลย