Group Blog
 
All blogs
 
คดีพลิก!? สาว 17 ถูกหลอกค้าซ่องเกาหลี อาเผยหลานกุเรื่อง

คดีพลิก!? สาว 17 ถูกหลอกค้าซ่องเกาหลี อาเผยหลานกุเรื่อง


เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เฟซบุ๊ก Piengjai Panplado, Lakornhd Thaitv สมาชิกเว็บไซต์ยูทูทบดอทคอม

คดีสาว 17 ถูกหลอกค้าซ่องเกาหลี อาซึ่งเป็นผู้ต้องหาเตรียมเข้ามอบตัว อ้างหลานกุเรื่องเพราะอยากกลับไทย ยันร้านนวดแผนโบราณไม่มีค้าประเวณีแน่นอน ด้าน ตำรวจ ชี้ อาผิดจริง เตรียมไปเกาหลี ติดตามตัวมาดำเนินคดี 

เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2556 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.ท.ชูศักดิ์ อภัยภักดิ์ พนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการพิเศษ กองกำกับการ 1 บก.ปคม. ได้นำหลักฐานขออนุมัติศาลอาญาออกหมายจับผู้ต้องหา คดีล่อลวงเหยื่อสาววัย 17 ปี ไปขายในซ่องเกาหลีใต้ โดยศาลได้อนุมัติหมายจับผู้ต้องหา 3 คน ในข้อหาร่วมกันค้ามนุษย์โดยแสวงหาผลประโยชน์จากการค้าประเวณีเด็ก ประกอบด้วย นางเพียงใจ คิม อายุ 37 ปี อาของเหยื่อ, นายชุน ซอง กึม หรือเอ็ม อายุ 36 ปี ชาวเกาหลีใต้ และ น.ส.ทิพย์วรรณ เต็มเปา อายุ 26 ปี ทั้งคู่เป็นคนนำพาเหยื่อขึ้นเครื่องไปกรุงโซล

            อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ นางเพียงใจ คิม อายุ 37 ปี อาของเหยื่อ ได้ติดต่อขอเข้ามอบตัวแล้ว แต่ยังไม่ได้กำหนดวันเวลาที่แน่นอน เนื่องจากตอนนี้ยังอยู่ที่เกาหลีใต้ ทั้งนี้ นางเพียงใจ ได้ติดต่อมายังผู้สื่อข่าว พร้อมกับชี้แจงเรื่องทั้งหมดว่า เริ่มแรกหลานสาวอยากมาเที่ยวเกาหลีใต้ จึงเดินทางมาพร้อมเพื่อนร่วมงานของตนตั้งแต่ 5 พฤษภาคม ตนจึงไปรับและพามาเที่ยว ก่อนจะพาไปดูงานที่ร้านนวดแผนโบราณที่ตนทำงานอยู่ หลานก็สนใจอยากจะทำงานด้วย เพราะมีประสบการณ์นวดแผนไทยที่พัทยามาก่อน ตนก็เห็นด้วยเพราะจะได้มีรายได้ช่วยเหลือทางบ้าน เพราะที่ผ่านมาหลานใช้จ่ายฟุ่มเฟือย ไม่มีเงินเก็บ

ตอนแรกทางร้านก็ไม่ยอมให้ทำงาน เพราะเห็นว่าเป็นเด็กไม่มีฝีมือ ตนก็พยายามช่วยจนได้เข้าทำงาน ทั้งนี้ ขอยืนยันว่าร้านดังกล่าวไม่ใช่ของตน แต่เป็นร้านที่ตนไปทำงานอยู่เป็นเวลา 10 กว่าปีแล้วซึ่งเป็นร้านทั่วไปให้บริการทั้งชายและหญิง โดยห้องก็เป็นกระจกใส ไม่มีติดกลอนล็อกประตู อีกทั้งมีการติดกล้องวงจรปิดในร้านด้วย ไม่ได้ขายบริการทางเพศแต่อย่างใด

            จนกระทั่งผ่านไป 1 สัปดาห์มีตำรวจและล่ามเข้ามาที่ร้านเชิญตัวหลานไปให้ปากคำ ซึ่งตนทราบแต่เพียงว่าหลานไปเล่นเฟซบุ๊กและเป็นบุคคลอันตราย ตอนนั้นตนกระวนกระวายใจมากพยายามติดต่อแฟนของหลานที่ประเทศไทยว่าเกิดอะไรขึ้น จนกระทั่งเพื่อนของหลานมาเล่าให้ตนฟังว่า หลานเล่นเฟซบุ๊กอีกอันหนึ่ง มีประโยคพูดคุยกุเรื่องขึ้นมากับตำรวจหาว่าถูกกักขังและบังคับให้ค้าประเวณี ตนจึงรีบติดต่อหลานสาวทันทีซึ่งคุยกันทางไลน์ หลานบอกตนเพียงสั้น ๆ ว่า อยากกลับบ้าน และขอโทษกับเรื่องที่เกิดขึ้น ตอนนี้อยู่กับตำรวจ และตำรวจบังคับให้เซ็นรับทราบข้อกล่าวหาไปก่อนจึงจะเดินทางกลับประเทศไทยได้

นางเพียงใจ เล่าต่อไปว่า จากนั้น ตนได้ติดต่อพี่ชาย ซึ่งเป็นพ่อของหลานถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น โดยพี่ชายเล่าว่า "มีตำรวจมาติดต่อสอบถามว่ารู้หรือไม่ว่าลูกสาวถูกหลอกไปค้าประเวณีที่ต่างประเทศ ซึ่งพี่ชายก็ปฏิเสธไปว่า จะไปขายได้ยังไง เพราะรับรู้เรื่องการเดินทางไปเกาหลีของลูกสาวตลอดและอยู่กับน้องสาวแท้ ๆ" เมื่อพี่ชายพยายามโทรหาลูกสาวกลับติดต่อไม่ได้เลย


คดีซ่องเกาหลี สาว 17 พลิก อาเผยหลานกุเรื่อง


            นอกจากนี้ ตนยังได้พิมพ์ถามหลานสาวในไลน์ด้วยว่า ทำไมทำกับตนแบบนี้ ทำแบบนี้มันเกินไปนะ หลานก็ตอบว่า ไม่ได้บอกตำรวจว่ามาขายตัว แต่ตำรวจพูดให้เสียหายและรู้สึกเสียใจ ตำรวจคนนั้นใส่ความคำพูด ส่วนเรื่องแขกโดนลวนลามทุกวันแต่ไม่กล้าบอกอา

ทั้งนี้ ตนคิดว่าสาเหตุที่เรื่องบานปลาย เพราะว่าหลานสาวติดแฟนอยากกลับประเทศไทย มาอยู่เกาหลีต้องทำงานเหนื่อย อยากพัก อยากเที่ยว และเคยเห็นเปรยกับเพื่อนว่า อยากกลับไทย แต่ถ้ากลับตอนนี้คงโดนพ่อด่าเพราะเสียเงินกับค่าเดินทางเยอะแล้ว ต้องให้ถูกจับกุม พ่อกับแม่จะได้ไม่ด่า จากนั้นก็มีเพื่อนแนะนำให้หลานสร้างสถานการณ์ขึ้นจะได้ถูกส่งตัวกลับไทย ซึ่งเพื่อนของหลานอีกคนก็เล่าให้ตนฟังว่า เขาได้เตือนหลานแล้วว่าอย่ากุเรื่องดีกว่า เดี๋ยวจะกลายเป็นปัญหาใหญ่ แต่หลานก็ยืนยันว่า ไม่เป็นไรหรอก แค่ได้กลับไทยก็พอ และตนขอยืนยันว่าหลานนอนกับตนตลอด ไม่มีการรับแขกใด ๆ ทั้งสิ้น เสียใจกับการกระทำที่ไม่ยั้งคิดของหลาน ทำให้ทุกคนได้รับความเดือดร้อนกันหมด แล้วถ้าตนคิดจะให้หลานค้าประเวณีจริงจะยอมให้หลานเล่นเฟซบุ๊ก ถ่ายรูปพาสปอร์ตส่งให้ตำรวจอย่างนั้นหรือ

อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 23 พฤษภาคม พ.ต.ท.ชูศักดิ์ อภัยภักดิ์ พนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการพิเศษ กก.1 บก.ปคม. กล่าวถึงเรื่องที่ นางเพียงใจ ออกมายืนยันว่าไม่ได้ล่อลวงหลานสาวมาค้าประเวณีที่เกาหลีใต้ ว่า สิ่งที่นางเพียงใจพูดถือว่าเป็นเรื่องส่วนตัวจะแก้ตัวอย่างไรก็ได้ แต่ตำรวจดูตามพยานหลักฐาน และศาลก็ได้อนุมัติหมายจับแล้ว

ส่วนที่อ้างว่าได้แชทคุยกับหลานนั้น จริง ๆ ทาง ปคม. ได้ปิดเฟซบุ๊กของเด็กสาวไปนานแล้ว จึงน่าสงสัยว่ามีการแอบอ้างขึ้นมาหรือไม่ ที่สำคัญที่อ้างการแชทคุยกับหลานนั้น ทาง ปคม. ได้ปิดเฟซบุ๊กของเด็กสาวไปนานแล้ว จึงเป็นไปได้ว่ามีการแอบอ้างหรือไม่ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะประสานกับกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ เพื่อเดินทางไปเกาหลีใต้ และประสานกับตำรวจสากลในการติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดตามหมายจับต่อไป โดยคาดว่าจะเดินทางในเร็ว ๆ นี้






Create Date : 23 พฤษภาคม 2556
Last Update : 23 พฤษภาคม 2556 17:21:48 น. 0 comments
Counter : 1547 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

jureeporn
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]




src='http://roomsite.freeserverhost.com/blogproject/toolbar.js'>
FC Barcelona


Google
จำนวนผู้ชมบล็อกทั้งหมด คน




















[Add jureeporn's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.